ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 72 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 1421 - 1440 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1421 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลกิตติมศักดิ์เครือรัฐออสเตรเลียประจำจังหวัดเชียงใหม่ | กต. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ
นายรอนัลด์ จอห์น เอลเลียตต์ (Mr. Ronald John Elliott) กงสุลกิตติมศักดิ์เครือรัฐออสเตรเลียประจำจังหวัดเชียงใหม่
ตั้งแต่วันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1422 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1.เรือเอก สาโรจน์ คมคาย ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | รง. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย
เพี่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. เรือเอก สาโรจน์ คมคาย ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสมพจน์ กวางแก้ว ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวบุณยวีร์
ไขว้พันธุ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสันติ นันตสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1423 | การทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. 2560 | ทส. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการทบทวนนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐
โดยให้คงวัตถุประสงค์และบทบัญญัติของนโยบายป่าไม้แห่งชาติไว้เช่นเดิม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1424 | การขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติคาซัคสถาน เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว | กต. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการในการกำหนดให้สาธารณรัฐคาซัคสถานเป็นรายชื่อประเทศ/ดินแดนในประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง
กำหนดรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน
โดยมีเงื่อนไขให้มีผลใช้บังคับชั่วคราวเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม-๓๑ สิงหาคม
๒๕๖๗ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อมิติเศรษฐกิจและการต่างประเทศกับสาธารณรัฐคาซัคสถานในภาพรวม
โดยเฉพาะด้านความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนสองฝ่ายที่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์จนกว่าการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐคาซัคสถานเป็นการถาวรจะแล้วเสร็จ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. เห็นชอบหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
กำหนดให้ผู้ถือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของสาธารณรัฐคาซัคสถานซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว
ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน
เป็นกรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขชื่อร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
และความในร่างข้อ ๑ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรพิจารณาดำเนินมาตรการคัดกรองบุคคลอย่างเข้มงวด
ควบคู่กับการประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างไทย คาซัคสถาน
เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มก่อการร้ายท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียกลาง
โดยเฉพาะทาจิกิสถานและคาซัคสถาน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายสากล อาทิ
กลุ่ม ISIS ในซีเรีย
ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มก่อการร้าย/อาชญากรอาจแสวงประโยชน์จากการยกเว้นการตรวจลงตรา
โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านหรือเป็นพื้นที่หลบซ่อน (safe heaven) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1425 | การสิ้นสุดหน้าที่ของ นายริการ์โด มอรัน เฟร์รากูติ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงซานซัลวาดอร์ สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ และการปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงซานซัลวาดอร์ สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ เป็นการชั่วคราว | กต. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. การสิ้นสุดหน้าที่ของ
นายริการ์โด มอรัน เฟร์รากูติ (Mr.
Ricardo Moran Ferracuti) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงซานซัลวาดอร์
สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ เนื่องจากครบเกษียณอายุ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1426 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ และนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร) | นร. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งและรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ
ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เสนอ ดังนี้ ๑. แต่งตั้งนายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1427 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่มิใช่สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง พ.ศ. .... | สธ. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต
นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕
ที่มิใช่สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย
หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕
ที่มิใช่สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง กำหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาต
การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การแก้ไขรายการในใบอนุญาต การดำเนินการของผู้รับอนุญาตเพื่อประโยชน์ในการควบคุมกำกับดูแล
การจัดให้มีเภสัชกรอยู่ประจำควบคุมกิจการตลอดเวลาทำการ
และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นว่าควรเพิ่มกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์จากสิบห้าวันเป็นสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่ผู้ขออนุญาตได้รับหรือถือว่าได้รับหนังสือแจ้งมติไม่ให้ความเห็นชอบหรือคำสั่งไม่อนุญาต
ซึ่งจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่า ไปประกอบการตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1428 | ผลการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-UNDP (Bangkok-UNDP Regional Innovation Center: RIC) หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย (Thailand Policy Lab: TPLab) ประจำปี 2565 ความก้าวหน้าของกิจกรรมประจำปี 2566 และการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ | นร.11 สศช | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
(UNDP)ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาคกรุงเทพมหานคร-UNDP
(RIC) หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย (TPLab) ประจำปี ๒๕๖๕ และความก้าวหน้าของกิจกรรมประจำปี ๒๕๖๖ เห็นชอบร่างเอกสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยโครงการฯ
และอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
(UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค
กรุงเทพมหานคร-UNDP (RIC) หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย
(TPLab) อีก ๗ เดือน นับแต่วันสิ้นสุดความตกลงว่าด้วยโครงการฯ
เป็นวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ภายใต้กรอบวงเงินโครงการฯ ที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม และให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในหนังสือความตกลงว่าด้วยโครงการฯ ของฝ่ายไทย
พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม โดยร่างเอกสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยโครงการฯ
มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการมีผลบังคับใช้ความตกลงว่าด้วยโครงการความร่วมมือศูนย์
RIC ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ลงนาม
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
(United Nations Development Programme : UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-UNDP
(Bangkok-UNDP Regional Innovation Center : RIC) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับความเห็นของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
และข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น ควรส่งเสริมให้
TPLab มีสถานะที่มั่นคงเป็นสถาบันมากยิ่งขึ้น (Institutionalization)
เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานในระยะยาว เนื่องจากกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง
๓ เสาหลักของ TPLab มีประโยชน์ต่อการจัดทำและขับเคลื่อนนโยบายของไทย
และควรพิจารณาการถ่ายทอดนวัตกรรมนโยบายและเครื่องมือทางนโยบาย เช่น
การออกแบบนโยบายเชิงระบบ และการวิเคราะห์ส่วนประกอบ (System and portfolio
approach) หรือกระบวนการนโยบายสาธารณะ ๘ ขั้นตอน (Public
Policy Process Reimagined 8 Elements in Action) ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของโครงการ TPLab ไปสู่หน่วยงานราชการอื่น
ๆ เพื่อขยายผลต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1429 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายวัน อยู่บำรุง) | นร.04 | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน ๒
ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายวัน อยู่บำรุง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1430 | ร่างแผนงานความร่วมมือระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ ประจำปี ค.ศ. 2024-2025 (Joint Work Programme between the Ministry of Energy of the Kingdom of Thailand and the International Energy Agency 2024-2025) | พน. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ
ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๔ - ๒๐๒๕ (Joint Work Programme between the Ministry of
Energy of the Kingdom of Thailand and the International Energy Agency
2024 - 2025) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
หรือผู้ทีได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างแผนงานฯ โดยร่างแผนงานฯ
มีสาระสำคัญมุ่งเน้นการผลักดันให้เกิดกิจกรรมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างกระทรวงพลังงานและ
IEA เพื่อให้เกิดการพัฒนาภาคพลังงานของไทยอย่างเป็นรูปธรรม
โดยเฉพาะการพัฒนานวัตกรรม/เทคโนโลยีพลังงานสะอาด การอนุรักษ์พลังงาน
การลดการปล่อยคาร์บอนในภาคพลังงาน
และการพัฒนามาตรการรองรับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายนักวิชาการในระดับนานาชาติ
ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางนโยบายด้านพลังงานของไทยในการส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน
และการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนงานฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒. ให้กระทรวงพลังงาน
(สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน) รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณที่ขอให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเห็นควรใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1431 | รายงานกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (เรื่อง การบังคับใช้กฎหมายกรณีการประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน) | อก. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบรายงานกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (เรื่อง
การบังคับใช้กฎหมายกรณีการประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน)
ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณารายงานฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
สรุปได้ ดังนี้ (๑) ประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบกิจการโรงงานที่ก่อให้เกิดมลพิษ
เช่น กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างพิจารณาเสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา
๓๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
ให้สามารถออกคำสั่งปรับปรุงแก้ไขกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานได้รับคำสั่งให้ปิดโรงงานได้
(๒)
การแก้ไขปัญหามลพิษและกระบวนการในการเรียกร้องค่าเสียหายจากการประกอบกิจการโรงงาน
เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้รับการจัดสรรงบกลางฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๕๙.๘๕
ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหากากอุตสาหกรรมและของเสียที่ตกค้างและปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
จากการประกอบกิจการโรงงานของ บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด
ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมและบำบัด/กำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและของเสียในพื้นที่
ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว ๑,๖๒๐.๖๑ ตัน (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐
พ.ย. ๖๖) และ (๓) การดำเนินการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากปัญหามลพิษ เช่น
กรมควบคุมมลพิษได้เสนอแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีแพ่งต่อบุคคลที่ก่อให้เกิดหรือเป็นแหล่งกำเนิดของการรั่วไหลหรือแพร่กระจายของมลพิษเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และแจ้งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1432 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์) | นร.04 | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายวัน อยู่บำรุง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1433 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายล่ำซำ ลักขณาภิชนชัช) | สธ. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายล่ำซำ ลักขณาภิชนชัช ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี
กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม)
สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1434 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดตั้งสำนักบริหารการมัธยมศึกษา (สบม.) ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา | สว. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดตั้งสำนักบริหารการมัธยมศึกษา (สบม.)
ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในประเด็นการจัดตั้งสำนักบริหารการมัธยมศึกษา
โดยปรับปรุงสำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลายซึ่งเป็นหน่วยงานภายในให้จัดตั้งเป็นหน่วยงานตามโครงสร้าง
เพื่อเป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบการจัดการมัธยมศึกษาโดยตรง
ซึ่งที่ประชุมมีมติไม่ขัดข้องในการจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าวและให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการตามแนวทางการแบ่งส่วนราชการภายในกรมต่อไป
และเห็นชอบข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาฯ ในประเด็น (๑)
ข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดตั้ง “สำนักบริหารการมัธยมศึกษา”
เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ
ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพและคุณภาพมากขึ้น และ (๒)
ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของสำนักบริหารการมัธยมศึกษาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาดังกล่าว
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1435 | รายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการที่ได้จัดทำตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 | พน. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการที่ได้จัดทำตามมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
โครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย
ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยกำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดทำรายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ
จนกว่าการดำเนินการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในกรณีที่การดำเนินโครงการก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐเท่านั้น
ไปพิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องตรงตามบทบัญญัติของมาตรา ๒๗ วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1436 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง พ.ศ. .... | อก. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง
พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตามที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
พ.ศ. ๒๕๔๘ และยกเว้นค่าธรรมเนียมบางรายการสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรองตามที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1437 | การลดภาระค่าไฟฟ้าสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว | นร. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวนาปรังของกรมชลประทาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ สถานีสูบน้ำคลองเพรียว จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ ๙
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ได้รับข้อร้องเรียนของเกษตรกรในพื้นที่ว่ามีค่าใช้จ่ายเป็นค่าไฟฟ้าสำหรับการสูบน้ำเข้านาสูงมาก
เฉลี่ยไร่ละประมาณ ๕๐๐ บาท ในหลักการเห็นควรส่งเสริมและสนับสนุนการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้กับระบบสูบน้ำเพื่อช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของเกษตรกรโดยเร็ว
ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) กระทรวงพลังงาน
(สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินโครงการสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว
ทั้งนี้ ในระยะเร่งด่วน ขอให้กระทรวงพลังงานเร่งหารือร่วมกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาลดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับการสูบน้ำ เพื่อเกษตรกรรมเป็นกรณีพิเศษอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยลดภาระของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำในปริมาณมากต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1438 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า
ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังต่อไปนี้
จำนวน ๙ ฉบับ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในท้องที่เขตวังทองหลาง
เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี
อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๑.๒
ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๗
ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... ๑.๘
ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ๑.๙
ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสมุทรปราการและศาลแรงงานจังหวัดระยอง
พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1439 | รายงานกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (เรื่อง โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ) | มท. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด
๕ หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (เรื่อง โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ)
ซึ่งมีผลการดำเนินการในภาพรวม ดังนี้ (๑) การดำเนินการตามข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
เช่น กระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนโครงการฯ
ตามแนวทาง ขั้นตอน และปฏิทินการดำเนินโครงการฯ กระทรวงศึกษาธิการ
เน้นย้ำหน่วยงานในระดับจังหวัดให้ความสำคัญกับการบูรณาการและขับเคลื่อนโครงการฯ
ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการฯ
ให้กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและกรมการจัดหางานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และ (๒) การดำเนินการตามข้อเสนอแนะเชิงบริหารจัดการโครงการฯ
เช่น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
แจ้งปฏิทิน/คู่มือ/แนวทางการดำเนินโครงการฯ สำหรับคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ
ระดับจังหวัดและหน่วยงานในระดับพื้นที่ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
พัฒนากลไกความร่วมมือในระดับประเทศและระดับจังหวัดร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ
ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชนและภาควิชาการ เช่น
ค้นหาและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ไม่มีข้อมูลในระบบการศึกษา
นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับในพื้นที่จังหวัดนำร่อง ๑๒
จังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1440 | การแต่งกายเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 | สลน. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
(๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗)
ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย
การตกแต่งสถานที่ การประดับไฟและธง
รวมทั้งการใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ให้เหมาะสม ถูกต้อง และสมพระเกียรติ นั้น
ขอความร่วมมือให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๑. ขอความร่วมมือให้บุคลากรของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง
แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ
แทนการแต่งกายปกติในทุกวันจันทร์ที่เป็นวันทำการ รวมทั้งในวันหรือในโอกาสอื่นที่เหมาะสม
โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีทุกท่านกำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดให้ดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
|