ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 660 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 13181 - 13200 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13181 | (ร่าง) Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2573 | ทส | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบ (ร่าง) Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๓ เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายการบริหารจัดการขยะพลาสติกในภาพรวมของประเทศ สำหรับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติกแบบบูรณาการของหน่วยงานเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ตาม (ร่าง) Roadmap โดยตั้งเป้าหมายในการลดและเลิกใช้พลาสติกบางประเภทภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เช่น พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเลิกใช้พลาสติกประเภทถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) และหลอดพลาสติก ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ รวมทั้งมีการกำหนดหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงานตาม (ร่าง) Roadmap ในทุกภาคส่วน และกำหนดกลไกต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน เช่น สร้างความรู้ ความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือการดำเนินงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุง (ร่าง) Roadmap และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๗๓ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ [เรื่อง (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ] ก่อนเสนอไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณากลั่นกรองตามขั้นตอนของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี) ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และข้อเสนอแนะของกระทรวงพลังงานและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น (๑) ควรให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการสำหรับโครงการที่มีการลงทุนสูงให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒) หากจะให้ (ร่าง) Roadmap มีความสอดคล้องกับทิศทางของการหารือในเวทีระหว่างประเทศและมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอาจพิจารณาเพิ่มมิติของการบริหารจัดการขยะด้วย (๓) ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการสำหรับโครงการที่มีการลงทุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ (๔) มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ/ปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๓ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง) Roadmap และให้นำแผนปฏิบัติการดังกล่าวเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13182 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา ในท้องที่ตำบลพยุหะ และตำบลน้ำทรง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ และในท้องที่ตำบลโกรกพระ และตำบลยางตาล อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน โดยเรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นที่มิใช่การเกษตรกรรม เพื่อควบคุมดูแลปริมาณของน้ำ และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13183 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่บัญญัติให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรแก้ไขข้อความในส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ตามร่างข้อ ๔ จาก “เลขาธิการสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...” เป็น “เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...” รวมทั้งเพิ่มเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นรองประธานกรรมการคนที่สาม ตามร่างข้อ ๔ นั้น เมื่อร่างระเบียบนี้กำหนดให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมิได้กำหนดบทเฉพาะกาลรองรับกรณีที่ยังไม่ได้แต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวไว้ กรณีจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการแต่งตั้งรองประธานดังกล่าวทันทีเมื่อระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13184 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การยกเว้นอากรขาเข้ายาในกลุ่มยากำพร้า) | กค | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าผลิตภัณฑ์ยารักษาหรือยาป้องกันโรคในกลุ่มยากำพร้า เฉพาะที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และระบุ (P) ต่อท้ายในเลขทะเบียนตำรับยา เว้นแต่ยากำพร้าที่มีการผลิตในประเทศ ๑๑ รายการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับเนื้อหาร่างประกาศดังกล่าวควรกำหนดให้ชัดเจนว่าเป็นการยกเว้นอากรในบัญชีรายการยากำพร้าตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด เว้นแต่กลุ่มยา ๑๑ รายการที่มีการผลิตในประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับยากำพร้าที่ผลิตในประเทศและยากำพร้าที่ไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงเป็นระยะเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน และควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษี รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้ เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลาง และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีระบบฐานข้อมูลยากำพร้าของประเทศในด้านการผลิต การนำเข้า การกระจาย และการใช้ยากำพร้า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13185 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตว่า การจะออกกฎหมายลำดับรองควรมีการประชาสัมพันธ์และรับฟังข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม และต้องมีกระบวนการที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตามสมควร ตลอดจนเห็นควรให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสั่งการหรือประสานงานให้ภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือเตรียมแผนในการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงในบริเวณนอกทะเลอาณาเขตโดยเฉพาะบริเวณไหล่ทวีปซึ่งเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมของประเทศไทย และมีการใช้อากาศยานเพื่อการลำเลียงขนส่งเป็นประจำ หรือบริเวณพื้นที่ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้อาณาเขตของประเทศใด เพื่อให้การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ตามที่เห็นสมควรด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13186 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการในการรับรองตนเองผ่านระบบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การพิจารณาอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียม การกำหนดมาตรการเพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงของการใช้สุดท้ายหรือผู้ใช้สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนในการตราพระราชกฤษฎีกาตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13187 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตว่า ควรเตรียมความพร้อมในการจัดให้มีร่างระเบียบเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นกรณีที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมกันเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๖ และในการดำเนินการตรวจสอบความจำเป็นในการตรากฎหมาย การรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย รวมทั้งการดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบเนื้อหาของร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับระบบอนุญาต ระบบคณะกรรมการ การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ระยะเวลาในการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ และการกำหนดโทษอาญาจะต้องมีการเตรียมความพร้อมและการสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้แก่หน่วยงานของรัฐ สำหรับกลไกการตรวจสอบกฎหมายโดยศาลควรให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้น ๆ และระมัดระวังมิให้เป็นการก้าวล่วงหรือใช้อำนาจที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ส่วนกฎหมายลำดับรองบางประเภทที่จะออกมาใช้บังคับต่อเมื่อมีสถานการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น และต้องออกกฎหมายลำดับรองนั้น ไม่สามารถกำหนดเป็นหลักเกณฑ์ไว้ล่วงหน้าได้ จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์การกำหนดกรอบเวลาในการออกกฎหมายลำดับรอง นอกจากนี้ การกำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดทำแนวทางปฏิบัติในการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามร่างมาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง นั้น หากได้มีการจัดทำแนวทางปฏิบัติในเรื่องนั้นไว้แล้ว หน่วยงานของรัฐสามารถประกาศให้ทราบถึงแนวทางดังกล่าว และถือได้ว่าเป็นการดำเนินการตามร่างมาตรา ๒๔ แล้ว ทั้งนี้ ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และรูปแบบเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลตัวบทกฎหมาย คำแปลของกฎหมาย และคำอธิบายสรุปสาระสำคัญ ควรมีการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบการบังคับใช้กฎหมายประกอบด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13188 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี พ.ศ. .... โดยสำนักงานศาลยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เกี่ยวกับการจัดทำแผนแม่บทในการจัดตั้งศาล การกำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อศาลตามตำแหน่งพื้นที่ การกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งศาลขึ้นใหม่ในอนาคตควรจะพิจารณาเขตอำนาจศาลให้สอดคล้องกับเขตอำนาจของพนักงานสอบสวนต่อไป ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13189 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. .... โดยสำนักงาน ก.พ. ได้ร่วมกับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่าง ๆ รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งเห็นด้วยกับข้อสังเกตดังกล่าวเกี่ยวกับผลการให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดทำประมวลจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในความรับผิดชอบ และให้หน่วยงานของรัฐสามารถจัดทำข้อกำหนดจริยธรรมเพิ่มเติมจากประมวลจริยธรรมที่องค์กรกลางบริหารงานบุคคลหรือองค์กรที่มีหน้าที่จัดทำขึ้น รวมทั้งการเปิดเผยต่อสาธารณะได้ทราบถึงประมวลจริยธรรมและข้อกำหนดจริยธรรม โดยใช้ช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมและสามารถเข้าถึงได้ง่าย ตลอดจนการเผยแพร่กรณีที่ได้ดำเนินการทางจริยธรรมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมในกรณีที่เป็นการดำเนินการในทางที่เป็นโทษ และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ด้วย ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13190 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเกี่ยวกับการดำเนินการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในทุก ๆ มิติอย่างรอบด้าน ก่อนการกำหนดมาตรฐานบังคับจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาเหตุผลความจำเป็นในการกำหนดมาตรฐานบังคับในแต่ละเรื่อง ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงคู่มือสำหรับประชาชน จัดทำร่างประกาศคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรให้ครอบคลุมถึงการบูรณาการและการแลกเปลี่ยนตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลของหน่วยงานอื่นของรัฐ รวมทั้งเร่งรัดการจัดทำข้อตกลงหรือความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการยอมรับผลการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานซึ่งกันและกัน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13191 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน | พน | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ประกอบด้วยผลการดำเนินงานของ กกพ. ผลการดำเนินงานของสำนักงาน กกพ. ผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า และงบแสดงฐานะการเงินของสำนักงาน กกพ. ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13192 | รายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๑) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ภาวะเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๑ ขยายตัวร้อยละ ๓.๔ จากระยะเดียวกันของปีก่อน และชะลอลงจากช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๑ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในประเทศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่ากังวล เสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องและสามารถรองรับความผันผวนของตลาดการเงินโลกได้ ๒. การดำเนินงานของ ธปท. ประกอบด้วย (๑) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายการเงิน (๒) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน และ (๓) แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน ธปท. ได้ดำเนินงานด้านนโยบายระบบการชำระเงินต่าง ๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๑ เช่น การดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) และมาตรฐาน Thai Standard QR Code สำหรับการชำระเงิน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13193 | รายงานผลการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในภูมิภาคอาเซียนและประเทศอาเซียนบวกสาม ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะ | พม | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในภูมิภาคอาเซียนและประเทศอาเซียนบวกสามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ณ ประเทศญี่ปุ่น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การพบปะและประชุมหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับคนพิการ ได้แก่ (๑) การพบปะและปรึกษาหารือ ณ สถานกงสุลใหญ่ นครโอซากา (๒) การประชุมหารือร่วมกับศูนย์การดำรงชีวิตอิสระ (Muchu Independent living Center : ILC) (๓) การประชุมหารือร่วมกับ International Communication Center for Persons with Disabilities : BIG-i (๔) การประชุมหารือร่วมกับศูนย์บริการผู้สูงอายุ Sun-Rose OSAKA (Elderly Nursing Home, Day Care Center, Day Service for Dementia) (๕) การประชุมหารือร่วมกับศูนย์ฝึกอาชีพสำหรับคนพิการของเมืองโออิตะ และ (๖) การประชุมหารือร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมคนพิการ Japan Sun Industries (Taiyonoie) ๑.๒ ข้อเสนอแนะในการส่งเสริมสังคมที่ปราศจากอุปสรรคต่อคนพิการ ได้แก่ (๑) การพัฒนาศูนย์เรียนรู้นวัตกรรม เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ (๒) การกำหนดประเด็น Accessibility (การเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้) เป็นระเบียบวาระแห่งชาติ และการเร่งผลักดันให้มีกฎหมายด้านการจัดสภาพแวดล้อมสาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ (Accessibility All Act : AAA) และ (๓) การส่งเสริมเมืองที่เป็นมิตรสำหรับทุกคน (Smile City For All) ตามหลัก Smart Living และ Smart Service ๑.๓ ข้อเสนอแนะในการเสริมพลังคนพิการ ได้แก่ (๑) การส่งเสริมการจ้างงานคนพิการให้เป็นรูปธรรมทั้งกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน (๒) การให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลคนพิการมากขึ้น และ (๓) การให้ความสำคัญต่อกลุ่มผู้สูงอายุที่เป็นคนพิการและคนพิการติดเตียง ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นควรพิจารณาให้การดำเนินการของศูนย์เรียนรู้นวัตกรรม เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ในมาตรการการจัดทำบัญชีแห่งชาติ ด้านเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ซึ่งสามารถผลักดันไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรมโดยสามารถใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนานวัตกรรมตามความต้องการของภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13194 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายอดุลย์ บัณฑุกุล) | สธ | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอดุลย์ บัณฑุกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13195 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ) | สธ | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ (ด้านอาหารและยา) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13196 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมผู้นำโต๊ะกลมของการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 2 | กต | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมผู้นำโต๊ะกลมของการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ ๒ และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ โดยสาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของประเทศที่เข้าร่วมการประชุม จำนวน ๓๘ ประเทศ โดยมุ่งเน้นความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยง ความยั่งยืน ความสัมพันธ์ระดับประชาชน บนพื้นฐานของการเปิดกว้างและครอบคลุม ความโปร่งใส การได้ประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย การรักษาสิ่งแวดล้อม การมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และการเคารพกฎหมายภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ได้กำหนดทิศทางความร่วมมือภายใต้กรอบสายแถบและเส้นทาง (BRI) ใน ๕ มิติ ได้แก่ (๑) ความเชื่อมโยงทางนโยบาย (๒) ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานทุกมิติ (๓) การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (๔) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของความร่วมมือให้ปฏิบัติได้จริงและมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และ (๕) การพัฒนาการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนในมิติต่าง ๆ โดยจะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation : BRF) ครั้งที่ ๒ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ ๒๕-๒๗ เมษายน ๒๕๖๒ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13197 | การจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับปี พ.ศ. 2562-2564 | วธ | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ (Executive Program for Cultural Cooperation for the Years 2019-2021 between the Ministry of Culture of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Culture and Tourism of the People’s Republic of China) ภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ. ๒๕๔๔ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนอื่นที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งฝ่ายจีนเสนอที่จะให้มีการลงนามในปลายเดือนเมษายน ๒๕๖๒ โดยสาระสำคัญของแผนปฏิบัติการฯ มุ่งเน้นความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น คณะผู้แทนรัฐบาลด้านวัฒนธรรม บุคลากรและเจ้าหน้าที่ทางด้านวัฒนธรรม ศิลปิน และบุคคลที่มีบทบาทในด้านศิลปะและวัฒนธรรมทั้งจากภาครัฐและเอกชน ผ่านความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนบุคลากร การเพิ่มพูนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างกันในสาขาทางด้านวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาทิ การสนับสนุนความร่วมมือเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ การบริการสาธารณะทางด้านวัฒนธรรม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และตลาดวัฒนธรรม ตลอดจนความร่วมมือทางด้านศิลปะการแสดง พิพิธภัณฑ์และหน่วยงานด้านมรดกวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังสานต่อโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมไทย-จีน รวมถึงการแสดงดนตรีและวัฒนธรรม “สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน” การสนับสนุนการเจรจาแลกเปลี่ยนทางวิชาการและวัฒนธรรมระหว่างกัน และการสนับสนุนการจัดการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๔๕ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กระทรวงวัฒนธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรองรับเพื่อดำเนินการดังกล่าวไว้แล้ว จากรายการค่าใช้จ่ายในการพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ โดยดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ส่วนปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13198 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา | คค | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำและลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย รวมทั้งอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้แทนสำหรับการลงนามดังกล่าว โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถไฟระหว่างประเทศครอบคลุมทั้งด้านการโดยสารและการขนส่งสินค้าทางรถไฟ การกำหนดนิยามคำศัพท์และการตีความ เช่น สถานีระหว่างประเทศ สถานีชายแดน ทรัพย์สินร่วม เป็นต้น รวมถึงการระบุถึงกรรมสิทธิ์ที่ดิน พนักงานสถานีระหว่างประเทศ การจัดการเดินรถผ่านแดน การจัดหาล้อเลื่อนและการคิดค่าลากจูง ความรับผิดชอบต่อความเสียหาย และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมล้อเลื่อน ความรับผิดชอบต่อการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ สินค้าสูญหาย และอื่น ๆ ตลดจนการอำนวยความสะดวกในการเดินรถผ่านแดน และการชำระบัญชี โดยการลงนามความตกลงฯ จะมีขึ้นในระหว่างพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรและถนนเชื่อมต่อฝั่งกัมพูชา พิธีเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก พิธีลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และพิธีส่งมอบรถไฟดีเซลราง วันจันทร์ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๒ ณ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13199 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานการปฏิบัติงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน | วธ | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานการปฏิบัติงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน จำนวน ๘๗๕,๑๗๔,๑๗๘ บาท ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กันเงินเหลื่อมปีถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๒ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว โดยขอให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และหากมีงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินการที่บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ขอให้นำส่งคืนสำนักงบประมาณในโอกาสแรกด้วย ๑.๒ สำหรับเงินเดือนข้าราชการ จำนวน ๒๔๗ อัตรา อัตราเดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ที่ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้แล้วในแผนงานบุคลากรภาครัฐไปดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13200 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ) | นร05 | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
.....