ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1673 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 33441 - 33460 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
33441 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันงบประมาณข้ามปีงบประมาณเป็นกรณีเฉพาะรายของกรมอุตุนิยมวิทยา | ทก | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมอุตุนิยมวิทยาดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการเครื่องเรดาร์ตรวจอากาศแบบ Dual Polarization พร้อมอุปกรณ์ ๒ เครื่อง และหอเรดาร์ ๑ แห่ง ที่จังหวัดชัยนาทและพิษณุโลกได้ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณให้กรมอุตุนิยมวิทยาขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามระเบียบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
33442 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการสเปคโตรกราฟ | วท | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการจากที่ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ผลผลิตวิจัย พัฒนา และถ่ายทอดความรู้ทางดาราศาสตร์ งบเงินอุดหนุน อุดหนุนทั่วไป รายการสเปคโตรกราฟ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ใช้จ่ายจากเงินที่ได้รับจัดสรรแล้ว จำนวน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท (ยี่สิบห้าล้านบาทถ้วน) สำหรับงบประมาณในการพัฒนาเครื่องสเปคโตรกราฟ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ในปีต่อไป ให้สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
33443 | รายงานการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2554 | กษ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองประธานกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวงเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมคณะกรรมการ กปส. มีมติรับทราบผลการดำเนินงาน จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ ผลการดำเนินงานของโครงการหลวง ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ รายงานการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบนพื้นที่สูงภาคเหนือ และรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพบนพื้นที่สูง ๑.๒ ที่ประชุมคณะกรรมการ กปส. มีมติเห็นชอบเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ ๑.๒.๑ ให้มูลนิธิโครงการหลวงขอตั้งงบประมาณประจำปีเพื่อดำเนินงานวิจัย งานพัฒนา และการตลาด ที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ๑.๒.๒ เห็นชอบในหลักการแผนแม่บทศูนย์พัฒนาโครงการหลวงและแผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวง ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) โดยให้ฝ่ายเลขานุการนำแผนแม่บทฯ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ๑.๒.๓ เห็นชอบในหลักการแผนงานและงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่สนับสนุนศูนย์พัฒนาโครงการหลวงและโครงการขยายผลโครงการหลวง โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้การสนับสนุนตามความเหมาะสมต่อไป ๑.๒.๔ เห็นชอบในหลักการการปรับปรุงถนนในพื้นที่โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดตาก จำนวน ๙ เส้นทาง โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รับโครงการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าวไว้ในแผนพัฒนาเพื่อความมั่นคงและจัดหางบประมาณให้กับหน่วยงานทหารในพื้นที่เป็นผู้ปฏิบัติงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป และให้หน่วยงานที่ร่วมดำเนินงานภายใต้แผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวงฯ ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานตามแผนแม่บทดังกล่าว ๑.๒.๕ ที่ประชุมคณะกรรมการ กปส. มีมติเรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาชุมชนในพื้นที่โครงการหลวง โดยให้สำนักงบประมาณให้การสนับสนุนแผนงาน และงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของกรมทางหลวงชนบท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่โครงการหลวงตามความเหมาะสม และให้เสนอคณะรัฐมนตรีทราบว่า “โครงการพระราชดำริ” ที่ระบุในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๓๖ (ข้อ ๒.๑) หมายรวมถึงงานของมูลนิธิโครงการหลวงด้วย กับเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่โครงการหลวง ภายใต้คณะกรรมการ กปส. และให้ กฟภ.รวบรวมความจำเป็นโครงการก่อสร้างขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ภายในพื้นที่โครงการหลวง และโครงการขยายผลโครงการหลวง ทั้งที่ไม่เกินและเกิน ๕๐,๐๐๐ บาทต่อครัวเรือนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๑.๒.๖ เห็นชอบในหลักข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ไทย - โคลอมเบีย (Technical Cooperation Agreement) ระหว่างมูลนิธิโครงการหลวง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และ Accion Social สาธารณรัฐโคลอมเบีย และหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ระหว่างมูลนิธิโครงการหลวง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และ UNODC สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยให้ฝ่ายเลขานุการนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป ๒. ให้เปลี่ยนชื่อข้อความตามหนังสือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ สวพส./๑๐๘๔ ลงวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๔ ข้อ ๒.๒.๕ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาชุมชนในพื้นที่โครงการหลวง ๒) มติคณะกรรมการ กปส. (๒) จากเดิม “...โครงการพระราชดำริ นั้น หมายรวมถึง งานของมูลนิธิโครงการหลวงด้วย” เป็น “...โครงการพระราชดำริ นั้น หมายรวมถึงงานโครงการหลวงด้วย” และให้เปลี่ยนข้อความดังกล่าวที่ปรากฏในข้ออื่น ๆ ให้สอดคล้องกันด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ดำเนินงานตามแผนแม่บทโครงการหลวงเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานให้มากขึ้น ตลอดจนเร่งประชาสัมพันธ์ให้ อปท. ทั่วประเทศเข้ามาศึกษา ดูงาน เพื่อนำความรู้จากโครงการหลวงไปต่อยอดการพัฒนาในพื้นที่ อปท. แต่ละแห่งได้ นอกจากนี้ เห็นควรเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการ กปส. พร้อมทั้งจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป สำหรับการดำเนินงานตามแผนงานและงบประมาณภายใต้แผนแม่บทฯ ควรให้ความสำคัญกับการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
33444 | การเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ให้แก่ข้าราชการตำรวจและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยคณะรัฐมนตรีและข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการตำรวจ ลูกจ้างส่วนราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานของรัฐอื่นที่ช่วยปฏิบัติราชการในงานของคณะรัฐมนตรี | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ให้แก่ข้าราชการทหารและข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยคณะรัฐมนตรี และข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการตำรวจ ลูกจ้างส่วนราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานของรัฐอื่นที่ช่วยปฏิบัติราชการในงานของคณะรัฐมนตรี ซึ่งรัฐมนตรียืมตัวมาปฏิบัติราชการ โดยมีคุณสมบัติอยู่ในหลักเกณฑ์ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๔, ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔, ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๖, ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑, ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ และ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และมีผลการปฏิบัติงานระดับดีเด่น [เลื่อนเงินเดือนร้อยละ ๔ (ครึ่งปีของฐานในการคำนวณ)] หรือมีผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าระดับดีเด่น [เลื่อนเงินเดือนร้อยละ ๓ (ครึ่งปีของฐานในการคำนวณ)] จำนวน ๙๗ คน และให้ส่งรายชื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดตรวจสอบคุณสมบัติและเลื่อนขั้นเงินเดือนไปได้เลย โดยไม่ต้องนำกลับมาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติอีก
|
|||||||||||||||||||||
33445 | ขออนุมัติเงินอุดหนุนองค์การระหว่างประเทศ | สธ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. อนุมัติเพิ่มวงเงินอุดหนุนแก่โครงการพิเศษขององค์การอนามัยโลกในด้านการวิจัยและฝึกอบรมเกี่ยวกับโรคเมืองร้อน (WHO Special Programme for Research and Training in Tropical Diseases : TDR) เป็นปีละ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป สำหรับค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ มาดำเนินการต่อไป ๒. อนุมัติขยายระยะเวลาและเพิ่มวงเงินอุดหนุนแก่กองทุนโลกเพื่อการต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย (Global Fund to Fight AIDS, Tuberculosis and Malaria : GF) เป็นปีละ ๑,๕๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ เป็นระยะเวลา ๕ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๖๒ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ [เรื่อง เงินอุดหนุนประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ของกระทรวงสาธารณสุข (เรื่อง การสนับสนุนงบประมาณให้แก่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ และกองทุน GFATM)] โดยเริ่มสนับสนุนเงินอุดหนุนอัตราใหม่ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป |
|||||||||||||||||||||
33446 | ขออนุมัติการจัดหาแหล่งเงินสำหรับค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ | คค | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ใช้แหล่งเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) สำหรับค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ จำนวน ๓๘๒ ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง และให้รัฐบาลรับภาระชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้ รฟม. เพื่อชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเป็นรายปี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ รฟม. นำเงินรายได้จากการเดินรถไฟฟ้าในอนาคตมาชำระเงินลงทุนคืนให้แก่รัฐบาล รวมทั้งควรกำหนดรายละเอียดประสบการณ์ของที่ปรึกษาตามความต้องการของโครงการเท่านั้น เนื่องจากจะมีผลกระทบต่ออัตราจ้าง และจะต้องพิจารณาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ นอกจากนี้ ให้เร่งพิจารณาจัดทำแผนธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์ในโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่อยู่ในความรับผิดชอบของ รฟม. โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ รฟม. ดำเนินการจัดหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Gross cost เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ รฟม. และลดภาระการพึ่งพาเงินอุดหนุนการลงทุนของภาครัฐในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
33447 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี | กษ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดยให้ดำเนินการเฉพาะในส่วนที่กรมชลประทานได้จัดทำและนำเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว และคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (คชก.) ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบรายงานฯ ในคราวประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ส่วนงบประมาณที่จะดำเนินโครงการฯ เมื่อกรมชลประทานได้รับอนุญาตการใช้พื้นที่ ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าร่วมดำเนินการในโครงการแบบบูรณาการ ดูแลเยียวยาประชาชนให้ได้รับผลตอบแทนจากผลกระทบอันเนื่องมาจากการดำเนินการโครงการของรัฐด้วยความยุติธรรมและทั่วถึง ทบทวนข้อมูลที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีให้มีความสอดคล้องกับข้อมูลที่เสนอให้ คชก. พิจารณาให้ความเห็นชอบ ปฏิบัติตามระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้พื้นที่สถานที่ปฏิบัติงานหรือประโยชน์อย่างอื่นของส่วนราชการหรือองค์การของรัฐ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๘ รวมทั้งพิจารณาเรื่องราวคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ติดอยู่ในเขตพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์เพิ่มเติมเฉพาะการดำเนินการตามโครงการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ หรือเป็นการดำเนินการตามโครงการพระราชดำริ โดยมีการวางแผนการใช้น้ำและการบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมในพื้นที่โครงการ พิจารณาพื้นที่กักเก็บน้ำท้ายอ่างในลุ่มน้ำป่าสักตอนล่างเพิ่มเติม มีการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำมวกเหล็กร่วมกับการบริหารจัดการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแก้มลิง ทะเลสาบบ้านหมอ รวมไปถึงจัดหาและบริหารแหล่งน้ำขนาดเล็กในระดับชุมชน ภายในพื้นที่รับประโยชน์ของโครงการอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก และเร่งเตรียมการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวเวนคืนที่ดินสำหรับก่อสร้างระบบชลประทานของโครงการฯ พร้อมทั้งเร่งดำเนินการด้านที่ดินและด้านสิ่งแวดล้อมตามที่เสนอให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศที่เกี่ยวข้องก่อนเริ่มดำเนินโครงการต่อการแก้ไขปัญหา สำหรับงบประมาณดำเนินโครงการให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กรมชลประทาน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด |
|||||||||||||||||||||
33448 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - ฝรั่งเศส | คค | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจคณะผู้แทนของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ คณะผู้แทนของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสได้ตกลงปรับปรุงข้อบทในความตกลงว่าด้วยการเดินอากาศระหว่างไทย - ฝรั่งเศส โดยได้ปรับปรุงข้อบทในความตกลงฯ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายภายในของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งปรับปรุงสิทธิการบินต่าง ๆ ได้แก่ ใบพิกัดเส้นทางบิน และสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ เพื่อให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายมีความยืดหยุ่นในการวางแผนการให้บริการ ตลอดจนเปิดโอกาสให้สามารถขยายบริการไปยังจุดต่าง ๆ ได้มากขึ้น และให้เสนอรัฐสภาพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับต่อไป หลังจากรัฐสภาให้ความเห็นชอบบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว
|
|||||||||||||||||||||
33449 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 รายการค่าก่อสร้างท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จังหวัดตราด | คค | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ รายการค่าก่อสร้างท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จังหวัดตราด ในวงเงิน ๑,๒๙๕,๑๐๐,๐๐๐ บาท ก่อนกรมเจ้าท่าดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่าเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๑๙๔,๔๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณให้แล้ว ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๑,๑๐๐,๗๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ โดยให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับเพื่อให้ครบค่างานต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
33450 | การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของกระทรวงวัฒนธรรม (ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. ....) | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างกฎกระทรวงที่ตรวจพิจารณาแล้ว รวม ๒ ฉบับ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงมีอำนาจหน้าที่เพิ่มเติมในการศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของปัญหาการเบี่ยงเบนทางวัฒนธรรม และประสานให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนทุกส่วนในการป้องกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคมร่วมกัน รวมถึงการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม และดำเนินการและส่งเสริมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ๑.๒ กำหนดให้เพิ่มสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมในราชการบริหารส่วนกลาง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๓ กำหนดอำนาจหน้าที่ของสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ๑.๔ กำหนดให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมีอำนาจหน้าที่เพิ่มเติมในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเบี่ยงเบนทางวัฒนธรรม ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๒.๑ กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒.๒ กำหนดให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมมีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมและบำรุงรักษาวัฒนธรรมไทย รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับการประสานงานและแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๒.๓ กำหนดให้แบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกอบด้วย ๒ กอง ๑ สถาบัน และ ๒ สำนัก และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด
|
|||||||||||||||||||||
33451 | ข้อเสนอการตราพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... | สม | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง การตราพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... สรุปได้ ดังนี้
๑. พระราชบัญญัติว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ ควรเป็นกฎหมายที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดการการชุมนุมสาธารณะ เว้นแต่เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วนที่ยากต่อการบริหารราชการ จึงจะนำกฎหมายพิเศษมาบังคับใช้ แต่ต้องทำภายในระยะเวลาอันจำกัดเท่าที่จำเป็นแก่สถานการณ์ ๒. การตรากฎหมายมาใช้บังคับในเรื่องการชุมนุมสาธารณะ ควรกำหนดชื่อของกฎหมายที่แสดงความหมายให้ตรงกับเจตนารมณ์ที่จะมุ่งส่งเสริมและคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะของประชาชน ๓. อำนาจในการห้ามการชุมนุม การสั่งให้เลิกการชุมนุม หรือการคัดค้านการชุมนุม ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือ มอบให้ฝ่ายบริหาร (ฝ่ายปกครอง) เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย และรับผิดชอบในการตัดสินใจดังกล่าว ดังนั้น เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่มีคำสั่งห้ามหรือให้เลิกการชุมนุมสาธารณะ ผู้จัดการชุมนุมหรือผู้นำการชุมนุมควรมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อฝ่ายบริหารระดับสูงขึ้นไปเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ และเมื่อได้ดำเนินการตามขั้นตอนวิธีการในฝ่ายปกครองจนครบถ้วนแล้ว ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้จัดการชุมนุมหรือผู้นำการชุมนุมที่จะนำคดีไปสู่ศาลปกครองได้ต่อไป ๔. การชุมนุมสาธารณะควรบัญญัติให้ครอบคลุมถึงองค์การระหว่างประเทศ เช่น ที่ทำการขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งควรได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับสถานทูตหรือสถานกงสุลของรัฐต่างประเทศ ๕. การกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการจัดการเกี่ยวกับสถานที่ที่ใช้ชุมนุม โดยมีอำนาจหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลรักษาความปลอดภัย และจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมให้ประชาชนร่วมชุมนุมสาธารณะ ควรกำหนดให้เป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากกว่าเป็นการใช้ดุลพินิจจะจัดสถานที่หรือไม่ก็ได้ ๖. ผู้ที่ประสงค์จัดการชุมนุมสาธารณะ และการชุมนุมนั้นกระทบต่อความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ ต้องให้มีหนังสือแจ้งการชุมนุมไม่น้อยกว่า ๗๒ ชั่วโมง การชุมนุมสาธารณะที่ไม่ได้แจ้งภายในระยะเวลาดังกล่าว ต้องขอผ่อนผันต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือผู้ว่าราชการจังหวัด และต้องได้รับอนุญาตให้ผ่อนผันเสียก่อนจึงจะชุมนุมได้ การชุมชนโดยยังมิได้รับอนุญาตให้ถือว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ๗. อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ควรกำหนดกรอบและขั้นตอนการควบคุมฝูงชน ซึ่งรวมถึงการใช้กำลังเพื่อให้ผู้ชุมนุมยุติหรือเลิกการชุมนุมไว้ในพระราชบัญญัติฉบันนี้ ส่วนการจับกุม การค้น รวมทั้งกระทำต่อทรัพย์สินของผู้ชุมนุมโดยการยึดอายัดทรัพย์สิน ศาลต้องสั่งอนุญาตให้ออกหมายจับ หมายค้น ฯลฯ เสียก่อน ภายใต้ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายที่เชื่อว่าผู้กระทำผิดจะหลบหนี หรือทรัพย์สินสำหรับใช้ในการกระทำความผิดจะถูกเคลื่อนย้ายหรือถูกทำลาย สำหรับบทกำหนดโทษจำคุกแก่ผู้จัดการชุมนุมสาธารณะกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัตินี้ การลงโทษควรเป็นโทษทางปกครอง (ปรับทางปกครอง) ไม่ใช่โทษทางอาญา (จำคุก) เพราะการชุมนุมเป็นสิทธิและเสรีภาพที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ ผู้ที่กระทำความผิดไม่ใช่อาชญากร จึงไม่ควรกำหนดความผิดที่จะต้องรับโทษทางอาญาไว้ในกฎหมายฉบับนี้ ๘. กำหนดให้มีกลไกรองรับการชุมนุมสาธารณะที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การปรับปรุงแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นการเฉพาะ
|
|||||||||||||||||||||
33452 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... | มท | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลเชียงงา ตำบลบ้านกล้วย ตำบลบ้านหมี่ และตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมือง และบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
33453 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... | มท | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพื่อใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลบางมูลนาก บางส่วนของตำบลหอไกร และบางส่วนของตำบลเนินมะกอก อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อมตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
33454 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... | มท | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพื่อใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลวังจิก ตำบลโพธิ์ประทับช้าง และตำบลไผ่ท่าโพธิ์ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
33455 | ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญคือ
๑. กำหนดอัตราภาษีที่ดินจัดเก็บสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้ ๑.๑ ไม่เกินร้อยละ ๐.๐๕ ของฐานภาษี สำหรับที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในการประกอบเกษตรกรรม หรือที่ใช้ในการประกอบเกษตรกรรมและที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยมีพื้นที่ที่ใช้ประกอบเกษตรกรรมไม่น้อยกว่าสามในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด ๑.๒ ไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของฐานภาษี สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย หรือที่ใช้ในการประกอบเกษตรกรรมและที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยมีพื้นที่ที่ใช้ประกอบการเกษตรกรรมน้อยกว่าสามในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด ๑.๓ ไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของฐานภาษี สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างนอกจากข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ๓. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณการลดหย่อนภาษี โดยเกณฑ์ขนาดพื้นที่ไม่เกินห้าสิบตารางวาสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และไม่เกินห้าสิบตารางเมตรสำหรับห้องชุด และเกณฑ์ฐานภาษีไม่เกินหนึ่งล้านบาทสำหรับฐานภาษีที่คำนวณได้รวมกันของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้าง หรือห้องชุด ๔. กำหนดให้มีการจัดสรรเงินภาษีที่จัดเก็บได้และนำส่งให้แก่ธนาคารที่ดิน เพื่อใช้ในกิจการตามวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์ และวิธีการ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งบัญญัติไว้ แต่ในระหว่างที่ยังไม่มีการจัดตั้งธนาคารที่ดิน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสรรเงินภาษีที่จัดเก็บได้และนำส่งใหแก่สถาบันบริหารการจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสถาบันดังกล่าว โดยสถาบันบริหารการจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ต้องแยกบัญชีสำหรับเงินดังกล่าวต่างหากจากการดำเนินกิจการอื่นด้วย และเมื่อสถาบันบริหารการจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ยุบเลิกเนื่องจากมีการจัดตั้งธนาคารที่ดินแล้ว การนำส่งเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสิ้นสุดลง และให้โอนเงินเท่าที่เหลืออยู่ให้แก่ธนาคารที่ดินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด
|
|||||||||||||||||||||
33456 | การปรับโครงสร้างคณะกรรมการ WIPO IGC และร่างกรอบการเจรจา WIPO IGC | กต | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดูแลประเด็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรพันธุกรรม และการแสดงออกทางวัฒนธรรมดั้งเดิม เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเวที WIPO Intergovernmental Committee on Intellectual Property and Genetic Resources, Traditional Knowledge and Folklore (IGC) ๒. อนุมัติให้ปรับโครงสร้างคณะกรรมการเตรียมการประชุม WIPO IGC เข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ เพื่อให้คณะกรรมการ WIPO IGC ได้รับนโยบายระดับสูงด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรพันธุกรรม และการแสดงออกทางวัฒนธรรมดั้งเดิมจากนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง โดยมีองค์ประกอบตามเดิม และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานอนุกรรมการ แต่เปลี่ยนชื่อเป็นคณะอนุกรรมการเตรียมการประชุม WIPO IGC ๓. เนื่องจากการเจรจา WIPO IGC ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีผลผูกพันทางกฎหมายหรือไม่ จึงเห็นชอบในหลักการต่อร่างกรอบการเจรจา WIPO IGC ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรพันธุกรรมและการแสดงออกทางวัฒนธรรมดั้งเดิม ซึ่งรับรองโดยคณะกรรมการเตรียมการ WIPO IGC เพื่อเป็นพื้นฐานในการเจรจาสำหรับคณะผู้เจรจาของไทยสำหรับเข้าร่วมการประชุม WIPO IGC ครั้งที่ ๑๘ ซึ่งจะจัดขึ้น ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ๔. เห็นชอบให้คณะกรรมการ WIPO IGC ดำเนินการตามกระบวนการตามมาตรา ๑๙๐ แห่งรัฐธรรมนูญ และจัดทำกรอบการเจรจาตามมาตรา ๑๙๐ เสนอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาให้ความเห็นชอบต่อไป เมื่อการเจรจาภายใต้ WIPO IGC พัฒนาจนมีความชัดเจนว่าจะจัดทำหนังสือสัญญาหรือตราสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมายในอนาคต |
|||||||||||||||||||||
33457 | ขออัตรากำลังข้าราชการเพิ่ม | ยธ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้มีการเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อรองรับภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด และภารกิจบังคับโทษปรับตามพระราชบัญญัติวิธีการพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรับไปพิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมและจำเป็นของจำนวนอัตรากำลังข้าราชการที่จะจัดสรรเพิ่ม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งภายใน ๒ สัปดาห์ |
|||||||||||||||||||||
33458 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2554 | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๔ โดยที่ประชุม กรอ. ได้พิจารณาปัญหาและแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมทั้งมีความเห็นว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเน้นให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นหลัก ไม่ครอบคลุมประเด็นที่ภาคเอกชนเสนอในครั้งนี้ ซึ่งได้แก่ การขอสินเชื่อเพื่อใช้สำหรับฟื้นฟูกิจการ การขอยกเว้นการนำเงินเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายกับผู้ประกอบการ และการเร่งรัด กำกับ ดูแลให้บริษัทประกันภัยรับต่อประกันให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ จึงเห็นควรเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยให้ สศช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. นำข้อเสนอของภาคเอกชนดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมอบหมายในวันพุธที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔ ๒ เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับปัญหาเร่งด่วนที่ขอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการในช่วงที่ไม่สามารถดำเนินการผลิตต่อได้ ได้แก่ การขอสินเชื่อเพื่อใช้สำหรับฟื้นฟูกิจการ การขอยกเว้นการนำเงินเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ และการเร่งรัด กำกับ ดูแล ให้บริษัทประกันภัยรับต่อประกันให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการว่ามีบริษัทประกันภัยหลายบริษัทไม่ยอมต่อสัญญาประกันภัยให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะบริษัทประกันภัยของภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
33459 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) | กค | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ ๐.๐๓๕ โดยน้ำหนัก จากอัตราภาษี ๕.๓๑๐ บาทต่อลิตร ลดลงเหลืออัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔ จากอัตราภาษี ๕.๐๔๐ บาทต่อลิตร ลดลงเหลืออัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
33460 | การออกสลากการกุศลงวดพิเศษ | กค | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ สนับสนุนการออกสลากการกุศลงวดพิเศษ จำนวน ๓ หน่วยงาน ดังนี้ ๑.๑.๑ โครงการจัดหารายได้สมทบทุนมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ วงเงินจำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ของมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ๑.๑.๒ โครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร วงเงินจำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท ของมูลินิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) ๑.๑.๓ โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วงเงินจำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ๑.๒ ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย และจ่ายรางวัลสลากการกุศลงวดพิเศษดังกล่าว ทั้งนี้ ในการจัดจำหน่าย ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณาแนวทางการจำหน่ายสลากการกุศลในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย ๒. ให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๔๑ (เรื่อง การออกสลากการกุศลงวดพิเศษ) และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. หน่วยงานใดที่ได้รับรายได้จากการออกสลากการกุศลงวดพิเศษเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินโครงการใด ๆ แล้ว ไม่ควรเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในโครงการเดียวกันอีก โดยให้แจ้งข้อมูลการได้รับรายได้ดังกล่าวให้สำนักงบประมาณทราบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาและตรวจสอบความซ้ำซ้อนของการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย
|
.....