ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 151 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 3001 - 3020 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3001 | ความก้าวหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใต้กระบวนการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 | ปช. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.รับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ภายใต้กระบวนการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต
ค.ศ. ๒๐๐๓ (United Nations Convention against Corruption : UNCAC) รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่ประเทศไทยได้รับในการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ
ทั้ง ๔ หมวด ได้แก่ หมวดที่ ๒ มาตรการป้องกันการทุจริต
หมวดที่ ๓ การกำหนดให้เป็นความผิดทางอาญา และการบังคับใช้กฎหมาย หมวดที่ ๔
ความร่วมมือระหว่างประเทศ และหมวดที่ ๕ การติดตามทรัพย์สินคืน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการยกระดับการอนุวัติการอนุสัญญาฯ
โดยจะส่งผลให้กฎหมายไทยมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการต่อต้านการทุจริต
ซึ่งเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบผลการพิจารณาต่อข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่ประเทศไทยได้รับในการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ
ตามที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงาน ก.พ.
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
และสำนักงานอัยการสูงสุดรายงาน
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3002 | แนวทางเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5 | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ (เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี ๒๕๖๗ และกลไกการบริหารจัดการ)
เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM ปี ๒๕๖๗
และกลไกการบริหารจัดการ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
รวมทั้งรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ นั้น
จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และสั่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พบว่า
ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5
ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ยังคงอยู่ในระดับที่สูงและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
จึงขอมอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องรับแนวทางเพิ่มเติมในเรื่องต่าง
ๆ ไปพิจารณาดำเนินการเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น ดังนี้ ๑. การตัดสิทธิในการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ (Negative Incentive) ๑.๑
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนจากวิธีการเผาแปลงเพาะปลูกไปใช้วิธีอื่น
เช่น การไถกลบตอซัง และให้พิจารณาตัดสิทธิการได้รับความช่วยเหลือชดเชยต่าง ๆ จากภาครัฐสำหรับเกษตรกรที่ไม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการดังกล่าว ๑.๒
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการลดหรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา ๒. การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด (Law Enforcement) ๒.๑
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่และอำนาจอย่างเคร่งครัด
เช่น ๒.๑.๑
ให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศเขตห้ามเผา โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พ.ศ. ๒๕๕๐ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว ๒.๑.๒
ให้กระทรวงมหาดไทยบังคับใช้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ในกรณีการเผาที่เป็นเหตุรำคาญ ๒.๒
ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มงวด ๒.๓
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลไม่ให้มีการเผาหรือการลักลอบนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาในพื้นที่ความรับผิดชอบ
รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทางกฎหมายกับข้าราชการทุกระดับที่ปล่อยปะละเลยให้มีการกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย ๓. การสนับสนุนเชิงรุก (Proactive Campaign) ๓.๑
ให้กรมประชาสัมพันธ์และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของรัฐบาล
เพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา ๓.๒
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้คำแนะนำและสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับวิธีการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรโดยไม่เผาให้ชัดเจนและทั่วถึง
เช่น การไถกลบตอซัง การแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นพลังงานทดแทน
รวมทั้งผลเสียของการเผา ๓.๓
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการและกำหนดมาตรการสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้มีการรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อนำมาแปรรูป
อันจะเป็นการลดการเผาต่อไป ๓.๔ ให้กระทรวงกลาโหมจัดกำลังพลและอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการขนส่งเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากพื้นที่การเกษตรไปยังโรงงานแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นพลังงานและปุ๋ย ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนนำแนวทางเพิ่มเติมทั้ง ๓
ข้อดังกล่าวข้างต้นไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และจัดทำเป็นมาตรการที่ครบถ้วนและชัดเจนมากยิ่งขึ้น แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3003 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567) | ปสส. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
(วันจันทร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) ซึ่งมีเรื่องเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา
เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่
๑๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3004 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 .... พ.ศ. .... (นายอนุทิน ชาญวีรกูลกับคณะ เป็นผู้เสนอ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายพิทักษ์เดช เดชเดโช กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายคอซีย์ มามุ กับคณะ เป็นผู้เสนอ และนายวรภาพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) | ปสส. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ.๒๕๕๘ พ.ศ. .... (นายอนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ
กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายพิทักษ์เดช เดชเดโช กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายคอซีย์ มามุ
กับคณะ เป็นผู้เสนอ และนายวรภพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ไปพิจารณาก่อนรับหลักการภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3005 | การป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดน | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในช่วงนี้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายต่าง
ๆ ตามแนวชายแดน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตรชนิดต่าง ๆ จากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือได้ร่วมกันปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม
พบว่าในหลายพื้นที่มีความพยายามลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงขอมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม
กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อร่วมกันป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3006 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติ ๑.๑
เห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วตามรายชื่อร่างพระราชบัญญัติ
ดังต่อไปนี้
๑.๑.๑
ร่างพระราชบัญญัติซึ่งเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและบรรจุในระเบียบวาระของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่
๑.๑.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ .. ) พ.ศ .... (แก้ไขเพิ่มเติมกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) ๑.๑.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ
พ.ศ. .... ๑.๒.๑
ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวด้วยการเงินซึ่งเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ระหว่างนายกรัฐมนตรีพิจารณารับรอง
จำนวน ๒ ฉบับ ดังนี้
๑.๒.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติกัญชากัญชง พ.ศ. ....
๑.๒.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน พ.ศ. .... ๑.๓
๑ ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล จำนวน ๒ ฉบับ
ดังนี้
๑.๓.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ....
๑.๓.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒.
ขอความร่วมมือให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกำชับให้กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเข้าร่วมประชุมในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
พ.ศ. ๒๕๓๔ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนให้ร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นร่างกฎหมายสำคัญของคณะรัฐมนตรีมีผลใช้บังคับโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3007 | การส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาอย่างเป็นทางการ
ระหว่างวันที่ ๓-๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ตามคำเชิญของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และได้มีการหารือร่วมกับภาคส่วนต่าง
ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเด็นต่าง ๆ พบว่า
สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกามีศักยภาพและความพร้อมด้านทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก
แต่อาจยังขาดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่จะมาดำเนินการ (Know-How) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในด้านพลังงานสะอาดและการประมง
จึงมีความต้องการการลงทุนจากต่างชาติสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยจะเข้าไปลงทุนดำเนินธุรกิจในด้านต่าง
ๆ ดังกล่าวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ดังนั้น
เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีของทั้งสองประเทศ
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปประสานงานกับกระทรวงพลังงาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนไทยที่เกี่ยวข้องเข้าไปลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเพื่อดำเนินกิจการต่าง
ๆ ที่มีความสนใจตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้
ให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3008 | ผลการประชุมระดับสูงในห้วงสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ประจำปี ค.ศ. 2023 | กต. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมระดับสูงในห้วงสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๓ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่
๑๑-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ภายใต้หัวข้อหลัก
คือ “การสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนสำหรับทุกคน” (Creating a Resilient and Sustainable Future for
All) และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าตามตารางติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปคและการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๓ โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยง
ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เอื้ออำนวย การปรับใช้นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
ภัยพิบัติและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการเสริมสร้างความครอบคลุม
โดยมุ่งเน้นการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ
ส่งเสริมบทบาทและการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของกลุ่มต่าง ๆ
ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นการต่างประเทศ มุ่งเน้นการสนับสนุนให้ไทยสามารถเชื่อมโยงกับภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ
ส่งเสริมความร่วมมือกับมิตรประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสและลดอุปสรรคทางเศรษฐกิจของไทย ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ ในหมุดหมายที่ ๕ ที่มุ่งเน้นให้ไทยเป็นประตูการค้า การลงทุน
และยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยกระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานตามที่มอบหมายดังกล่าว
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์และประโยชน์ที่มีต่อประเทศไทยให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับทราบ
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบหลักในคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค
จะดำเนินการตามข้อเสนอแนะของรายการงานทบทวนระยะกลาง
การยกระดับวาระการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค
โดยจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความก้าวหน้า
ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3009 | มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/2567 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2567 | นร.14 | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบรับทราบมาตรการรองรับฤดูแล้ง
ปี ๒๕๖๖/๒๕๖๗ (๙ มาตรการ)
และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง
ปี ๒๕๖๗ มอบหมายหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว โดยรายงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติทราบ
พร้อมทั้งสรุปผลการดำเนินงานรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และสำนักงบประมาณ โดยขอให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัดด้วย ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยินดีให้การสนับสนุนและเร่งรัดดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง และควรให้ความสำคัญ
พร้อมทั้งเน้นย้ำหน่วยงานที่รับผิดชอบแผนงาน/โครงการให้ตรวจสอบแผนงาน/โครงการที่เสนอกับแผนงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และสอดรับกับความต้องการของประชาชนกลุ่มผู้ใช้น้ำ
รวมทั้ง ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่และโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ตรงตามความต้องการและทันต่อสถานการณ์
รวมทั้งนำผลการดำเนินการ และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการต่าง ๆ ตามมาตรการรองรับฤดูแล้งในปีที่ผ่านมา
มาใช้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3010 | ทบทวนการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2565 (ครั้งที่ 2) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 | กค. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ปีบัญชี ๒๕๖๕ (ครั้งที่ ๒) จำนวน ๑๗๔,๘๒๔,๖๓๓.๘๕ บาท โดยให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรนำเงินจำนวนดังกล่าวส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินภายใน
๖๐ วัน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรดำเนินการกำกับ
ติตตามการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการที่นำมาพิจารณาการขอกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดเพิ่มขึ้น
รวมถึงสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับทุนหมุนเวียนต่าง ๆ
เกี่ยวกับการเรียกทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการ
โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบในทุกมิติ และให้กองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ
รายงานผลการใช้จ่ายเงินตามแผนงาน/โครงการให้คณะกรรมการฯ ทราบเป็นระยะ เพื่อให้ติดตามการเบิกจ่ายและการกำกับดูแลกองทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
โปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3011 | ร่างกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. .... | ปปง. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3012 | การตกแต่งสถานที่ ประดับไฟและธงเฉลิมพระเกียรติ และการใช้ตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
(๙ มกราคม ๒๕๖๗) ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้ถูกต้อง
ละเอียดรอบคอบ โดยเชิญชวนประชาชนจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการหรือกิจกรรม
และขอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดงานเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวในภาพรวมให้ถูกต้องและทั่วถึง
นั้น ขอกำชับให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้ ๑.
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย
การตกแต่งสถานที่ราชการ การประดับไฟและธง
ให้เหมาะสมและสมพระเกียรติตลอดช่วงเวลาของขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ๒.
ในส่วนของการเชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ไปประดับหรือประดิษฐานบนหรือในอาคาร สถานที่ สิ่งปลูกสร้าง
หรือสิ่งของใด ๆ ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การพิจารณา การขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
ที่คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๓.
มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ
ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปทราบเกี่ยวกับการใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้ถูกต้องและทั่วถึงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3013 | ราชอาณาจักรเบลเยียมขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดภูเก็ต และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดภูเก็ต (นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม) | กต. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ
จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ๒. แต่งตั้ง นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม
ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดภูเก็ต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3014 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล) | นร.04 | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3015 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสุรชาติ เทียนทอง) | สธ. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสุรชาติ เทียนทอง เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3016 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวปรมาภรณ์ บริบูรณ์) | นร.04 | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวปรมาภรณ์
บริบูรณ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3017 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการคลัง) | กค. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล คงอยู่ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3018 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวพิยะดา สุดกังวาล) | ดศ. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวพิยะดา สุดกังวาล ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ผู้อำนวยการสูง) กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
กลุ่มที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3019 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางเตือนใจ คงสมบัติ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | พม. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑. นางเตือนใจ คงสมบัติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวสนธยา บุณยภูษิต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3020 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | กษ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวนฤมล สงวนวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายถาวร ทันใจ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายกฤษ อุตตมะเวทิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|