ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 61 จากทั้งหมด 84 หน้า แสดงรายการที่ 1201 - 1220 จากข้อมูลทั้งหมด 1664 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1201 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐซ้อมทรมานผู้ถูกควบคุมตัวเพื่อให้รับสารภาพ | สม. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมาย
กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐซ้อมทรมานผู้ถูกควบคุมตัวเพื่อให้รับสารภาพ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยมีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทั้งในเรื่องการผลักดันร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว และอยู่ในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภา
การให้มีการบันทึกภาพและเสียงเหตุการณ์ในขณะควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค ๔ ส่วนหน้า
ได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว รวมทั้งการให้คณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญนำข้อมูลตามรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1202 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา
และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตนซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ
๒.๙๕ ของค่าจ้างผู้ประกันตน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ
รวมทั้งวางแผนการดำเนินงานทางการเงินของกองทุนประกันสังคมอย่างเหมาะสมทั้งในระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1203 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ) | กค. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(การขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ) โดยมีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าซื้อผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากผู้ผลิตออกไปอีกเป็นระยะเวลา
๓ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะดำเนินการ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
๓.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่า เพื่อเป็นการเร่งรัดให้ผู้ประกอบการมีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ควรพิจารณามาตรการอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย ทั้งที่เป็นมาตรการแบบบังคับและแบบสมัครใจ
เช่น การดำเนินมาตรการภาษีภาคบังคับในช่วงเวลาที่เหมาะสม
หรือปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกเปลี่ยนมาใช้เม็ดพลาสติกชีวภาพเพื่อการผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม
และดำเนินมาตรการตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.
๒๕๖๑ ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการ
จัดทำรายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการที่ได้จัดทำตามวรรคหนึ่งเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ
จนกว่าการดำเนินการดังกล่าวจะแล้วเสร็จ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1204 | ผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในปีงบประมาณ 2564 นโยบายของคณะกรรมการ และโครงการและแผนงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในอนาคต | คค. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
(รฟม.) ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ นโยบายของคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
และโครงการและแผนงานของ รฟม. ในอนาคต สรุปได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงาน เช่น
ด้านการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ด้านการให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ด้านการเงิน
ด้านการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรบุคคล ด้านการกำกับดูแลที่ดี (๒)
นโยบายของคณะกรรมการฯ เช่น ให้บริการรถไฟฟ้าด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงเวลา
ประหยัด โดยคำนึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการแต่ละกลุ่ม เร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายต่าง
ๆ ให้แล้วเสร็จและเปิดบริการได้ตามแผนงาน และ (๓) โครงการและแผนงานของ รฟม.
ในอนาคต เช่น การเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ระบบตั๋วร่วม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1205 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .... | รง. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เป็นระยะเวลา ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้างและผู้ประกันตนจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ และให้สอดคล้องกับแนวทางการให้ความช่วยเหลือตามมาตรการเร่งด่วน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ
รวมทั้งวางแผนการดำเนินงานทางการเงินของกองทุนประกันสังคมอย่างเหมาะสมทั้งในระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
และควรเร่งมาตรการรองรับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพกองทุนและลดภาระทางการคลังของภาครัฐในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1206 | การกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินสำหรับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งที่รัฐวิสาหกิจนั้นอาจดำเนินการเองได้ ตามมาตรา 13 (2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 เกี่ยวกับการปรับปรุงค่าห้องและค่าอาหาร กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล | รง. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินสำหรับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งที่รัฐวิสาหกิจนั้นอาจดำเนินการเองได้ตามมาตรา
๑๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓
เกี่ยวกับการปรับปรุงค่าห้องและค่าอาหาร กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล
สำหรับลูกจ้างเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกินวันละ ๑,๕๐๐ บาท
และสำหรับบุคคลในครอบครัวเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกินวันละ ๑,๑๐๐ บาท ซึ่งสิทธิสำหรับบุคคลในครอบครัวจะต้องเป็นสิทธิที่อยู่เดิม
ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๐
สิงหาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าในการดำเนินการดังกล่าวแต่ละรัฐวิสาหกิจจะต้องคำนึงถึงสถานะทางการเงิน
ผลการดำเนินงานของกิจการ ขีดความสามารถในการหารายได้
และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมรายจ่ายที่จะเกิดขึ้น
เพื่อมิให้กระทบต่อการใช้จ่ายเงินทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1207 | การแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (1. นายวิชัย โภชนกิจ ฯลฯ จำนวน 7 ตน) | พณ. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า รวม ๗ คน
เนื่องจากประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๕ เมษายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ดังนี้ ๑.
นายวิชัย โภชนกิจ ประธานกรรมการ ๒.
นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองประธานกรรมการ ๓.
นายมงคล เหล่าวรพงศ์ กรรมการ ๔.
รองศาสตราจารย์อัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ ๕.
นายสกล กิตติ์นิธิ กรรมการ ๖.
นายคมฤทธิ์ กวินอัครฐิติ กรรมการ
๗.
นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1208 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อกำหนดให้มีเครื่องแบบปฏิบัติงานปราบปราม
และแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะและเครื่องประกอบของหมวก
เครื่องหมายแสดงสังกัดประดับปกคอเสื้อของเครื่องแบบปฏิบัติงานตามปกติ และอินทรธนู
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1209 | การเลื่อนเวลาการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 12 เมษายน 2565 | นร 05 | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีรายงานว่า
เนื่องในวันอังคารที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕
นายกรัฐมนตรีมีภารกิจสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ
ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ทำให้ไม่สามารถจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีในเวลา
๐๙.๐๐ น. ได้ จึงมีบัญชาให้เลื่อนเวลาการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕ จากเดิมเวลา ๐๙.๐๐ น เป็นเวลา
๑๐.๐๐ น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1210 | ร่างยุทธศาสตร์ด้านมาตรฐานทางจริยธรรมและการส่งเสริมจริยธรรมภาครัฐ พ.ศ. 2565 - 2570 | นร.10 | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ด้านมาตรฐานทางจริยธรรมและการส่งเสริมจริยธรรมภาครัฐ พ.ศ.
๒๕๖๕-๒๕๗๐ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบและกลไกในการขับเคลื่อนการดำเนินการรักษาจริยธรรมและส่งเสริมพัฒนาจริยธรรมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ
และให้หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้มีการจัดทำแผนงาน
มาตรการ เพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรักษาจริยธรรมตามมาตรฐานทางจริยธรรม
ประมวลจริยธรรม และข้อกำหนดจริยธรรม ซึ่งร่างยุทธศาสตร์ฯ
ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมแล้ว
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1211 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ปัญหาข้อขัดข้องในกระบวนการสรรหาขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ของคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา | สว. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ปัญหาข้อขัดข้องในกระบวนการสรรหาขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
วุฒิสภา โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า (๑)
การบันทึกเหตุผลในการเลือกบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
ควรบัญญัติไว้ในกฎหมายให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการใช้ประกอบการพิจารณาของวุฒิสภาในการให้ความเห็นชอบและเพื่อประโยชน์ให้สาธารณชนได้รับทราบ
(๒) การกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์กรอิสระ
รวมทั้งการกำหนดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งกำหนดไว้ค่อนข้างสูง
ควรที่จะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ (๓)
การกำหนดองค์ประกอบและคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหาในระดับเดียวกับกรรมการในองค์กรอิสระที่ก่อให้เกิดความยากลำบากในการเลือกบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการสรรหา
ควรที่จะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1212 | การจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่เพื่อนำไปกำหนดเป็นอัตรากำลังแทนให้แก่ส่วนราชการที่ส่งข้าราชการไปปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล | นร.54 | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๖
(เรื่อง
ขออนุมัติเปิดที่ทำการสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสแห่งใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต
และขอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสคนใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต)
เฉพาะในส่วนการกำหนดเขตกงสุลจากเดิมที่มีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต เป็น
มีเขตกงสุลครอบคลุม ๔ จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และระนอง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1213 | ขอความเห็นชอบการจัดสวัสดิการรถจักรยานยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานนอกสถานที่ให้แก่พนักงาน โดยให้พนักงานกู้เงินจากการประปานครหลวงแบบไม่คิดอัตราดอกเบี้ย ในวงเงินการจัดสวัสดิการ จำนวน 30 ล้านบาท | มท. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดสวัสดิการรถจักรยานยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานนอกสถานที่ให้แก่พนักงานของการประปานครหลวง
(กปน.) โดยให้พนักงานกู้เงินจาก กปน. แบบไม่คิดอัตราดอกเบี้ย ในวงเงินจัดสวัสดิการ
จำนวน ๓๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย โดย กปน.
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในการจัดสวัสดิการดังกล่าวควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในภาพรวม
โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงานของกิจการ มีการจัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและไม่ก่อให้เกิดภาระแก่ประชาชน
และเห็นควรพิจารณาการกำหนดคุณสมบัติของพนักงานที่จะได้รับสวัสดิการให้สอดคล้องกับลักษณะการดำเนินงานขององค์กรในปัจจุบันที่บางส่วนได้ปรับปรุงรูปแบบเป็นการจ้างบุคคลภายนอกดำเนินงานแล้ว
ตลอดจนให้ความสำคัญสำหรับการใช้จ่ายเงินขององค์กรอย่างระมัดระวังด้วยความรอบคอบ
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดในภาพรวมขององค์กรประกอบด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1214 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 8 | กค. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๘ (Joint Statement of the 8th ASEAN Finance Ministers’
and Central Bank Governors’ Meeting) ซึ่งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือและการให้ความช่วยเหลือระหว่างกันของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน
ในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1215 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2565 | นร.11 สศช | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1216 | การขอเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) | นร.08 | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอดังนี้ ๑.
รับทราบการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อดำเนินการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่
๕ (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ระหว่างบ้านดอนยม ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย
กับ บ้านก้วยอุดม เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งนี้
เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดจะต้องปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวทันที ๒.
มอบให้กระทรวงคมนาคมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำเงื่อนไขข้อกำหนด
และการควบคุมดูแลไม่ให้มีผลกระทบในด้านต่าง ๆ ๓.
การดำเนินการใด ๆ จะต้องระมัดระวังมิให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อความมั่นคง
โดยต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๔๒ เรื่อง
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนหรือกระทำกิจการใด ๆ ตามบริเวณชายแดน
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๘ เรื่อง การระงับการก่อสร้างถนนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม
จังหวัดสุรินทร์อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและจัดเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแม่น้ำโขง
เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้างสะพาน
และหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากประเทศที่ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงร่วมกัน
ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 อย่างเคร่งครัด ควรกำหนดช่วงเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนชั่วคราว ในแต่ละวัน รวมทั้งกำหนดประเภทของยานพาหนะ เครื่องจักร/อุปกรณ์
บุคคลเข้าออก และจำกัดอาณาเขตพื้นที่การข้ามแดนให้ชัดเจน
และเร่งรัดการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๕ (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)
ดังกล่าว ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1217 | การปิดสถานกงสุลราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำกรุงเทพมหานครเป็นการถาวรและการเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐลักเซมเบิร์ก ณ จังหวัดสมุทรปราการ และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐลักเซมเบิร์ก ณ จังหวัดสมุทรปราการ (นายปีแยร์ แมซ) | กต. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรณีรัฐบาลลักเซมเบิร์กเสนอขอ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. ปิดสถานกงสุลราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำกรุงเทพมหานครเป็นการถาวร
และให้ นายปีแยร์ แมซ (Mr. Pierre Metz) สิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง กงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำกรุงเทพมหานคร
ตั้งแต่วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๔ ๒. เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐลักเซมเบิร์ก ณ
จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ
ฉะเชิงเทรา และชลบุรี และแต่งตั้ง นายปีแยร์ แมซ
ให้ดำรงตำแหน่ง กงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐลักเซมเบิร์ก ณ จังหวัดสมุทรปราการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1218 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกิตติศักดิ์ อักษรวงศ์) | สธ. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ช่วยปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1219 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวทัศนีย์ กิตอำนวยพงษ์ และเรืออากาศเอกหญิง บุษบัน เชื้ออินทร์) | สธ. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวทัศนีย์ กิตอำนวยพงษ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม)
โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ๒. เรืออากาศเอกหญิง
บุษบัน เชื้ออินทร์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้อง) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1220 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ....] | สผ. | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
[ร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. .... ซึ่งนายรังสิมันต์
โรม กับคณะ เป็นผู้เสนอ] มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
โดยกำหนดให้นายกรัฐมนตรีสามารถออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้โดยมีระยะเวลา ๓๐ วัน
(เดิม กำหนดไว้ไม่เกิน ๓ เดือน) เสนอต่อรัฐสภา
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|