ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1629 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32561 - 32580 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32561 | รายงานกิจการ งบดุล งบกำไรขาดทุน รอบปีบัญชี 2553 (1 เมษายน 2553 - 31 มีนาคม 2554) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการ งบดุล งบกำไรขาดทุน รอบปีบัญชี ๒๕๕๓ (๑ เมษายน ๒๕๕๓ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔)
ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. เงินให้สินเชื่อขยายตัวสูงขึ้น ณ สิ้นปีบัญชี ๒๕๕๓ ธ.ก.ส. มีสินเชื่อคงค้างจำนวน ๕๗๗,๕๙๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปีบัญชี ๒๕๒๒ จำนวน ๗๒,๗๐๗ ล้านบาท ได้แก่ สินเชื่อเกษตรกรรายคน จำนวน ๕๑๕,๗๘๖ ล้านบาท สินเชื่อสหกรณ์การเกษตร จำนวน ๓๕,๔๗๙ ล้านบาท และสินเชื่อกลุ่มเกษตรกร จำนวน ๑๑๙ ล้านบาท ๒. เงินกองทุนเพิ่มขึ้น ณ สิ้นปีบัญชี ๒๕๕๓ ธ.ก.ส. มีเงินกองทุนทั้งสิ้น จำนวน ๘๑,๗๓๐.๒๓ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีบัญชี ๒๕๒๒ ที่มีเงินกองทุนจำนวน ๗๓,๕๕๖.๖๘ ล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญจากการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ของกระทรวงการคลัง สถาบันเกษตรกร สถาบันการเงิน และเอกชน ๓. จำนวนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ลดลง ณ สิ้นปีบัญชี ๒๕๕๓ ธ.ก.ส. มีหนี้ NPLs จำนวน ๓๗,๔๓๒ ล้านบาท ลดลงจากปีบัญชี ๒๕๕๒ จำนวน ๓๙,๖๒๙ ล้านบาท มีต้นเงินคงเป็นหนี้ จำนวน ๕๗๐,๐๘๒ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๒ จำนวน ๔๙๗,๔๕๕ ล้านบาท ๔. กำไรสุทธิ ปีบัญชี ๒๕๕๓ ธ.ก.ส. มีกำไรสุทธิ จำนวน ๘,๐๑๒ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีบัญชี ๒๕๕๒ ที่มีกำไรสุทธิจำนวน ๗,๘๒๑ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
32562 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคูหาสวรรค์ ตำบลท่ามิหรำ ตำบลตำนาน และตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง พัทลุง จังหวัดพัทลุง พ.ศ. .... | คค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคูหาสวรรค์ ตำบลท่ามิหรำ ตำบลตำนาน และตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคูหาสวรรค์ ตำบลท่ามิหรำ ตำบลตำนาน และตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง เพื่อสร้างทางหลวงชนบท ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองพัทลุง เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32563 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีการเช่าอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ และทำเนียบเอกอัครราชทูต | กต | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๐ ตามนัยมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเช่าอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ และทำเนียบเอกอัครราชทูต จำนวน ๑๐ แห่ง ประกอบด้วย ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก ทำเนียบเอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวร ณ กรุงจาการ์ตา ที่ทำการฝ่ายกงสุลสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ และที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา เป็นเงินผูกพันตลอดระยะเวลาสัญญาเช่าทั้งสิ้น ๒๑๗,๐๐๓,๖๐๐ บาท หรือไม่เกินวงเงินผูกพันตลอดระยะเวลาเช่าตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32564 | ขอความเห็นชอบชื่อสะพานและสัญลักษณ์ของสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม - คำม่วน) | คค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการใช้ชื่อสะพานและสัญลักษณ์ของสะพานมิตรภาพ ๓ ระหว่างนครพนม - คำม่วน ตามความเห็นของคณะกรรมการจัดทำร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. ชื่อสะพาน ใช้ชื่อสะพานว่า “สะพานมิตรภาพ ๓ (นครพนม - คำม่วน) ๒. สัญลักษณ์ เขียนชื่อสะพานเป็น ๓ ภาษา คือ ภาษาไทย ลาว และอังกฤษ อยู่ภายในกรอบวงกลม ตรงกลางมีรูปเสาสัญลักษณ์และพื้นสะพานมุ่งหน้าไปหาฝั่งตรงกันข้าม ด้านบนมีรูปธงชาติของทั้งสองประเทศ โดยตราสัญลักษณ์ดังกล่าวจะนำไปติดตั้งแสดงบนสะพานเป็นการถาวรเพื่อเป็นการแบ่งกรรมสิทธิ์สะพานของแต่ละประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
32565 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สาย ง ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองชัยภูมิ ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32566 | ขอปรับเพิ่มเงินลงทุน (Cost Overrun) โครงการขยายเขตติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะศรีบอยา เกาะปู และเกาะพีพีดอน จังหวัดกระบี่ | มท | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติปรับเพิ่มเงินลงทุน (Cost Overrun) โครงการขยายเขตติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะศรีบอยา เกาะปู และเกาะพีพีดอน จังหวัดกระบี่ วงเงิน ๑๑๖ ล้านบาท ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการดำเนินโครงการของ กฟภ. ในโอกาสต่อไป หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มวงเงินลงทุนจากที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบไว้ ควรขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะไปดำเนินการก่อหนี้ผูกพัน เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อไป ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
32567 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 สายปากเกร็ด - นครราชสีมา ที่กรมการกงสุล เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๔ สายปากเกร็ด - นครราชสีมา ที่กรมการกงสุล เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๔ สายปากเกร็ด - นครราชสีมา ที่กรมการกงสุล เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32568 | โครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ระยะที่ 3 | มท | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ระยะที่ ๓ (คชฟ. ๓) ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการต่อเนื่องจากโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า และโครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ระยะที่ ๒ โดยติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงขึ้น ปรับปรุงเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าโดยมุ่งเน้นในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม พื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่เทศบาลนคร พื้นที่เมืองธุรกิจ พื้นที่สำคัญ และพื้นที่พิเศษ ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๘ วงเงินลงทุนรวม ๑๕,๑๕๕ ล้านบาท โดยใช้จากเงินกู้ในประเทศ วงเงิน ๑๑,๓๖๕ ล้านบาท และเงินรายได้ของ กฟภ. วงเงิน ๓,๗๙๐ ล้านบาท และให้ความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศ วงเงิน ๑๑,๓๖๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้ กฟภ. รับความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด โดยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับช่วงเวลา (Peak Hour และ Off Peak) การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่ได้รับการติดตั้งมิเตอร์ระบบอ่านหน่วยอัตโนมัติ (Automatic Meter Reading : AMR) ให้ใช้ข้อมูล Load Profile ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าและลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของตนเอง การปรับปรุงกรอบวงเงินลงทุนของแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐ ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน การกำหนดบทบาทของ กฟภ. ในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนระหว่าง กฟภ. และบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) เพื่อประโยชน์ต่อการจัดทำแผนการลงทุนและแผนการบริหารจัดการ การให้รัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้าทั้ง ๓ แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กฟภ. และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ประสานสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) เพื่อเร่งศึกษาและปรับปรุงข้อมูลค่าความเสียหายเนื่องจากไฟฟ้าดับ (Outage Cost) รวมทั้งการให้ กฟภ. บริหารความเสี่ยงด้านต้นทุนโครงการกรณีที่อาจมีปัจจัยทำให้ต้นทุนโครงการสูงขึ้นจากที่ประมาณการไว้ และความเห็นของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานที่เห็นควรให้ กฟภ. รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของโครงการตามแผนการลงทุน และนำเสนอผลการวิเคราะห์ผลกระทบในมิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการพลังาน อาทิ มาตรฐานคุณภาพบริการ อัตราค่าบริการในการประกอบกิจการพลังงาน และความเหมาะสมและประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามแผน สำหรับกรณีแผนงานขยายระบบโครงข่ายพลังงาน ให้มีการศึกษา วิเคราะห์ และปรับปรุงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนสามารถนำไปวิเคราะห์ในมิติของการกำกับดูแลกิจการพลังงาน ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
32569 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคลองประเวศ ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำบลคลองสวน ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และแขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคลองประเวศ ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำบลคลองสวน ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และแขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๔ กับถนนหลวงแพ่ง ในท้องที่ตำบลคลองประเวศ ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำบลคลองสวน ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และแขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32570 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างและขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 สายหนองคาย - ต่อเขตเทศบาลนคร อุบลราชธานีควบคุม ตอนทางเลี่ยงเมืองมุกดาหารด้านใต้ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างและขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๒ สายหนองคาย - ต่อเขตเทศบาลนครอุบลราชธานีควบคุม ตอนทางเลี่ยงเมืองมุกดาหารด้านใต้ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างและขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๒ สายหนองคาย - ต่อเขตเทศบาลนครอุบลราชธานีควบคุม ตอนทางเลี่ยงเมืองมุกดาหารด้านใต้ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32571 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของกรมทางหลวง | คค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของกรมทางหลง จาก รายการค่าสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษเชื่อมระหว่างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ กับทางหลวงหมายเลข ๔ เป็น รายการค่าจ้างที่ปรึกษา การสำรวจออกแบบเบื้องต้น และการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางหลวงพิเศษเชื่อมระหว่างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ กับทางหลวงหมายเลข ๔ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32572 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน ในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องการร้องทุกข์จากประชาชน ในไตรมาสที่ ๓ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ และข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ สถิติการแจ้งเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน จำแนกตามช่องทางการร้องทุกข์ ๑๑๑๑ (๔ ช่องทาง) รวมทั้งสิ้น ๓๐,๓๑๘ ครั้ง โดยผ่านช่องทางสายด่วนของรัฐบาล ๑๑๑๑ มากที่สุด รองลงมาคือช่องทางเว็บไซต์ www.1111.go.th ช่องทางตู้ ปณ.๑๑๑๑/ไปรษณีย์/โทรสาร และช่องทางจุดบริการประชาชน ๑๑๑๑ ตามลำดับ ๑.๒ จำนวนเรื่องร้องทุกข์จำแนกตามประเภทเรื่องรวมทั้งสิ้น ๑๙,๙๕๓ เรื่อง โดยร้องทุกข์ในประเภทเรื่องขอให้ซ่อมแซมไฟฟ้ากับขยายและติดตั้งปรับปรุงระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า รองลงมาคือเหตุเดือดร้อนรำคาญจากเสียงดัง/กลิ่นเหม็น และฝุ่นละอองจากบ้านเรือนและผู้ประกอบการ และขอความช่วยเหลือเร่งรัดการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามลำดับ ๑.๓ จำนวนเรื่องร้องทุกข์และผลการดำเนินการจำแนกตามหน่วยงาน [ไม่รวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และจังหวัด] รวมทั้งสิ้น ๖,๓๘๐ เรื่อง โดยหน่วยงานที่มีเรื่องร้องทุกข์ในความรับผิดชอบมากที่สุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการคลัง สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีเรื่องร้องทุกข์มากที่สุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ๑.๔ จำนวนเรื่องร้องทุกข์และผลการดำเนินการจำแนกตาม อปท. และจังหวัด รวมทั้งสิ้น ๕,๒๘๙ เรื่อง โดยกรุงเทพมหานครมีเรื่องร้องทุกข์มากที่สุด รองลงมาคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา ๑.๕ ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งผ่านทางศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ ขอให้เพิ่มการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งล่วงหน้าให้ชัดเจนและทั่วถึง การติดตั้งป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครบดบังทัศนวิสัยของผู้ใช้รถใช้ถนน การใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ผู้มีสิทธิควรต้องลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตเป็นรายครั้ง และไม่เห็นด้วยกับกรณีมีการติดตั้งป้ายรูปสัตว์ที่มีข้อความว่า “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” รวมทั้งการเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยกากบาทที่ช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน (VOTE NO) เป็นต้น ๒. เห็นชอบให้ส่วนราชการให้ความสำคัญกับการเร่งรัดดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ให้มีผลเป็นที่ยุติด้วยความเป็นธรรมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||
32573 | การแต่งตั้งข้าราชการ (สำนักนายกรัฐมนตรี) | นร | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเจษฎา ประกอบทรัพย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ
(นักทรัพยากรบุคคลเชี่ยวชาญ) สำนักงาน ก.พ. ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32574 | การถอดถอนกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองแคนซัส มลรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา | กต | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถอดถอน นางแมรี่ ฟรานเซส เคิร์กแพทริก ออกจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองแคนซัส มลรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32575 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | รง | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี คงอยู่ ปรับปรุงองค์ประกอบและ/หรืออำนาจหน้าที่ และแต่งตั้งใหม่ รวม ๑๐ คณะ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. คงคณะกรรมการ จำนวน ๖ คณะ เพื่อปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่เดิมต่อไป ๒. ปรับปรุงองค์ประกอบและ/หรืออำนาจหน้าที่บางส่วน จำนวน ๓ คณะ เพื่อปฏิบัติงานต่อไป ๓. แต่งตั้งใหม่ จำนวน ๑ คณะ คือ คณะกรรมการบริหารมาตรฐานแรงงาน มีปลัดกระทรวง แรงงาน เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ และกรรมการอื่น รวม ๑๗ ราย มีหน้าที่กำหนดนโยบาย กลยุทธ์ แนวทางการบริหารและการส่งเสริม สนับสนุนให้มีการพัฒนามาตรฐานแรงงานไทยในสถานประกอบกิจการ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กำหนดกรอบแนวทางในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมสนับสนุนและสร้างการยอมรับการพัฒนามาตรฐานแรงงานไทยสู่สากล เพื่อเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมด้านแรงงานของธุรกิจไทย เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
32576 | การแต่งตั้งกรรมการผู้แทนฝ่ายรัฐบาลในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 18 | รง | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายบุญนริศร์ สุวรรณพูล รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ ๑๘ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลือของกรรมการที่แทน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
32577 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | กค | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แทน นายดุสิต นนทะนาคร ที่ถึงแก่กรรม ตามที่รัฐมนตรีตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32578 | รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ในช่วง 6 เดือนแรก (1 ตุลาคม 2553 - 31 มีนาคม 2554) | นร | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ในช่วง ๖ เดือนแรก (๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔) ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบตามมาตรา ๑๖๙ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายฯ มีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
๑. การโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ในช่วง ๖ เดือนแรก (๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔) มีการโอนงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นจำนวน ๒,๘๘๑.๙๗๒ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๑๔ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวนทั้งสิ้น ๒,๐๗๐,๐๐๐ ล้านบาท จำแนกเป็น การโอนงบประมาณรายจ่ายโดยใช้อำนาจของหัวหน้าส่วนราชการ (ระเบียบฯ ข้อ ๒๔ - ๒๖) จำนวน ๓๙๔.๒๓๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๒ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ และเป็นการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการที่ต้องขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ (ระเบียบฯข้อ ๒๗) จำนวน ๒,๔๘๗.๗๓๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๑๒ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ลักษณะในการโอนงบประมาณรายจ่าย มีดังนี้ ๒.๑ เป็นการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลหรือตามมติคณะรัฐมนตรี และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานหรือเป้าหมายการดำเนินงานของส่วนราชการ จำนวน ๑,๙๐๕,๓๙๓,๘๔๖ บาท ๒.๒ เป็นการโอนงบประมาณเพื่อชดใช้คืนรายการผูกพันที่ยืมจากปีที่ผ่านมา จำนวน ๓๖๐,๑๘๗,๔๑๖ บาท ๒.๓ เป็นการโอนงบประมาณระหว่างหน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด จำนวน ๖๐๔,๕๖๘,๑๕๔ บาท ๒.๔ เป็นการโอนไปจ่ายเป็นเงินชดเชยค่างานตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) เป็นค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายของข้าราชการที่เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว จำนวน ๑๑,๘๒๒,๔๙๙ บาท
|
|||||||||||||||||||||
32579 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระในคณะกรรมการบริหารสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ | กห | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน การบัญชีและงบประมาณ การตรวจสอบประเมินผล และการบริหารความเสี่ยงในคณะกรรมการบริหารสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32580 | การประชุม Asian and Pacific Regional Preparatory Meeting for the UN Conference on Sustainable Development และการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2012 | ทส | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักสำหรับการประชุม Asian and Pacific Regional Preparatory Meeting for the UN Conference on Sustainable Development ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี และการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๑๒ (United Nations Conference on Sustainable Development : UNCSD) หรือ Rio+20 ณ นครรีโอ เดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างวันที่ ๔ - ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ ๑.๒ อนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเตรียมการและเข้าร่วมการประชุม Asian and Pacific Regional Preparatory Meeting for the UN Conference on Sustainable Development ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๔ และการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๑๒ ณ นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ๒๕๕๕ วงเงิน ๑๒๑,๙๐๔,๐๗๕ บาท ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดให้มีขั้นตอนการเตรียมการทั้งในด้านสารัตถะและประเด็นท่าทีของประเทศไทยสำหรับการเข้าร่วมประชุม โดยหารือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป โดยการเบิกจ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ตามความเห็นของกระทรวงการคลังด้วย |
.....