คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 345 ร. เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาสารเคมี
ปนเปื้อนในซอสถั่วเหลือง ของนายนพดล อินนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (บัญชีรายชื่อ) ซึ่งถามว่า
กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดแผนงานและมาตรการในการควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบการปรับปรุง
การผลิตสินค้าต่าง ๆ  ที่พบว่ามีปัญหาสารเคมีปนเปื้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือซอสถั่วเหลืองให้มีคุณ
ภาพในระดับมาตรฐานสากลอย่างไร เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค และเพื่อส่งเสริมการส่งออกไป
ต่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ได้มีการกำหนดแผนงานและมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้อย่างไร
และรัฐบาลได้มีการศึกษากฎ ระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ของแต่ละประเทศ เพื่อป้องกันปัญหาระงับ
การนำเข้าสินค้าบริโภคต่าง ๆ  ซึ่งอาจส่งผลต่อดุลการค้าและภาพลักษณ์ของประเทศไว้อย่างไรบ้าง  
กระทรวงสาธารณสุขได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง   เช่น    กรมวิทยาศาสตร์การ
แพทย์  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  (อย.)  เพื่อทำการตรวจสอบและควบคุมสารเคมีดัง
กล่าวให้ได้มาตรฐานตามระดับที่ประเทศผู้นำเข้ากำหนดไว้อย่างไรบ้าง  ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี
เสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารกองทัพเรือเพื่อ
สนับสนุนการจัดประชุมเอเปค  2003  ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ  ได้ในวงเงินไม่เกิน  499,500,000
บาท  โดยให้ดำเนินการในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545-2546
ทั้งนี้  ในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545  ให้ใช้งบกลาง  รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 
179,450,000  บาท  ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือให้ผูกพันงบประมาณปี  พ.ศ. 2546  งบกลาง รายการค่าใช้
จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค  2003   ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ    และให้กอง
ทัพเรือเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จทันกำหนดการประชุม   ทั้งนี้   คณะรัฐมนตรีเห็นว่า อาคารดังกล่าวเมื่อ
เสร็จภารกิจในครั้งนี้แล้ว  ควรดำเนินการในเชิงพาณิชย์  โดยเปิดโอกาสให้ภาคราชการและเอกชนได้เช่า
สถานที่ดังกล่าวได้ด้วย   และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการปรับปรุงพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์   จึงมอบ
ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายเดช บุญ-หลง) ประธานคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์
และเมืองเก่า  รับเรื่องการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารของกองทัพเรือ  เพื่อสนับสนุนการจัดการประชุม
เอเปค 2003 ไปพิจารณาในคณะกรรมการดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น  การท่องเที่ยวแห่ง
ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และกรมศิลปากร แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจำเดือนมกราคม - 
กุมภาพันธ์  2545  ในส่วนของการทูตทางทหาร  การจัดระเบียบชายแดน  การเตรียมความพร้อมรบ
การปรับปรุงโครงสร้างกองทัพ  และการปฏิบัติการทางทหารที่มิใช่สงคราม  ตามที่กระทรวงกลาโหม
เสนอ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ขยายเวลาดำเนินงานโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝึมือ
แรงงาน จากเดิมปี พ.ศ. 2540 - 2544 เป็นปี พ.ศ. 2540 - 2546 และให้ขยายพื้นที่ดำเนินการจากเดิม
21 แห่ง เป็น 22 แห่ง ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ ส่วนการขอเงินบาทสมทบจากงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545 - 2546  เพื่อการดำเนินงานโครงการ  ฯ  ปี พ.ศ. 2545 - 2546 
อนุมัติให้ดำเนินการได้ในวงเงิน 58,181,400 บาท โดยให้ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 เท่าที่
จำเป็น  โดยพิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานก่อน  หากไม่เพียงพอให้ใช้งบ
กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  และตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ
ส่วนที่เหลือให้ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2546  ต่อไป    สำหรับการขอใช้เงิน
กู้จากหมวดสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาดเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ จำนวน  3,050,479  ดอลลาร์สหรัฐ  นั้น  โดยที่
กระทรวงการคลังได้ขอยกเลิกวงเงินกู้ในหมวดดังกล่าวไปแล้ว  ทำให้ไม่สามารถใช้เงินกู้ดังกล่าวได้  จึงให้
กระทรวงแรงงาน ฯ  เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2546  ดำเนินการต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจหยุดชดเชยในช่วงวันสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2545 ตาม
พระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  พ.ศ. 2543  ประกอบระเบียบคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ
สัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานของสิทธิประโยชน์ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2534 โดยให้หยุดชดเชยใน
วันอังคารที่ 16  และวันพุธที่ 17 เมษายน 2545 ด้วย  และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรกำกับ
ดูแลรับไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศ  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน
ที่ 1 พฤษภาคม 2544 ที่กำหนดให้หยุดชดเชยได้ไม่เกิน 1 วัน ต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการ
ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ระยะที่ 2 (เมษายน
- กันยายน 2544)  โดยมีภาพรวมงาน/โครงการสำคัญที่ดำเนินการ  จำนวน  55  งาน/โครงการ  ได้แก่ 
การป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม  ยาเสพติด เพื่อเสริมสร้างความสงบสุขในสังคม  การกระจายกิจ
กรรมทางเศรษฐกิจ  การเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ   การลดปริมาณมลพิษและการแพร่กระจาย
มลพิษในสภาพแวดล้อม การเพิ่มพูนประสิทธิผลและประสิทธิภาพของภาครัฐ และการจัดทำระบบฐานข้อ
มูล   โดยให้กระทรวงการคลังรับความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (เกี่ยวกับการเร่งจัดตั้งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ  เพื่อเป็นศูนย์
กลางรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจและการลงทุน การนำมาตรการ
ทางการคลังมาใช้ เพื่อการป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม    การเร่งขยายรูปแบบ
การรายงานทางการบัญชีภายใต้กรอบมาตรฐานเดียวกับที่ดำเนินการในลักษณะโครงการนำร่อง และให้
ครอบคลุมส่วนราชการและหน่วยงานอื่น ๆ  ให้มากขึ้น  การปรับปรุงระบบฐานข้อมูลกลางทางเศรษฐกิจ
ของหน่วยงานภาครัฐ   โดยแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการศึกษาด้วย   ตลอดจนโครงการที่
เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง    ส่วนการดำเนินการ
ตามมติคณะรัฐมนตรี  (10 สิงหาคม 2542)  ที่ให้จัดตั้งกองทุนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมลงทุนให้เร่ง
รัดการดำเนินงานของแต่ละกองทุนและจัดให้มีแผนงานการลงทุนที่ชัดเจนเพื่อเป็นเครื่องมือของรัฐในการ
ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในธุรกิจใหม่) ไปพิจารณาดำเนินการดำเนินการต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มีมติ
เห็นชอบโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 7 ของการประปานครหลวง (กปน.)  และอนุมัติ
ให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยให้
กปน. รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการลงทุนในโครงการนี้ควรประหยัดให้มากที่สุด โดยเฉพาะ
การจัดซื้อจัดจ้าง   รวมทั้งปรับวิธีบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะระบบการตลาด  และให้  กปน.
ประสานและหารือกับกรมทางหลวงกรณีการก่อสร้างในเขตสายถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออกและ
ถนนกิ่งแก้ว โดยดำเนินการเมื่อกรมทางหลวงมอบพื้นที่แล้ว และพิจารณาด้วยว่า ในบางพื้นที่อาจใช้ระบบ
ท่อลอดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจร จะเหมาะสมหรือไม่) ไปพิจารณาดำเนินการ  ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีเห็น
ว่า  เมื่อพิจารณาฐานะการเงินของ กปน. ในช่วงปี พ.ศ. 2540 - 2544  ที่ผ่านมา กปน. มีฐานะการเงินที่
มั่นคง  ประกอบกับฐานะการเงินในระยะ 5 ปีข้างหน้า  (พ.ศ. 2545 - 2549)  ซึ่งเป็นช่วงของการลงทุน
โครงการแผนหลัก  ครั้งที่ 7  ก็ยังมีฐานะการเงินที่มั่นคง กปน. น่าจะมีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดหลัก
ทรัพย์ ฯ  ดังนั้น  กปน.  ควรเร่งรัดการดำเนินการแปรรูปเป็นบริษัท  (Corporatize)  ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ภายในระยะเวลาประมาณ  6  เดือน  โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติประสานการดำเนินการในการแปรรูปกับ กปน. ด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 2 
(ฝ่ายเศรษฐกิจ)  (คกก.2)  ที่มีมติรับทราบผลการดำเนินงานไตรมาสแรก  ปี 2545  ของรัฐวิสาหกิจ 
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)  เสนอ  โดยให้รัฐวิสาห
กิจรับข้อเสนอแนะของ  สศช.  ที่ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายลงทุนอย่างต่อเนื่อง ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ  90 
ของเป้าหมายในแต่ละไตรมาส เพื่อให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบอย่างสม่ำเสมอ   และติดตามการลงทุน
โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่อย่างใกล้ชิด กับให้ปรับปรุงการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เพื่อให้การเบิกจ่ายลงทุนเป็นไปตามเป้าหมาย และให้สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติจัดให้มีการอบรมผู้
บริหาร และผู้แทนจากรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ
และเกิดผลจริงในทางปฏิบัติได้เร็วขึ้น  และความเห็นข้อสังเกตของ คกก.2  (เกี่ยวกับผลประกอบการ
ในไตรมาสแรกของรัฐวิสาหกิจ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น  เป็นผลมาจากมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน  แสดง
ให้เห็นว่ารัฐวิสาหกิจมีการกู้เงินต่างประเทศเป็นจำนวนสูง    ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลก
เปลี่ยนจึงมีผลกระทบต่อผลประกอบการ  ดังนั้น รัฐวิสาหกิจควรพิจารณาเร่งให้มีการชำระหนี้ เมื่อมี
ความได้เปรียบทางอัตราแลกเปลี่ยน)  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย   และให้  สศช.  ร่วมกับกระทรวง
การคลัง เพื่อศึกษาวิเคราะห์การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง    โดยให้จัดกลุ่มตามความเห็น
ของ คกก.2  โดยแบ่งกลุ่มตามศักยภาพ เน้นรัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน/มีการกู้เงินสูง 
และลงทุนเป็นจำนวนมาก  รวมทั้งกำหนดกลยุทธ์การกำกับดูแลเป็นกลุ่มๆ และให้จัดประชุมสัมมนา
ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่  2
(ฝ่ายเศรษฐกิจ) (คกก.2) ที่มีมติอนุมัติงบกลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  เพื่อช่วยเหลือเกษตร
กรผู้ประสบภัยธรรมชาติ กรณีฝนทิ้งช่วง (1 มิถุนายน - 21 ตุลาคม 2544) และอุทกภัยเนื่องจากร่อง
ความกดอากาศต่ำ (7 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2544) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ  โดย
การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติในกรณีนี้ ต้องสอดคล้องกับการช่วยเหลือกรณีภัยแล้งใน
ปี พ.ศ. 2545 โดยต้องไม่ซ้ำซ้อน และให้นำงบประมาณที่ได้รับไปจัดสรรเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง 
ในปี พ.ศ. 2545 ได้ด้วย และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ฯ ควบคุมติดตามดูแลโดยต้องเป็นการ
ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยอย่างแท้จริงและเงินต้องถึงมือเกษตรกรดังกล่าว  โดยให้มีการสุ่มตรวจ
การใช้เงินจำนวนนี้ด้วย  ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การแก้ไขปัญหาภาคเกษตรกร ควรมีการปรับปรุง
แก้ไขโครงสร้างทั้งระบบ และเน้นการแก้ไขปัญหาในเชิงรุก ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของ
เกษตรกรได้อย่างแท้จริง  รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ มอบให้กระทรวงเกษตร ฯ  รับไปจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตรทั้งระบบ
โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5
(คกก.5)  ที่มีมติเห็นชอบโครงการปรับปรุงระบบประปาเพื่อลดน้ำสูญเสียของการประปานครหลวง 
และอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติเสนอ  โดยให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกต
ของ คกก.5  (เกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์ตามโครงการ ฯ  ควรพิจารณาใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่
ผลิตขึ้นภายในประเทศ  แต่หากมีความจำเป็นจะต้องใช้วัสดุและอุปกรณ์จากต่างประเทศ ให้คำนึงถึง
ผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจด้วย   โดยให้มีการเจรจาเพื่อแลกเปลี่ยนทางการค้าหรือดำเนิน
การการค้าต่างตอบแทน)  ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 483 ร. เรื่อง การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว
ที่หลบหนีเข้าเมืองโดยการออกใบอนุญาตให้ทำงาน   ของนายเปรมศักดิ์   เพียยุระ   สมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถามว่า  ปัจจุบันจำนวนแรงงานต่างด้าวที่มาจดทะเบียนเพื่อขอรับใบอนุญาต
ทำงานมีเท่าใด สัญชาติใดบ้าง  ได้รับค่าธรรมเนียมทั้งสิ้นเท่าใด  แบ่งเป็นรายได้ภาครัฐและภาคเอกชน
อย่างไร  และรัฐบาลมีมาตรการในการใช้จ่ายเงินป้องกันการรั่วไหลอย่างไร มีมาตรการที่จะดำเนินการ
กับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มาจดทะเบียนอย่างไรมีมาตรการป้องกันการปลอมแปลงบัตรประจำตัวแรงงาน
ต่างด้าวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบอย่างไร    มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้มีการปรับปรุงประสิทธิ
ภาพการทำงานและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้แรงงานไทยหันมาสนใจอาชีพบางประเภทในภาคอุตสาห
กรรมหรือภาคเกษตรกรรมที่แรงงานไทยเคยปฏิเสธไม่ยอมทำหรือไม่    อย่างไร    และมีข้อมูลเกี่ยวกับ
จำนวนแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองที่แย่งอาชีพของคนไทยหรือไม่  และกระทู้ถามที่ 513 ร. เรื่อง
การพัฒนาข้อมูลสารสนเทศด้านแรงงาน ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด
ขอนแก่น  ซึ่งถามว่า  กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมมีนโยบายที่จะติดตั้งระบบข้อมูลสารสนเทศ
เกี่ยวกับระบบการฝึกอาชีพ ระบบมาตรฐานฝีมือแรงงาน  และระบบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานหรือไม่
ถ้าไม่มีเพราะเหตุใด ถ้ามีจะทำได้เมื่อใด และมีมาตรการที่จะพัฒนาบุคลากรในการฝึกอาชีพ และพัฒนา
ระบบเทคโนโลยีการฝึกอาชีพหรือไม่ อย่างไร ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ และให้
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

                            เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง  ทบวง  กรม  พ.ศ. ....  และ
ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....   ที่สำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วทั้ง 2 ฉบับ  โดยกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงยุติธรรม
ขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. .... ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
เกษตร ฯ  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  นำประเด็นที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมไปหารือร่วมกับเลขา
ธิการ  ก.พ.  และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อได้ข้อยุติประการใด ให้แก้ไขตามนั้น  แต่หาก
ตกลงกันไม่ได้  ให้ใช้ร่างพระราชบัญญัติเดิม  แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งในคราวประชุมต่อ
ไป   กับเห็นชอบให้กระทรวงการคลังเตรียมการเพื่อโอนภารกิจ  "การบริหารงบประมาณ"  และการ
จัดให้มีหน่วยงานเพื่อรองรับภารกิจดังกล่าวภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เพื่อให้สอดคล้องกับมติ
ของที่ประชุมการปรับปรุงบทบาท   ภารกิจ   และโครงสร้างส่วนราชการ  และความเห็นของที่ประชุม
ร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีทั้ง  5  ท่าน  เมื่อวันที่  9  มกราคม  2545  ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ โดยไม่ควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล   และโดยที่ขณะนี้สำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  ฯ   ในส่วนที่เกี่ยว
กับการปฏิบัติราชการของข้าราชการประจำการในต่างประเทศเสร็จแล้ว    และอยู่ระหว่างรอหนังสือ
ยืนยันให้ความเห็นชอบจากกระทรวงการต่างประเทศ จึงให้เร่งรัดการพิจารณา แล้วแจ้งให้สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาทราบโดยด่วน ทั้งนี้ ให้รวมร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กับร่างพระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  เป็นฉบับเดียวกัน

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 468 ร. เรื่อง รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ของร้อยตำรวจ
เอก พเยาว์  พูลธรัตน์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งถามว่า  กระทรวงคมนาคมจะมี
มาตรการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินทั้งในระยะสั้นและระยะยาวหรือไม่ อย่างไร  และจะพิจารณาถึง
เส้นทางเลี่ยงแหล่งชุมชน ตลาด และโรงเรียน โดยการปรับปรุงเส้นทางถนนสายอื่น ๆ  หรือสร้างถนนใหม่
เพื่อให้เหมาะสมกับรถบรรทุกแทนหรือไม่  และกระทู้ถามที่ 471 ร. เรื่อง การขยายบริการรถขนส่งมวลชน
กรุงเทพในเขตจังหวัดปริมณฑล ของนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร
ซึ่งถามว่า  กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะขยายการให้บริการ  ขสมก.  เข้าไปยังจังหวัดสมุทรสาคร  (ตัว
เมือง-เคหะท่าจีน)  เหมือนจังหวัดปริมณฑลอื่น ๆ เช่น นนทบุรี สมุทรปราการ  หรือไม่  อย่างไร  ในกรณี
ที่ไม่มีนโยบายดังกล่าว     กระทรวงคมนาคมมีแนวทางแก้ไขปัญหาการให้บริการระบบขนส่งมวลชนในเขต
จังหวัดสมุทรสาครอย่างไรบ้าง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามมติคณะกรรมการประสานการพัฒนาที่ดินเฉพาะ
และเมือง  (กพม.)  ครั้งที่  กพม. 1/2545  ตามที่สำนักงานคณะกรรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพเฉพาะ จำนวน 13 พื้นที่ 
พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เชียงราย - เชียงใหม่ - ลำพูน   และพื้นที่เชื่อมโยงใกล้เคียง   การปรับปรุงการ
ใช้ประโยชน์สนามบินอู่ตะเภา  การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้ที่ดินในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเล
ตะวันออก ระยะที่ 2 การปรับปรุงพื้นที่เพื่อเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเมืองพัทยาและพื้นที่ใกล้
เคียง โดยการใช้จ่ายงบประมาณในการปรับปรุงเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวนั้นควรต้องระมัดระวัง
และใช้จ่ายให้ถูกต้องตามหมวดเงิน โดยต้องเป็นการพัฒนาสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการประสานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
กับประเทศเพื่อนบ้าน (กพบ.) ครั้งที่ กพบ.1/2545  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ  โดยในส่วนของกรอบแผนปฏิบัติการพัฒนาเมืองชายแดนหลัก 13 เมือง
ให้ดำเนินการ 3 เมืองก่อน คือ ที่แม่สาย เชียงแสน และสะเดา ในลักษณะเป็นโครงการนำร่อง  โดยใช้จ่าย
จากงบประมาณสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ส่วนเมืองอื่น ๆ  ให้สำนักงบประมาณ  สศช.  และหน่วยงาน
เจ้าของโครงการพิจารณาความเหมาะสมโครงการ และกรอบวงเงินงบประมาณ  โดยจัดลำดับความสำคัญ
และให้ใช้จ่ายจากงบประมาณปกติ     กับให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายกระแส  ชนะวงศ์)
เป็นประธานกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองชายแดน  แทน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (นาย
จาตุรนต์   ฉายแสง) ส่วนการจัดลำดับความสำคัญเส้นทางคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
ให้จังหวัดสำรวจ  และเสนอความต้องการในการปรับปรุงเส้นทาง  และให้กระทรวงมหาดไทย สศช. สนับ
สนุนและร่วมพัฒนา รวมทั้งติดตามผล  และให้แก้ไขเส้นทางเมียวดี-กอกะเรก-ปะอัน เป็นเส้นทาง เมียวดี
-กอกะเรก-เมาะละแหม่ง   ตามที่  กพบ.  ขอแก้ไข    สำหรับแผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร
ฮาลาลในพื้นที่  5  จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างปี พ.ศ. 2545-2548 โครงการ/แผนงานต่าง ๆ ต้อง
กำหนดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบที่ชัดเจน และปรับแนวคิดในการจัดทำแผน  โดยคำนึงถึงผลกระทบจาก
ปัจจัยภายนอกให้รอบด้าน  และให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการให้มากที่สุด  และให้
นายวันมูหะมัดนอร์มะทา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม   เป็นประธานคณะอนุกรรมการพัฒนากิจ
การอาหารฮาลาล แทน  นายจาตุรนต์  ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 463 ร. เรื่อง  ปัญหาการฟอกเงินข้ามชาติ  ของ
นายเปรมศักดิ์  เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีมาตรการในการ
ป้องกันการฟอกเงินข้ามชาติอย่างไร  และมีหน่วยงานใดบ้างที่ดูแลการทำธุรกรรมทางการเงิน   รัฐบาลมี
การปรับปรุงมาตรการทางกฎหมาย และมาตรการในการดำเนินการเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน
เพื่อเป็นสากลหรือไม่    อย่างไร    รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการฟอกเงินมี
กลุ่มใดบ้าง และประเทศไทยได้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกในแต่ละกลุ่มอย่างไร ตามที่สำนักเลขาธิการ
นายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

                       เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติม
กฎหมายว่าด้วยสถานบริการ  ในเรื่องของวิธีการจัดตั้งสถานบริการบางประเภท  การกำหนดมาตรการ
ต่าง ๆ  เพื่อใช้บังคับสถานบริการทุกประเภทไม่ให้เป็นแหล่งมั่วสุมและปลอดจากยาเสพติด  และกำหนด
หน้าที่ให้แก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการและผู้ใช้บริการสถานบริการปฏิบัติ   รวมทั้งการปรับปรุงอัตรา
ค่าธรรมเนียม) ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณา และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎร
พิจารณาต่อไป  ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า ผู้ที่ทำงานในสถานบริการ ควรมีฐานะเป็นลูกจ้างของ
สถานบริการ  ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน   จึงให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับข้อ
สังเกตดังกล่าวไปศึกษารายละเอียดว่าสมควรจะปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายใดจึงจะเหมาะสม แล้วให้
ยกร่างเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

                              อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ....
(ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม) และร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน) 
รวม 2 ฉบับ  ตามที่คณะทำงานซึ่งมีนายมีชัย  ฤชุพันธุ์  ประธานกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการ
พัฒนาประเทศและกรรมการกฤษฎีกาได้ยกร่างขึ้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณา แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  โดยให้รับข้อสังเกตของคณะทำงาน ฯ ไปปรับ
ปรุงแก้ไขด้วย  และให้สำนักงาน ก.พ. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) รับข้อ
สังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า เมื่อมีการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม แล้ว จะมีการโอน
ข้าราชการและลูกจ้างของส่วนราชการเดิมจำนวนหนึ่งไปยังส่วนราชการใหม่   อาจมีผลกระทบกับกิจ
การสหกรณ์ออมทรัพย์ของส่วนราชการต่าง  ๆ   เนื่องจากข้าราชการและลูกจ้างส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้
ของสหกรณ์ จึงควรพิจารณาป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมสรุปผลการดำเนินงานในรอบ  1  ปี 
(วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2544 - วันที่ 26 กุมภาพันธ์  2545)   ของกระทรวงคมนาคม   ซึ่งประกอบ
ด้วย การขนส่งทางบก  งานด้านการขนส่งทางน้ำ  การขนส่งทางอากาศ  การสื่อสารโทรคมนาคม
และอุตุนิยมวิทยา ในโครงการต่าง ๆ  ได้แก่  โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  โครงการ
พัฒนาสถานที่บริการทางหลวง โครงการขยายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต  การพัฒนาระบบสื่อสาร
โทรคมนาคมให้ทันสมัยและทั่วถึง โครงการสร้างเครือข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อน
บ้าน การส่งเสริมความร่วมมือด้านพาณิชยนาวีกับประเทศในภูมิภาค การดำเนินตามนโยบายการ
เปิดเสรีการบิน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ