ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1672 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 33421 - 33440 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
33421 | ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (โอนกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชไปรวมกับกรมป่าไม้) | ทส | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อโอนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปรวมกับกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งดำเนินการออกแบบโครงสร้างองค์กรของกรมป่าไม้เพื่อรองรับภารกิจใหม่ควบคู่ไปกับการเสนอกฎหมายเพื่อพิจารณาตามขั้นตอน เพื่อให้สามารถออกกฎกระทรวงได้รวดเร็ว และองค์กรสามารถปฏิบัติภารกิจการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ให้มีประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาในรายละเอียด โดยคำนึงถึงความซ้ำซ้อนในประเด็น โครงสร้าง บทบาท อำนาจหน้าที่ และตำแหน่งงานต่าง ๆ ของหน่วยงานที่จะจัดตั้งใหม่ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคให้ชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
33422 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค (ครั้งที่ 3) | กษ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินเกษตรกรสภาประชาชน ๔ ภาค (ครั้งที่ ๓) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรสภาประชาชน ๔ ภาค สรุปผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ จนถึงวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๔ ดังนี้ ๑.๑ รับคำเสนอขายที่ดิน จำนวน ๒๑ จังหวัด เนื้อที่ ๒๖,๕๕๔ - ๓ - ๖๙ ไร่ ๑.๒ เกษตรกรมาตรวจสอบสิทธิ จำนวน ๑,๖๙๐ ราย มีคุณสมบัติครบ จำนวน ๑,๔๗๓ ราย ๑.๓ เกษตรกรแสดงความประสงค์และพึงพอใจในที่ดิน จำนวน ๘๘๗ ราย เนื้อที่ ๑๒,๙๗๙ - ๒ - ๑๖ ไร่ ๑.๔ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) เห็นชอบแผนการจัดซื้อที่ดิน จำนวน ๒๐ จังหวัด เกษตรกร จำนวน ๗๘๘ ราย เนื้อที่ ๑๑,๓๖๗ - ๓ - ๑๔ ไร่ จำแนกเป็น ๑.๔.๑ ที่ดินที่ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ประกอบด้วย คปจ. เห็นชอบแผนการจัดซื้อ จำนวน ๓๘๖ ราย เนื้อที่ ๕,๔๒๗ - ๓ - ๕๙ ไร่ จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ ส.ป.ก. แล้ว จำนวน ๒๘๓ ราย เนื้อที่ ๓,๙๐๘ - ๐ - ๙๓ ไร่ และจัดทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินกับเกษตรกรแล้ว จำนวน ๘๑ ราย เนื้อที่ ๑,๒๑๕ - ๑ - ๕๔ ไร่ ๑.๔.๒ ที่ดินตั้งอยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดิน ประกอบด้วย คปจ. เห็นชอบแผนการจัดซื้อ จำนวน ๑๑ จังหวัด เกษตรกร จำนวน ๔๐๒ ราย เนื้อที่ ๕,๙๓๙ - ๓ - ๕๕ ไร่ และ คปก. มีมติอนุมัติให้กำหนดเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน ๗ จังหวัด เกษตรกร จำนวน ๓๘๘ ราย เนื้อที่ ๕,๗๘๔ - ๐ - ๔๐ ไร่ ๒. ส.ป.ก. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และดำเนินการออกประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ให้เกษตรกรแสดงตน ณ ส.ป.ก. จังหวัดที่ประสงค์จะให้จัดซื้อที่ดินภายใน ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ รวมทั้งมีหนังสือแจ้งเกษตรกรที่ยังไม่มาแสดงตนให้มาแสดงตน ทั้งนี้ ในกรณีที่เกษตรกรแสดงตนแล้วได้เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้เกษตรกรคัดเลือกแปลงที่ดินให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ เพื่อให้การพิจารณาจัดซื้อที่ดินทั้งที่อยู่ในและนอกเขตปฏิรูปที่ดินเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๔
|
|||||||||||||||||||||||||||
33423 | รายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสนอ ๑.๑ รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ประกอบด้วย ๙ ด้าน ได้แก่ ด้านการสอดส่องดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลฯ ด้านการดำเนินการเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานของรัฐ ด้านการตอบข้อหารือการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ด้านการดำเนินการเรื่องอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ด้านกฎหมาย ด้านการติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ด้านการพัฒนาระบบสารสนเทศข้อมูลข่าวสารปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ด้านการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อต่าง ๆ และด้านความร่วมมือทางวิชาการกับต่างประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ ได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ดังนี้ ๑.๑.๑ พัฒนาการให้บริการของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ ด้านการเยียวยารักษาสิทธิให้กับประชาชนตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ๑.๑.๒ โครงการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาลด้านความโปร่งใสและโครงการจ้างพนักงานราชการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ๑.๑.๓ พัฒนาการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ แบบเชิงรุก ๑.๑.๔ พัฒนาหน่วยงานต้นแบบในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ถูกต้องครบถ้วนตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงานรัฐในระดับภูมิภาค ๑.๑.๕ การเพิ่มมาตรการในการออกตรวจแนะนำเครือข่ายการปฏิบัติงานศูนย์ข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานรัฐ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ๑.๑.๖ การดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาระบบสารสนเทศ ๑.๑.๗ การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สิทธิรับรู้ของประชาชนตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ๑.๑.๘ การติดตามเร่งรัดการตรากฎหมายคุ้มครองข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล ๑.๒ เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติในเรื่องการนำข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๗ และมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงาน ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการและหน่วยงานของรัฐรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการนำข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๗ และมาตรา ๙ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของหน่วยงานควรจัดทำเป็นหัวข้อที่เด่นชัด และมีข้อความว่า “ข้อมูลข่าวสารตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐” เพื่อให้ประชาชนค้นหาได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้หน่วยงานราชการที่มีหน่วยงานประจำอยู่ในส่วนภูมิภาคจัดให้มีศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารประจำอยู่ ณ หน่วยงานนั้น ๆ นอกจากนี้ การรายงานผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งมีจำนวนเรื่องอุทธรณ์สูงสุดในรอบ ๑๓ ปี ควรจำแนกประเภทของเรื่องอุทธรณ์ว่ามีประเด็นการอุทธรณ์ในเรื่องใด โดยเฉพาะประเด็นที่มีการอุทธรณ์ลักษณะเดียวกับปีที่ผ่านมา เพื่อจะได้สามารถใช้เป็นข้อมูลในการไปเสริมสร้างความเข้าใจให้แก่หน่วยงานของรัฐและประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
33424 | โครงการจัดหาเครื่องบินปี 2554 - 2565 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) | คค | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบโครงการจัดหาเครื่องบิน ปี ๒๕๕๔ - ๒๕๖๕ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) จำนวน ๗๕ ลำ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๔๕๗,๑๒๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ประกอบด้วย ๑.๑ โครงการจัดหาเครื่องบินระยะแรกปี ๒๕๕๔ - ๒๕๖๐ จำนวน ๓๗ ลำ วงเงินลงทุน ๒๑๐,๖๐๒ ล้านบาท พร้อมทั้งเครื่องยนต์สำรอง วงเงินลงทุน ๕,๔๗๓ ล้านบาท รวมวงเงินลงทุน ๒๑๖,๐๗๕ ล้านบาท ๑.๒ โครงการจัดหาเครื่องบินระยะที่ ๒ ปี ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ จำนวน ๓๘ ลำ โดยแบ่งเป็นการจัดหาเครื่องบินแบบ Firm Order จำนวน ๒๑ ลำ วงเงินลงทุน ๑๒๕,๙๙๒ ล้านบาท และการจัดหาแบบ Option Order จำนวน ๑๗ ลำ วงเงินลงทุน ๑๐๓,๐๘๑ ล้านบาท พร้อมทั้งเครื่องยนต์สำรอง วงเงินลงทุน ๑๑,๙๗๙ ล้านบาท รวมวงเงินลงทุน ๒๔๑,๐๕๒ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงคมนาคม บกท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้ กบท. พิจารณาแนวทางการจัดหาเครื่องบินด้วยความรอบคอบและเหมาะสมกับโครงสร้างทางการเงินขององค์กร พิจารณารูปแบบวิธีการจัดหาเครื่องบินที่สอดคล้องกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของตลาดเครื่องบิน เทคโนโลยีอากาศยาน แนวโน้มสภาพตลาดในอุตสาหกรรมการบิน และความคล่องตัวในการบริหารจัดการฝูงบินของ บกท. รวมทั้งพิจารณาทางเลือกของแหล่งเงินลงทุนที่เอื้อประโยชน์ต่อต้นทุนทางการเงิน และการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน และไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงิน ภาระทางการเงิน และการบริหารสภาพคล่องของ บกท. ในอนาคต นอกจากนี้ เห็นควรให้ยึดแผนยุทธศาสตร์ ปี ๒๕๕๔ - ๒๕๖๐ ของ บกท. เป็นกรอบในการดำเนินงานให้เกิดความต่อเนื่องในระยะยาว โดยติดตามสถานการณ์และปัจจัยความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสายการบินซึ่งมีความเสี่ยงทั้งจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน สภาพการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจการบิน และมาตรการการจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกลุ่มประเทศยุโรป รวมทั้งกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการบินในระดับสากล ตลอดจนปัจจัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด และปัญหาความไม่สงบในประเทศต่าง ๆ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
33425 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานเฉลิมฉลอง 100 ปีการลูกเสือไทย พ.ศ. 2554 | ศธ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการโครงการจัดงานเฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปีการลูกเสือไทย พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ และเพื่อพัฒนามาตรฐานของลูกเสือไทยและส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับลูกเสือนานาชาติ โดยมีกิจกรรมหลักในการจัดงาน ประกอบด้วย กิจกรรมที่แสดงถึงความเจริญก้าวหน้าของลูกเสือไทย การส่งเสริมฟื้นฟูพัฒนาและการกำหนดทิศทางของกิจการลูกเสือไทยให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน รวม ๒๐ โครงการ เป็นเงิน ๒๓๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒. งบประมาณเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมในโครงการฯ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ) ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในส่วนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รวมจำนวนทั้งสิ้น ๕๓,๐๖๙,๐๐๐ บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนที่เหลือ ให้เจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อขอทำความตกลงในรายละเอียดและขอรับการจัดสรรกับสำนักงบประมาณต่อไป ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำรายงานการดำเนินงานตามขั้นตอนและมีการจัดสรรงบประมาณสำหรับการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านในทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี รวมทั้งทบทวนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เสนอให้มีกรอบเวลาชัดเจน เน้นความจำเป็นและความประหยัด โดยให้ความสำคัญในกิจกรรมที่เป็นสาระหลักและนำไปสู่การวางรากฐาน การปลูกฝังระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์สุจริต และการเสริมสร้างจิตสาธารณะแก่เด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่าง ๆ เสนอขอใช้งบกลางบางส่วนและงบประมาณปกติ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
33426 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ และขออนุมัติผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีในการขอใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ | กษ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กรมชลประทานดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายใต้แผนการดำเนินงานโครงการ ๘ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๑) กรอบวงเงินของโครงการรวมทั้งสิ้น ๔,๘๐๐ ล้านบาท ๑.๒ ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ กรณีการขอเข้าใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เพื่อให้กรมชลประทานสามารถเข้าใช้พื้นที่สำหรับการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ ๑.๓ ให้กรมชลประทาน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการตามมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ๑.๔ ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาจัดหางบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายและระยะเวลาที่กำหนด ๒. งบประมาณเพื่อการดำเนินโครงการฯ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เสนอขอตั้งงบประมาณตามขั้นตอน ตามความจำเป็นและเหมาะสมในแต่ละปีงบประมาณต่อไป และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีมาตรการลดผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีให้เหมาะสมตามสภาพความเป็นจริงและเป็นธรรมต่อผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนค่าชดเชยที่ดินและทรัพย์สินสำหรับราษฎรที่เข้าไปทำกินในบริเวณหัวงานและอ่างเก็บน้ำที่ต้องอพยพจากพื้นที่ ให้เร่งดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิโดยไม่ได้มีการครอบครองที่ดินและทรัพย์สินอย่างแท้จริง และให้มีการจัดทำข้อตกลงเรื่องค่าชดเชยให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการเรียกร้องค่าชดเชยเพิ่มในภายหลัง รวมทั้งดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
33427 | ขอสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | มท | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้กับกระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่สามารถขอรับการสนับสนุนจากงบประมาณรายจ่ายที่จัดสรรไว้เพื่อการนี้ของหน่วยงานอื่น ทั้งนี้ อัตราการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่พิจารณา ตามขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product : GPP) ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยจัดสรรจังหวัดละ ๓ - ๕ ล้านบาท และได้จัดสรรรวมถึงจังหวัดบึงกาฬที่ตั้งใหม่ดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33428 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พ.ศ. .... | วธ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีตรวจพิจารณา มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติมาตรา ๙ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นต้นไป เนื่องจากมีผู้สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาเครื่องเคลือบดินเผา ได้รับพระราชทานปริญญาไปแล้ว ๑.๒ กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาวิจิตรศิลป์ และประยุกต์ศิลป์ และสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ ๑.๓ กำหนดครุยวิทยาฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง และเครื่องหมายประกอบครุยประจำตำแหน่งของนายกสภาสถาบัน กรรมการสภาสถาบัน ผู้บริหารและคณาจารย์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ๑.๔ กำหนดเข็มวิทยฐานะของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ๑.๕ กำหนดสีประจำคณะ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการให้ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับย้อนหลังเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการนำร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไปและให้ดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
33429 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ฉบับที่ .. พ.ศ. .... | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ฉบับที่ .. พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เพิ่มเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (กรช.) ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
33430 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ของวัดท่าอิฐและวัดบางบัวทอง ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ให้แก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... | พศ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ของวัดท่าอิฐและวัดบางบัวทอง ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ให้แก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ในท้องที่ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ของวัดท่าอิฐและวัดบางบัวทอง ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๓๗ เนื้อที่ ๒๐ ไร่ ให้แก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
33431 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ) | มท | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนพลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการอนุมัติเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33432 | รายงานผลการพิจารณาของ ก.พ. เรื่องสถาบันพระปกเกล้าขออนุมัติให้หลักสูตรสถาบันพระปกเกล้าเป็นหลักสูตรนักบริหารระดับสูง | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาของ ก.พ. เรื่อง สถาบันพระปกเกล้าขออนุมัติให้หลักสูตรสถาบันพระปกเกล้าเป็นหลักสูตรนักบริหารระดับสูง ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ที่ประชุม ก.พ. เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๓ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๔ และวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ได้พิจารณาข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า และมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเป็นหลักการให้ผู้ผ่านการศึกษาอบรมหลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน (ปรม.) รุ่นที่ ๘ และหลักสูตรการบริหารเศรษฐกิจสาธารณะสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปศส.) รุ่นที่ ๗ ที่ยังไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร ส.นบส. ของสำนักงาน ก.พ. เป็นผู้มีคุณสมบัติเสมือนผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูง (นบส.) ของสำนักงาน ก.พ. เช่นเดียวกับผู้ที่สภาสถาบันพระปกเกล้าอนุมัติการสำเร็จการศึกษาอบรมก่อนวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ ๒. เห็นชอบกับการรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมนักบริหารระดับสูงและการรับรองข้าราชการผู้ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรนักบริหารระดับสูงที่จัดโดยส่วนราชการและหน่วยงานอื่นเพื่อแจ้งให้ส่วนราชการทราบและใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร ระดับต้น ทั้งนี้ การรับรองให้ข้าราชการผู้ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรนักบริหารระดับสูงที่จัดโดยส่วนราชการและหน่วยงานอื่นเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเสมือนได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงของสำนักงาน ก.พ. โดยในส่วนของสถาบันพระปกเกล้า ประกอบด้วย ข้าราชการผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่นที่ ๑ - ๑๒ หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน (ปรม.) รุ่นที่ ๑ - ๘ และหลักสูตรการบริหารเศรษฐกิจสาธารณะสำหรับนักบริหารรดับสูง (ปศส.) รุ่นที่ ๑ - ๗ และรุ่นที่ ๘ เฉพาะรายที่ผ่านการฝึกอบรมในโครงการฝึกอบรมเสริมหลักสูตรนักบริหารระดับสูง (ส.นบส.) แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
33433 | รายงานการจดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทยต่อคณะรัฐมนตรี | พณ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการจดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำรายงานการจดทะเบียนนิติบุคคลในรอบ ๙๙ ปี เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้มการจดทะเบียนก่อตั้งธุรกิจ และการลงทุน โดยมีข้อมูล ดังนี้ ๑.๑ รายงานการจดทะเบียนนิติบุคคล ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๕๕ - ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ดังนี้ ๑.๑.๑ ในระยะเริ่มแรก [๓๐ ปีแรกของการจดทะเบียนในประเทศไทย (พ.ศ. ๒๔๕๕ - ๒๔๘๔)] มีการจดทะเบียนนิติบุคคล ๑,๕๓๗ ราย ทุนจดทะเบียน ๒๑,๗๖๔ ล้านบาท ๑.๑.๒ ใน ๔๐ ปีต่อมา (พ.ศ. ๒๔๘๕ - ๒๕๒๔) มีการก่อตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น มีการจดทะเบียนนิติบุคคล ๑๐๖,๓๙๐ ราย ทุนจดทะเบียน ๑,๑๒๗,๙๖๗ ล้านบาท ๑.๑.๓ ใน ๒๐ ปีต่อมา (พ.ศ. ๒๕๒๕ - ๒๕๔๔) ธุรกิจการค้าขยายตัวมากขึ้น มีการจดทะเบียนนิติบุคคล ๔๘๓,๓๓๒ ราย ทุนจดทะเบียน ๗,๔๖๘,๖๓๔ ล้านบาท ๑.๑.๔ ใน ๑๐ ปีที่ผ่านมา นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ (ยุคเริ่มต้นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า) มีการจดทะเบียนนิติบุคคล ๔๐๙,๗๗๕ ราย ทุนจดทะเบียน ๓,๕๔๘,๑๑๑ ล้านบาท ๑.๑.๕ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ หลังจากการปรับปรุงบริการด้านต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น มีการจดทะเบียนนิติบุคคล ๕๐,๗๗๖ ราย ทุนจดทะเบียน ๒๖๙,๒๘๔ ล้านบาท ๑.๑.๖ ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ มีนิติบุคคลจดทะเบียนครบ ๑ ล้านราย ประกอบด้วย รายที่ ๙๙๙,๙๙๙๙ บริษัท เวลเนส ปาร์ค เรสซิเด้นท์ จำกัด ทุนจดทะเบียน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท รายที่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บริษัท บ้านหลักเขตต์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ทุนจดทะเบียน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และรายที่ ๑,๐๐๐,๐๐๑ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.บี.ซี.เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ ซัพพลาย ทุนจดทะเบียน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๒ รายงานการจดทะเบียนนิติบุคคลทั่วประเทศในปีพ.ศ. ๒๕๕๓ ประกอบด้วย ข้อมูลนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ นิติบุคคลที่เพิ่มทุน นิติบุคคลที่ลดทุน และนิติบุคคลที่เลิกกิจการ ซึ่งได้จำแนกข้อมูลตามจำนวนรายและทุนของนิติบุคคล และทำการเปรียบเทียบกับข้อมูลของช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ปี พ.ศ. ๒๕๕๒) การจัดอันดับประเภทธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ เพิ่มทุน ลดทุน และเลิกกิจการ ๕ อันดับสูงสุด มูลค่าการลงทุนจากต่างชาติ ธุรกิจเด่น และนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่กระทรวงพาณิชย์ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อประโยชน์สำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการนำไปใช้วิเคราะห์และตัดสินใจในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
33434 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งฯ จำนวน ๒ ฉบับ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับอัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม พ.ศ. ๒๕๕๑ เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ ๕ เท่ากันทุกอัตรา ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับอัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ ตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ และกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ พ.ศ. ๒๕๕๒ เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ ๕ เท่ากันทุกอัตรา ๒. สำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นให้สำนักงาน ก.พ. ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
33435 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ ดังนี้ ๑.๑ พิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ กรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๒๙๒,๗๖๗ คน ๑.๒ พิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๔๔๙,๔๖๖ คน ๑.๓ กรณีของผู้ที่เงินเดือนเต็มขั้นให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด ๒. งบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
33436 | การปรับปรุงเพิ่มค่านิตยภัต | พศ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงเพิ่มค่านิตยภัตถวายพระสังฆาธิการ พระสมณศักดิ์ และพระเปรียญ ตามบัญชีอัตรานิตยภัตที่ขอปรับเพิ่มใหม่ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ โดยให้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป สำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นในการปรับอัตรานิตยภัตในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ จำนวน ๑๙๕,๕๗๒,๔๐๐ บาท ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
33437 | ปรับปรุงคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง | พศ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลฝ่ายสงฆ์แทนสมเด็จพระราชาคณะที่ถึงมรณภาพ ๒ รูป พระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานสถาปนาเลื่อนสมณศักดิ์ ๖ รูป และปรับรายนามสมเด็จพระมหาธีราจารย์ออกจากคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลฝ่ายสงฆ์ เนื่องจากมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ( ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33438 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ) (นางสาวจินตนาภา โสภณ) | วช | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวจินตนาภา โสภณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33439 | มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2553 มติ 8 การแก้ปัญหาวัยรุ่นไทยกับการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม | สช | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๓ มติ ๘ การแก้ปัญหาวัยรุ่นไทยกับการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามมติที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ให้คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติร่วมกับคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาจัดตั้งกลไกร่วมในการดำเนินการแปลงนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ และยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อมสู่แผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน ครอบคลุมทุกระดับ รวมทั้งจัดทำมาตรการเร่งด่วนในการจัดการปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแบบบูรณาการภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดร่วมกับองค์กรภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ดำเนินงานพัฒนาการเรียนการสอนเพศศึกษา (sexuality education) จริยธรรมและศีลธรรม และจัดให้มีระบบรองรับการแก้ปัญหานักเรียน นักศึกษาที่ตั้งครรภ์ในระหว่างการศึกษา โดยจัดให้มีกระบวนการเรียนการสอนเพศศึกษารอบด้านที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงทั้งการศึกษาในระบบและนอกระบบ โดยเริ่มตั้งแต่ปฐมวัย และให้สถานศึกษาปรับกระบวนการเรียนการสอนสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ตั้งครรภ์ให้มีความยืดหยุ่น เพื่อให้โอกาสนักเรียน นักศึกษาที่ตั้งครรภ์ได้รับการศึกษาจนจบหลักสูตรโดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ รวมทั้งให้สถานศึกษาร่วมกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบในการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบที่หลากหลายโดยคำนึงถึงสิทธิประโยชน์และการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33440 | รายงานสถานการณ์อาชญากรรมประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2554 | นร | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอรายงานสถานการณ์อาชญากรรมในรอบเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อาชญากรรมในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ มีการรับแจ้งความในคดีอาญา ๓ กลุ่ม รวมทั้งสิ้น ๘,๐๒๓ คดี เป็นกลุ่มคดีชีวิต ร่างกาย และเพศ ๒,๐๒๐ คดี กลุ่มคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ๓,๗๐๒ คดี และกลุ่มคดีที่น่าสนใจ ๒,๓๐๑ คดี สำหรับคดียาเสพติดมีการจับกุมผู้กระทำผิด ๒๑,๗๑๑ ราย ส่วนคดีประเภทอื่น ๆ (การพนัน ปรามการค้าประเวณี อาวุธปืน มีและเผยแพร่วัตถุลามก) มีการจับกุมต่ำสุด ๒. ประเด็นเฝ้าระวังด้านอาชญากรรม มีดังนี้ ๒.๑ การจับกุมตามการรับแจ้งความตลอดช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา พิจารณาแยกประเภทคดีความ พบว่าคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์มีอัตราการจับกุมเฉลี่ยต่ำเพียงร้อยละ ๑๖.๗ ของการรับแจ้งความ รวมทั้งคดีโจรกรรมรถยนต์ที่มีการจับกุมเพียงร้อยละ ๘.๔๗ ของการรับแจ้งความ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการสะสมของปัญหาการโจรกรรมรถจักรยานยนต์และการโจรกรรมรถยนต์ และอาจจะมีกลุ่มอาชญากรที่รอดพ้นจากการจับกุมและออกก่อคดีอย่างต่อเนื่องอีกจำนวนไม่น้อย จึงเป็นประเด็นเฝ้าระวังทางอาชญากรรมที่สำคัญ ๒.๒ คดีความเกี่ยวกับการมีและเผยแพร่วัตถุลามกซึ่งมีจำนวนที่ต่ำกว่าคดีความประเภทอื่น ๆ และอยู่ในความสนใจเป็นครั้งคราว แต่คดีความผิดประเภทนี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงในชีวิตเด็กและเยาวชนได้มาก รวมทั้งกระทบต่อค่านิยมไทยที่กำลังเสื่อมถอย นำมาซึ่งปัญหาสังคมต่าง ๆ เช่น การข่มขืน กระทำชำเรา และการค้าประเวณี โดยเฉพาะจากการเสนอข่าวของสื่อมวลชนจะพบประเด็นการลักลอบค้าประเวณีของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ทั้งเด็กหญิงและเด็กชายมีจำนวนเพิ่มขึ้น จึงเป็นประเด็นที่ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างสูงและมีการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจัง ๒.๓ การจับกุมคดียาเสพติดในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ แม้จะมีจำนวนที่น้อยกว่าการจับกุมในช่วงเดือนมกราคม ๒๕๕๔ แต่ยังเป็นสถิติการจับกุมที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนอื่น ๆ จึงเห็นควรเร่งรัดการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดโดยเฉพาะรายใหญ่พร้อมกับดำเนินมาตรการป้องกันโดยการสร้างครอบครัวให้อบอุ่น เสริมสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เสริมสร้างความรู้ในการป้องกันปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมต่าง ๆ รวมทั้งการใช้สื่อเพื่อสังคมทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่นเป็นช่องทางในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
|
.....