ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1920 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 38381 - 38400 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
38381 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2552 และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ พ.ศ. .... | อก | 05/08/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจ กรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และ สุขภาพ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 2. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปพิจารณาทบทวนบัญชีแนบท้ายร่างระเบียบฉบับนี้ร่วมกับกระทรวง สาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกิดความถูกต้องสอดคล้องกับทางปฏิบัติ แล้ว นำเสนอคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนพิจารณา ก่อนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
38382 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายรามอินทรา - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ในท้องที่เขตบางเขน เขตสายไหม และเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | นร | 05/08/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันอังคารที่ 4 สิงหาคม
2552 ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ในท้องที่เขตบางเขน เขตสายไหม และเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทน ราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
38383 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | นร | 05/08/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติแห่งชาติ วันอังคารที่ 4
สิงหาคม 2552 โดยให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ตามความเห็นคณะกรรม การประสานงานด้านนิติบัญญัติ ดังนี้ 1. แก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติ ฯ ในบรรทัดที่ 5 ให้ตัดคำว่า "และ" ออก และเติมข้อความ "และ สาขาอื่น ๆ" หลังคำว่า "สาธารณสุข" และในบรรทัดที่ 8 ให้เติมข้อความ "รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" หลังคำว่า "ชุมชน" 2. แก้ไขร่างมาตรา 75 โดยตัดคำว่า "ประธานสภากรุงเทพมหานคร" ออกตามสรุปผลการประชุม ฯ ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
38384 | ร่างพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พศ. .... | นร | 05/08/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันอังคารที่ 4 สิงหาคม
2552 ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบ วาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||
38385 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 05/08/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันอังคารที่ 4 สิงหาคม
2552 ซึ่งมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1. ร่างพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 2. ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางพิเศษสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุง เทพมหานคร ในท้องที่เขตบางเขน เขตสายไหม และเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... 3. ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||
38386 | การกำหนดมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในสนามบินสุวรรณภูมิ | นร | 05/08/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในสนาม
บินสุวรรณภูมิ อาทิ การลักทรัพย์สินจากกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสาร การให้บริการของแท็กซี่ภายในสนามบิน การ ตรวจค้นตามพิธีการศุลกากร และการตรวจคนเข้าเมือง โดยมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) รับ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อ กำหนดมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวในภาพรวมทั้งระบบ แล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดย เร็วต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
38387 | การส่งเรื่องเพื่อขอความเห็นจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | นร | 05/08/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) รับไปพิจารณา
เกี่ยวกับการส่งเรื่องเพื่อขอความเห็นจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในคณะกรรมการประสานความร่วม มือระหว่างคณะรัฐมนตรีกับสภาที่ปรึกษา ฯ ว่าการเสนอเรื่องเกี่ยวกับแผนแม่บทกรณีใด หรือมีเนื้อหาอย่างไรบ้างที่สม ควรจะขอให้สภาที่ปรึกษา ฯ พิจารณาให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแล้วแจ้งผลการพิจารณา ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
38388 | การเลือกกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 | นร | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง การเลือกกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา
38 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
38389 | ร่างพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการ สูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อให้ ได้ข้อยุติในการแก้ไขปัญหาว่าสมควรแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติฉบับนี้ซึ่งกำหนดห้ามมิให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลา การเพื่อระงับข้อพิพาทในสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชน หรือไม่ เพียงใด หรือสมควรหาวิธีการเพื่อระงับ ข้อพิพาทในแนวทางอื่น เช่น ระบบไกล่เกลี่ย หรือวิธีการอื่นใดที่จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเป็น วิธีการสากลในการระงับข้อพิพาทที่นานาประเทศยอมรับ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||||||||
38390 | การทำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชน | นร | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเกี่ยวกับการทำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชนในกรณีต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่หรือการให้สัมปทานของรัฐได้มีการตกลงให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาท แต่ปรากฏว่าเมื่อมีเหตุต้องดำเนินการตามวิธีการอนุญาโตตุลาการแล้ว ส่วนใหญ่หน่วยงานของรัฐจะเป็นฝ่ายแพ้คดีหรือเป็นฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นภาระด้านงบประมาณแผ่นดิน จึงเห็นควรให้ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๗ มกราคม ๒๕๔๗ (เรื่อง การทำสัญญาสัมปทานระหว่างรัฐกับเอกชน) ในส่วนของข้อ ๑ จากเดิมว่า "๑. สัญญาสัมปทานในกฎหมายปัจจุบันเป็นสัญญาทางปกครอง จึงควรนำคดีพิพาทจากสัญญาเหล่านั้นส่งไปศาลปกครองหรือศาลยุติธรรม ดังนั้น สัญญาที่รัฐทำกับเอกชนในไทยหรือต่างประเทศไม่ควรเขียนมัดในสัญญาให้มอบข้อพิพาทให้คณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาด แต่หากมีปัญหาหรือมีความจำเป็นหรือเป็นข้อเรียกร้องของคู่สัญญาอีกฝ่ายที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเป็นราย ๆ ไป "เป็น "ข้อ ๑. สัญญาทุกประเภทที่หน่วยงานของรัฐทำกับเอกชนในไทยหรือต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาทางปกครองหรือไม่ ไม่ควรเขียนผูกมัดในสัญญาให้มอบข้อพิพาทให้คณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาด แต่หากมีปัญหาหรือความจำเป็น หรือเป็นข้อเรียกร้องของคู่สัญญาอีกฝ่ายที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเป็นราย ๆ ไป"
|
|||||||||||||||||||||||||||
38391 | การขยายระยะเวลาในการฝึกอบรมและประชุมสัมมนา | กค | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในการขยายระยะเวลาการฝึกอบรมและประชุมสัมมนาโดยให้ส่วนราชการเร่งรัดดำเนินการ ให้แล้วเสร็จและเบิกจ่ายงบประมาณภายในเดือนกรกฎาคม 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. เห็นชอบในกรณีที่ส่วนราชการใดไม่สามารถดำเนินการฝึกอบรมและประชุมสัมมนา รวมทั้งเบิกจ่าย งบประมาณให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2552 ให้เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน จึงจะดำเนินการได้ ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์) เสนอเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||||||||
38392 | ขอขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางเพิ่มมูลค่าเพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ | กษ | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางเพิ่มมูลค่าเพื่อแก้ไขปัญหา ราคายางตกต่ำ จากเดิมวันที่ 31 ธันวาคม 2552 เป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการนโยบายยางธรรมชาติเสนอ 2. เห็นชอบให้แก้ไขข้อความในหนังสือคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ที่ กษ 1304/2009 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ในย่อหน้าแรกในส่วนของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 จากเดิม "ใช้วงเงิน ในการดำเนินการให้สถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพาราเพิ่มมูลค่าจำนวน 200,000 ล้านตัน วงเงิน 8,000 ล้าน บาท" เป็น "ใช้วงเงินในการดำเนินการให้สถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพาราเพิ่มมูลค่าจำนวน 200,000 ตัน วง เงิน 8,000 ล้านบาท" ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม |
|||||||||||||||||||||||||||
38393 | รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | นร | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐ
ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 (1 เมษายน 2551- 30 กันยายน 2551) ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป ดังนี้ 1. การโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการที่ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ ตามระเบียบ ว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 ข้อ 27 จำนวน 8,770.972 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.53 ของงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 2. การโอนงบประมาณรายจ่ายโดยใช้อำนาจของหัวหน้าส่วนราชการตามระเบียบว่าด้าวยการบริหาร งบประมาณ พ.ศ. 2548 ข้อ 24-ข้อ 26 จำนวน 10,773.305 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.65 ของบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551
|
|||||||||||||||||||||||||||
38394 | การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกัมพูชาสำหรับโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 68 | กค | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติเงินงบประมาณ 1,400 ล้านบาท เพื่อให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อน บ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกัมพูชาสำหรับโครงการพัฒนา ถนนหมายเลข 68 (กลอรันห์-สำโรง-โอเสม็ด) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2. ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานด้านต่างประเทศรับไปพิจารณาด้วยว่าการให้ความช่วยเหลือ ทางการเงินแก่ประเทศกัมพูชาสำหรับโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 68 จะมีผลให้ระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย- กัมพูชา ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทย ควรประสานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนในการผลักดันและอำนวยความสะดวกการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงไทย-กัมพูชาเพื่อใช้ประโยชน์จากการพัฒนาถนนหมายเลข 67 และ 68 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส่วนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินโครงให้เป็น ไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
38395 | ขอยกเว้นภาษีให้กับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552 | กก | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ 1.1 ยกเว้นภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่ม แก่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ท เกมส์ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552 สำหรับเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับการบริจาคหรือที่ได้รับจากการขายสินค้าหรือการให้ บริการในการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552 1.2 ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ประกอบการเฉพาะการบริจาคสินค้าหรือการให้บริการแก่คณะกรรม การจัดการแข่งขัน ฯ โดยไม่มีประโยชน์หรือค่าตอบแทน 2. อนุมัติให้ยกเว้นภาษีป้ายเพื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การจัดการแข่งขันกีฬาอาเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ท เกมส์ ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||||||||
38396 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 (ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตและการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ พ.ศ. ....) | วธ | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มี สาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดลักษณะของภาพยนตร์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้และควรส่งเสริมให้มีการดู 1.2 กำหนดลักษณะภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ดูทั่วไป 1.3 กำหนดลักษณะภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป 15 ปีขึ้นไป และ 18 ปีขึ้นไป 1.4 กำหนดลักษณะภาพยนตร์ที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีดู 1.5 กำหนดลักษณะภาพยนตร์ที่ห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร 2. สำหรับร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตและการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ พ.ศ. .... ให้สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาตามข้อเสนอของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) ที่ให้เพิ่มเงื่อนไขที่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ที่ให้บริการเกมการเล่นและคาราโอเกะจะ ต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลมิให้มีการละเมิดสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ในร่างข้อ 12 และร่างข้อ 13 แล้วดำเนินการต่อไป ได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
38397 | ร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | วธ | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงวัฒน ธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้าน นิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดให้การตรวจพิจารณาวีดิทัศน์ของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ หาก วีดิทัศน์มีลักษณะเป็นเกมการเล่น ให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์กำหนดให้เกมการเล่นจัดอยู่ ในประเภทใด เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับผู้เล่นแต่ละวัย 1.2 กำหนดให้วีดิทัศน์ที่มีลักษณะเป็นเกมการเล่นที่ได้รับอนุญาต นอกจากจะมีเครื่องหมายแสดง การอนุญาตแล้วต้องแจ้งประเภทของวีดิทัศน์ที่มีลักษณะเป็นเกมการเล่นด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคพิจารณาให้เหมาะ สม และห้ามผู้ได้รับอนุญาต ยินยอม หรือปล่อยปะละเลย หรือนำวีดิทัศน์ที่กำหนดประเภทการห้ามผู้เล่น ออก ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่าย 1.3 กำหนดโทษผู้ได้รับอนุญาตที่ฝ่าฝืน 2. ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นควรเพิ่มเติมให้ภาพยนตร์ที่เผยแพร่ทางกิจการโทรทัศน์เป็นไปตามบทบัญญัติ ของกฎหมายด้านกิจการโทรทัศน์ และแก้ไขร่างมาตรา 28 โดยกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานกำกับ ดูแลตามกฎหมายด้านกิจการโทรทัศน์ ในการพิจารณานำบทบัญญัติของพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ไปปรับใช้ในประเด็น 2 ประเด็น คือ การกำหนดประเภทภาพยนตร์ไปปรับใช้กับการจัดระดับความ เหมาะสมของรายการโทรทัศน์ และการกำหนดเวลาฉายรายการโทรทัศน์แต่ละระดับ นอกจากนี้ ร่างมาตรา 80 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตที่ฝ่าฝืนมาตรา 43 มาตรา 44 วรรคสอง มาตรา 45 มาตรา 58 มาตรา 58/1 หรือ มาตรา 58/2 ต้องระวางโทษปรับเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่น่าเพียงพอเพราะผู้กระทำผิดอาจไม่เกรงกลัวต่อโทษที่ จะได้รับ ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงเห็นควรกำหนดโทษจำคุกไว้ด้วย เพื่อให้การ ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
38398 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... และในบริเวณพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ จังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2546 และในบริเวณพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2547 รวม 2 ฉบับ | ทส | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศรวม 4 ฉบับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครอง สิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตอนุรักษ์ และเขตควบคุมอาคาร โดยแบ่งพื้นที่การใช้บังคับออกเป็น 4 บริเวณ ได้แก่ บริเวณที่ 1 คือ พื้นที่บนแผ่นดินที่อยู่ในบริเวณสุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี หาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะ พีพี เป็นต้น บริเวณที่ 2 พื้นที่เกาะพีพีดอน บริเวณที่ 3 พื้นที่ในเกาะต่าง ๆ และบริเวณที่ 4 พื้นที่น่านน้ำทะเล ภายในบริเวณที่กำหนด โดยกำหนดห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารให้เป็นอาคารประกอบกิจการ บางประเภทที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดการห้ามกระทำหรือประกอบกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการ เปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ และกำหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครอง สิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้ม ครองสิ่งแวดล้อม โดยครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัด เพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นเขตควบคุมมลพิษและเขตอนุรักษ์ โดย แบ่งพื้นที่การใช้บังคับใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมออกเป็น 7 บริเวณ คือ พื้นที่บนแผ่นดิน พื้นที่ในบริเวณที่วัด จากแนวชายฝั่งออกไปในทะเลระยะ 3,000 เมตร และพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี 22 สิงหาคม 2543 โดย กำหนดห้ามก่อสร้าง ดัดแปลงหรือเปลี่ยนการใช้อาคารให้เป็นอาคารประกอบกิจการบางประเภทที่อาจมีผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดการห้ามกระทำหรือประกอบกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ และ กำหนดประเภทโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) 3. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้น ที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2546 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนด เขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตร การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดกระบี่ พ.ศ. 2546 ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้น ไป 4. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้น ที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอ ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2547 มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพ ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอ ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2547 ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วัน ที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
38399 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | สธ | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรอง
จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถาน การณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดสายใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 ภายในวงเงิน 450,000,000 บาท ตามความเหมาะสม และจำเป็นสอดคล้องกับระยะเวลาที่เหลืออยู่ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยให้กระทรวงสาธารณสุขทำความตกลง ในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
38400 | ขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | มท | 28/07/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 วงเงินทั้งสิ้น 32,000,000 บาท เพื่อดำเนินโครงการที่จังหวัดปัตตานีเสนอขอรับการสนับ สนุนงบประมาณ จำนวน 3 โครงการ จากที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 8 โครงการ ประกอบด้วย โครงการศูนย์พัฒนาชีวิตใหม่ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อำเภอยะหริ่ง จำนวนเงิน 15,000,000 บาท โครง การขุดลอกคลองเพื่อแก้ไขปัญหาชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอยะหริ่ง จำนวนเงิน 15,000,000 บาท และโครงการ ปรับปรุงสำนักทะเบียนอำเภอยะหริ่ง จำนวนเงิน 2,000,000 บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (จังหวัดปัตตานี) ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง โดยในส่วนของโครงการที่ไม่สามารถจัดสรรให้ได้ หากจังหวัด เห็นว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ก็ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 ที่ได้รับไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน หรือให้บรรจุไว้ในแผนการปฏิบัติงานและแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัดเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปทบทวนโครงการก่อสร้างเขื่อนหินทิ้งกันน้ำกัดเซาะชายฝั่งและเขื่อนทราย ปิดปากแม่น้ำบางราพา อำเภอหนองจิก จำนวนเงิน 15,000,000 บาท เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนหินทิ้ง นั้น ทำ ให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมค่อนข้างมาก โดยพิจารณาวิธีการก่อสร้างสิ่งป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง ที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
.....