ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1824 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36461 - 36480 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36461 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 2 ฉบับ | กษ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบนเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ ในท้องที่ตำบลท่าเยี่ยม อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทราย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทราย ในท้องที่ตำบลละลมใหม่พัฒนา อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน |
||||||||||||||||||||||||
36462 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันอังคารที่ 30 มีนาคม
2553 และวันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2553 ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ 7 เมษายน 2553 และครั้งที่ 21 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2553
|
||||||||||||||||||||||||
36463 | ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... | นร | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยให้ตัดความใน
ข้อ 2 ออก และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎ ก.พ. มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ที่จะรับราชการเป็นข้าราชการ พลเรือนสามัญต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นโรค ดังนี้ 1. วัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ 2. โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม 3. โรคติดยาเสพติดให้โทษ 4. โรคพิษสุราเรื้อรัง 5. โรคติดต่อร้ายแรง หรือโรคเรื้อรังที่ปรากฏอาการเด่นชัด หรือรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติ งานในหน้าที่ตามที่ ก.พ. กำหนด
|
||||||||||||||||||||||||
36464 | การพิจารณาทบทวนอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดแม่ฮ่องสอน สุโขทัย เชียงราย เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี ตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2552 | รง | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 11 มีนาคม 2553โดยปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากวันละ 151 บาท เป็นวันละ 153 บาท จังหวัดอุทัยธานี จากวันละ 158 บาท เป็นวันละ 160 บาท และจังหวัดเพชรบูรณ์ จากวันละ 155 บาท เป็นวันละ 158 บาท ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ 2. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรนำปัจจัยด้านสมรรถนะแรงงานมาใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณากำหนดค่าจ้างในระยะต่อไป เพื่อจูงใจให้แรงงานมีการพัฒนาทักษะฝีมือที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาคการผลิต และบริการของ ประเทศ และข้อสังเกตของกระทรวงการคลังที่เห็นควรปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้จังหวัดสุโขทัยและเชียงราย ตามความ เหมาะสมในโอกาสต่อไป ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
36465 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 2 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อน เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ดังนี้ 1. ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎ หมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข โดยสรุปดังนี้ 1.1 กำหนดให้ผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นและเงินชดเชย จากกองทุน โดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด เว้นแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นตามปกติธรรมดาของโรคนั้น หรือซึ่งหลีกเลี่ยงมิ ได้เกิดจากการให้บริการสาธารณสุขตามมาตรฐานวิชาชีพ หรือเมื่อสิ้นสุดกระบวนการให้บริการสาธารณสุขแล้วไม่มี ผลกระทบต่อการดำรงชีวิตตามปกติ 1.2 กำหนดขั้นตอนและวิธีการการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น และเงินชดเชย รวมทั้งการพิจารณาให้เงิน ช่วยเหลือเบื้องต้น และการพิจารณาให้เงินชดเชย 1.3 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการอุทธรณ์คำขอเงินช่วยเหลือเบื้องต้น และจำนวนเงินชดเชย 1.4 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินชดเชยในกรณีผู้เสียหายหรือทายาทยินยอมรับเงินชดเชย หรือผู้เสียหายหรือทายาทไม่ยินยอมรับเงินชดเชยและได้ฟ้องคดีต่อศาล หรือในกรณีที่มีการฟ้องคดีและขอรับค่าเสีย หาย 1.5 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการขอรับเงินชดเชยในกรณีความเสียหายปรากฏขึ้นภายหลังการทำ สัญญาประนีประนอมยอมความ 2. ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระ ราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ดังนี้ 2.1 ยกเลิกมาตรา 18(7) โดยตัดอำนาจของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในการกำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีที่ผู้รับบริการสาธารณสุขได้รับความเสียหาย ที่เกิดจากการรักษาพยาบาลโดยหาผู้กระทำผิดได้ หรือหาผู้กระทำผิดได้แต่ผู้รับบริการสาธารณสุขไม่ได้รับค่าเสีย หายภายในระยะเวลาอันสมควร 2.2 ยกเลิกมาตรา 41 และมาตรา 42 โดยตัดหลักการในการกันเงินช่วยเหลือเบื้องต้นและภารกิจใน การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้บริการที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของหน่วยงาน 2.3 ยกเลิกมาตรา 50(8) โดยตัดอำนาจของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานในการจ่าย เงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีที่ผู้รับบริการได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลโดยหาผู้กระทำผิดมิได้ หรือหาผู้กระทำผิดได้แต่ผู้รับบริการไม่ได้รับค่าเสียหายภายในระยะเวลาอันสมควร
|
||||||||||||||||||||||||
36466 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา | กต | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. ให้เสนอบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา รวม 3 ฉบับ เพื่อขอรับความ เห็นชอบของรัฐสภา ได้แก่ 1.1 บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ เมืองเสียมราฐ วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2551 1.2 บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 4 ณ กรุงเทพมหานคร วันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2552 1.3 บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กรุงพนมเปญ วันที่ 6-7 เมษายน 2552 2. เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบบันทึกการประชุมฯ ทั้ง 3 ฉบับแล้ว ให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้ง ยืนยันบันทึกการประชุมฯ ดังกล่าว ให้ฝ่ายกัมพูชาทราบ เพื่อให้มีผลใช้บังคับต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36467 | โครงการเข้าซื้อกิจการ CDMA ในส่วนกลาง โดยการเข้าซื้อทรัพย์สิน (ยกเลิกโดยมติคณะรัฐมนตรี 24750/53) | ทก | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้ 1.1 ให้บริษัท กสท โทรคมนาคม (จำกัด) มหาชน (กสท) ดำเนินโครงการซื้อกิจการ CDMA ในส่วน กลาง โดยการเข้าซื้อทรัพย์สินและจัดตั้งบริษัทในเครือตามโครงสร้างที่ กสท เสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการ ดำเนินธุรกิจที่แยกการดำเนินการเป็น 2 ส่วน (ส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง) ซึ่งจะทำให้ กสท สามารถเพิ่มรายได้ ในภาพรวมของการดำเนินธุรกิจสื่อสารไร้สายของ กสท รวมทั้งลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจภายใต้ One Brand One Service ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดโครงสร้างทางธุรกิจที่เหมาะสมใน การดำเนินธุรกิจสื่อสารไร้สายที่ต้องการความคล่องตัวสูง 1.2 ให้บริษัทในเครือทั้ง 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท CAT Wireless Holding จำกัด บริษัท CAT Wireless Network จำกัด บริษัท CAT Mobile จำกัด และบริษัท CAT Contact Center จำกัด ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตาม คำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรี ที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจทั่วไปเช่นเดียวกับที่ กสท ได้รับอนุมัติยก เว้นเมื่อครั้งมีการเปลี่ยนแปลงสภาพ 2. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโน โลยี และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ กสท ดำเนินการตามแผนแม่บทเทค โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับประเทศไทย ฉบับที่ 2 โดยเร่งรัดการยุติสัญญาสัมปทานระหว่างบริษัท เอกชนและ กสท ที่มีอยู่เดิม โดยเปลี่ยนสิทธิในการใช้ทรัพย์สินที่เกิดจากระบบ BTO ของบริษัทเอกชน (ซึ่งโอนมา เป็นทรัพย์สินของ กสท) เป็นสัญญาการให้บริษัทคู่สัญญาใช้บริการโครงข่ายพื้นฐานโทรคมนาคม (backbon net work) ของ กสท แทน ซึ่งจะทำให้ กสท มีสิทธิสมบูรณ์ในการจัดบริการโครงข่ายพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ และ ให้ กสท คำนึงถึงโอกาสในการเปิดบริการใหม่ ๆ ที่เป็น 3G ทั้ง Voice และ Non-Voice เพื่อสร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขัน นอกจากนี้ ให้ความสำคัญในเรื่องของการประเมินมูลค่าของกิจการและทรัพย์สินของระบบ CDMA ในส่วนกลาง การจัดโครงสร้างการบริหารจัดการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA และการวิเคราะห์ระบบงานและ โครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมสำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA รวมทั้งรับข้อสังเกตของสำนักงบ ประมาณ ที่ให้ กสท พิจารณาถึงความสามารถในการแข่งขันกับเอกชน ความเหมาะสมของวงเงินและวิธีการในการ ชำระเงิน โดยจัดทำแผนการเงินและแผนการดำเนินธุรกิจ (Business Plan) อย่างรัดกุมและชัดเจน เพื่อมิให้เกิดผล กระทบต่อแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินของ กสท ในระยะปานกลาง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
36468 | การพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government Procurement) | กค | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 [เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยว กับการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Government Fiscal Management Information System : GFMIS) และการจัดหาพัสดุโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction)] 2. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐทุกแห่งประกาศจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีสอบราคา ประกวดราคา และประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เว็บ ไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (www.gprocurement.go.th) และเว็บไซต์ของหน่วยงาน 3. ให้หน่วยงานต่าง ๆ ปฏิบัติงานในระบบ (e-Government Procurement) ระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 เป็นต้นไป โดยกรมบัญชีกลางจัดฝึกอบรม จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานและจัดทำสื่อการเรียนรู้ใน รูปแบบของแผ่นดีวีดีเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้กับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36469 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจเรื่องข้าวระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน | พณ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2553 ในส่วนที่ให้นำบันทึกความเข้าใจในเรื่องนี้เสนอ รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป 2. อนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจเรื่องข้าวระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงการค้าและ อุตสาหกรรมแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ 3. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามใน MOU ดัง กล่าว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวให้ผู้ลงนาม ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี 4. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่า การกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามใน MOU ดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
36470 | ขอขยายเวลาการลงนามในสัญญาโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (โครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล) | ทส | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการลงนามในสัญญาโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน
ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 2 รายการ 111 แห่ง งบประมาณ 134.975 ล้านบาท ตามมติคณะ รัฐมนตรีวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 จากวันที่ 31 มีนาคม 2553 เป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 ตามที่กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1. โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รายการสำรวจและพัฒนา แหล่งน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียน จำนวน 44 แห่ง งบประมาณ 60.94 ล้านบาท 2. โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รายการจัดหาน้ำสะอาด ให้กับหมู่บ้านภัยแล้ง จำนวน 67 แห่ง งบประมาณ 74.035 ล้านบาท |
||||||||||||||||||||||||
36471 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ | ทส | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รับเรื่อง ขออนุมัติดำเนินการโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง 2. ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้กระทรวงทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงการฯ (Feasibility Study) ควบคู่ไปกับการดำเนิน โครงการสำรวจ ออกแบบ โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนงานลงทุนด้านน้ำของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยว ข้อง และแผนงานภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ด้วย และจัดทำประมาณการงบประมาณปี พ.ศ. 2553 ที่ เหลือจ่ายของกรมทรัพยากรน้ำที่สามารถนำไปใช้กับโครงการฯ ส่วนแผนงานที่ยังไม่ได้จัดสรรเงินให้ขอใช้งบประมาณ ปกติ ปี พ.ศ. 2554 ต่อไป สำหรับโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ และโครงการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างด้านแหล่งน้ำภาย ใต้โครงการฯ ควรมีการจัดลำดับความสำคัญของโครงการฯ ศึกษาความพร้อมด้านต่าง ๆ และประสานกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ก่อนการดำเนินการเพื่อให้เกิด ความชัดเจนและยอมรับร่วมกัน รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรกำหนดให้มีการศึกษาความเหมาะสม ของโครงการฯ การวิเคราะห์ทางเลือกในเชิงเปรียบเทียบต้นทุน ความคุ้มค่าในการดำเนินงาน และการศึกษาถึงผล กระทบสิ่งแวดล้อมแยกเป็นรายโครงการ และกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในแต่ละโครงการ/รายการให้เหมาะสมและ สอดคล้องตามสภาพปัญหาและความจำเป็นเร่งด่วนโดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องน้ำมาร่วมพิจารณาในเชิงบูรณา การเพื่อให้ได้ข้อสรุปในรายละเอียด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
36472 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 2 ฉบับ | กษ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่ง
น้ำและบำรุงรักษามูลบนเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะ เรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ ในท้องที่ ตำบลท่าเยี่ยม อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทราย เป็นทางน้ำชลประทาน ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทราย ใน ท้องที่ตำบลละลมใหม่พัฒนา อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชล ประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
36473 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานขอนแก่น เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ | กษ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทาน
ขอนแก่นเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำละเลิงหวาย เป็นทางน้ำชลประทานที่ จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำละเลิงหวาย ใน ท้องที่ตำบลเมืองพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งละว้า เป็นทางน้ำชลประทานที่จะ เรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งละว้า ในท้องที่ ตำบลโคกสำราญ อำเภอบ้านแฮด และตำบลเมืองเพีย ตำบลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นทาง น้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
36474 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานเริงราง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทาน
เริงราง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญดัง นี้ 1. กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 23 ขวา ของคลองชัยนาท-ป่าสัก จากกิโลเมตรที่ 0.000 ใน ท้องที่ตำบลสร้างโศก ถึงกิโลเมตรที่ 17.800 ในท้องที่ตำบลดอนพุด อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เป็นทางน้ำ ชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย 24 ขวา ของคลองชัยนาท-ป่าสัก จากกิโลเมตรที่ 0.000 ใน ท้องที่ตำบลบางโขมด อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ถึงกิโลเมตรที่ 44.500 ในท้องที่ตำบลทางกลาง อำเภอ บางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
36475 | รายงานผลการนำเสนอแผนการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำของประเทศไทย (Investment Plan) เพื่อขอรับการสนับสนุนทางการเงินจาก Clean Technology Fund (CTF) ของธนาคารโลก | กค | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการนำเสนอแผนการลงทุนเพื่อขับ
เคลื่อนการใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำของประเทศไทย (Investment Plan) เพื่อขอรับการสนับสนุนทางการเงินจาก Clean Technology Fund (CTF) ของธนาคารโลก โดยคณะกรรมการกองทุน CTF มีมติเห็นชอบ (endorse) แผน การลงทุน ฯ โดยมีวงเงินสนับสนุนให้แก่ประเทศไทยประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วย 2 สาขา หลัก ได้แก่ สาขาพลังงาน และสาขาการขนส่ง มีวงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 4,263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายในแผนการลงทุน ฯ เป็นการสนับสนุนทางการเงินในรูปแบบการกู้ผสมระหว่าง กองทุน CTF ที่มีเงื่อนไขการให้เงินกู้แบบไม่มีดอกเบี้ยแต่มีค่าธรรมเนียม โดยจะเป็นการกู้ร่วมกับธนาคารโลกหรือ IFC ที่มีเงื่อนไขเงินกู้ทั่วไปของแต่ละสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนในการกู้เงินที่ต่ำ และเงินดำเนินโครงการ ส่วนที่เหลือได้มาจากการจัดสรรเงินงบประมาณจากภาครัฐ การสมทบเงินลงทุนโดยภาคเอกชน หรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งต้องศึกษาและพิจารณาเกี่ยวกับสัดส่วนของเงินลงทุนเป็นรายโครงการ นอกจากนี้ แผนการลงทุน ฯ เป็นเพียง กรอบการลงทุนในภาพรวมของประเทศไทย ซึ่งการพิจารณาโครงการที่จะขอรับการสนับสนุนทางการเงินจาก CTF ต้องมีการประเมินและศึกษาความพร้อมเป็นรายโครงการตามขั้นตอนปกติ และจะต้องปฏิบัติตามพระราช บัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 และระเบียบกระทรวงการ คลังว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2549 และนำเสนอเพื่อให้คณะกรรมการกองทุน CTF พิจารณาอนุมัติ เป็นรายโครงการต่อไป ทั้งนี้ เมื่อแผนการลงทุน ฯ ได้รับการอนุมัติจากกองทุน CTF ให้กระทรวงการคลังประสาน งานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำรายละเอียดโครงการต่าง ๆ ที่บรรจุอยู่ในแผนการลงทุน ฯ แล้วนำเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36476 | ผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM retreat) ครั้งที่ 16 | พณ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่
เป็นทางการ (AEM retreat) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2553 ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) เป็นผู้แทนฝ่ายไทยเข้าร่วมการประชุม โดยสาระ สำคัญของการประชุมสรุปได้ดังนี้ 1. การติดตามการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของอาเซียน 1.1 การปรับปรุง AEC Scorecard ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับปรุงการวัดผลตาม AEC Scorecard ใน ด้านการเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า การขนส่ง รวมทั้งบริการ โลจิสติกส์ 1.2 การดำเนินมาตรการตามแผนงาน AEC Blueprint ที่ประชุมมอบให้เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจ เร่งรัดการดำเนินงานที่ล่ากว่าเป้าหมาย โดยเน้นเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิใน ทรัพย์สินทางปัญญา นโยบายการแข่งขัน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเงิน 1.3 การปฏิรูปโครงสร้างและกฎระเบียบภายในอาเซียน ที่ประชุมเห็นควรให้จัดลำดับความสำคัญของ สาขาที่จะปฏิรูป โดยให้ประเทศสมาชิกระบุสาขาที่ต้องการ Capacity Building และมอบสำนักเลขาธิการอาเซียนจัด ทำ Work Plan on Regulatory Reform เสนอในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 42 ในเดือนสิงหาคม 2553 1.4 Trade Policy Dialogue and Review (TPRD) ที่ประชุมมอบหมายสำนักเลขาธิการอาเซียนใช้ข้อมูล ที่ประเทศสมาชิกรายงานต่อ WTO จัดทำรายงานนโยบายด้านเศรษฐกิจในกรอบอาเซียน เสนอให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจ อาเซียนพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป 1.5 พัฒนาการของสถาปัตยกรรมภูมิภาคและการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ที่ประชุมได้มอบให้สำนัก เลขาธิการอาเซียนศึกษาและประมวลผล FTA ที่อาเซียนได้จัดทำกับประเทศคู่เจรจาเพื่อใช้กำหนดยุทธศาสตร์การเป็น ศูนย์กลางของอาเซียน 1.6 ASEAN-Gulf Cooperation Council (GCC) และ MERCOSUR ที่ประชุมได้รับรองข้อเสนอและการ ประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่มอบหมายให้สำนักเลขาธิการอาเซียนเริ่ม แลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องกฎระเบียบการค้าและการลงทุนกับ GCC และ MERCOSUR และให้สำนักเลขาธิการอาเซียนจัด สัมมนาโต๊ะกลมกับฝ่ายเลขา ฯ ของ GCC ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอาเซียนเพื่อหารือแนวทางในการร่วมมือกันต่อไป 2. ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ 2.1 การมีผลบังคับใช้ของความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) ซึ่งไทยได้แจ้งว่าบรรลุข้อตกลง เรื่องข้าวกับฟิลิปปินส์แล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินการภายในประเทศและคาดว่าจะสามารถให้สัตยาบันความตกลง ATIGA ได้ภายในเดือนเมษายนศกนี้ 2.2 การเปิดเสรีด้านการลงทุน (ASEAN Comprehensive Investment Area : AGIA) ไทยได้แจ้งว่าจะให้ สัตยาบันในความตกลงเมื่อรายการข้อสงวน (Reservation List) ของสมาชิกอาเซียนทั้งหมดได้รับความเห็นชอบ ซึ่ง เหลือเพียงรายการข้อสงวนของอินโดนีเซียเพียงประเทศเดียวที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ 2.3 ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาร่างแถลงการณ์ของผู้นำ เรื่อง การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยังยืนของ อาเซียน โดยไทยขอเพิ่มประเด็นเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจพอเพียง 2.4 ที่ประชุมเห็นชอบทิศทางการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนหลังปี 2015 โดยให้สำนักเลขาธิ การอาเซียนรวบรวมความคิดเห็นของประเทศสมาชิกโดยให้พิจารณาแนวโน้มทางเศรษฐกิจและการเมืองประกอบเพื่อ เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับรัฐมนตรีหารือในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36477 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหานโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหานโพธิ์ อำเภอ
เขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหานโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
36478 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว และตำบลทับไทร ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลหนองตาคง ตำบลเทพนิมิต ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... | กษ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว และตำบลทับไทร ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลหนองตาคง ตำบลเทพนิมิต ตำบลคลอง ใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว ตำบลทับไทร ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลหนองตาคง ตำบลเทพนิมิต ตำบลคลอง ใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เพื่อก่อสร้างระบบส่งน้ำ ตามโครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำคลองพระ พุทธ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
36479 | รายงานผลการปฏิบัติของศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | นร | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันอังคารที่ 30 มีนาคม 2553
ซึ่งให้เสนอรายงานผลการปฏิบัติของศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ บางตำบล ในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และบางตำบลในอำเภอหัวหิน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ (ระหว่างวันที่ 12-26 ตุลาคม 2552) ไปยังสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระ เป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36480 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลสัตว์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลสัตว์ และลักษณะป้ายชื่อของสถานพยาบาลสัตว์และผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ. .... | กษ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลสัตว์ เครื่องมือ เครื่องใช้
ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลสัตว์ และลักษณะป้ายชื่อของสถานพยาบาลสัตว์ และผู้ประกอบวิชา ชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับสถานที่ตั้ง ความสะอาด และความปลอด ภัยของสถานพยาบาลสัตว์ รวมทั้งปรับปรุงรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำ สถานพยาบาลสัตว์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ประกาศใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ พร้อมกับร่างกฎกระทรวงการขอ อนุญาตและการอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินการสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. ....
|
.....