คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย สภาพความเสียหาย ผลกระทบ และผลการดำเนินงานการให้ความช่วยเหลือ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
               ๑. สภาพความเสียหายและผลกระทบ หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น ๒,๖๕๒ แห่ง คิดเป็นมูลค่ารวม ๕,๐๘๓,๑๑๔,๗๒๓.๔๓ บาท หน่วยงาน นักศึกษา ครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัด ได้รับผลกระทบ จำนวน ๖๘๓,๔๖๒ คน
               ๒. ผลการดำเนินงานการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย
                   ๒.๑ แผนการปฏิบัติการฉุกเฉินและการฟื้นฟู ได้จัดทำแผนปฏิบัติการฉุกเฉินและแผนการฟื้นฟู เพื่อให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยแบ่งภารกิจเป็น ๓ ระดับ ดังนี้
                         ๒.๑.๑ ภารกิจเร่งด่วน ๑๖ ด้าน ได้แก่ ด้านการสนับสนุนที่พักพิง การสนับสนุนน้ำดื่มน้ำใช้ การสนับสนุนอาหารแก่ประชาชน การขนส่งประชาชนและส่งของ ระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง การสื่อสารและสารสนเทศ การรักษาพยาบาล การดูแลสัตว์เลี้ยงและรักษาสัตว์ การดูแลทรัพย์สินของประชาชน การจัดทำพนังกั้นน้ำ การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ การฝึกวิชาชีพ การเงินและงบประมาณ การส่งข่าวสารทาง Social Network การประชาสัมพันธ์ และการกำจัดขยะและการทำความสะอาด
                         ๒.๑.๒ ภารกิจหลัก ๕ ด้าน ได้แก่ การซ่อมแซมสถานศึกษาในสังกัด การช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา การซ่อมสร้างเพื่อชุมชน การจัดการเรียนรู้ และการฝึกอาชีพ
                         ๒.๑.๓ ภารกิจรอง โดยดำเนินการสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ การฟื้นฟูสุขภาพกายและใจ การฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม การผลิตพืชผัก ปศุสัตว์ และประมงเพื่อช่วยในการบริโภค และการฟื้นฟูสภาพน้ำและภูมิทัศน์
                   ๒.๒   จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยระดับกระทรวงและระดับพื้นที่ ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ ฯ ๙ แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนกลาง) และในพื้นที่จังหวัด ได้แก่ศูนย์ช่วยเหลือ ฯ จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดลพบุรี (รวมจังหวัดอ่างทอง) จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา (รวมจังหวัดปราจีนบุรี) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี และจังหวัดนครสวรรค์ (รวมจังหวัดอุทัยธานี และชัยนาท)
                   ๒.๓   จัดตั้งศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย ได้จัดศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ๒๗ จังหวัด จำนวน ๘๓๑ ศูนย์ รับคนได้ ๒๗๒,๗๒๓ คน และจัดที่จอดรถสำหรับผู้ที่ไม่สามารถจอดรถที่บ้านได้ จำนวน ๒๒,๔๓๘ คัน
                   ๒.๔   เปิดรับบริจาคและมอบสิ่งของช่วยเหลือ ได้รับเงินบริจาคเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน ๑๐๔,๐๙๙,๔๐๔ บาท และมีการจัดทำถุงยังชีพ เรือ แพ สุขา ส้วม ผ้าห่ม น้ำดื่ม ข้าวสาร และมุ้งเพื่อมอบให้ผู้ประสบอุทภัย รวมทั้งศูนย์การรักษาพยาบาล ๗ ศูนย์ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ๔ ศูนย์
                   ๒.๕   บริการวัสดุป้องกันน้ำแก่ประชาชน จัดให้บริการแจกจ่ายอิฐบล็อก ปูนซีเมนต์ และถุงทราย แก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ ๒๔ - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
                   ๒.๖   ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน จัดศูนย์บริการจำนวน ๔๑๕ ศูนย์ ให้บริการช่วยเหลือสถานศึกษาและประชาชนทั่วไปในการซ่อมแซมระบบไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องยนต์ เครื่องมือทางการเกษตร มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย โดยจัดนักศึกษาและครูจิตอาสา จัดฝึกอบรมทักษะวิชาชีพระยะสั้น
                   ๒.๗   จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ครูริมทาง ได้จัดการเรียนการสอนโดยการจัดครูริมทางใน ๓ ลักษณะ ได้แก่ การจัดครูสอนในศูนย์พักพิง การจัดสื่ออุปกรณ์ การเรียนสนับสนุนให้นักเรียนตามบ้านที่ประสบอุทกภัย และการจัดศูนย์เรียนรวม โดยจัดในโรงเรียนที่น้ำท่วมไม่ถึงเป็นศูนย์การเรียน
                   ๒.๘   จัดคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบอุทัย "ด้วยความห่วงใย ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)" ด้วยความร่วมมือร่วมใจอาสาช่วยหลือประชาชนของส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการกว่า ๓,๐๐๐ คน มีสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อนำสิ่งของเครื่องใช้ ถุงยังชีพ เรือท้องแบน แพไม้ไผ่ สุขาเคลื่อนที่ หน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ สัตวแพทย์จิตอาสา ห้องสมุดเคลื่อนที่ ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุนชนเคลื่อนที่ ให้บริการช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ
                   ๒.๙   การจับคู่จังหวัดให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทภัย โดยระดมสรรพกำลังภายในจังหวัดต่าง ๆ ที่มีศักยภาพไปช่วยเหลือพื้นที่จังหวัดและอำเภอที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้การช่วยเหลือแบบครบวงจร ได้จับคู่จังหวัดและมอบหมายใหน่วยงานในสังกัดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือต่าง ๆ
                   ๒.๑๐ บริการสายด่วน ๑๕๗๙ และศูนย์วิทยุสื่อสาร เครือข่ายเสมา เพื่อรับข้อมูลความเดือดร้อนและประสานการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย โดยส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลการขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับอุทกภัย เช่น การขอถุงยังชีพ การขอให้จัดรถ/เรือไปรับออกนอกพื้นที่ การขอรับอิฐ ปูน ถุงทราย และข้อมูลการเปิด - ปิดภาคเรียนของสถานศึกษา