ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1680 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 33581 - 33600 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
33581 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้างและราคากลาง | นร | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้างและราคากลาง สรุปได้ ดังนี้
๑. กำหนดราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้างซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดราคากลาง ได้ว่าจ้างคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้าง โดยทำการศึกษา พิจารณา วิเคราะห์ จัดกลุ่ม และกำหนดรหัสมาตรฐานรายการงานก่อสร้างเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งกำหนดรหัสมาตรฐานรายการวัสดุก่อสร้างขึ้นมาใหม่เชื่อมโยงกับราคาวัสดุก่อสร้างของกระทรวงพาณิชย์ และการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดทำและปรับปรุงบัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้าง โดยพัฒนาโปรแกรมต้นแบบให้สอดคล้องกับระบบโครงสร้างรายการงาน และสามารถที่จะดึงข้อมูลราคาวัสดุจากกระทรวงพาณิชย์มาใช้ในการปรับปรุงราคาในบัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ๒. ศึกษารายละเอียดรายการงานในบัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้าง ได้ดำเนินการศึกษารายละเอียดรายการงานในบัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้างของสำนักงบประมาณ จำนวน ๒๓๐ รายการ เพื่อให้ทราบถึงรูปแบบปริมาณและลักษณะการถอดแบบของผู้ประมาณราคา ศึกษาฐานข้อมูลราคาวัสดุของกระทรวงพาณิชย์ และนำรายละเอียดมาจัดกลุ่ม กำหนดโครงสร้าง รหัสมาตรฐานรายการงาน ราคาต่อหน่วย รายการวัสดุก่อสร้างให้เป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐาน ๓. กำหนดราคากลางให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเป็นจริง ได้มีการเชื่อมโยงกับราคาวัสดุจากกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้ปรับราคาได้โดยอัตโนมัติ โดยประสานงานกับสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และกำลังดำเนินการวางระบบเพื่อจัดกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กำหนดรหัสมาตรฐานรายการวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะต้องตรวจสอบรวบรวมรายการวัสดุที่จะต้องใช้ในการก่อสร้างเพื่อกำหนดให้เป็นฐานข้อมูลที่มีมาตรฐานเดียวกัน |
||||||||||||||||||||||||
33582 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม - ธันวาคม 2553) ปีงบประมาณ 2554 | กค | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๑ (ตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๕๓) ปีงบประมาณ ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. ในช่วงไตรมาสที่ ๑ ของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ (ต.ค. - ธ.ค. ๕๓) สินค้าฟุ่มเฟือย ๑๗ กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม ๕๗๔.๙๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ ๒๕๕๓ (ต.ค. - ธ.ค. ๕๒) ๑๐๒.๘๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๒๑.๗๗ ๒. มูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในไตรมาสที่ ๑ ของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ แล้ว (๔๘,๓๕๒.๔๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ ๑.๑๙ ของมูลค่านำเข้ารวม ๓. เมื่อเปรียบเทียบมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในช่วงไตรมาสที่ ๑ ของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ กับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ ๒๕๕๓ ปรากฏว่ามีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจำนวน ๑๕ กลุ่ม ตั้งแต่ร้อยละ ๐.๓๔ ถึง ๑๗๑.๙๐ และมี ๒ กลุ่ม ที่มีมูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ ๒.๐๗ และ ๑๑.๐๐ ๔. สินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ ๔.๑ ผลไม้ มีมูลค่านำเข้า ๑๐๓.๘๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ๐.๓๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๐.๓๔ ๔.๒ น้ำหอมและเครื่องสำอาง มีมูลค่านำเข้า ๙๐.๒๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ๑๔.๒๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๑๘.๗๒ ๔.๓ นาฬิกาและอุปกรณ์ มีมูลค่านำเข้า ๖๔.๑๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ๓.๓๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๕.๔๗ ๕. สินค้าฟุ่มเฟือยในไตรมาสที่ ๑ ของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ (ต.ค. - ธ.ค. ๕๓) มีอัตราการนำเข้าเพิ่มขึ้น ๑๕ กลุ่ม เมื่อเปรียบเทียบ (ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ) กับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ ๒๕๕๓ (ต.ค. - ธ.ค. ๕๒) โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นสูงสุด ๕ อันดับแรก ได้แก่ เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ เลนซ์ กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ ดอกไม้ มีอัตราการนำเข้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๑๗๑.๙๐, ๕๖.๐๘, ๔๙.๔๐, ๔๑.๙๖ และ ๔๑.๓๔ ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||
33583 | รายงานผลการลงนามในสัญญาเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชียสำหรับเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (เงินกู้ Capital Market Development Program : CMDP) | กค | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการลงนามในสัญญาเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชียสำหรับเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (เงินกู้ Capital Market Development Program : CMDP) โดยเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้ เลขที่ 2665 - THA สำหรับเงินกู้ CMDP วงเงิน ๓๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์) เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย และ Mr. Kunio Senga, Director General, Southeast Asia Department เป็นผู้ลงนามในนามธนาคารพัฒนาเอเชีย โดยมีสาระสำคัญและเงื่อนไขเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทุกประการ
|
||||||||||||||||||||||||
33584 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | สสป | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีให้เป็นหน่วยงานหลักในการจัดประชุมพิจารณาดำเนินการจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทั้ง ๖ หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งรัดดำเนินการจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้อง (รวม ๙ เรื่อง) และจัดส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วนภายใน ๓๐ วัน เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ดังนี้ ๑.๑ การใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมืองควบคู่สนามบินสุวรรณภูมิ ๑.๒ การพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลของประเทศไทย ๑.๓ การป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการพัฒนาอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก กรณีศึกษาจังหวัดระยอง ๑.๔ แนวทางการแก้ไขวิกฤติยางพาราอย่างครบวงจร ๑.๕ ปัญหาเขาพระวิหารกรณีการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ๑.๖ การดำเนินการของรัฐต่อการคิดค่าเสียหายจากประชาชนในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ๑.๗ กลยุทธ์การสร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องต่อการท่องเที่ยวของไทย ด้วยแผนการป้องกัน โรคระบาดอุบัติใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๘ การปรับปรุงการบริหารจัดการและการบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ๑.๙ การจัดการอันตรายจากแร่ใยหินไครโซไทล์เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพผู้บริโภค ๒. ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) รับไปกำกับติดตามการดำเนินการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||
33585 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายนรินทร์ กัลยาณมิตร) | กค | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33586 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและสหประชาชาติว่าด้วยการสนับสนุนกองกำลังในภารกิจ UNAMID (African Union/United Nations Hybrid Operation in Darfur) | กห | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและสหประชาชาติว่าด้วยการสนับสนุนทรัพยากรในภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ (Memorandum of Understanding between the United Nations and the Kingdom of Thailand Contributing Resources to the African Union/United Nations Hybrid Operation in Darfur) ๑.๒ หากมีความจำเป็นต้องมีการจัดทำข้อตกลงเสริม (Supplementary Arrangements) ประกอบบันทึกความเข้าใจฯ ตามหลักการในมาตรา ๑๑ หรือจำเป็นต้องปรับแก้ไขบันทึกความเข้าใจดังกล่าวตามหลักการในมาตรา ๑๒ ในประเด็นที่มิใช่สาระสำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้ข้อกำหนดในบันทึกความเข้าใจฯ และเป็นไปตามกรอบที่คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๐ ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้เอง แล้วจึงรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ ๑.๓ ให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
33587 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี กรมศิลปากร พ.ศ. .... | กค | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมศิลปากร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคาสิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๑๐๐ ปี กรมศิลปากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
33588 | การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลี | ยธ | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดของสาธารณรัฐเกาหลีและหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานข้อมูลข่าวสารเพื่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดในเอเชียและแปซิฟิก โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์หลักในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านอาชญากรรมยาเสพติด ซึ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติการร่วมกันและการสืบสวนร่วม (Joint Operation/investigation) เพื่อปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายใหญ่และเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น การพัฒนาศักยภาพหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ ความช่วยเหลือทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการฝึกอบรมบุคลากร ๒. อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ กับอธิบดี (Director - General) ของสำนักงานอัยการสูงสุดของสาธารณรัฐเกาหลี
|
||||||||||||||||||||||||
33589 | แผนหลักการพัฒนาระบบขนส่งและจราจร พ.ศ. 2554 - 2563 | คค | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแผนหลักการพัฒนาระบบขนส่งและจราจร พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๓ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการชี้นำการพัฒนาและเป็นกรอบการดำเนินงานให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ตลอดจนภาคีภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างมีบูรณาการและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยแผนดังกล่าวมีเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ (Goals) และแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. เพื่อให้ประเทศเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางและการขนส่ง (Hub for Connectivity) โดยการเพิ่มประสิทธิภาพให้บริการของประตูการขนส่ง (Hub) ที่มีศักยภาพ และการปรับปรุงโครงข่ายเชื่อมโยง (Spoke) รวมถึงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การเดินทางและการขนส่ง ๒. เพื่อให้มีระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพและระดับการให้บริการที่ดีเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน (Accessibility) โดยการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การกำหนดรูปแบบและแนวเส้นทางขนส่งหลักระหว่างพื้นที่เศรษฐกิจภายในประเทศ ๓. เพื่อพัฒนาปรับปรุงการเดินทางและการขนส่งให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน มาตรฐานยานพาหนะ และสภาพแวดล้อมให้มีคุณภาพและความปลอดภัยในการเดินทางและการขนส่งโดยเฉพาะที่สำคัญคือ ต้องให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ จิตสำนึกและทักษะเรื่องความปลอดภัยด้านการขนส่ง ๔. เพื่อส่งเสริมการขนส่งที่ประหยัดพลังงาน (Energy Saving) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly) โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบการขนส่งทางรางและทางน้ำ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้มีการใช้พลังงานและยานพาหนะที่สะอาด ๕. เพื่อยกระดับการเข้าถึงและเพิ่มการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ (Public Transport) อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน โดยการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อถือได้ เข้าถึงสะดวก และมีค่าโดยสารที่เหมาะสม การปรับปรุงระบบการขนส่งเชื่อมโยงกับการขนส่งสาธารณะ และการส่งเสริมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อทดแทนการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลในการเดินทาง ๖. เพื่อเพิ่มความคล่องตัว (Mobility) ในการเดินทางและการขนส่ง โดยการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อลดปัญหาคอขวด เชื่อมต่อโครงข่ายการเดินทาง และการบริหารจัดการจราจร รวมทั้งสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึง และลดเวลาในการเดินทาง
|
||||||||||||||||||||||||
33590 | รายงานข้อมูลปัญหาอาชญากรรม (ในรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2554) | ตช | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอสรุปรายงานตามมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รอบเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ดังนี้
๑. ด้านการป้องกันอาชญากรรม ๑.๑ คดีกลุ่มที่ ๑ คดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ มีการรับแจ้งลดลงร้อยละ ๑๔.๙๕ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม ๒๕๕๔ และลดลงร้อยละ ๒๑.๘๙ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ๑.๒ คดีกลุ่มที่ ๒ คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ มีการรับแจ้งลดลงร้อยละ ๑๐.๒๔ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม ๒๕๕๔ และลดลงร้อยละ ๒๒.๐๘ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ๑.๓ คดีกลุ่มที่ ๓ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ มีการรับแจ้งลดลงร้อยละ ๑๐.๕๖ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม ๒๕๕๔ และลดลงร้อยละ ๑๙.๘๙ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ๒. ด้านการปราบปรามอาชญากรรม ๒.๑ คดีกลุ่มที่ ๑ รับแจ้ง ๓๖๔ คดี จับกุมได้ ๑๖๕ คดี ๒.๒ คดีกลุ่มที่ ๒ รับแจ้ง ๑,๙๙๐ คดี จับกุมได้ ๘๔๑ คดี ๒.๓ คดีกลุ่มที่ ๓ รับแจ้ง ๓,๖๕๒ คดี จับกุมได้ ๑,๓๖๕ คดี ๓. ด้านการประชาสัมพันธ์ ๓.๑ เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของตนเองให้มากยิ่งขึ้น โดยไม่เปิดโอกาสให้คนร้ายเข้ามาประทุษร้ายต่อทรัพย์ของตนเองได้ง่าย รวมทั้งการให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดของคนร้าย ๓.๒ กรณีที่การจับกุมผู้กระทำผิดในคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายในภาพรวม หรือกระทบต่อความสงบสุขในการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน ให้พิจารณาจัดแถลงข่าวทางสื่อมวลชนให้ประชาชนได้รับทราบ
|
||||||||||||||||||||||||
33591 | การจัดตั้งหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี | นร | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานผลการประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๔ สรุปผลการประชุมได้ ดังนี้ ๑.๑ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ในการจัดตั้งหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ ๑,๖๒๕ ตารางเมตร เพื่อเก็บรักษาและอนุรักษ์เอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเพื่อการจัดแสดง ส่งเสริม เผยแพร่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ภารกิจของงานอาลักษณ์ และงานพระราชพิธี โดยขอให้กรมธนารักษ์จัดสรรพื้นที่ของอาคารสำนักบริหารเงินตรา (เดิม) ซึ่งจะทำการปรับปรุงใหม่ จำนวนประมาณ ๒,๐๐๐ ตารางเมตร รวมทั้งงบประมาณในการออกแบบตกแต่ง โดยขอให้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๑๘ เดือน เพื่อจะได้รวบรวมวัตถุและเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพื่อนำไปจัดเก็บและจัดแสดงในพื้นที่ดังกล่าวภายใน ๖ เดือน เพื่อให้การดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมกับโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินของกรมธนารักษ์ ๑.๒ กรมธนารักษ์รับที่จะดำเนินการจัดหาพื้นที่ประมาณ ๑,๕๐๐ - ๒,๐๐๐ ตารางเมตร ภายในพิพิธภัณฑ์ทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน เพื่อทำเป็นหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยจะดำเนินโครงการภายในระยะเวลา ๒ ปี โดยกรมธนารักษ์จะเป็นผู้ออกแบบปรับปรุงอาคารกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้มีความต้องการที่ตรงกันต่อไป ทั้งนี้ ผู้แทนกระทรวงกลาโหมเห็นด้วยและยินดีให้สนับสนุนในด้านกำลังพล ๒. เห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการจัดตั้งหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) ดำเนินการจัดหาพื้นที่ประมาณ ๑,๕๐๐ - ๒,๐๐๐ ตารางเมตร ภายในพิพิธภัณฑ์ทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินเพื่อทำเป็นหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยดำเนินโครงการภายในระยะเวลา ๒๔ เดือน ซึ่งกรมธนารักษ์จะเป็นผู้ออกแบบปรับปรุงอาคาร โดยประสานงานกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้มีความต้องการสอดคล้องตรงกัน ส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
33592 | ร่างบันทึกความเข้าใจการเป็นเจ้าภาพจัดการอบรม The Regional Training Workshop on Repair, Refurbishment, Reconditioning of Used EEE and Recycling and Final Disposal of E-Wastes | ทส | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ ลงนามในบันทึกความเข้าใจการเป็นเจ้าภาพจัดการอบรม The Regional Training Workshop on Repair, Refurbishment, Reconditioning of Used EEE and Recycling and Final Disposal of E - Wastes ร่วมกับศูนย์ภูมิภาคอนุสัญญาบาเซลสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Basel Convention Regional Centre for South-East Asia : BCRC - SEA) ในระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๑ เมษายน ๒๕๕๔ ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33593 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 พ.ศ. .... ของวุฒิสภา | สผ | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกต ดังนี้ ๑.๑ ภาวะเศรษฐกิจ ควรดำเนินการประเมินการรายได้ของรัฐบาลให้มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริง และปรับปรุงเกณฑ์การคำนวณเงินเฟ้อให้สามารถสะท้อนระดับราคาสินค้าและการบริการในตลาดได้อย่างเหมาะสม ๑.๒ รายจ่ายเพื่อการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ ควรมีการตรวจสอบข้อมูลเอกสารประกอบคำขอรับการสนับสนุนงบประมาณอย่างถูกต้องรอบคอบ และให้ความสำคัญกับการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า รวมทั้งดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้ถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยไม่สามารถแบ่งการดำเนินโครงการเป็นโครงการย่อยได้ ๑.๓ รายจ่ายเป็นเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ควรจัดสรรงบประมาณให้ อปท. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้สูงอายุและผู้พิการหรือทุพพลภาพให้ได้รับเบี้ยยังชีพอย่างครบถ้วน ๑.๔ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ควรพิจารณาเรื่องการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนครบกำหนดโดยวิเคราะห์ด้วยความรอบคอบและคำนึงถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เพื่อระมัดระวังมิให้เกิดการขาดทุนจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... ของวุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกต ดังนี้ ๒.๑ ปรับลดงบประมาณในร่างมาตรา ๔ ร่างมาตรา ๗ และร่างมาตรา ๑๐ โดยแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. .... เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับลดงบประมาณ รวมทั้งได้กำหนดแหล่งที่มาของรายได้เพื่อชดใช้จ่ายจ่ายที่ได้ใช้เงินคงคลังจ่ายไปก่อน ๒.๒ นโยบายและการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ควรคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศต่างๆ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการจัดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การจัดสรรงบประมาณควรดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และกำหนดมาตรการป้องกันมิให้เกิดการทุจริต ๒.๓ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำแนกตามรายการค่าใช้จ่าย ดังนี้ ๒.๓.๑ รายจ่ายเพื่อการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการร่วมกันในการกำหนดแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ๒.๓.๒ รายจ่ายเพื่อเป็นเงินอุดหนุนให้ อปท. เพื่อจัดสรรเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยยังชีพผู้พิการหรือทุพพลภาพ ควรกำหนดแนวทางและมาตรการที่ชัดเจนในการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินตามโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุและโครงการสนับสนุนการเสริมสร้างสวัสดิการทางสังคมให้แก่ผู้พิการหรือทุพพลภาพเพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ๒.๓.๓ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ต้องมีการตรวจสอบเงินที่กระจัดกระจายในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้แทนการกู้เงินต่างประเทศ ๓. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงบประมาณ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
33594 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกรอบอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนสามัญในภาพรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐเพื่อย้ายข้าราชการไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านสังคม กลุ่มงานยุทธศาสตร์และการวางแผน | นร | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกรอบอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนสามัญในภาพรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐเพื่อย้ายนายจรัสโรจน์ บถดำริห์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (อำนวยการระดับสูง) ตำแหน่งเลขที่ ๒๙๕ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านสังคม (อำนวยการระดับสูง) ตำแหน่งเลขที่ ๓๑๖ กลุ่มงานยุทธศาสตร์และการวางแผน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33595 | ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 และปรับปรุงกฎกระทรวง กำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ | กค | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ เพื่อเพิ่มเติมบทนิยามกำหนดฐานเพื่อใช้ในการคำนวณค่าแสตมป์ยาสูบสำหรับยาเส้นและยาสูบ กำหนดจุดความรับผิดในอันจะต้องเสียค่าแสตมป์ยาสูบ การคืนค่าแสตมป์ยาสูบ การประเมินค่าแสตมป์ยาสูบ รวมทั้งกำหนดให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยการจัดเก็บค่าแสตมป์ยาสูบ และปรับปรุงหน่วยจัดเก็บค่าแสตมป์ยาสูบตามปริมาณให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
33596 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง เพื่อดำเนินงานโครงการส่งเสริมกีฬาและนันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต | นร | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๘๙,๐๕๗,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการส่งเสริมกีฬาและนันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33597 | การแต่งตั้งข้าราชการ (นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ) | พน | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33598 | การปรับราคาจำหน่ายสินค้านมสดพร้อมดื่มและน้ำมันพืชถั่วเหลือง | พณ | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การปรับราคาจำหน่ายสินค้านมสดพร้อมดื่มและน้ำมันพืชถั่วเหลือง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. นมสดพร้อมดื่ม คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาสินค้าผลิตภัณฑ์นมได้มีมติอนุมัติให้ปรับราคาจำหน่ายนมสดพร้อมดื่มสูงขึ้น ในขนาดบรรจุต่าง ๆ กล่อง/ขวด/แกลลอน ละ ๐.๒๕ - ๘.๕๐ บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ๒. น้ำมันพืชถั่วเหลือง คณะอนุกรรมการพิจารณาน้ำมันพืชบริโภคได้มีมติให้ปรับราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันพืชถั่วเหลือง จากขวดลิตรละ ๔๖.๐๐ บาท เป็น ๕๕.๐๐ บาท โดยให้ผู้ประกอบการรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นบางส่วน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ เป็นเวลา ๓ เดือน ซึ่งเท่ากับระยะเวลาที่กำหนดราคาจำหนายน้ำมันพืชปาล์ม ตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการเร่งผลิตและกระจายสินค้าออกสู่ตลาดโดยเร็วในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ภายในระยะเวลา ๑ สัปดาห์ เพื่อให้มีปริมาณน้ำมันพืชถั่วเหลืองเข้าสู่ตลาดอย่างเต็มที่และทั่วถึง
|
||||||||||||||||||||||||
33599 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2554 | กค | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๓,๓๑๕ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๘๗๓ โครงการ วงเงิน ๘,๓๗๖.๗๐ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๒,๔๔๒ โครงการ วงเงิน ๓๔๑,๕๘๓.๗๔ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๒,๖๗๑ โครงการ วงเงิน ๑๑,๘๑๑.๘๙ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒๐๔ โครงการ วงเงิน ๔,๖๒๓.๔๙ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๔๖๗ โครงการ วงเงิน ๗,๑๘๘.๔๐ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๙,๗๗๑ โครงการ วงเงิน ๓๒๙,๗๗๑.๘๕ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๙,๗๗๑ โครงการ วงเงิน ๓๒๐,๒๖๕.๐๒ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๒๓๔ โครงการ วงเงิน ๔๗,๑๖๖.๙๓ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน ๑๒,๗๓๙ โครงการ วงเงิน ๑๓๓,๑๒๘.๒๖ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๒๕,๗๙๘ โครงการ วงเงิน ๑๓๙,๙๖๙.๘๓ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๘,๕๓๗ โครงการ วงเงิน ๒๗๓,๐๙๘.๐๙ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
33600 | ขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ และขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอำนวยการ กำกับ ติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย | นร | 12/04/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อการซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ จำนวนทั้งสิ้น ๙๓๕,๓๖๔,๐๓๒ บาท ๒. อนุมัติงบประมาณเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย วงเงิน ๔,๕๒๐,๐๐๐ บาท
|
.....