คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
                   1.1 การจัดซื้อครุภัณฑ์ที่มีการจัดทำคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์และทำการจัดซื้อจัดจ้างแล้วในโครง
การยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษา วงเงินรวม  2,560,501,533  บาท  หากได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบหลัก
เกณฑ์แล้วให้ขอจัดสรรเงินไปยังสำนักงบประมาณภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2553
                   1.2 การจัดซื้อครุภัณฑ์ที่มีการจัดทำคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์เสร็จแล้วแต่ยังมิได้ดำเนินการจัดซื้อ
จัดจ้างในโครงการ  Education Hub  โครงการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษา  โครงการก่อสร้างศูนย์การประชุม ฯ
บางพูน วงเงินรวม 1,697,319,567 บาท  ให้เร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป  แล้วขอจัดสรรเงินไปยังสำนักงบ
ประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2553
                2. สำหรับงบประมาณโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของกระทรวงศึกษาธิการ  ใน
ส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา วงเงิน  1,341,564,400  บาท  ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจัดทำ
คุณลักษณะครุภัณฑ์ไม่แล้วเสร็จและขอส่งคืนวงเงินส่วนนี้เพื่อคณะรัฐมนตรีจะได้นำวงเงินส่วนนี้ไปพิจารณาจัดสรร
ให้กับโครงการอื่นที่มีความพร้อมต่อไป นั้น มอบให้กระทรวงศึกษาธิการรับวงเงินดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการ
สำหรับโครงการอื่นที่มีความพร้อมและความจำเป็นโดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามอำนาจหน้าที่และเป็นไปตาม
ขั้นตอน กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
              1. ขยายระยะเวลาการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
จากการชุมนุม ออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2553
              2. ขยายระยะเวลาการยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม  (ภ.พ.30)  ออกไป  2  เดือน นับจากวันสิ้นสุดวันชุมนุม
โดยจะมีการพิจารณาสำหรับการยื่นคำร้องเฉพาะราย
              3. ขยายระยะเวลาการยื่นแบบภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1, ภ.ง.ด.3) ออกไป 2 เดือน นับจากวัน
สิ้นสุดวันชุมนุม โดยจะมีการพิจารณาสำหรับการยื่นคำร้องเฉพาะราย

               คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555  โดยให้
หน่วยงานจะต้องส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงินซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการ
ใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ  หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครง
การและสำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายใน 15 วันทำการ โดยหลังจากได้รับอนุมัติแล้ว หน่วยงานจะต้อง
ลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ
                2. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงโครงการของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม  และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ
โดยหน่วยงานจะต้องส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผน
การใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน  15  วันทำการ  หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงโครงการ   และ
สำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายใน 15 วันทำการ  สำหรับโครงการก่อสร้างทางและสะพานขนาดใหญ่ที่
มีระยะเวลาในการดำเนินการเกินกว่า 1 ปี  กรมทางหลวงต้องส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรร
เงิน  ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน  45  วันทำการ หลังจากคณะรัฐมนตรี
อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงโครงการ
                 3. เห็นชอบการจัดสรรวงเงินคงเหลือจากการจัดสรรเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการ
คลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ  พ.ศ. 2552   ให้แก่โครงการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้
ดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  2555  และอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์  สาขาเศรษฐกิจ  และกรอบ
วงเงินตามกรอบการใช้จ่ายเงินกู้เสนอต่อรัฐสภาตามพระราชกำหนด ฯ  โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกลั่นกรอง
และบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555  เป็นผู้พิจารณากลั่นกรองโครงการเพื่อนำเสนอคณะ
รัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานา
ชาติภูเก็ต ในวงเงิน 2,600 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553  ตามแผนการปฏิบัติงานโครง
การ (Action Plan) และประมาณการค่าใช้จ่ายภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในวงเงิน 2,600 ล้านบาท
โดยดำเนินการลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการสินเชื่อเพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs  ย่าน
ราชประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง  โดยใช้หลักการในทำนอง
เดียวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาภายใน
ประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  โดยให้รับวงเงินสินเชื่อต่อรายเป็นรายละไม่เกิน 3 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงการคลังเสนอเพิ่มเติม   และให้มาตรการนี้ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการในพื้นที่อื่นที่ได้รับผลกระทบ
จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองด้วย เช่น พื้นที่ถนนราชดำเนิน บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนสีลม  และ
บริเวณซอยสุขุมวิท 31 เป็นต้น ทั้งนี้ ในการช่วยเหลือให้พิจารณาให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
จนต้องหยุดกิจการชั่วคราว  หรือไม่สามารถดำเนินการตามปกติอันเนื่องมาจากการชุมนุมทางการเมือง  เป็นลำดับ
แรกก่อน

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ
พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล และเพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับ
ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ  และให้ส่ง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญ
เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  วันจันทร์ที่ 3 พฤษภา
คม 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีการประชุมวุฒิสภา และมอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนอง
เตย) ประสานกับประธานวุฒิสภา และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขเสนอว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการทบทวน
รายการและความเหมาะสมของโครงการต่าง ๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข
ได้รับการจัดสรรวงเงินไว้รวม 11,500 ล้านบาท แล้ว  คาดว่าจะสามารถปรับลดลงได้ประมาณ  1,500  ล้านบาท
สมควรให้กระทรวงสาธารณสุขนำเงินส่วนนี้ไปใช้สำหรับโครงการอื่นที่มีความพร้อมและความจำเป็นได้ต่อไป
               2. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุขนำวงเงินที่สามารถปรับลดได้ดังกล่าว จำนวนประมาณ
1,500 ล้านบาท ไปพิจารณาดำเนินการสำหรับโครงการอื่นที่มีความพร้อมและความจำเป็น โดยให้ดำเนินการให้
ถูกต้องตามอำนาจหน้าที่และเป็นไปตามขั้นตอน กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอร่างคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่พิเศษ
94/2553 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (เพิ่มเติม) ลงวันที่ 20 เมษายน 2553 แก้ไขเพิ่ม
เติมองค์ประกอบของผู้ปฏิบัติงานในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน  (ศอฉ.)  โดยเพิ่มความต่อไปนี้เป็น ข้อ
1.22/1 ของคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ พิเศษ 1/2553 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่
7 เมษายน 2553 ดังนี้
               "1.22/1 ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์          กรรมการ"

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกรอบอัตรากำลังข้าราช
การพลเรือนสามัญในภาพรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ เพื่อรับโอน นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม
ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง (อำนวยการระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มา
ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ  ด้านสังคม  (อำนวยการระดับสูง)  กลุ่มงานยุทธ
ศาสตร์และการวางแผน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายภูมิใจ อัตตะนันทน์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน
งาน  (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ตามที่สำนักงานคณะ
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าวหน้า
การดำเนินโครงการพุทธอุทยาน พระสงฆ์ร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า
อยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้
               1. มีพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ นำผ้าป่ามาถวาย จำนวน  5,000  กอง
รวมทั้งมีผู้บริจาคเงินเพื่อจัดตั้ง  "พุทธอุทยานโลก"  และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เข้าบัญชี
ออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยกรมสรรพากร ชื่อบัญชี "กองทุนศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก"  รวมยอดเงิน
ที่ได้รับ พร้อมดอกผล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 รวมเป็นเงิน 823,752.83 บาท
               2. มีการจัดตั้งมูลนิธิพุทธอุทยานโลกขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานดำเนินการและบริหารจัดการโครงการ ฯ
สำหรับเงินที่ได้รับจากการทำบุญถวายผ้าป่า พร้อมดอกผล จำนวน 823,752.83 บาท นั้น กระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะได้มอบให้มูลนิธิ ฯ  เพื่อเป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดตั้งพุทธอุทยานโลก  โดย
กรมป่าไม้ และมูลนิธิ ฯ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัด
ตั้งพุทธอุทยานโลก ต่อไป
               3. การพิจารณาคัดเลือกพื้นที่เพื่อจัดตั้งพุทธอุทยานโลก  ได้มอบให้กรมป่าไม้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนิน
พิจารณาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการดำเนินการจัดตั้งพุทธอุทยานโลก ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้นายทนง ตันติธีรวิทย์ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย พ้นจาก
ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 9 และ 16 เมษายน 2553 สรุปได้ดังนี้
              1. อนุมัติแล้ว จำนวน 40,987 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท
              2. การจัดสรร
                  2.1 รอจัดสรร จำนวน 6,284 โครงการ วงเงิน 70,501.30 ล้านบาท
                  2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 34,703 โครงการ วงเงิน 273,517.28 ล้านบาท
              3. การจัดซื้อจัดจ้าง
                  3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ
                        3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 19,787 โครงการ วงเงิน 51,733.85 ล้านบาท
                        3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,347 โครงการ วงเงิน 14,240.56 ล้านบาท
                        3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 12,440 โครงการ วงเงิน 37,493.29 ล้านบาท
              4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 14,916 โครงการ วงเงิน 221,783.43 ล้านบาท
              5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 14,916 โครงการ วงเงิน 215,542.54 ล้านบาท 
              6. การดำเนินการ
                  6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 3,464 โครงการ วงเงิน 26,320.18 ล้านบาท
                  6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 10,785 โครงการ วงเงิน 93,969.28 ล้านบาท
                  6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 667 โครงการ วงเงิน 19,339.92 ล้านบาท
                  6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 11,452 โครงการ วงเงิน 113,309.20 ล้านบาท

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(20 เมษายน 2553) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
              1. นายสกล เขมะพรรค          เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
              2. นายวีระชัย ถาวรทนต์        เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ  สังกัดกระทรวงพาณิชย์  ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง
พาณิชย์เสนอ ดังนี้
               1. นางวัชรี วิมุกตายน                          ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายใน
               2. นางสาวชุติมา บุณยประภัศร             ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
               3. นายมนัส สร้อยพลอย                      ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
               4. นายวิจักร วิเศษน้อย                        ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการอนุมัติใช้เงินคงคลังภายใต้วงเงิน  42,000  ล้านบาท  ตามมาตรา 7 (4)
แห่งพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491  เพื่อไถ่ถอนตราสารหนี้ก่อนครบกำหนดตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
และเพื่อให้สำนักงบประมาณดำเนินการปรับโครงสร้างงบประมาณรายจ่าย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ต่อไป ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอสรุปผลการประชุม
นานาชาติ "Asia Forum : Low Carbon Asia"  การประชุมหารือภายใต้ข้อตกลงระหว่างองค์การสวนสัตว์ในพระบรม
ราชูปถัมภ์แห่งราชอาณาจักรไทย และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน (The China Wildlife  Conservation  Association)
และการประชุมหารือกับกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน (Ministry of Water Resources of China: MWR) ระหว่างวัน
ที่ 8-9 เมษายน 2553 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผลการประชุมสรุปได้ดังนี้
                1. การประชุมหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงป่าไม้จีนและสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน เกี่ยวกับการจัด
ตั้งศูนย์วิจัยแพนด้าในประเทศไทยและการขยายเวลาการอยู่เมืองไทยของหลินปิง ผลการประชุมหารือฝ่ายจีนจะได้
มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาการจัดตั้งศูนย์วิจัยหมีแพนด้าในประเทศไทย  และพิจารณาการปรับปรุง
เพิ่มเติมบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลาที่จะให้หลินปิงอยู่ในประเทศไทยโดยจะพิจารณาหาคู่ให้กับหลินปิงและ
จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาเยือนไทยตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                2. การประชุมหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน ได้มีการหารือเพื่อเจรจาแลก
เปลี่ยนความร่วมมือในการจัดการน้ำ รวมถึงการใช้น้ำจากแม่น้ำโขง โดยกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนเห็นด้วยที่จะ
ความร่วมมือกับประเทศไทยใน  2  ระดับ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
กล่าวคือ ความร่วมมือสืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการลุ่มแม่น้ำโขง และความร่วมมือในระดับทวิภาคีในลักษณะความ
ร่วมมือทางวิชาการ  (Technical Cooperation)  ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้
เรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนและคณะเยือนไทยในฐานะแขกของกระทรวงฯ   เพื่อดำเนิน
การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจครั้งแรกที่ประเทศไทย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสินเพิ่มอีก จำนวน 2 คน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
              1. นายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์
              2. นางเบญจวรรณ สร่างนิทร