ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 51 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1001 - 1020 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1001 | รัฐบาลจอร์เจียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งจอร์เจียประจำประเทศไทย (นายวาฮ์ตัง ยาออชวีลี) | กต. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวาฮ์ตัง ยาออชวีลี (Mr. Vakhtang Jaoshvili) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งจอร์เจียประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย สืบแทน นายอาชิล ซูลีอาชวีลี (Mr.
Archil Dzuliashvili) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1002 | ร่างกฎกระทรวงการกำหนดค่าล่วงเวลาและค่าตอบแทนการทำงานที่เกินกว่าวันละแปดชั่วโมงในงานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินอันเป็นหน้าที่การทำงานปกติของลูกจ้าง พ.ศ. .... | รง. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการกำหนดค่าล่วงเวลาและค่าตอบแทนการทำงานที่เกินกว่าวันละแปดชั่วโมง
ในงานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินอันเป็นหน้าที่การทำงานปกติของลูกจ้าง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการคุ้มครองให้ลูกจ้างที่ทำงานเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินอันเป็นหน้าที่การทำงานปกติ(พนักงานรักษาความปลอดภัย)
มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าตอบแทนสำหรับการทำงานที่เกินกว่าวันละ ๘
ชั่วโมงในอัตราที่เพิ่มขึ้น และได้รับค่าตอบแทนในการทำงานที่เป็นธรรม
ซึ่งจะทำให้ลูกจ้างมีรายได้ที่สอดคล้องและเพียงพอต่อการดำรงชีวิตตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการตรวจสอบการจ้างงานของผู้ประกอบกิจการหรือนายจ้าง
เนื่องจากหากมีการลดอัตราการจ้างงาน หรือเลิกจ้างเกิดขึ้น
จะส่งผลให้ภาระการปฏิบัติงานของลูกจ้างเพิ่มมากขึ้นและอาจเกิดการปฏิบัติงานควบ ๒
กะ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกจ้าง และเกิดความเสียหายขึ้นได้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าการกำหนดอัตราภายใต้ร่างกฎกระทรวงฯ ยังมีระดับที่ต่ำกว่าอัตราการจ่ายค่าล่วงเวลาที่จ่ายให้ลูกจ้างทั่วไป
ซึ่งกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และในระยะต่อไป
กระทรวงแรงงานควรพิจารณาปรับอัตราการจ่ายค่าล่วงเวลาและค่าตอบแทนการทำงานที่เกินกว่าวันละแปดชั่วโมงให้กับกลุ่มลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา
แต่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้การยกระดับการคุ้มครองแรงงานเป็นมาตรฐานเดียวกัน
และไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในกลุ่มลูกจ้างดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1003 | รัฐบาลสาธารณรัฐกินีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกินีประจำประเทศไทย (นางกูงบา ดีย็อป) | กต. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางกูงบา ดีย็อป (Mrs. Koumba Diop) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกินีประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายมุฮัมมัด ลามีน กงเด (Mr.
Mohamed Lamine Conde) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1004 | รัฐบาลสาธารณรัฐบุรุนดีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบุรุนดีประจำประเทศไทย (พลจัตวา อาลัว บีแซ็งดาวี) | กต. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พลจัตวา อาลัว บีแซ็งดาวี (Brig. Aloys Bizindavyi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบุรุนดีประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย สืบแทน นายเกเบรียล ซาบูชิมิเก (Mr.
Gabriel Sabushimike) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1005 | รัฐบาลสาธารณรัฐสโลวีเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนียประจำประเทศไทย (นายโบชต์ยัน มาโลฟฮ์) | กต. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายโบชต์ยัน มาโลฟฮ์ (Mr. Bostjan Malovrh) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนียประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นางสาวอาเลงกา ซูฮาดอลนิก
(Ms. Alenka Suhadolnik) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1006 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวศศิธร พลัตถเดช และนางภาวิณา อัศวมณีกุล) | นร.11 สศช | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ดังนี้ ๑. นางสาวศศิธร พลัตถเดช
ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. นางภาวิณา อัศวมณีกุล
ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1007 | นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | ตผ. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ซึ่งมีความสอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐)
และเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
- ๒๕๖๗ เพื่อให้การตรวจเงินแผ่นดินเกิดผลสัมฤทธิ์
การบริหารการเงินการคลังมีเสถียรภาพ
ส่งเสริมสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ และเป้าหมายอื่น ๆ
รวมถึงใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการตรวจสอบและแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑) ทิศทางและเป้าหมายในการตรวจเงินแผ่นดิน เช่น
การตรวจเงินแผ่นดินต้องเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามวัตถุประสงค์ คุ้มค่า
เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐ
๒) ผลสัมฤทธิ์ในการตรวจเงินแผ่นดิน เช่น
การตรวจเงินแผ่นดินสามารถระงับยับยั้งความเสียหายร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังและทรัพย์สินของรัฐ
และ ๓) การดำเนินการเพื่อพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน เช่น ส่งเสริมและผลักดันให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการตรวจเงินแผ่นดิน
พัฒนาระบบการตรวจเงินแผ่นดินอิเล็กทรอนิกส์ และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) มาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่
ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1008 | การแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ | นร.09 | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขมาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยมีผลใช้บังคับในวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๘
ที่แก้ปัญหาความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม
ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ ๑๓/๒๕๖๗ และมอบหมายหน่วยงานต่าง ๆ
ดำเนินการแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ข้อบัญญัติ ประกาศ คำสั่ง
มติคณะรัฐมนตรี หรือแนวปฏิบัติในเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับมาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่
๑๓/๒๕๖๗ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1009 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | ทส. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง
กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม
อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน
อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง
กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม
อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน
อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑
ที่จะสิ้นสุดระยะเวลาการใช้บังคับในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๘
เพื่อปรับปรุงเป็นฉบับใหม่ โดยกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
ในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมมากยิ่งขึ้นและเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบังคับใช้กฎหมาย
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1010 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง ด้านประสิทธิภาพพลังงานต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง : ด้านประสิทธิภาพพลังงาน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....) | อก. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง
: ด้านประสิทธิภาพพลังงาน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศสำหรับห้อง
ด้านประสิทธิภาพพลังงานตามมาตรฐานเลขที่ มอก. ๒๑๓๔ - ๒๕๕๓ โดยยกเลิกมาตรฐานเดิมและกำหนดมาตรฐานใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานเลขที่
มอก. ๒๑๓๔ - ๒๕๖๕ เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการ รองรับการพัฒนาเทคโนโลยีการทำและการใช้งานภายในประเทศอย่างทั่วถึง
และสอดคล้องกับข้อกำหนดตามมาตรฐานระหว่างประเทศในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1011 | ขอขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 (พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565) | ยธ. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองตามมาตรา
๑๙ วรรคสอง และมาตรา ๒๑ วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง
พ.ศ. ๒๕๖๕ ออกไปอีก ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ทั้งนี้
เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1012 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำสินค้าที่ประเทศไทยมีพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลกเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา พ.ศ. .... | พณ. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง
การนำสินค้าที่ประเทศไทยมีพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลกเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สินค้าตามบัญชีท้ายฯ จำนวน ๒ รายการ ได้แก่
(๑) มะพร้าวฝอย และ (๒) ชา
ที่ประเทศไทยมีพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลกซึ่งมีถิ่นกำเนิดและส่งตรงมาจากสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
ได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร (ได้รับยกเว้นอากรนำเข้า)
และได้รับยกเว้นในการปฏิบัติตามมาตรการอื่นที่มิใช่มาตรการทางภาษีที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า
(ได้รับยกเว้นการขออนุญาตนำเข้า) ซึ่งสอดคล้องกับพันธกรณีตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการติดตามข้อมูลและสถานะของสินค้าตามความตกลง
SLTFTA อย่างต่อเนื่อง
เพื่อใช้ประกอบการประเมินผลกระทบต่อเกษตรกรหรือผู้ประกอบการในประเทศ และกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องได้ทันสถานการณ์ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1013 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน
พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
ยกเลิกศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพซึ่งเป็นเขตศุลกากรของสำนักงานศุลกากรกรุงเทพ (เดิมมีเขตศุลกากรกรุงเทพ
๓ แห่ง คือ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ และศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ
โดยยุบรวมเหลือ ๒ แห่ง คือ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่และศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ
เนื่องจากได้ย้ายศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพไปยังศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่)
และปรับปรุงสถานที่ตั้งด่านศุลกากร เขตศุลกากร และด่านพรมแดนของด่านศุลกากรสะเดา
จังหวัดสงขลา เนื่องจากด่านศุลกากรสะเดาได้ย้ายสถานที่ปฏิบัติราชการไปสถานที่แห่งใหม่
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1014 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตู้น้ำร้อนน้ำเย็นบริโภคและตู้น้ำเย็นบริโภค เฉพาะด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตู้น้ำร้อนน้ำเย็นบริโภคและตู้น้ำเย็นบริโภค
เฉพาะด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมตู้น้ำเย็นบริโภค
เฉพาะด้านความปลอดภัยมาตรฐานเลขที่ มอก. ๒๔๖๑ - ๒๕๕๒ โดยเป็นการยกเลิกมาตรฐานเดิมและกำหนดมาตรฐานใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานเลขที่
มอก. ๒๔๖๑ - ๒๕๖๕
เพื่อความปลอดภัยหรือเพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดแก่ประชาชนหรือแก่กิจการอุตสาหกรรม
หรือเศรษฐกิจของประเทศชาติ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1015 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ให้อาวุธและยุทโธปกรณ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออกและห้ามนำผ่านราชอาณาจักรไปยังสาธารณรัฐเฮติ พ.ศ. .... | พณ. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
เรื่อง
ให้อาวุธและยุทโธปกรณ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออกและห้ามนำผ่านราชอาณาจักรไปยังสาธารณรัฐเฮติ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้อาวุธและยุทโธปกรณ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออกและห้ามนำผ่านราชอาณาจักรไปยังสาธารณรัฐเฮติ
ยกเว้นการส่งออกหรือนำผ่านอาวุธและยุทโธปกรณ์ให้แก่สาธารณรัฐเฮติเพื่อสนับสนุนภารกิจที่อนุมัติโดยสหประชาชาติหรือหน่วยงานความมั่นคงที่ปฏิบัติงานภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลสาธารณรัฐเฮติให้ความเห็นชอบหรือการส่งออกหรือนำผ่านที่ได้รับความเห็นชอบล่วงหน้าโดยคณะกรรมการ
เพื่อส่งเสริมวัตถุประสงค์ด้านสันติภาพและเสถียรภาพในสาธารณรัฐเฮติ เพื่อให้เป็นไปตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
(United Nations Security Council : UNSC)(ข้อมติ UNSC) ที่ ๒๖๙๙ (ค.ศ. ๒o๒๓) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าการอ้างบทอาศัยอำนาจในร่างประกาศฯ
กรณีมาตรา ๕ เห็นควรตัดการอ้างวรรคหนึ่งออก ระบุเป็นมาตรา ๕ (๑) และ (๓)
และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า
พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการร่างกฎหมายต่อไป ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1016 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางหัทยา คูสกุล) | กต. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางหัทยา คูสกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งกงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้
กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1017 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวณภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์) | พณ. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางสาวณภัสนันท์
อรินทคุณวงษ์ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสุชาติ ชมกลิ่น) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๑ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1018 | การมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบในการรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล | นร.04 | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบในการรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.
มอบหมายหน่วยงานเจ้าภาพหลักและหน่วยงานสนับสนุนของแต่ละนโยบาย
เพื่อรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ๒. มอบหมายหน่วยงานตามข้อ ๑
รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล
ผ่านระบบติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีตามนโยบายรัฐบาล
ทุกวันที่ ๕ ของเดือน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1019 | ร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กห. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกศาลจังหวัดทหารเพื่อให้สอดคล้องกับการกำหนดมณฑลทหารบกเพิ่มขึ้นและยกเลิกจังหวัดทหารบกทุกแห่ง
แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้เสียหายในคดีอาญาสามารถใช้สิทธิในการดำเนินคดีอาญาในศาลทหารได้ด้วยตนเอง
และการอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีอาญาของศาลทหารในเวลาไม่ปกติเฉพาะกรณีที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกซึ่งไม่อยู่ในเวลาที่มีการรบหรือสถานะสงครามเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
และคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ด้วยตนเองและสิทธิในการได้รับการพิจารณาทบทวนคำพิพากษาโดยศาลที่สูงกว่า
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1020 | ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... | กห. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราเงินเดือน อัตราเงินประจำตำแหน่ง
การให้ได้รับเงินเดือนและการให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหมในแต่ละประเภท
ได้แก่ ประเภทบริหาร ประเภทอำนวยการ ประเภทสอนหรือวิจัย และประเภททั่วไป
เพื่อให้สอดคล้องกับข้าราชการพลเรือนและข้าราชการทหาร ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๓. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์
เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรพิจารณาทบทวนและกำหนดแนวทางให้เหมาะสม
เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างข้าราชการพลเรือนและข้าราชการพลเรือนกลาโหม
|