ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 76 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 1501 - 1520 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1501 | กรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ | สอวช. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ รวมทั้งระบบการจัดสรร และบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์
สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑๐๘,๑๔๙,๗๒๗,๓๐๐ บาท และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๔๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท นั้น
สำนักงบประมาณจะพิจารณาตามประมาณการรายรับและฐานะการคลังของประเทศ
โดยคำนึงถึงภารกิจและความจำเป็นในการดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ และนโยบายสำคัญของรัฐบาล
รวมทั้งการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโดยผ่านกลไกของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐ
ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1502 | ขอรับการสนับสนุนการจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดิน เพื่อจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปเป็นงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 | สขค | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘ ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ วงเงินรวม ๕๑๑.๗๐๕๗ ล้านบาท เพื่อบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการกำกับติดตามสถานการณ์การแข่งขันและพฤติกรรมการประกอบธุรกิจอย่างใกล้ชิด
ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรูปแบบธุรกิจและตลาด
โดยเฉพาะธุรกิจการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross-border e-Commerce) รวมถึงพัฒนาเครื่องมือตรวจจับพฤติกรรมการตกลงร่วมกันผูกขาด
ลด และจำกัดการแข่งขัน
เพื่อนำไปใช้กำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่เหมาะสมและเป็นธรรม
ตลอดจนควรประสานและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการและข้อมูลโครงสร้างตลาดที่มีผลกระทบต่อการกีดกันหรือจำกัดการแข่งขัน
กับหน่วยงานกำกับรายสาขาและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเป็นฐานข้อมูลด้านการแข่งขันของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1503 | แผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | กสศ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ภายในกรอบวงเงิน ๗,๘๘๔,๘๗๘,๑๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๖ (๓) ของพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายและค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน ตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม
โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับเป็นสำคัญ
รวมถึงพิจารณานำเงินนอกงบประมาณหรือเงินอื่นใดของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
มาสมทบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน
เพื่อให้สอดคล้องตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมาย วิธีการงบประมาณ
ซึ่งสำนักงบประมาณจะได้พิจารณารายละเอียดของแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
ให้สอดคล้องกับแนวทางและหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘ ภายในกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ อีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1504 | รายงานสรุปผลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2565 | อว. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
ประจำปี ๒๕๖๕ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ (๑) การดำเนินการตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
พ.ศ. ๒๕๕๘ เช่น ๑ การจัดทำกฎหมายลำดับรองประกอบการบังคับใช้พระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ฯ
จำนวน ๓๑ ฉบับ ๒) รับคำขอใบอนุญาตใช้-ผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๓) จัดทำระบบการให้บริการแบบออนไลน์
และ ๔) จัดทำแผนกลยุทธ์ว่าด้วยการพัฒนางานสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๖๙
และแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓-๒๕๖๙ (๒) ผลการดำเนินการที่สำคัญ เช่น ๑) มีสถานที่ดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
๓๐๓ แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยมากที่สุด ๒)
มีการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๑๖๒.๘๐ ล้านตัว
โดยหนูเมาส์เป็นสัตว์ทดลองที่นิยมใช้มากที่สุด ๓)
มีผู้ใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ยื่นขอรับใบอนุญาต ๑,๒๘๒ คน ๔)
มีผู้ผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ยื่นขอรับใบอนุญาต ๓ คน และ ๕) มีการแจ้งนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศ
๕๕๓ ตัว และแจ้งส่งออกสัตว์ไปยังต่างประเทศ ๘๖,๔๑๖ ตัว และ (๓)
การพัฒนางานการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ในระยะต่อไป เช่น
พัฒนาคุณภาพสัตว์ทดลองทั้งชนิดและปริมาณให้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้สัตว์พัฒนาสถานที่ดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ให้ได้มาตรฐาน
พัฒนาบุคลากร พัฒนาหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ฯ
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1505 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 4 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ดศ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล
ครั้งที่ ๔ (The 4th ASEAN Digital Ministers’
Meeting : The 4th ADGMIN) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วย เอกสารจะมีการลงนาม จำนวน ๑ ฉบับ และเอกสารที่จะรับรอง จำนวน ๑๑ ฉบับ
รวมจำนวน ๑๒ ฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกอาเซียนในการดำเนินโครงการและกิจกรรมความร่วมมือด้านดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียนอย่างแข็งขันและต่อเนื่อง
สนับสนุนการดำเนินงานด้านการปรับเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล
การสร้างระบบนิเวศด้านดิจิทัลในอาเซียนให้มีความพร้อมทั้งในด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
การลดช่องว่างทางดิจิทัล การส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน
และกรอบแนวทางการกำกับดูแลที่เหมาะสมกับบริบทของอาเซียนที่มีความแตกต่างด้านการพัฒนา
เพื่อสามารถรับมือกับความท้าทายของโลกไซเบอร์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม
และเป็นการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทอาเซียนด้านดิจิทัล ค.ศ. ๒๐๒๕
อย่างเป็นรูปธรรม และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
หรือผู้แทนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมาย
ร่วมลงนามในร่างเอกสารที่จะมีการลงนาม จำนวน ๑ ฉบับ และเอกสารที่จะรับรอง จำนวน ๑๑
ฉบับ รวมจำนวน ๑๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเห็นควรพิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ตามขั้นตอนต่อไป
รวมทั้งพิจารณาแนวทางการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเฉพาะด้าน อาทิ
รถยนต์ไร้คนขับ และความปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ต
เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องได้อย่างเป็นรูปธรรม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1506 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๘,๑๑๙,๘๗๖,๐๐๐ บาท และงบประมาณของกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา จำนวน ๒๒๐,๑๔๘,๔๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1507 | การขอก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของกระทรวงมหาดไทย | มท. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงมหาดไทย
จำนวน ๔ โครงการ ได้แก่ (๑) โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกับกองทัพบก
ในการจัดหาอากาศยานปีกหมุน (Helicopter) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสาธารณภัย (ระยะที่ ๔) จำนวน ๑ ลำ (๒)
โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค
สาขาสมุทรสาคร-นครปฐม ระยะที่ ๑ ส่วนที่ ๑-๒ อำเภอเมืองสมุทรสาคร-กระทุ่มแบน-บ้านแพ้ว
จังหวัดสมุทรสาคร อำเภอเมืองนครปฐม นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อำเภอโพธาราม-บางแพ
จังหวัดราชบุรี (๓) โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเกาะสมุย
ระยะที่ ๒ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (๔) โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน
กรุงเทพมหานคร และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง วงเงินรวมทั้งสิ้น ๕,๖๑๘.๗๖ ล้านบาท และให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงบประมาณ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ
ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมาย ระเบียบ
ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีคุณลักษณะเฉพาะ ประมาณการหรือผลการสอบราคา รายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด
การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งให้นำความเห็นของคณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเล
ที่พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของโครงการด้านการกัดเซาะชายฝั่งทะเล มาประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1508 | ขออนุมัติตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมท่าอากาศยาน และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงคมนาคม ในการดำเนินโครงการของกรมทางหลวง
กรมทางหลวงชนบท กรมท่อากาศยาน และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๔๒ โครงการ
วงเงินรวมทั้งสิ้น ๙๑,๖๕๓.๓๐๕๓ ล้านบาท (ระยะเวลาดำเนินการ
ปี ๒๕๖๘-๒๕๗๕ โดยมีวงเงินที่จะขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
จำนวน ๑๕,๖๒๗.๙๔๑๑ ล้านบาท และให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ เช่น ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
เร่งจัดทำข้อเสนอโครงการและเสนอขออนุมัติตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยให้ความสำคัญกับการปรับปรุงแผนขับเคลื่อนกิจการเพื่อใช้ในการดำเนินงานตามแนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการ
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ให้เสร็จโดยเร็ว ให้กรมท่าอากาศยาน
พิจารณาปรับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานชุมพรให้มีความสอดคล้องกับแผนการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียง
รวมถึงประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดให้มีบริการขนส่งสาธารณะระหว่างท่าอากาศยานชุมพรกับแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่เศรษฐกิจ
และแหล่งชุมชนที่สำคัญ
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานชุมพรในปัจจุบัน ให้กรมทางหลวงประสานกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
กระทรวงการคลัง และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1509 | ผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 เรื่อง การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน (กระทรวงพาณิชย์) | พณ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน
๒๕๖๖ การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน
(กระทรวงพาณิชย์) ซึ่งแจ้งว่าไม่มีมติคณะรัฐมนตรีในความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชนที่จะต้องยืนยันการคงอยู่ต่อไป
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1510 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 - 2572 เพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | ยธ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๗๒
เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน
๓,๐๐๐ ซีชี)
พร้อมพนักงานขับรถยนต์ จำนวน ๑ คัน อัตราค่าเช่าไม่เกิน ๘๕,๐๐๐
บาทต่อคันต่อเดือน ระยะเวลา ๖๐ เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๖๗ ถึงเดือนธันวาคม
๒๕๗๑) ภายในวงเงิน ๕,๑๐๐,๐๐๐ บาท
ตามนัยมาตรา ๔๒ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๗๖๕,๐๐๐ บาท
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ส่วนที่เหลือ จำนวน ๔,๓๓๕,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๒
โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ การขออนุมัติดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายในกรอบสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกินร้อยละแปดของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดสัดส่วนต่าง ๆ
เพื่อเป็นกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1511 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | สพร. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๗๙,๒๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาและให้บริการระบบการสื่อสารแบบรวมศูนย์
ตามที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เสนอ
และให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการพัฒนาและให้บริการระบบสื่อสารแบบรวมศูนย์
ให้พิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มค่า
และผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ
รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี
และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1512 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง | ลต. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๔,๗๐๙,๑๓๑,๑๐๐ บาท และคำของบประมาณของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
วงเงิน ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1513 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นหน่วยรับงบประมาณ | มท. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงมหาดไทย (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า
(จากแหล่งน้ำลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า) งบประมาณ ๑,๙๙๕.๔๓ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความประหยัด ภาระทางการคลังที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย และให้กระทรวงมหาดไทย
โดยเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณฯ ตามข้อ
๑ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไปทั้งหมด
ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างรายได้และโอกาสให้แก่ประชาชน
การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการภาครัฐหรืออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
และการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
แล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1514 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (1. นายชลธิศ สุรัสวดี ฯลฯ จำนวน 8 คน) | สคทช | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
จำนวน ๘ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. นายชลธิศ สุรัสวดี ด้านการบริหารจัดการที่ดิน ๒. นายคณิต สุขรัตน์ ด้านทรัพยากรดิน ๓. นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ ด้านการปฏิรูปที่ดิน ๔. นายมณฑล สุดประเสริฐ ด้านการผังเมือง ๕. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ขวัญชัย ดวงสถาพร ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๖. นายเสรี นนทสูติ ด้านกฎหมาย ๗. รองศาสตราจารย์ชนินทร์ ทินนโชติ ด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1515 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ความคุ้มค่าของการขุดคลองเชื่อมสองฝั่งทะเลภาคใต้ของไทย ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ความคุ้มค่าของการขุดคลองเชื่อมสองฝั่งทะเลภาคใต้ของไทย
ของคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ตามที่สำนักเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1516 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2567) | ปสส. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
(วันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗) ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่
๑๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1517 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... | กษ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘
ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและชาวประมงผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม
และส่งเสริมการทำการประมงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทะเล
เพื่อฟื้นฟูการประมงทะเลและอุตสาหกรรมการประมงเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงยุติธรรม ที่เห็นควรรักษาการสื่อสารกับสหภาพยุโรปเพื่อให้รับทราบข้อมูลและสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ
โดยตรงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยให้สหภาพยุโรปมีความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการของรัฐบาลด้านการทำประมงอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
และรักษาความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยได้รับรองและเข้าเป็นภาคี
และการเสนอให้ยกเว้นเรือประมงที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำงานประมงในน่านน้ำไทยซึ่งมีพื้นที่กว่าสามแสนตารางกิโลเมตรไม่ต้องแสดงจำนวนรายชื่อและหนังสือคนประจำเรือ
จึงอาจเป็นประเด็นที่ทำให้ทางการไม่สามารถตรวจสอบจำนวนรายชื่อและหนังสือคนประจำเรือได้
ซึ่งนำไปสู่ความกังวลว่าอาจเป็นช่องทางไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ได้
และหากได้มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวนี้ขึ้นอาจส่งผลต่อการจัดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทย
(TIP REPORT) ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทะเล เพื่อฟื้นฟูการประมงทะเลและอุตสาหกรรมการประมงเสนอ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรกำหนดแนวทางการสร้างการรับรู้และแนวปฏิบัติให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง
เตรียมข้อมูล สำหรับการชี้แจงกับประเทศคู่ค้าถึงความจำเป็นของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... และจุดยืนของประเทศไทยต่อการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเร่งรัดการออกกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1518 | คำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสถาบันพระปกเกล้า | พป. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ของสถาบันพระปกเกล้า
จำนวน ๘๘๘,๒๙๘,๕๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สถาบันพระปกเกล้ารับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1519 | รายงานความก้าวหน้าโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ OKMD: OKMD National Knowledge Center (Ratchadamnoen Center 1 และ 2) และเสนอขอความเห็นชอบการเช่าพื้นที่อาคารกองสลากเดิมและอาคารว่างที่อยู่ติดกันเพื่อดำเนินโครงการฯ | นร.04 | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบความก้าวหน้าโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ OKMD : OKMD National Knowledge Center (Ratchadamnoen Center ๑ และ ๒) และให้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน) ดำเนินการเช่าที่ดินแปลงหมายเลข ๖ เนื้อที่ ๒,๐๓๕.๕o ตารางวา และเช่าอาคารและที่ดินด้านหลัง
พื้นที่ใช้สอย ๖,๓๖๗.๔๖ ตารางเมตร จากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
เพื่อดำเนินโครงการฯ เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี มีวงเงินค่าเช่ารวมจำนวนทั้งสิ้น ๓,๔๐๗.๐๕๕ ล้านบาท โดยจะแบ่งชำระค่าเช่าออกเป็น ๓๓ งวด ประกอบด้วย
ระยะเวลาการก่อสร้างและปรับปรุง ๓ ปี และระยะเวลาการเช่า ๓๐ ปี
ตามเงื่อนไขการชำระค่าเช่าตามที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์กำหนด ตามที่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน) เสนอ ๒.
อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
ของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
และให้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
รวมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อให้โครงการเกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และแผนการจัดหารายได้เพื่อประกอบการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงตามสัญญา
หากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
มีเงินรายได้เพียงพอควรนำมาสมทบ เพื่อเป็นค่าเช่าพื้นที่ดังกล่าว
และให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวช้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความจำเป็นและความเหมาะสม ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
และประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญด้วย และ
ควรกำหนดแนวทางและแผนการจัดหารายได้ในระยะยาวพร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
อาทิ การพัฒนารูปแบบทางธุรกิจใหม่ ๆ สำหรับการจัดหารายได้ขององค์การเพิ่มเติม
เพื่อนำมามีส่วนร่วมจ่ายและช่วยลดการพึ่งพิงภาระด้านงบประมาณของภาครัฐในระยะยาวต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1520 | ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 | ตช. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก
พ.ศ. ๒๕๒๒ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการในการทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่
เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ.๒๕๖๕
รวมทั้งกำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ถือว่าเป็นความผิดให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่แต่ละประเภท
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาในประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นควรกำหนดให้ชัดเจนว่าการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่โดยใช้วิธีการตรวจวัดจากเลือด
เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ขับขี่ยานพาหนะ
ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับกฎหมายของประเทศอังกฤษ และรัฐแคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐอเมริกา
เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในทางปฏิบัติเมื่อกฎหมายมีการประกาศใช้บังคับ และร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ยังไม่ได้กำหนดค่าสัมประสิทธิ์ในการแปลงค่ากรณีตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากของเสียอย่างอื่น
เพื่อรองรับกรณีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากของเสียอย่างอื่นที่อาจจะมีขึ้นในภายหน้าได้ตามที่กำหนดไว้ในร่างกฎกระทรวง
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|