ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1624 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 32461 - 32480 จากข้อมูลทั้งหมด 124466 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 32461 | ขออนุมัติงบกลางเพื่อให้จังหวัดและส่วนราชการใช้จ่ายในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้แก่จังหวัดและส่วนราชการใช้ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ไปพลางก่อน วงเงินงบประมาณรวม ๒,๖๕๐ ล้านบาท โดยมีหลักเกณฑ์รวม ๖ ข้อ ตามมติคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) เสนอ โดยในส่วนของหลักเกณฑ์มีรายละเอียด ดังนี้
๑. จัดสรรให้จังหวัดที่กระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้สนับสนุนช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ๑ จังหวัด ๑ เขต กรุงเทพมหานคร + จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม รวม ๒๕ จังหวัด จังหวัดละ ๕๐ ล้านบาท เป็นเงิน ๑,๒๕๐ ล้านบาท (เพื่อใช้จ่ายสำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน ๑ จังหวัด ต่อ ๑ เขต ใน ๒๒ เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตบางพลัด ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค บางกอกน้อย ภาษีเจริญ หนองแขม บางบอน จอมทอง บางกอกใหญ่ บางขุนเทียน บางเขน หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว ดอนเมือง สายไหม หนองจอก คลองสามวา มีนบุรี คันนายาว และบึงกุ่ม และ อีก ๓ จังหวัด สำหรับจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม) ๒. จัดสรรให้ส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แห่งละ ๑๐๐ ล้านบาท กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แห่งละ ๕๐ ล้านบาท รวมเป็นเงินงบประมาณ ๑,๔๐๐ ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายสำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ๓. ให้จังหวัดและส่วนราชการใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเหตุเฉพาะหน้าก่อน และจะต้องควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับงบประมาณอื่นใดของทางราชการ โดยให้กระทรวงที่ได้รับอนุมัติงบประมาณทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ๔. การเบิกจ่ายงบประมาณให้จังหวัดและส่วนราชการดำเนินการ ดังนี้ ๔.๑ การจัดซื้อจัดจ้างให้ปฏิบัติตามหนังสือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ กรมบัญชีกลางที่ กค (กวพ) ๐๔๒๑.๓/ว ๓๘๒ ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๔.๒ ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ ๔.๓ ค่าใช้จ่ายในการบริหารของส่วนราชการ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ๕. ระยะเวลาในการดำเนินงานและการเบิกจ่าย ให้จังหวัดและส่วนราชการที่ได้รับงบประมาณดำเนินการได้ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ ๖. ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณควบคุม กำกับดูแลการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และรายงานการใช้จ่ายเงินงบประมาณตามที่สำนักงบประมาณกำหนด
|
||||||||||||||||||
| 32462 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย | กค | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ คน โดยให้เริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ๑.๒ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ กรรมการ ๑.๓ ศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก วรเดช จันทรศร กรรมการ ๑.๔ นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล กรรมการ ๑.๕ นายเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ กรรมการ ๒. ยกเว้น นายเข็มชัย ชุติวงศ์ ให้เริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการมีมติอนุมัติ
|
||||||||||||||||||
| 32463 | หลักเกณฑ์การวิเคราะห์โครงการเพื่อจัดลำดับความสำคัญและตรวจสอบความพร้อมด้านต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การวิเคราะห์โครงการเพื่อจัดลำดับความสำคัญและตรวจสอบความพร้อมด้านต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. หลักเกณฑ์การวิเคราะห์โครงการเพื่อจัดลำดับความสำคัญและตรวจสอบความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ๑.๑ มีความพร้อมของแบบรูปรายการ และประมาณราคา พร้อมทั้งแสดงสถานที่ก่อสร้างให้ชัดเจน ๑.๒ มีข้อมูลแสดงระดับความเสียหาย เสียหายทั้งหมด ๘๐ - ๑๐๐% เสียหายบางส่วน ๔๐ - ๘๐% เสียหายเล็กน้อยไม่เกิน ๔๐% ๑.๓ ต้องไม่เกิดภาระงบประมาณในการบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ๑.๔ สรุปทางเลือกในการดำเนินการ ๑.๔.๑ ไม่สามารถที่จะใช้งานสิ่งก่อสร้างเดิมได้เลย ต้องก่อสร้างใหม่อย่างเร่งด่วน เห็นควรสนับสนุนงบประมาณ ๑.๔.๒ สามารถใช้งานสิ่งก่อสร้างเดิมได้ โดยต้องปรับปรุงหรือซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างเดิมอย่างเร่งด่วน เห็นควรสนับสนุนงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม ๑.๔.๓ สามารถใช้งานสิ่งก่อสร้างเดิมได้ โดยปรับปรุงเล็กน้อย เห็นควรสนับสนุนงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม ๑.๔.๔ ไม่สามารถที่จะใช้งานสิ่งก่อสร้างเดิมได้เลย ถ้าก่อสร้างใหม่จะใช้เวลามากกว่า ๑ ปี เห็นควรเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒. หลักเกณฑ์การวิเคราะห์โครงการเพื่อจัดลำดับความสำคัญและตรวจสอบความพร้อมด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน ๒.๑ มีข้อมูลแสดงระดับความเสียหายด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน เสียหายทั้งหมด ๘๐ - ๑๐๐% เสียหายบางส่วน ๔๐ - ๘๐% เสียหายเล็กน้อย ไม่เกิน ๔๐% ๒.๒ มีการแสดงประโยชน์ของโครงการอย่างชัดเจน ๒.๓ มีรายละเอียดแผนงานการดำเนินงานที่แสดงถึงรายละเอียดสถานที่ กิจกรรม ปริมาณ กลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลา และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ๒.๔ มีประมาณการรายละเอียดค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการ ๒.๕ สรุปทางเลือกในการดำเนินการ ๒.๕.๑ มีความพร้อม ความเหมาะสม และความเร่งด่วน เห็นควรสนับสนุนงบประมาณตามคำขอ ๒.๕.๒ มีความพร้อมและมีประโยชน์ในบางกิจกรรม เห็นควรสนับสนุนงบประมาณเฉพาะกิจกรรมตามความจำเป็นและเหมาะสม ๒.๕.๓ ขาดความพร้อมและไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เห็นควรเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๓. หลักเกณฑ์การวิเคราะห์โครงการเพื่อจัดลำดับความสำคัญและตรวจสอบความพร้อมด้านการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ๓.๑ มีข้อมูลปริมาณและสถานบุคคลหรือครัวเรือนของผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือ ๓.๒ มีการแสดงประโยชน์ของโครงการอย่างชัดเจน ๓.๓ มีรายละเอียดสถานที่ กิจกรรม/โครงการ ปริมาณกลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลา และหน่วยงานรับผิดชอบ ๓.๔ มีประมาณการรายละเอียดค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการ ๓.๕ สรุปทางเลือกในการดำเนินการ ๓.๕.๑ มีความพร้อมและมีประโยชน์สูง เห็นควรสนับสนุนงบประมาณตามคำขอ ๓.๕.๒ มีความพร้อมและมีประโยชน์ในบางกิจกรรม เห็นควรสนับสนุนงบประมาณเฉพาะกิจกรรม ๓.๕.๓ ขาดความพร้อมและไม่เร่งด่วน เห็นควรเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี
|
||||||||||||||||||
| 32464 | การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ แนวทางและหลักเกณฑ์การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเสนอคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เฉพาะรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ โดยมีแนวทางและหลักเกณฑ์ ดังนี้ ๑.๑.๑ ให้ความสำคัญกับการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและความเป็นอยู่ของประชาชน และด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งการป้องกัน แก้ไขปัญหาภัยพิบัติของประเทศอย่างยั่งยืน ๑.๑.๒ เป็นรายจ่ายที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจนต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ (๑) ไม่ทำให้เกิดภาระรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นเป็นไปเพื่อประโยชน์โดยตรงต่อประชาชน (๒) ไม่ควรผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป และ (๓) ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น มีศักยภาพที่จะดำเนินงานและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที ๑.๒ ขั้นตอนในการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ๑.๒.๑ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นจัดทำคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ได้มีการตรวจสอบและรับรองข้อมูลแล้วว่าการดำเนินการนั้นไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ กฎหมายหรือระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และให้เสนอขอรับความเห็นชอบต่อนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด รวมทั้งรวบรวมจัดส่งให้สำนักงบประมาณภายในวันจันทร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๑.๒.๒ หน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรตามรัฐธรรมนูญให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๑๖๘ วรรคเก้า ที่กำหนดว่า “หากหน่วยงานดังกล่าวเห็นว่างบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรให้นั้นไม่เพียงพอ ให้สามารถเสนอคำขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการได้โดยตรง” ทั้งนี้ ให้ยื่นคำขอแปรญัตติต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยตรง ภายในวันจันทร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อที่สำนักงบประมาณจะได้นำไปประมวลภาพรวมการขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ๑.๒.๓ ให้สำนักงบประมาณพิจารณาคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และนำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ เพื่อนำเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ต่อไป ๒. ให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อความในข้อ ๑.๑.๒ (๒) จาก “(๒) ไม่ควรผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป” เป็น “(๒) ไม่ควรผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป ยกเว้นกรณีตามข้อ ๑.๑”
|
||||||||||||||||||
| 32465 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (จำนวน ๓ คน) แทนกรรมการที่ขอลาออก ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายชุมพล ศิลปอาชา) เสนอ ดังนี้
๑. นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม เป็นประธานกรรมการ ๒. นายธงชัย ศรีดามา เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางโสภาพรรณ อมตะเดชะ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||
| 32466 | ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. .... | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า การดำเนินงานของรัฐบาลทุกเรื่องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ สำหรับการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. .... ก็ดำเนินการในหลักการเดียวกันนี้ ทั้งยังได้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนและธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติและเอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ
|
||||||||||||||||||
| 32467 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ และครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ รวมทั้งพิจารณาแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญทั่วไป) ในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||
| 32468 | การกำหนดนโยบาย แนวทางบริหารจัดการเรื่องน้ำ และการกำกับดูแลและติดตามการกู้วิกฤตภัยธรรมชาติ | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. การกำกับ ดูแล และติดตามการกู้วิกฤตภัยธรรมชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ (เรื่อง มอบหมายรัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการกู้วิกฤตจากภัยธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน) เห็นควรกำหนดผู้รับผิดชอบเพิ่มเติม โดยให้รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทุกท่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแล และติดตามการดำเนินการกู้วิกฤตภัยธรรมชาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ที่เกิดอุทกภัย จำนวน ๕๘ จังหวัด เพื่อดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จะได้จัดทำเป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีให้ชัดเจนต่อไป ๒. นโยบายเรื่องน้ำเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้มีแนวทางการบริหารจัดการภัยพิบัติด้านอุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมที่เหมาะสม สามารถแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ เห็นควรให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณากำหนดนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการน้ำในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๓. การรณรงค์ปลูกป่าและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) และรองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการเพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน (กศอ.) รับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรณรงค์การปลูกป่าและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง ๔. แผนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ๔.๑ ให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการรับแจ้งการขอความช่วยเหลือจากผู้ประสบอุทกภัย และการตอบคำถามหรือประเด็นปัญหาต่าง ๆ ไว้อย่างพร้อมเพรียง ๔.๒ หากกระทรวงหรือหน่วยงานใดมีความประสงค์จะเพิ่มเติมข้อมูลจากแผนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ได้กำหนดไว้แล้ว ให้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยด่วนเพื่อพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป และในกรณีที่กระทรวงหรือหน่วยงานใดมีความประสงค์ที่จะประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ให้ประสานงานกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||
| 32469 | ผลการประชุม ASEAN SUMMIT ครั้งที่ 19 และการอัญเชิญพระธาตุเขี้ยวแก้วมายังประเทศไทย (มีการปรับแก้ไขมติฯ) | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ตามผลการประชุม ASEAN SUMMIT ครั้งที่ ๑๙ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่ประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย มีประเด็นการหารือในเรื่องที่สำคัญ เช่น แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงในอาเซียน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนและสนับสนุนการรวมตัวของอาเซียนในด้านต่าง ๆ การเชื่อมโยงอาเซียนด้านคมนาคม การป้องกันอุทกภัยและภัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการและป้องกันภัยพิบัติ และการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร เป็นต้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานตามประเด็นหารือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย จึงควรมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำสรุปผลการประชุม ASEAN SUMMIT ครั้งที่ ๑๙ ให้แล้วเสร็จโดยด่วน เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีทราบก่อนมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดรายละเอียดและจัดลำดับความสำคัญของประเทศและประเด็นการหารือที่ประเทศไทยจะประชุมหารือกับประเทศสมาชิกอาเซียนเกี่ยวกับแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการป้องกันปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียนต่อไป ๑.๓ ให้ทุกกระทรวงพิจารณาว่า มีความประสงค์จะขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยหรือไม่ประการใด และแจ้งรายละเอียดความต้องการไปยังกระทรวงการต่างประเทศโดยด่วนเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลักรับไปประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อดำเนินการอัญเชิญพระธาตุเขี้ยวแก้วมายังประเทศไทยเพื่อให้ประชาชนชาวไทยสักการะต่อไป
|
||||||||||||||||||
| 32470 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตราชเทวี และเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | คค | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตราชเทวี และเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตราชเทวี และเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างทางพิเศษสายแจ้งวัฒนะ - บางโคล่ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
| 32471 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสุจิตรา อังคศรีทองกุล ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ ด้านวิจัย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 32472 | รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีราษฎรร้องทุกข์เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำภูทับฟ้า ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย | ทส | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีราษฎรร้องทุกข์เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำ ภูทับฟ้า ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เนื่องจากมีการพบว่ามีปริมาณสารปรอทสูง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำ ระหว่างวันที่ ๑ - ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ พบว่าตัวอย่างน้ำที่เก็บจากบริเวณห้วยเหล็ก ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย มีปริมาณสารไซยาไนด์อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด แต่มีปริมาณสารหนูเกินมาตรฐานน้ำผิวดิน และไม่พบว่ามีสารปรอทในตัวอย่างน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด ๒. กรมทรัพยากรธรณีได้ตรวจสอบการปนเปื้อนของมลสาร ระหว่างเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ๒๕๕๔ โดยเก็บตัวอย่างดินและตะกอนท้องน้ำ จำนวน ๔๑ ตัวอย่าง เพื่อวิเคราะห์ปริมาณธาตุ As, Cd, Co, Cr, Cu, Fe, Mn, Ni, Pb และ Zn ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างดินและตะกอนท้องน้ำ จำนวน ๒๐ ตัวอย่าง มีปริมาณธาตุ As อยู่ระหว่าง ๓๐ - ๓๘๕ มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานคุณภาพดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยและเกษตรกรรม และตัวอย่างดิน จำนวน ๑ ตัวอย่าง มีปริมาณธาตุแคดเมียม ๑๐.๙๐ มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานคุณภาพดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยและเกษตรกรรม ทั้งนี้ ตัวอย่างดินทั้งหมด จำนวน ๔๑ ตัวอย่าง มีปริมาณธาตุปรอทไม่เกินมาตรฐานคุณภาพดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยและเกษตรกรรม ๓. กรมทรัพยากรน้ำบาดาลรายงานว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพแร่สูง จึงอาจพบการปนเปื้อนของสารหนูหรือไซยาไนด์ในธรรมชาติอยู่แล้ว และไซยาไนด์สามารถย่อยสลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสแสงแดด ดังนั้น โอกาสที่ปนเปื้อนในน้ำบาดาลจึงเป็นไปได้น้อยมาก ๔. สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้พิจารณารายงานการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่โครงการจัดส่งเป็นระยะ ๆ และแจ้งผลให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทราบ ทั้งนี้ ในส่วนการตรวจสอบกำกับการทำเหมืองของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เป็นหน้าที่ของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ซึ่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่สามารถกำหนดให้เพิ่มความถี่และจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อเฝ้าระวังคุณภาพน้ำให้มากขึ้นได้ แต่ไม่ควรเปลี่ยนจุดตรวจวัดคุณภาพน้ำอยู่เสมอ เนื่องจากจะไม่สามารถเปรียบเทียบผลได้ ๕. กรณีที่ราษฎรในพื้นที่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเห็นว่าควรระงับการขอขยายพื้นที่ใหม่หรือการขอประทานบัตรของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด แปลงประทานบัตรที่ ๑๐๔/๒๕๓๘ นั้น เป็นอำนาจของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานอนุญาตตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ ซึ่งมีอำนาจโดยตรง และยังมีอำนาจในการกำกับดูแลให้โครงการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพิ่มเติมมาตรการที่เห็นว่าสำคัญให้แก่โครงการในการนำไปปฏิบัติ
|
||||||||||||||||||
| 32473 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... | นร | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
| 32474 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายไพโรจน์ รุ่งจินตนาการ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการผังเมือง (นักผังเมืองทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 32475 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด ตำบลละหาร ตำบลพิมลราช ตำบลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... | คค | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด ตำบลละหาร ตำบลพิมลราช ตำบลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด ตำบลละหาร ตำบลพิมลราช ตำบลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เพื่อสร้างทางหลวงชนบทสายถนนราชพฤกษ์ ตอนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๖ - ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๕ กับสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนกาญจนาภิเษก ที่แยกต่างระดับสาลิโข - แยกต่างระดับโค้งสามวัง และแยกต่างระดับไพร่ฟ้า - แยกต่างระดับบางโพธิ์ใต้ รวมทั้งถนนต่อเชื่อม ตามโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ - ถนนกาญจนาภิเษก เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
| 32476 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ รวม 4 ฉบับ (เรื่อง การส่งออกข้าว ช้าง และไม้ออกไปนอกราชอาณาจักร ฯลฯ) | พณ | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การส่งข้าวออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ข้าวเจ้าและข้าวเหนียว ทั้งที่เป็นข้าวเปลือก ข้าวกล้อง ข้าวสาร ปลายข้าว ข้าวนึ่ง และรำ ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากข้าวทุกชนิด เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เว้นแต่กรณีที่นำออกไปใช้เฉพาะตัว หรือในกรณีที่นำออกไปเพื่อเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ ในปริมาณเท่าที่จำเป็น ๒. ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การส่งช้างออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ช้างชนิดพันธุ์ Elephas maximus และให้รวมถึงงาช้าง น้ำเชื้อ เอ็มบริโอ ขน เนื้อ หนัง ฟัน งา ขนาย เล็บ กระดูก เลือด สารพันธุกรรม หรือส่วนต่าง ๆ ที่ได้จากช้างที่มีชีวิตหรือตายแล้ว ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากส่วนต่าง ๆ ที่ได้มาจากช้างดังกล่าว เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ๓. ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การส่งไม้ออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ไม้และไม้แปรรูปตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ยกเว้นหวาย ไผ่และไม้รวกทุกชนิด ปาล์ม รากไม้ เถาไม้ ไม้วีเนียร์ พันธุ์ไม้ ขี้เลื่อยหรือเศษไม้ไม่ว่าจะเกาะหรือติดรวมกันเป็นท่อน ก้อน เพลเลต หรือลักษณะที่คล้ายกันหรือไม่ก็ตาม และไม้ที่ได้จัดทำเป็นของสำเร็จรูป ซึ่งไม่เหมาะสมที่จะนำไปแปรรูปเป็นอย่างอื่น เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เว้นแต่กรณีนำออกไปใช้เฉพาะตัว หรือในกรณีที่นำออกไปเพื่อเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ ในปริมาณเท่าที่จำเป็น ๔. ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การส่งข้าว ช้าง และไม้ ออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๔๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การส่งข้าว ช้าง และไม้ ออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๔๙ ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
|
||||||||||||||||||
| 32477 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่วนประกอบของครุยวิทยฐานะ และเข็มวิทยฐานะของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่นวประกอบของครุยวิทยฐานะ และเข็มวิทยฐานะของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่วนประกอบของครุยวิทยฐานะ และเข็มวิทยฐานะของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน โดยกำหนดลักษณะและส่วนประกอบของครุยประกาศนียบัตรบัณฑิตเพิ่มเติมขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
| 32478 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชีเพิ่มขึ้น ๒. กำหนดสีประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ และวิทยาลัยพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนรัตนโกสินทร์เพิ่มขึ้น
|
||||||||||||||||||
| 32479 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชีและสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
| 32480 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย นครพนม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/11/2554 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนครพนม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
.....
