ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 18 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 352 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
201 | แผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ | อก | 11/10/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔ โดยกำหนดแผนงาน เป้าหมาย กิจกรรมการดำเนินการ และระยะเวลาดำเนินการตามแผนฯ ประกอบด้วย ๕ แผนงาน ได้แก่ (๑) การปรับปรุงพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย รวมทั้งกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมการนำอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่น ๆ ได้ (๒) การเพิ่มผลิตภาพอ้อยและน้ำตาลทราย (๓) การกำหนดมาตรฐานน้ำตาลทรายต้นทุนมาตรฐานการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย (๔) การรักษาเสถียรภาพกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (๕) การจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอ้อยและน้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดและเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย โดยหากเรื่องใดมีความจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาทิ การกำหนดต้นทุนมาตรฐานเอทานอลและผลิตภัณฑ์จากอ้อยอื่น ๆ เพื่อรองรับการแบ่งปันผลประโยชน์ และการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาอ้อยและน้ำตาลทราย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำแนวทาง/แผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมฯ รวมทั้งเร่งหาข้อสรุปและความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ และให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเร่งศึกษาและหาข้อยุติในการกำหนดต้นทุนการผลิตมาตรฐานของอ้อย น้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น อีกทั้งให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายให้ความสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของราคาอ้อยและน้ำตาลทราย โดยพิจารณาแนวทางการจัดเก็บรายได้ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายให้เพียงพอกับการชำระหนี้ของกองทุนฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งให้มีการประสานและทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่ให้เงินทุนสนับสนุนการวิจัยของประเทศในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งระบบ นอกจากนี้ ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองและกระทรวงอุตสาหกรรมเร่งหาข้อยุติเกี่ยวกับที่ตั้งโรงงานน้ำตาลโดยเร็ว โดยคำนึงถึงความถูกต้อง เหมาะสม และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายก่อนเป็นอันดับแรก ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. การปรับปรุงพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงทางการค้าภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) นั้น ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแก่ชาวไร่อ้อย โรงงานน้ำตาล ผู้บริโภค รวมทั้งกิจการอื่นที่อาจได้รับผลกระทบด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
202 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเชียงคำ - สบบง - บ้านทราย จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 20/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเชียงคำ-สบบง-บ้านทราย จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลสบบง อำเภอภูซาง และตำบลหย่วน ตำบลเวียง ตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ และแหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ การกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น ๆ ที่เป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินรองของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลักในแต่ละประเภท เมื่อมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละบริเวณแล้ว ควรจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด และใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมืองด้วย สำหรับการบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงฯ ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงาน นอกจากนี้ เห็นควรเพิ่มประเภทโรงงานอุตสาหกรรมในร่างกฎกระทรวงฯ ให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ร่างกฎกระทรวงฯ มีเขตดำเนินการทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดินในบางท้องที่ ควรให้มีการตรวจสอบรูปแผนที่ให้ชัดเจน ก่อนมีการประกาศใช้บังคับ นอกจากนี้ อำเภอเชียงคำและอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและมีความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วม จึงเห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามผังเมืองรวม ให้ความสำคัญต่อการรักษาพื้นที่เกษตรกรรม แหล่งน้ำและพื้นที่รับน้ำ รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อมชุมชนให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของผังเมืองรวมฉบับนี้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
203 | ร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... | มท | 20/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เกี่ยวกับประเด็นองค์ประกอบของคณะกรรมการผังเมือง ข้อกำหนดการใช้พื้นที่ในการดำเนินโครงการด้านพลังงาน และระยะเวลาในการพิจารณาอุทธรณ์ กระบวนการแจ้งสิทธิและข้อมูลให้ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่วางผังรับทราบเป็นการล่วงหน้า การรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนจะต้องประกอบด้วยการจัดประชุมประชาชนเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นเกี่ยวกับผังเมืองอย่างน้อยหนึ่งครั้ง รวมทั้งการจัดทำผังเมืองจะต้องมีความสมดุลระหว่างด้านการพัฒนาและการควบคุมการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองและแผนการเสนอกฎหมายลำดับรอง และการเร่งรัดดำเนินการเสนอกฎหมายหรือปรับปรุงกฎหมายสำคัญ) และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการเสนอแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเพื่อเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด รวมทั้งคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่เดิม และประสานกับกรมชลประทานเรื่องปริมาณความต้องการใช้น้ำที่คาดว่าจะใช้เพิ่มขึ้นในพื้นที่ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาวางแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำหนดแนวเขตปฏิรูปที่ดินพร้อมทั้งสัญลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในผังแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อความสะดวกชัดเจนในการตรวจสอบ นอกจากนี้ ควรกำหนดลักษณะการใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินต้องเป็นไปตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
204 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงมหาดไทย) (นางศันสนีย์ ศรีศุกรี) | มท | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางศันสนีย์ ศรีศุกรี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการผังเมือง (นักผังเมืองทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
205 | ขออนุมัติผ่อนผันการลงนามจัดจ้าง รายการลักษณะงบลงทุนในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2559 | มท | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินรายการที่ไม่ได้ปรากฏในพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๑ รายการ คือ รายการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองพังงา บ้านควน หมู่ ๑ ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ความยาว ๒๐๐ เมตร ซึ่งเป็นรายการที่ได้ผู้รับจ้างแล้วและสามารถดำเนินการได้ทันที เป็นเงิน ๑๐,๙๕๒,๐๐๐ บาท โดยให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
206 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเมืองปัก จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... | มท | 17/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเมืองปัก จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลธงชัยเหนือ ตำบลตะคุ ตำบลเมืองปัก ตำบลนกออก และตำบลงิ้ว อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรให้มีการตรวจสอบรายละเอียดแผนที่ท้ายกฎกระทรวงฯ ในขั้นตอนการตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงฯ ก่อน เพื่อป้องกันปัญหาผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์เพื่อการปฏิรูปที่ดิน และการบังคับใช้กฎกระทรวงฯ ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงานที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และรายละเอียดของโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นการใช้บังคับผังเมืองรวม สำหรับการประกอบกิจการบางประเภท รวมทั้งข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ และก่อให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับ ดูแล และอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินริมฝั่งลำคลองหรือแหล่งน้ำสาธารณะอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการรุกล้ำลำน้ำ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
207 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปง จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 17/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปง จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลนาปรัง ตำบลควร และตำบลปง อำเภอปง จังหวัดพะเยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่าร่างกฎกระทรวงฯ มีเขตดำเนินการทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน ดังนั้น ในขั้นตอนการตรวจพิจารณาควรมีการตรวจสอบรูปแผนที่ให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ รวมทั้งการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฯ ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงานที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และรายละเอียดของโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม สำหรับการประกอบกิจการบางประเภท นอกจากนี้ข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ และก่อให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับ ดูแล และอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
208 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 19 ราย 1. นายประทีป กีรติเรขา ฯลฯ) | มท | 17/08/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๙ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ได้แก่ ๑.๑ นายประทีป กีรติเรขา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ๑.๒ นายประยูร รัตนเสนีย์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๓ นายเดชรัฐ สิมศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๔ นายสนิท ขาวสอาด ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๕ นายกาศพล แก้วประพาฬ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๖ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๗ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๘ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดระยอง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๙ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๐ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๑ นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครปฐม สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๒ นายอนุสรณ์ แก้วกังวาน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๓ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๔ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดชลบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๕ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๖ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสระบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๗ นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๘ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดขอนแก่น สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๑๙ นายพศิน โกมลวิชญ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสิงห์บุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ได้แก่ ๒.๑ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ตำแหน่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๒.๒ นายมณฑล สุดประเสริฐ ตำแหน่งอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
209 | ผลการเยือนประเทศญี่ปุ่นของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) | อื่นๆ | 05/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการเยือนประเทศญี่ปุ่นของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และคณะ ระหว่างวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙-๒ มิถุนายน ๒๕๕๙ ณ กรุงโตเกียว โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะและพบปะหารือกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น (นายโยชิฮิเดะ ซูกะ) และที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (นายฮิโรโตะ อิซุมิ) และได้กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยในงาน Nikkei Forum 22nd International Conference on the Future of Asia (2016) ซึ่งมีนักธุรกิจและนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าร่วมงานกว่า ๖๒๐ คน หรือมากกว่า ๓๐๐ บริษัท เชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลไทย และได้หารือกับนักลงทุนรายใหญ่ด้านการลงทุน ถือเป็นการชักจูงและส่งเสริมการลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งนี้ ผลการเยือนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมระหว่างไทยกับญี่ปุ่น จึงมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ได้แก่ การจดสิทธิบัตร อุปสรรคจากข้อกำหนดในการใช้ประโยชน์ที่ดินในผังเมืองรวมจังหวัดปราจีนบุรี นโยบายและมาตรการการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกิจการที่เข้าข่าย Super Cluster ตามมาตรการของกระทรวงการคลัง การพัฒนาแรงงานให้ตรงความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหาร และการส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพของไทย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับประเด็นหรือมาตรการใดที่หน่วยงานอยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรชี้แจงและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการสามารถรับทราบข้อมูลและการดำเนินงานของหน่วยงานโดยทั่วถึง สำหรับประเด็นอุปสรรคจากข้อกำหนดในการใช้ประโยชน์ที่ดินในผังเมืองรวมจังหวัดปราจีนบุรี กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ควรร่วมกันหารือเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการผ่อนปรนข้อกำหนดดังกล่าว ซึ่งควรคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมประกอบกันด้วย เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการอำนวยความสะดวกต่อการขออนุญาตขยายกิจการโรงงานต่อไป นอกจากนี้ ในส่วนนโยบายส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ โครงการ Food Innopolis และมาตรการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนควรประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมในเรื่องแผนระยะเวลาการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ในปัจจุบันและระยะต่อไปที่ชัดเจน รวมถึงระบุกิจการเป้าหมายที่ไทยมีความต้องการให้มีการลงทุนมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการในประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
210 | รายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนการกำจัดผักตบชวา ประจำปี 2559 | มท | 07/06/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าการปฏิบัติงานตามแผนการกำจัดผักตบชวา ประจำปี ๒๕๕๙ โดยผลการกำจัดผักตบชวา ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ พื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางตอนล่าง กรมโยธาธิการและผังเมือง กำจัดได้ปริมาณ ๑๒๐,๘๐๐ ตัน กรมเจ้าท่า กำจัดได้ปริมาณ ๗๙,๑๐๘ ตัน สำหรับพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำป่าสัก และคลองในระบบชลประทาน กรมชลประทาน กำจัดได้ปริมาณ ๑,๒๑๔,๗๖๔ ตัน และในส่วนของแหล่งน้ำขนาดเล็กและแหล่งน้ำเชื่อมโยงในพื้นที่ขนาดเล็ก กรมการปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานทหาร และภาคประชาชน กำจัดได้ปริมาณ ๒,๒๓๙,๕๐๑ ตัน สรุปผลการปฏิบัติงานตามแผนการกำจัดผักตบชวาประจำปี ๒๕๕๙ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ สามารถกำจัดได้จำนวน ๓,๖๕๔,๑๗๓ ตัน คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๗๑ ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิจารณาดำเนินการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยวิธีการในการกำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำโดยเฉพาะผักตบชวา เพื่อยับยั้งไม่ให้มีการแพร่พันธุ์เพิ่มขึ้นต่อไป ทั้งนี้ จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของแหล่งน้ำด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
211 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพะเยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพะเยา พ.ศ. 2556) | มท | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพะเยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพะเยา พ.ศ. ๒๕๕๖) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมถึงยกเลิกบัญชีโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เห็นควรพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำและพื้นที่ลุ่มน้ำ และควรเร่งรัดในการวางและจัดทำผังเมืองรวมชุมชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และนำข้อกำหนดดังกล่าวกำหนดไว้ในผังเมืองรวมชุมชนต่อไป รวมทั้งการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฯ อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงาน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามผังเมืองรวมฉบับนื้อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
212 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปากน้ำหลังสวน จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... | มท | 12/04/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปากน้ำหลังสวน จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบางน้ำจืด ตำบลปากน้ำ และตำบลบางมะพร้าว อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ลุ่มน้ำ สถาบันศาสนา และแหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ รวมทั้งการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฯ อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงานที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว และการเพิ่มประเภทโรงงานในร่างกฎกระทรวงฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น ดูแล และอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามผังเมืองรวมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลายพื้นที่ชายฝั่งทะเล และควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินได้สอดคล้องกับภูมิสังคมของพื้นที่อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
213 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม จำนวน 4 ฉบับ | มท | 08/03/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม จำนวน ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตามที่กำหนดไว้ในร่างกฎกระทรวงแต่ละฉบับ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเลย พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการยกเว้นเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงอาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินริมแหล่งน้ำสาธารณะเพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งและรักษาคุณภาพของเมืองให้มีความน่าอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
214 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | มท | 09/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ในท้องที่บางส่วนของตำบลวัดหลวง บางส่วนของตำบลไร่หลักทอง บางส่วนของตำบลหน้าพระธาตุ บางส่วนของตำบลวัดโบสถ์ บางส่วนของตำบลบ้านช้าง ตำบลกุฏโง้ง ตำบลพนัสนิคม บางส่วนของตำบลนาวังหิน บางส่วนของตำบลบ้านเซิด บางส่วนของตำบลนามะตูม และบางส่วนของตำบลหมอนนาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ควรมีการตรวจสอบรายละเอียดแผนที่ท้ายกฎกระทรวงก่อน เพื่อมิให้เกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินท้องที่บางแห่งในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมทั้งการพัฒนาระบบผลิตพลังงานทดแทนบางประเภทที่เข้าข่ายเป็น “โรงไฟฟ้า” เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ หรือระบบผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ จะมีลักษณะการเป็น “โรงงาน” ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และอาจจะจัดตั้งไม่ได้ในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภท จึงเห็นควรยกเว้นให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทที่ไม่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่น้อยมาก ตามที่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจะกำหนดเพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาล ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่ากรมโยธาธิการและผังเมืองควรพิจารณากำกับดูแลเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินริมคลองห้วยน้อยและคลองห้วยอีแขก เพื่อรักษาคุณภาพลำน้ำและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก ตลอดจนควบคุมการขยายตัวของเมือง ไม่ให้ขยายตัวกระจัดกระจาย เพื่อให้สอดคล้องกับภูมิสังคมของพื้นที่และสถานการณ์การพัฒนาเมืองได้อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
215 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (โครงการซ่อมแซมและปรับปรุงคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสำนักงานประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดอ่างทอง ถึงบริเวณวัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง) | มท | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองเปลี่ยนแปลงรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จากโครงการซ่อมแซมและปรับปรุงเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ้านท่าไคร้ หมู่ที่ ๒๐ ตำบลกลาง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นโครงการซ่อมแซมและปรับปรุงคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสำนักงานประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดอ่างทอง ถึงบริเวณวัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในวงเงิน ๑๑,๖๘๗,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๒,๓๔๐,๐๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๙,๓๔๗,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าว ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และขอตกลงความเหมาะสมของราคากับสำนักงบประมาณก่อนลงนามในสัญญาขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งรัดงานซ่อมแซมและปรับปรุงคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาดังกล่าวโดยด่วน เพื่อสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากครั้งต่อไปได้อย่างทันการณ์และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของรัฐบาล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
216 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย [เรื่อง การปฏิรูประบบการผังเมือง และการใช้พื้นที่ และร่างพระราชบัญญัติการผังเมืองและการใช้พื้นที่ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | มท | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ [เรื่อง การปฏิรูปการผังเมืองและการใช้พื้นที่ และร่างพระราชบัญญัติการผังเมืองและการใช้พื้นที่ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรยังมีความเห็นไม่สอดคล้องกับข้อเสนอแนะของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เนื่องจากงานด้านผังเมืองประกอบด้วยส่วนที่เป็นการกำหนดนโยบายการผังเมืองในระดับชาติ และส่วนที่เป็นการรับนโยบายเพื่อแปลงไปสู่การวางผังเมืองระดับปฏิบัติ และภารกิจด้านการพัฒนาให้เป็นไปตามผังเมือง ดังนั้น การโอนภารกิจทั้งหมดไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงยังไม่เหมาะสม สำหรับการปรับปรุงพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๑๘ มีบางส่วนที่สอดคล้องกับแนวทางการปรับปรุงพระราชบัญญัติการผังเมือง ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองกำลังดำเนินการอยู่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทยให้สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
217 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... | มท | 17/11/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรยกเว้นให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทที่ไม่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่น้อยมากตามที่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจะกำหนด เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาล และเนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานีมีปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับ ดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลองหรือแหล่งน้ำสาธารณะอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการรุกล้ำลำน้ำ รวมทั้งที่เว้นว่างตามแนวขนานลำน้ำ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบของจังหวัดสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรองรับการขยายตัวของเมืองได้อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
218 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 17/11/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรยกเว้นให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทที่ไม่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่น้อยมากตามที่หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจะกำหนด เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาล และเห็นควรเพิ่มประเภทและขนาดโรงงานในบัญชีท้ายร่างกฎกระทรวงฯ รวมทั้งเพิ่มประเภทโรงงาน เช่น ประเภท ๑๐๑ โรงงานปรับคุณภาพของเสียรวม ประเภท ๑๐๕ โรงงานคัดแยก ฝังกลบสิ่งปฏิกูล ประเภท ๑๐๖ โรงงานนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม ตลอดจนเพิ่มประเภทโรงงาน เช่น ประเภท ๘๘ โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ชีวภาพ และขยะชุมชน นอกจากนี้ เนื่องจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอย่างรุนแรง เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นดูและอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินใก้ห้เป็นไปตามผังเมืองรวมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลายพื้นที่ชายฝั่งทะเล และควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับภูมิสังคมของพื้นที่อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
219 | รายงานผลการตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และคณะ | อก | 03/11/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และคณะ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยมีประเด็นปัญหา/ข้อเสนอแนะ และข้อสั่งการ สรุปได้ ดังนี้
๑. นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ๑.๑ ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เทศบาลนครแหลมฉบัง และตำรวจในพื้นที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้เส้นทาง ๑.๒ การต่อสัญญาเช่าพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังล่าช้าและไม่มีความชัดเจน มอบหมายให้ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ประธานกรรมการในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประสานกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยในการเร่งดำเนินการเรื่องการต่อสัญญาเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งจะหมดอายุในเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ เพื่อทำให้นักลงทุนในพื้นที่เกิดความมั่นใจ ๑.๓ ปัญหาการที่กรมศุลกากรมีการลงทุนอุโมงค์ X-RAY สำหรับตรวจตู้สินค้าที่มากับขบวนรถไฟบรรทุกสินค้า แต่พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่ยอมขับรถไฟให้เนื่องจากกลัวรังสี X-RAY ให้ศุลกากรจังหวัดชลบุรีแจ้งอธิบดีกรมศุลกากรทราบถึงปัญหานี้ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการ ๑.๔ ปัญหาภาษีนำเข้าแม่พิมพ์ยาง และการส่งออกยาง COMPOUND จะรับไปพิจารณาในประเด็นปัญหาความล่าช้าหรือความซ้ำซ้อนของการปฏิบัติงานของหน่วยราชการไปหารือในการประชุมเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจ (ease of doing business) ๑.๕ ปัญหาการพิจารณาเรื่อง EIA มีความล่าช้า จะรับไปพิจารณาโดยจะนำประเด็นนี้ไปหารือในการประชุมเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจ (ease of doing business) ๒. นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ๒.๑ ปัญหาผังเมืองรวมจังหวัดระยองและผังเมืองรวมมาบตาพุดยังไม่มีความชัดเจน มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรมโยธาธิการและผังเมือง รับไปพิจารณาหารือร่วมกัน ๒.๒ การทบทวนกฎหมายและข้อกำหนดที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน เช่น กฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม กฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐาน VOC คุณภาพอากาศให้เป็นสากลสามารถปฏิบัติได้รวมถึงการตรวจวัดค่า VOC และปัญหาความยุ่งยากในขั้นตอนการทำ EIA/EHIA จะรับไปพิจารณาโดยจะนำประเด็นนี้ไปหารือในการประชุมเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจ (ease of doing business) ๒.๓ ปัญหาสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนปิโตรเคมี มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนรับไปพิจารณาดำเนินการ ๒.๔ ปัญหาความล่าช้าในจุดให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือแหลมฉบังและการพิจารณาท่าเรือมาบตาพุดให้สามารถรองรับการขนถ่ายตู้สินค้า มอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และพลเอก วรพงศ์ สง่าเนตร ประธานกรรมการในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประสานกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๒.๕ ปัญหากระแสไฟตก มอบหมายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการแก้ไขและหาวิธีบริหารจัดการโดยเร่งด่วนที่สุดในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับที่ไม่ใช่จากอุบัติเหตุ เพื่อมิให้กระทบกับกระบวนการผลิต
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
220 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิและขอพระราชทานโปรดเกล้า ฯ ให้ข้าราชการพ้นจากราชการเพราะครบเกษียณอายุราชการ (กระทรวงมหาดไทย) (นายสุชาติ ตรีสัตยพันธ์) | มท | 08/09/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุชาติ ตรีสัตยพันธ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งสถาปนิกใหญ่ (สถาปนิกทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
.....