ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 59 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1161 - 1180 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1161 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 | รง. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๘๗ และฉบับที่ ๙๘ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
มีผลสรุปในภาพรวม ดังนี้ ๑) การให้สัตยาบันอนุสัญญาทั้ง ๒
ฉบับโดยที่ยังไม่ได้แก้ไขกฎหมายภายในย่อมส่งผลให้รัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีตามอนุสัญญาทั้ง
๒ ฉบับได้อย่างครบถ้วน จึงควรยึดถือแนวปฏิบัติที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยควรมีกฎหมายรองรับที่ครบถ้วนก่อนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาทั้ง
๒ ฉบับ และ ๒) กระทรวงแรงงานได้ยกร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ให้มีหลักการที่สอดคล้องกับอนุสัญญาทั้ง
๒ ฉบับ และได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว
โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1162 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 | กค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบกำไรขาดทุนและกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินและหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1163 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 | รง. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนเงินทดแทน
สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้วเห็นว่า
ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1164 | รายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านความรุนแรงในครอบครัวตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ประจำปี 2565 | พม. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านความรุนแรงในครอบครัวตามมาตรา
๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ประจำปี
๒๕๖๕ ซึ่งประกอบด้วย ส่วนที่ ๑ ข้อมูลสถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี
และความรุนแรงในครอบครัว ปี ๒๕๖๕ ที่รวบรวมจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่ ๒ ข้อมูลความรุนแรงในครอบครัวตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๐ ส่วนที่ ๓ บทวิเคราะห์สถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว
และส่วนที่ ๔ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1165 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล และบัญชีกำไรขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 | กค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล และบัญชีกำไรขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบกำไรขาดทุนและกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเห็นชอบแล้ว
และได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ๒๕๖๗ แล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1166 | รายงานประจำปีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | มท. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายงานประจำปีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการผังเมือง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ประกอบด้วย ๑)
สถานการณ์ด้านการผังเมืองของประเทศไทยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ๒)
ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓)
ธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๖ ๔)
ผลการดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ของการวางและจัดทำผังเมือง ๕)
การดำเนินการจัดทำอนุบัญญัติตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖) การพัฒนาเมือง
และ ๗) การดำเนินการเพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการผังเมืองและการพัฒนาเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1167 | รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 | นร.07 | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ และรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ณ สิ้นไตรมาสที่ ๔
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1168 | โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ | กค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
(โครงการฯ) โดยมอบหมายกระทรวงการคลังดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ
และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ
จำนวนไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งเห็นชอบในหลักการการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่กลุ่มเป้าหมายได้รับตามโครงการฯ
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เช่น สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
นำส่งฐานข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๓ เมษายน ๒๕๖๗ สำเร็จ ที่มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เป็นต้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้น
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ธนาคารแห่งประเทศไทย
และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงการคลังควรเตรียมแนวทางการประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว
เพื่อสร้างความเข้าใจในวงกว้างและลดปัญหาการร้องเรียนที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งเน้นการกำกับดูแลการดำเนินการในเรื่องต่าง
ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ข้อกฎหมาย
รวมถึงรักษากรอบวินัยการเงินการคลังอย่างรอบคอบ เคร่งครัด
และจัดให้มีการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่า รวมทั้งรายงานปัญหาอุปสรรค
และแนวทางการแก้ไขการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1169 | ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ | ตช. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ
ออกไปอีก ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๘ - ๒๕๗๒) ในวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม
๒๕๖๑ ได้อนุมัติไว้ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในกรอบระยะเวลาที่ได้รับการขยายในครั้งนี้
โดยดำเนินการให้ถูกต้อง โปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงพลังงาน เห็นควรพิจารณาการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ
ประหยัดคุ้มค่า และให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรที่คณะรัฐมนตรีจะได้กำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกำหนดแผนการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ชัดเจน
มีกำหนดแล้วเสร็จแน่นอน เพื่อให้การดำเนินการตามกฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(องค์การมหาชน) เพื่อพิจารณาทบทวนและปรับปรุงรายละเอียดของโครงการฯ ให้เหมาะสม
ทันสมัย เป็นปัจจุบัน มีช่องทางการแจ้งเหตุฉุกเฉินที่หลากหลาย ครบถ้วน
แล้วให้กำหนดแผนการดำเนินงานต่าง ๆ
และกรอบระยะเวลาของแผนดังกล่าวให้ชัดเจนก่อนดำเนินการต่อไป
โดยไม่ควรมีการขยายระยะเวลาอีก |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1170 | ร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับหลักปฏิบัติสำหรับการผลิตเชื้อเห็ดเป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. 2560 พ.ศ. .... | กษ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับหลักปฏิบัติ
สำหรับการผลิตเชื้อเห็ดเป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกการควบคุมกระบวนการผลิตที่จะทำให้เชื้อเห็ดมีคุณภาพและได้มาตรฐานตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับหลักปฏิบัติสำหรับการผลิตเชื้อเห็ดเป็นมาตรฐานบังคับ
พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อลดภาระของผู้ผลิตเชื้อเห็ดที่จะต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการและขอรับการตรวจสอบและรับรองจากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร
พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1171 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2563 พ.ศ. .... | ทส. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง
ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง
กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง
และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๖๓ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง
และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๖๓ ออกไปอีก ๒ ปี นับแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม
๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1172 | ร่างแผนปฏิบัติการสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล สำหรับปี ค.ศ. 2024-2034 | กต. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
(Landlocked
Developing Countries : LLDCs) ครั้งที่ ๓ ได้แก่ ร่างแผนปฏิบัติการสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
สำหรับปี ค.ศ. ๒๐๒๔-๒๐๓๔ และให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ
นครนิวยอร์ก หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแผนปฏิบัติการฯ โดยสาระสำคัญของร่างแผนปฏิบัติการฯ
เป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาด้านการพัฒนาของ LLDCs
ซึ่งเผชิญความท้าทายจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลโดยตรง โดยเน้น (๑)
การปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง และวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (๒) การค้า
การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการรวมกลุ่มในภูมิภาค (๓) การผ่านแดน การขนส่ง
และความเชื่อมโยง (๔) การเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัว
การเสริมสร้างความยืดหยุ่น
และการลดความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ และ (๕)
กลไกการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนปฏิบัติการฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามแดนและประเด็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงานและการขนส่งเพิ่มด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1173 | การแต่งตั้งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน วาระปี 2568-2570 | กต. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาณุภัทร
จิตเที่ยง ดำรงตำแหน่งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
สำหรับวาระปี ๒๕๖๘ - ๒๕๗๐ โดยให้ทำหน้าที่ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่
๓๑ ธันวาคม ๒๕๗๐ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งให้เลขาธิการอาเซียนและประเทศสมาชิกอาเซียนทราบ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1174 | ร่างหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยการให้คำมั่นอันเป็นหนึ่งเดียวของประเทศสมาชิกอาเซียนในการปกป้องสุขภาพของประชาชนจากการแทรกแซงของอุตสาหกรรมยาสูบ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการควบคุมยาสูบ | สธ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยการให้คำมั่นอันเป็นหนึ่งเดียวของประเทศสมาชิกอาเซียนในการปกป้องสุขภาพของประชาชนจากการแทรกแซงของอุตสาหกรรมยาสูบ
โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการควบคุมยาสูบ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมรับรองร่างหนังสือแสดงเจตจำนงค์ฯ
โดยสาระสำคัญของร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ เป็นการแสดงเจตจำนงร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการคุ้มครองนโยบายด้านสาธารณสุขจากการแทรกแซงของอุตสาหกรรมยาสูบ
โดยประเทศสมาชิกอาเซียนจะสนับสนุนให้เกิดการสร้างความร่วมมือและกำหนดมาตรการในการควบคุมยาสูบผ่านการดำเนินการต่างๆ
เช่น (๑)
การกำหนดมาตรการเพื่อจำกัดการติดต่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับอุตสาหกรรมยาสูบ
(๒) การขยายความร่วมมือกับภาคส่วนอื่น ๆ เช่น ภาคส่วนด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา
ด้านเศรษฐกิจและสังคม (๓) ติดตามและตรวจสอบการบิดเบือนของข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยาสูบที่สร้างความสับสนแก่ผู้กำหนดนโยบาย
และ (๔) แบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวปฏิบัติที่ดี (Best
Practices) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1175 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควายเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. .... | ยธ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากพืชฝิ่นและพืชเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดพื้นที่ทดลองเพาะปลูกและสกัดสารสำคัญจากฝิ่นและเห็ดขี้ควาย
เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมและตรวจสอบการเพาะปลูกและสารสกัดสำคัญจากพืชดังกล่าว
โดยอาศัยอำนาจในมาตรา ๕๕ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1176 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 [เรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำพูน และเรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)] | อก. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ มกราคม ๒๕๖๖ [เรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำพูน
และเรื่อง การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC)] ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรม
(การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ในการลงทุนจัดซื้อที่ดินเพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในคราวต่อไป การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยควรศึกษาและตรวจถึงกรรมสิทธิ์ของที่ดินในแต่ละพื้นที่
และพิจารณาข้อมูลและความเสี่ยงเกี่ยวกับที่ดินเป้าหมายอย่างรอบคอบก่อนที่จะดำเนินการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
รวมทั้งประสานงานกับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้ง ๒ แห่ง ในการกำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG) ตามแนวนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง
การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ)
อย่างเคร่งครัดด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1177 | แผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2569-2572) | กค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1178 | การอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 | นร. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๘
ที่กำลังจะมาถึง คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางไป - กลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง
ๆ ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องให้พร้อมและเพียงพอเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางและการให้ความช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ดังกล่าว
ทั้งในการเดินทางทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทั้งนี้
ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขันกับการป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น
การขับขี่ยานพาหนะอย่างประมาทและใช้ความเร็วเกินกำหนด รวมตลอดถึงการรณรงค์เมาไม่ขับอย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1179 | การประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของรัฐบาลและของกระทรวง | นร. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
กระทรวงต่าง ๆ ได้ดำเนินนโยบายสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในเรื่องต่าง ๆ
มาอย่างต่อเนื่อง
แต่อาจขาดการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารให้เป็นที่เข้าใจอย่างถูกต้องและทั่วถึงกับภาคประชาชนและสื่อมวลชนอย่างเหมาะสมและเพียงพอ
จึงขอให้ทุกกระทรวงเร่งรัดการแต่งตั้งโฆษกประจำกระทรวงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อให้เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการเผยแพร่ผลการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ
ในภารกิจและอำนาจหน้าที่ของแต่ละกระทรวงผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ เช่น
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ให้ถูกต้อง รวดเร็ว และต่อเนื่อง โดยให้ประสานและบูรณาการข้อมูลในเรื่องสำคัญต่าง
ๆ กับโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย
เพื่อให้การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลการดำเนินงานในภาพรวมของรัฐบาลมีความถูกต้อง
สอดคล้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1180 | การกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลาง และเป้าหมายสำหรับปี 2568 | กค. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงิน
ประจำปี ๒๕๖๘ พร้อมข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการการเงิน (กนง.)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลาง
และเป้าหมายสำหรับปี ๒๕๖๘
ซึ่งกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินไว้ที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ ๑ - ๓ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา
๒๘/๘ แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช ๒๔๘๕
ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการนโยบายการเงินรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าหากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเคลื่อนไหวอยู่นอกกรอบเป้าหมาย
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นสำหรับการบริโภคและการลงทุน ควรให้ กนง.
เร่งพิจารณาหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวและรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรี
รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับสาธารณชนถึงแนวทางในการแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เข้าสู่กรอบเป้าหมายของธนาคารกลางถือเป็นภารกิจที่สำคัญเนื่องจากเป็นการสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะดำรงเสถียรภาพด้านราคาและเศรษฐกิจ
ธนาคารแห่งประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้เข้าสู่กรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน
รวมทั้งให้ความสำคัญกับการสื่อสารต่อสาธารณชนถึงความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายการเงินเพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อทั่วไปให้อยู่ภายในกรอบเป้าหมายฯ
ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อไม่ให้ผันผวนจนส่งผลกระทบต่อการลงทุน
การส่งออก และการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
|