คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอรายงานผลงานก้าวหน้างานก่อสร้างโครง
การระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม
2549 ถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2552 ดังนี้
              1. ผลการดำเนินงาน
                 1.1 งานก่อสร้างคลองระบายน้ำและถนนพร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 1 ดำเนินการได้ร้อยละ 78.66
                 1.2 งานก่อสร้างคลองระบายน้ำและถนนพร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 2 ดำเนินการได้ร้อยละ 89.20
                 1.3 งานก่อสร้างคลองระบายน้ำ  สถานีสูบน้ำ  สะพานน้ำยกระดับ  พร้อมอาคารประกอบ  ส่วนที่  3
ดำเนินการได้ร้อยละ 86.05
              2. ผลการดำเนินงานของโครงการโดยรวมมีผลงานก้าวหน้าสะสมคิดเป็นร้อยละ 84.39 จากแผนที่วางไว้
ร้อยละ 84.68 ซึ่งช้ากว่าแผนที่วางไว้คิดเป็นร้อยละ 0.29
              3. งบประมาณค่าใช้จ่าย รวมทั้งสิ้น 8,537,558,941.19 บาท
              4. ผลกระทบของการดำเนินการ ประชาชนเจ้าของที่ดินในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างที่คลองระบายน้ำตัดผ่าน
ต้องสูญเสียที่ดินในความครอบครอง ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน โดยมีพื้นที่ที่ต้องเวนคืนที่ดินทั้งสิ้น 1,290
ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา

               คณะรัฐมนตรีรับทราบแผนงานและกรอบระยะเวลาในการดำเนินการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภู
เก้า-ภูพานคำ เพื่อก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำบอง (อันเนื่องมาจากพระราชดำริ) จังหวัดหนองบัวลำภู  โดย
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  (กรมชลประทาน)  ได้หารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สรุปผลการประชุมได้ดังนี้
               1. กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ  ได้ดำเนินการรังวัดพื้นที่ จำนวน 2,277 ไร่  และจัดทำแผนที่ท้ายร่างพระ
ราชกฤษฎีกาเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ ฯ เสร็จแล้ว
               2. ระยะเวลาในการดำเนินการให้พระราชกฤษฎีกา ฯ มีผลบังคับใช้ ใช้เวลาประมาณ 200 วัน โดยจะ
ติดตามและเร่งรัดให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาน้อยกว่าที่กำหนดไว้
               3. สำหรับกรณีที่สำนักชลประทานที่ 5 มีแผนที่จะดำเนินการก่อสร้างอาคารระบายน้ำล้น อาคารที่
ทำการ  บ้านพักและถนนภายในบริเวณโครงการ  ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าทำไม่ได้เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
28  กันยายน  2536   อนุมัติผ่อนผันให้ส่วนราชการที่ดำเนินการตามโครงการพระราชดำริเข้าทำประโยชน์ใน
พื้นที่ป่าที่ขออนุญาตได้เท่าที่จำเป็นไปพลางก่อน  จนกว่าจะได้รับอนุญาตตามระเบียบและกฎหมายที่ว่าด้วยป่า
ไม้นั้น ซึ่งไม่ได้รวมถึงพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
               4. สำนักชลประทานที่ 5 ได้จัดทำกรอบระยะเวลาดำเนินการเพื่อให้โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำ
บองแล้วเสร็จตั้งแต่กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ จัดทำแผนที่ท้ายร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ ใช้เวลาประมาณ 1,130 วัน

              คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนองบการเงินประจำปี 2551 ของการไฟฟ้า
ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว และเห็นว่าผลการดำเนินงานรวม
และผลการดำเนินงานเฉพาะ กฟผ.  สำหรับปีสิ้นสุดของ  กฟผ.  และบริษัทย่อยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตาม
หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป และคณะกรรมการ กฟผ. ได้รับทราบงบการเงินประจำปี พ.ศ. 2551 ของ กฟผ. แล้วใน
การประชุมครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2552

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจำนวน 4 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
               1. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบุพราหมณ์  ตำบลนาดี  ตำบลทุ่งโพธิ์  ตำบลสำ
พันตา ตำบลแก่งดินสอ  อำเภอนาดี  ตำบลหนองกี่  ตำบลบ้านนา  ตำบลวังตะเคียน  ตำบลย่านรี  ตำบลเขาไม้แก้ว
ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี ตำบลบางพลวง  ตำบลบางปลาร้า  ตำบลกระทุ่มแพ้ว  ตำบลบางขาม  ตำบลบาง
ยาง อำเภอบ้านสร้าง และตำบลไผ่ชะเลือด ตำบลคู้ลำพัน ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ให้เป็น
เขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....
               2. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำดิบ ตำบลนครเจดีย์ ตำบลมะกอก  อำเภอป่า
ซาง และตำบลเหล่ายาว อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....
               3. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาดิน ตำบลหน้าเขา  ตำบลพรุเตียว  ตำบลสิน
ปุน ตำบลเขาพนม และตำบลโคกหาร อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....
               4. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำนาดี ตำบลหนองใหญ่  ตำบลนาอุดม  ตำบล
แวง ตำบลโพธิ์ทอง ตำบลสระนกแก้ว ตำบลวังสามัคคี ตำบลอุ่มเม่า ตำบลโพธิ์ศรีสว่าง ตำบลพรมสวรรค์ ตำบลโคก
สูง ตำบลสว่าง และตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอขอเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานคณะ
รัฐมนตรีและรัฐสภา จากนายพฤทธิพงศ์ กุลทนันทน์ เป็นนายอิศร ปกมนตรี เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
(นักบริหารการทูตระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการต่างประเทศ

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่ธรณีสงฆ์ วัดพระบาทตีนนก ตำบลหนอง
แหย่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์
วัดพระบาทตีนนก  ตำบลหนองแหย่ง  อำเภอสันทราย  จังหวัดเชียงใหม่ ตาม น.ส. 3 เลขที่ 41 เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน
71 ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานของคนต่าง
ด้าวสัญชาติพม่าซึ่งผ่านการพิสูจน์สัญชาติและได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร  พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวงแรง
งานเสนอ มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติพม่าซึ่งผ่านการพิสูจน์
สัญชาติ และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร  ทั้งนี้  ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552  เป็นต้นไป
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี
ที่กำกับราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นรองประธานกรรมการ  หัวหน้าส่วนราชการและองค์กรเอกชนต่าง ๆ  จำนวน 25  คน  เป็นกรรมการ  โดยมี
อธิบดีกรมประมง เป็นกรรมการและเลขานุการ  มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายการพัฒนาการประมงทั้งในน่าน
น้ำ นอกน่านน้ำ และน่านน้ำสากล  ตลอดจนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้สอดคล้องกับปริมาณของทรัพยากรสัตว์น้ำ
และขีดความสามารถในการทำการประมง กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบอาชีพ
การประมงและประสานงานกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น  ตลอดจนติดตามและ
กำกับดูแลการดำเนินการตามแผนแม่บทการจัดการประมงทะเลไทย  (พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2561)  แผนงานอื่น ๆ 
ที่เกี่ยวข้องด้านการประมง และการแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการด้านการประมง

            คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศ
ญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 21-25  กรกฎาคม  2552  เพื่อร่วมงาน The
11th Japan International Seafood and Technology Expo 2009  ซึ่งในงานได้จัด  Thailand  Pavilion  เพื่อแสดง
ถึงศักยภาพด้านการผลิตสินค้าประมงที่ได้มาตรฐาน  และมีความปลอดภัยของไทย  โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ได้เป็นประธานในพิธีเปิด Thailand Pavilion ด้วย ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ได้พบและหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มผู้ค้าสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงของญี่ปุ่น  ได้แก่  กลุ่มธุรกิจ
ของ  SEAVALUE/RUBICON  ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำเข้า  ผู้ค้าและจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมง  จากการหารือ
กลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีความเชื่อมั่นในระบบการควบคุม และการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของไทย  อย่างไรก็ตาม
ในสายตานักธุรกิจญี่ปุ่นเห็นว่าไทยยังมีคู่แข่งที่สำคัญ  คือ  เวียดนามที่ได้เปรียบเรื่องค่าจ้างแรงงานซึ่งถูกกว่าไทย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะได้ดูงานตลาดปลา Tsukiji  (Tsukiji Fish Market)
ซึ่งเป็นตลาดค้าสินค้าสัตว์น้ำและอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก  รวมทั้งดูงานด้าน Biomass ที่ Wagoen Corpora
tion ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรอยู่ในเขตชิบะ มีผลผลิตทางการเกษตรสูงเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น

               คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเรื่อง เปลี่ยนแปลงการใช้ชื่องานฉลอง
พระชนมายุ 96 พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดยสำนักงานพระพุทธ
ศาสนาแห่งชาติแจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลอง ฯ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล  เมื่อวัน
ที่ 22 กรกฎาคม 2552  มีมติเห็นชอบให้เปลียนแปลงการใช้ชื่องาน เป็น "งานฉลองพระชันษา  96  ปี สมเด็จพระ
ญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก"

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอังสุมาล ศุนาลัย ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป  ตามที่กระทรวงเทค
โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางมันทนา พฤกษะวัน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง กระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเทคโน
โลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เพื่อสับเปลี่ยนหมุน
เวียนและทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
              1. นายสุรเดช ฉายะเกษตริน      ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
                                                          กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
              2. นางนภา เศรษฐกร               ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
                                                          กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
              3. นายปกรณ์ พันธุ                  ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
                                                          กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
              4. นายสุจิตต์ ไตรพิทักษ์            ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
                                                          กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดงานเฉลิม
พระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 77 พรรษา 12 สิงหาคม 2552 โดยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิม
พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  77  พรรษา
12 สิงหาคม 2552 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคชนดำเนินการจัดงาน โดยกำหนดชื่องานว่า "งานเฉลิมพระ
เกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ  77  พรรษา  12  สิงหาคม  2552" และเชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอก
ชน และประชาชนทั่วไปประดับธงชาติไทยคู่กับธงอักษรพระนามาภิไธย "สก." พร้อมทั้งตั้งเครื่องราชสักการะและ
พระฉายาลักษณ์ ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2552 ถึงวันที่  30  กันยายน  2552  และเชิญชวนประชาชนแต่งกาย
ด้วยผ้าไทยสีประจำวันพระราชสมภพ หรือสีอื่นที่เหมาะสม ระหว่างวันที่ 1-12 สิงหาคม 2552 สำหรับกิจกรรม
ในวันที่ 12 สิงหาคม 2552 ประกอบด้วย การจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และ
การแสดงมหรสพตั้งแต่พระลานพระราชวังดุสิตและถนนราชดำเนินตลอดสาย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ  ในการประชุมครั้งที่ 4/
2552 (ครั้งที่ 126) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยที่ประชุมได้พิจารณามาตร
การบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานต่อประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลและมีมติ ดังนี้
               1. ปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง  2.00  บาท/ลิตร โดยอาศัยกลไกของกองทุนเพื่อส่งเสริมการ
อนุรักษ์พลังงานควบคู่ไปกับกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
               2. ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552-สิงหาคม 2553
               3. มาตรการช่วยเหลือกลุ่มรถแท็กซี่โดยปรับเปลี่ยนรถแท็กซึ่งที่เหลืออยู่ 30,000 คัน ให้เปลี่ยนมา
ใช้ NGV
               4. ตรึงราคาขายปลีก NGV ไว้ที่ระดับ 8.50 บาท/กก. ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือนสิงหา
คม 2552-สิงหาคม 2553
               5. ให้มีมาตรการตรึงค่า Ft จนถึงเดือนสิงหาคม 2553 เพื่อเป็นการลดภาระของประชาชน และเป็น
การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรม
               6. ตรวจสอบปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือ ณ คลังน้ำมัน และสถานีบริการ ของวันก่อนที่ประกาศ
ขายปลีกใหม่มีผลบังคับใช้ และการชดเชยผลการขาดทุนให้แก่ผู้ค้าน้ำมันและเจ้าของสถานีบริการ

              คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์  สภาวสุ) ประธานกรรมการนโยบายมันสำ
ปะหลังเสนอ ดังนี้
              1. เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินโครงการประกันราคามันสำปะหลัง  ปี  2552/53  ตามมติคณะ
กรรมการนโยบายมันสำปะหลัง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 และวันที่ 4 สิงหาคม 2552
              2. เห็นชอบการหารือระหว่างประธานกรรมการนโยบายมันสำปะหลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เมื่อวันที่
7 สิงหาคม 2552 ซึ่งเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินโครงการ ฯ 
              3. เห็นชอบมติคณะอนุกรรมการกำหนดราคาตลาดอ้างอิงมันสำปะหลัง  เมื่อวันที่  10  สิงหาคม  2552
ซึ่งมีมติกำหนดระยะเวลาประกาศราคาตลาดอ้างอิง  และกำหนดเกณฑ์/การคำนวณราคาตลาดอ้างอิงโดยคำนึงถึง
ความเหมาะสมและสอดคล้องกับการตลาด  เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตร
กร
              4. เห็นชอบงบประมาณดำเนินการเบื้องต้นเพื่อใช้จ่ายชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาตลาด
อ้างอิง  วงเงินเบื้องต้น 10,692 ล้านบาท  และค่าใช้จ่ายดำเนินการฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายมันสำปะ
หลัง และคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 10 ล้านบาท

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ  วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม
2552  ซึ่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี  จำนวน 2 ฉบับ  ได้แก่  ร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23  ปีที่ 2  ครั้งที่ 1  (สมัยสามัญนิติบัญญัติ)  เป็น
พิเศษ  วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552  และครั้งที่ 2  (สมัยสามัญนิติบัญญัติ)  เป็นพิเศษ  วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม
2552

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) เสนอ
ขอตัดร่างพระราชบัญญัติ  รวม  4  ฉบับ  ได้แก่  ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์
พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจ
แฟรนไชส์ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี พ.ศ. .... รวมทั้งประมวลจริยธรรมของ
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท  ออกจากบัญชีที่หน่วยงานต้องเร่งรัด
ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ (28 กรกฎาคม 2552) และให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป

คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การคำนวณค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนของโรงไฟฟ้าจะนะ ของ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  (กฟผ.)  เป็นไปอย่างเหมาะสม  เป็นธรรม  และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จึง
มอบหมายให้กระทรวงพลังงานประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยพิจารณาทบทวนเรื่องนี้ โดยอาจมอบหมายให้
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาจัดการประชุมพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น  กระทรวงพลังงาน  กฟผ.  และ
องค์การบริหารส่วนตำบล อำเภอคลองเปียะ  เป็นต้น  เพื่อให้ได้ข้อยุติร่วมกัน  แล้วดำเนินการต่อไปได้  ทั้งนี้  ให้
กระทรวงพลังงานนำผลการพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติ
                1. เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สถาบันการศึกษาวิชาการทหารมีอำนาจทำการสอนได้ถึงระดับปริญญาเอก มีอำนาจให้
ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง และประกาศนียบัตรบัณฑิตแก่นักเรียนวิชาการทหาร รวมทั้งปรับปรุงองค์ประกอบและ
อำนาจหน้าที่ของสภาการศึกษาวิชาการทหารให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้ว ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
                2. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมความในมาตรา 3 ตรี  แห่งพระราชบัญญัติกำหนด
วิทยฐานะผู้สำเร็จวิชการทหาร  (ฉบับที่  5)  พ.ศ. 2533  และความในมาตรา  10  แห่งพระราชบัญญัติกำหนดวิทย
ฐานะผู้สำเร็จวิชการทหาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2513  ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ  แล้วส่งให้คณะกรรมการประสาน
งานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป