ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 159 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 3161 - 3180 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3161 | การบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (National Cloud) | นร. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลกลางของรัฐในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐาน
เป็นระบบ ครบถ้วน และมีความปลอดภัย
จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีการจัดตั้งงบประมาณเพื่อจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์
(Cloud) ชะลอการดำเนินการดังกล่าวไว้ก่อน
เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (National
Cloud) ของประเทศไทยจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
ทั้งนี้ หากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐใดมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ส่งข้อมูลไปยังสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(องค์การมหาชน) โดยด่วน เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3162 | แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12 ปี 2560-2564 (ฉบับปรับปรุง) และโครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ระยะที่ 13 ส่วนที่ 1 ของการไฟฟ้านครหลวง | มท. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ฉบับที่ ๑๒ ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ (ฉบับปรับปรุง) วงเงินลงทุนรวม
๗๓,๐๘๖.๙ ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ในประเทศ จำนวน ๔๖,๘๐๐.๐
ล้านบาท เงินรายได้ของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน ๒๖,๒๐๖.๒ ล้านบาท และเงินอุดหนุนจากรัฐบาล จำนวน ๘๐.๗
ล้านบาท และโครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ระยะที่ ๑๓ ส่วนที่ ๑
วงเงินลงทุนรวม ๗,๔๐๓.๕ ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ในประเทศ
จำนวน ๕,๖๐๐ ล้านบาท และเงินรายได้ของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน
๑,๘๐๓.๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง) บริหารจัดการค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า
ระยะที่ ๑๓ ส่วนที่ ๑ ให้อยู่ภายในกรอบวงเงินตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
เพื่อไม่ให้เกิดภาวะค่าใช้จ่ายสูงเกินกว่ากรอบวงเงินงบประมาณ (Cost Overrun)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง) กระทรวงพลังงาน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงคมนาคม เช่น ให้การไฟฟ้านครหลวงใช้แหล่งเงินทุนจากเงินรายได้ของการไฟฟ้านครหลวงเป็นลำดับแรก
และหากมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อสมทบรายได้ ให้การไฟฟ้านครหลวงใช้เงินกู้ในประเทศเพื่อลงทุนตามแผนดังกล่าว
โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินกู้ ควรปรับแผนการลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
และให้การไฟฟ้านครหลวงเร่งเสนอเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาโดยเร็ว
ควรกำหนดแนวทางการบริหารความสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ควรมีมาตรการควบคุมและเร่งรัดการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของแผนงานตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3163 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 92,978 คน เป็นผู้เสนอ และนายเจริญ เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 10,942 คน เป็นผู้เสนอ) | ปสส. | 09/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รับร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน
๙๒,๙๗๘ คน
เป็นผู้เสนอ และนายเจริญ เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๐,๙๔๒ คน เป็นผู้เสนอ) ไปพิจารณาก่อนรับหลักการภายใน ๖๐ วัน
นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3164 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (1. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ฯลฯ รวม 10 คน) | อก. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
รวม ๑๐ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ดังนี้ ๑ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ ๒ พลเอก กนิษฐ์ ชาญปรีชญา กรรมการ ๓ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน กรรมการ ๔ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล กรรมการ ๕ นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ ๖ นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ กรรมการ ๗ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรรมการ ๘ รองศาตราจารย์ อนามัย ดำเนตร กรรมการ ๙ นายเอกภัทร วังสุวรรณ กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3165 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (1. นายสราวุธ ทรงศิวิไล ฯลฯ รวม 5 คน) | คค. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
รวม ๕ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.
นายสราวุธ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการ ๒.
นายศราวุธ เพชรพนมพร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓.
นายอาทิตย์ สุริยาภิวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. พลโท
พิเชษฐ คงศรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕.
นายชัยทัต แซ่ตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3166 | ญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวม 11 ญัตติ | สผ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบญัตติ เรื่อง
ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวม ๑๑
ญัตติ ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3167 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา | สว. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
ระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัย
ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3168 | ญัตติด่วน เรื่อง สาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาสะพานถล่ม กรณีสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง เพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ | สผ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบญัตติด่วน เรื่อง สาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาสะพานถล่ม
กรณีสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง
เพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3169 | รายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 และการออกหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน | ตช. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้
พ.ศ. ๒๕๖๒ และการออกหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๖ โดยมีสรุปผลในภาพรวมว่า
ยังไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับการคุ้มครอง
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรองคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง ลงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖
ข้อ ๒ และข้อ ๕ รวมทั้งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ ๕ ข้อ ๑๗ และข้อ ๑๘ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มดำเนินการตามระเบียบดังกล่าว
โดยเห็นควรให้มีการดำเนินการไปสักระยะเวลาหนึ่งก่อน แล้วจึงพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3170 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของกระทรวงสาธารณสุข มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ให้เป็นหน่วยงานของรัฐตามมาตรา ๖๓/๑๕ วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๙
ที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครองแทนได้ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3171 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประจำปี 2564 และประจำปี 2565 | พน. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประจำปี ๒๕๖๔ และประจำปี ๒๕๖๕ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔
และวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน
และงบกำไรขาดทุน ซึ่งผู้สอบบัญชีเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน
และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบด้วยแล้ว รวมทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3172 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการคุ้มครองสิทธิเด็ก กรณีการเข้าถึงบริการสุขภาพของทารกที่คลอดก่อนกำหนด | สธ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการคุ้มครองสิทธิเด็ก
กรณีการเข้าถึงบริการสุขภาพของทารกที่คลอดก่อนกำหนด
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้ ๑.
การกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทารกที่คลอดก่อนกำหนด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(สปสช.)
อยู่ระหว่างการรวบรวมและพิจารณาข้อเท็จจริงของปัญหาการดูแลรักษาทารกที่คลอดก่อนกำหนด
และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพิจารณาทางเลือกวิธีการและอัตราจ่าย
และจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
กระทรวงสาธารณสุขได้มีแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นของบุตรแรงงานต่างด้าวที่ไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้
โดยเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
การตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๒ และประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง การตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓
ซึ่งมีการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพให้แก่แรงงานต่างด้าว พร้อมผู้ติดตามทุกรายต้องอยู่ในระบบประกันสุขภาพไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย ๓.
การจัดสรรอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ที่จำเป็น
และการเพิ่มอัตรากำลังของบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ และบุคลากร
รวมถึงเครือข่ายระบบส่งต่อแล้ว พบว่า ปัจจุบันมีสัดส่วนเตียงทารกแรกเกิดวิกฤตต่อเครื่องมือ/อุปกรณ์ต่าง
ๆ มีความเพียงพอมากขึ้น ส่วนด้านอัตรากำลังของบุคลากรที่เชี่ยวชาญในการดูแลทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลของรัฐยังขาดแคลนอยู่
และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญทารกแรกเกิดยังมีจำนวนน้อยมาก
จึงควรสนับสนุนทั้งในด้านผลิตบุคลากรเพิ่ม
และการให้ความก้าวหน้าในวิชาชีพอย่างเหมาะสม ทั้งนี้
กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างวางแผนเพิ่มศักยภาพการฝึกอบรมทั้งกุมารแพทย์ทารกแรกเกิดและพยาบาลผู้เชี่ยวชาญทารกแรกเกิด ๔.
การบูรณาการระบบส่งต่อทารกที่คลอดก่อนกำหนด
กระทรวงสาธารณสุขได้สร้างระบบเครือข่ายการส่งต่อผู้ป่วยทารกแรกเกิดไว้ทั้งในและนอกเขตสุขภาพแล้ว
ส่วนการบูรณาการกับโรงพยาบาลเอกชนอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ สปสช. โดย สปสช.
พร้อมที่จะเป็นศูนย์ประสานการส่งต่อ
และจัดระบบการส่งต่อทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล
พร้อมทั้งได้จัดเตรียมสถานพยาบาลที่สำรองเตียงสำหรับการดูแลทารกที่คลอดก่อนกำหนดไว้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3173 | ขออนุมัติการเพิ่มวงเงินในสัญญา รายการทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเฮี้ย จังหวัดเพชรบูรณ์ | กษ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทานเพิ่มวงเงินค่างานก่อสร้าง รายการทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเฮี้ย
จังหวัดเพชรบูรณ์ จากวงเงินตามสัญญาที่แก้ไขเพิ่มติม จำนวน ๒๓๘,๕๕๕,๙๒๕.๓๘ บาท เป็นวงเงิน ๒๖๕,๑๙๕,๖๘๙.๖๖ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับวงเงินงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาดังกล่าว จำนวน ๒๖,๖๓๙,๗๖๔.๒๘ บาท เห็นควรให้กรมชลประทานพิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน เพื่อมาดำเนินการเป็นลำดับแรก
โดยให้จัดทำแผนรายละเอียดการจ่ายเงินให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้กรมชลประทานปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3174 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 29 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | นร.11 สศช | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๒๙ แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย
หรือแผนงาน IMT-GT (Joint Statement of the 29th
IMT-GT Ministerial Meeting) และเห็นชอบการมอบหมายภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยตามแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป
และมอบหมายให้หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยการประชุมระดับรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๒๙ แผนงาน IMT-GT จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน
๒๕๖๖ ณ เมืองบาตัม จังหวัดหมู่เกาะเรียว สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีผลการหารือและผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๙ แผนงาน IMT-GT โดยที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ร่วมฯ แผนงาน IMT-GT ซี่งได้มีการปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญจากร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้ (๒๖ กันยายน ๒๕๖๖) อาทิ
ปรับแก้ถ้อยคำกล่าวแสดงความขอบคุณสำนักเลขาธิการอาเซียนสำหรับการสนับสนุนการดำเนินงานของแผนงาน
IMT-GT อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการต่าง
ๆ ตามกรอบและความริเริ่มของอาเซียน (๒) ผลการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนความร่วมมือแผนงาน IMT-GT
ในช่วงที่ผ่านมาในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ ๒๙
แผนงาน IMT-GT และการประชุมเวทีหารือระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด
(Chief Ministers and Governors Forum : CMGF) ครั้งที่ ๒๐
แผนงาน IMT-GT โดยมีผลการหารือและข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุม
อาทิ การเร่งรัดการศึกษา พัฒนา
บูรณาการความร่วมมือระหว่างระเบียงเศรษฐกิจและเขตเศรษฐกิจพิเศษ
เพื่อการเติบโตที่ยืดหยุ่น ยั่งยืน และครอบคลุม
ผ่านการวิเคราะห์ประเด็นและกลยุทธ์ที่สำคัญ และ (๓) แผนการดำเนินงานในระยะต่อไป
เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงาน IMT-GT อาทิ
เร่งสร้างรายได้การท่องเที่ยวใน IMT-GT โดยดำเนินโครงการส่งเสริมการตลาดร่วม
และการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอนุภูมิภาคต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น
ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ (๑)
แผนการดำเนินงานในระยะต่อไปของแผนงาน IMT-GT
ข้อย่อยที่ ๑.๕ ประเด็นเครือข่ายมหาวิทยาลัย IMT-GT (UNINET)
นั้น เป็นการดำเนินงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังโดยตรง
แต่หากมีการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เห็นควรให้การสนับสนุนได้ (๒)
ทุกภาคส่วนควรพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาแผนงานโครงการเชื่อมต่อทางกายภาพ (Priority
Connectivity Projects : PCPs) ของทั้งสามประเทศสมาชิกแผนงาน IMT-GT
ต่อไปด้วย และ (๓)
การสนับสนุนดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานในระยะต่อไปของแผนงาน IMT-GT ควรปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับของแต่ละประเทศควบคู่ไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3175 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก "กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน" ในกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานรากโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร สำหรับบ่อบาดาล | ปช. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต
กรณีโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก “กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน”
ในกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานรากโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร
สำหรับบ่อบาดาล ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3176 | สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 5 จังหวัด (จังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) | นร. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในขณะนี้ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
๕ จังหวัด (จังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) มีระดับน้ำลดลง การระบายน้ำเป็นไปด้วยดี
และใกล้เข้าสู่ภาวะปกติเกือบทุกพื้นที่แล้ว
โดยระยะต่อไปจะเป็นช่วงการดำเนินการซ่อมแซม และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย
จึงขอให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นศูนย์กลางในการประสานงานร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) กระทรวงศึกษาธิการ
(สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อช่วยกันระดมกำลังคน อุปกรณ์ และเครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือและซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3177 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ 17 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 10 รวมทั้งการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กห. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน
(ASEAN Defence Ministers’ Meeting : ADMM) ครั้งที่ ๑๗
และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ASEAN
Defence Ministers’ Meeting Plus : ADMM-Plus) ครั้งที่ ๑๐ รวมทั้งการประชุมอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ กรุงจาการ์ตา
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีนาย Prabowo Subianto รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นประธาน
โดยที่ประชุมฯ ได้มีการรับรอง อนุมัติ และรับทราบเอกสาร จำนวน ๘ ฉบับ ได้แก่ (๑)
ปฏิญญาร่วมจาการ์ตาของการประชุม ADMM ว่าด้วยสันติภาพ
ควาญเจริญรุ่งเรือง และความมั่นคงของภูมิภาค (๒)
เอกสารแนวความคิดว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติด้านการป้องกันประเทศเกี่ยวกับมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก
(๓) เอกสารแนวความคิดว่าด้วยการเสริมสร้างความประสานสอดคล้องของกิจกรรมความร่วมมือภายใต้กรอบ
ADMM และ ADMM-Plus (๔)
เอกสารแนวทางปฏิบัติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต
ในฐานะผู้สังเกตการณ์การประชุม ADMM และ ADMM-Plus รวมทั้งการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (๕)
ระเบียบปฏิบัติประจำโครงการอาเซียนอาวเวอร์อาย (๖)
เอกสารความร่วมมือระหว่างอาเซียน-สหรัฐอเมริกา
เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถของผู้นำรุ่นใหม่ (๗) เอกสารเพื่อการหารือว่าด้วยการใช้ทรัพยากรทางทหารในการดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาค
และ (๘) แถลงการณ์ร่วมของการประชุม ADMM-Plus ว่าด้วยบทบาทสตรี
สันติภาพ และความมั่นคงของภูมิภาค ทั้งนี้ เอกสารที่ได้มีการรับรอง อนุมัติ
รับทราบดังกล่าว
มีสาระสำคัญไม่แตกต่างจากฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ ๗
พฤศจิกายน ๒๕๖๖ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความมั่นคงของภูมิภาค
ตลอดจนภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
และความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร เป็นต้น ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3178 | แนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร | ปสส. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันพุธที่
๓ มกราคม ๒๕๖๗ และวันพฤหัสบดีที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๗ ถึงวันศุกร์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3179 | ร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยหอการค้าบางฉบับที่ไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. .... (ยกเลิกค่าธรรมเนียมหอการค้า) | พณ. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยหอการค้าบางฉบับที่ไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินการของหอการค้า ตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ และยกเลิกกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ เพื่อให้สอดคล้องกับการนำรูปแบบการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
(e-services) มาใช้ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระต่อประชาชน
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3180 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกระทรวงแรงงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายแรงงาน พ.ศ. .... | รง. | 02/01/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษ
สำหรับข้าราชการกระทรวงแรงงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายแรงงาน
พ.ศ ....
มีสาระสำคัญเป็นยกเลิกกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกระทรวงแรงงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานตรวจความปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย
อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อปรับปรุงเครื่องแบบพิเศษเพิ่มขึ้นจากเครื่องแบบข้าราชการพลเรือน เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจและพื้นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายนอกที่ตั้งที่ทำการ
สำหรับข้าราชการกระทรวงแรงงานซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายแรงงาน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|