ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 156 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 3101 - 3120 จากข้อมูลทั้งหมด 124244 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3101 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา | สว. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future
Food) ของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา
ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3102 | ร่างหนังสือแสดงเจตจำนงการเจรจาทวิภาคีว่าด้วยสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพและการคุ้มครองชนิดพันธ์ุ | ทส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างหนังสือแสดงเจตจำนงการเจรจาทวิภาคีว่าด้วยสิ่งแวดล้อม
ความหลากหลายทางชีวภาพและการคุ้มครองชนิดพันธุ์ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามร่างหนังสือแสดงเจตจำนงการเจรจาทวิภาคีว่าด้วยสิ่งแวดล้อม
ความหลากหลายทางชีวภาพและการคุ้มครองชนิดพันธุ์ โดยร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ เป็นการกำหนดกรอบการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเกี่ยวกับการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพและชนิดพันธุ์ในอนาคต
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกลไกการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ
รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือและบูรณาการเชิงนโยบายระหว่างไทยและฝรั่งเศส
และสนับสนุนให้เกิดโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมโดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะดำเนินงานร่วมกันใน
๒ ประเด็น ได้แก่ (๑) ความหลากหลายทางชีวภาพกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ
(๒) การจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมความร่วมมือต่าง ๆ
เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ การเยี่ยมเยือนของทั้งเจ้าหน้าที่ระดับต่าง
ๆ การจัดประชุมหรือสัมมนาร่วมกัน เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ควรดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถดำเนินการสนับสนุนความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเพื่อให้สามารถนำความรู้จากการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญในด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแสดงเจตจำนงการเจรจาทวิภาคีว่าด้วยสิ่งแวดล้อม
ความหลากหลายทางชีวภาพและการคุ้มครองชนิดพันธุ์ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย ๒. ในส่วนของการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ต่าง ๆ
ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐฝรั่งเศส
ภายใต้หนังสือแสดงเจตจำนงการเจรจาทวิภาคีว่าด้วยสิ่งแวดล้อมความหลากหลายทางชีวภาพและการคุ้มครองชนิดพันธุ์
นั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาดำเนินการตามความจำเป็น
เหมาะสม คุ้มค่าและละเอียดรอบคอบ ตลอดจนคำนึงถึงผลกระทบในด้านต่าง ๆ
ที่อาจเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการที่ต่างประเทศหรือหน่วยงานระหว่างประเทศได้ทราบข้อมูล
ข่าวสาร หรือองค์ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ของประเทศไทยและนำไปใช้ประโยชน์
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ (เรื่อง
การขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ) อย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3103 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ | กต. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ
เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑)
ร่างวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย
หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง (ASEAN-Australia
Leaders’ Vision Statement-Partners for Peace and Prosperity) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลียต่อเนื่องจากช่วง
๕๐ ปีที่ผ่านมา และ (๒) ร่างปฏิญญาเมลเบิร์น หุ้นส่วนความร่วมมือเพื่ออนาคต (Melborne
Declaration-A Partnership for the Future) มีสาระสำคัญ เช่น
การปกป้องความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค การส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน
และกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในกรณีที่ต้องมีการปรับแก้ไขร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมผลการปรับแก้ร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ความตกลงระหว่างประเทศของกรอบความร่วมมืออื่น ๆ
รวมทั้งผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทราบในคราวเดียวกัน รวมทั้งควรสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3104 | การปรับปรุงแก้ไขความตกลงว่าด้วยน้ำตาลระหว่างประเทศ (International Sugar Agreement : ISA) ฉบับปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) | อก. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขความตกลงว่าด้วยน้ำตาลระหว่างประเทศ
(International Sugar Agreement :
ISA) ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๓๕ (ค.ศ. ๑๙๙๒) และให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามในตราสารการยอมรับการแก้ไขเพิ่มเติมความตกลงว่าด้วยน้ำตาลระหว่างประเทศ
โดยการปรับปรุงแก้ไขความตกลงฯ มีวัตถุประสงค์ตามความตกลงฯ เป็นไปตามข้อมติที่ ๙๓
(๔) รับรองโดยที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ประกอบด้วย (๑) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านน้ำตาลโลกและสารทำความหวานอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพลังงานชีวภาพ และเชื้อเพลิงเอทานอลจากพืชน้ำตาล (๒) เพื่อเป็นเวทีในการหารือระหว่างประเทศด้านตลาดน้ำตาลและสารให้ความหวาน
รวมถึงผลพลอยได้ที่เกิดจากการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำตาลและเชื้อเพลิงเอทานอล (๓)
เพื่ออำนวยความสะดวกการค้า ชีวภาพ และเชื้อเพลิงเอทานอลที่ผลิตจากน้ำตาล และ (๔)
เพื่อเพิ่มปริมาณการอุปสงค์ของน้ำตาลและพืชน้ำตาล โดยเฉพาะที่มิใช่การนำมาบริโภค ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรใช้โอกาสจากการปรับปรุงข้อตกลงดังกล่าว กำหนดแนวทางการผลิต การแปรรูป และการส่งออกผลิตภัณฑ์และผลพลอยได้ในอุตสาหกรรมน้ำตาล
เชื้อเพลิงชีวภาพ และเชื้อเพลิงเอทานอล
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมน้ำตาล
โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อการอุปโภคของประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3105 | การผลักดันให้ไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงาน InterPride World Conference และงาน WorldPride | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖)
มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด) รับไปประสานกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งภาคเอกชนและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงาน
WorldPride ในปี ๒๕๗๑ นั้น ในการนี้
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ได้รับอนุมัติงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประมูลสิทธิการจัดงาน InterPride World Conference
และกิจกรรม Road to WorldPride ในประเทศไทย ณ
กรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ต แล้ว ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ
และยกระดับให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ
จึงขอให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้ไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดงาน
InterPride World Conference และงาน WorldPride ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3106 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงาน ก.พ.) | นร.10 | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๒ คณะ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓ มีนาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3107 | การอำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมือง (ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6) | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
สืบเนื่องจากการเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา
ปัตตานี และนราธิวาส) ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ พบว่า
กระบวนการในการตรวจคนเข้า/ออกเมือง ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองต่าง ๆ ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน
ทำให้เกิดความไม่สะดวกและความแออัดในบริเวณหน้าด่านเป็นอย่างมาก จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาการดำเนินการเพื่อยกเว้นการยื่นรายการตามแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
(แบบ ตม.๖) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วในทุกด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางและลดความแออัดบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ในทุกพื้นที่ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3108 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ และคณะอนุกรรมาธิการด้านต่าง ๆ ว่า
ยังมีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนกันในหลายหน่วยงาน เนื่องจากขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำยังคงมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายลงทุน
ดังนั้น ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ขอให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับ ดูแลแผนงานบูรณาการต่าง
ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อน
และมีการบูรณาการกันอย่างจริงจัง สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำ ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
เช่น งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ งบประมาณด้านการฝึกอบรมและดูงาน
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเช่ายานพาหนะ
(ให้ใช้การส่งเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น)
รวมทั้งการลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่ โดยให้มีเฉพาะที่จำเป็นตามกรอบอัตรากำลัง
ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้
เพื่อจะได้นำงบประมาณในส่วนที่ปรับลดนี้ไปจัดสรรเป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3109 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร.04 | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังต่อไปนี้ จำนวน
๗ ฉบับ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ๑.
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น พ.ศ.
.... ๒. ร่างพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติอาหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๔. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ฉบับที่ ..) ศ. .... ๕.
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. .... ๖. ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3110 | การสนับสนุนการดำเนินงานของสมัชชาเด็กและเยาวชน | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้เยาวชนมีสิทธิในการแสดงออกในพื้นที่ปลอดภัยภายใต้กรอบของกฎหมาย
ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดให้มีสมัชชาเด็กและเยาวชนเป็นเวทีแสดงออก
โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) นั้น
ขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณากำหนดกรอบและแนวทางการดำเนินงาน/กิจกรรมของสมัชชาเด็กและเยาวชนให้ละเอียด
รอบคอบ ชัดเจน
เพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนสามารถสะท้อนความคิดเห็นและความต้องการของตนได้อย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3111 | การแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของหน่วยงานของรัฐทับซ้อนกัน | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ปัญหาแนวเขตที่ดินของส่วนราชการทับซ้อนกันเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
โดยเฉพาะประชาชนที่พักอาศัยและเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เกี่ยวเนื่องกับแนวเขตที่ดินดังกล่าว
ดังนั้น จึงขอกำชับให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องเร่งประสานหารือกันและดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในทุกพื้นที่ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
โดยให้เร่งดำเนินการในพื้นที่ที่มีปัญหาหรือข้อพิพาทให้แล้วเสร็จเป็นลำดับแรก ทั้งในส่วนของพื้นที่ชายแดน
พื้นที่รอยต่อกับอุทยานแห่งชาติ และที่ดิน ส.ป.ก. โดยให้ใช้หลักวิทยาศาสตร์และแผนที่ทหาร
(มาตราส่วน ๑ : ๕๐๐๐) เป็นบรรทัดฐาน ทั้งนี้
ให้พิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3112 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567) และแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร | ปสส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.
รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กุมภาพันธ์
๒๕๖๗ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3113 | ร่างตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (Instrument of Extension of the Memorandum of Understanding on the ASEAN Power Grid: IOE of APG MOU) | พน. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
(Instrument of Extension of
the Memorandum of Understanding on the ASEAN Power Grid : IOE of APG MOU) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นผู้ลงนามในตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า
รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้ลงนามตราสารดังกล่าวข้างต้น
โดยร่างตราสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการบังคับใช้ของบันทึกความเข้าใจฯ
ออกไปเป็นวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘
เพื่อสนับสนุนกลไกการดำเนินงานของการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
ให้สามารถยกระดับการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า และการส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน
โดยเปิดโอกาสให้มีการแบ่งปันทรัพยากรของภูมิภาค
ด้วยการส่งพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) และให้กระทรวงพลังงาน (สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงพลังงาน
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงานพิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3114 | การลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) | นร.01 | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) ขอความร่วมมือให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งภาคเอกชนและประชาชนในทุกภาคส่วนให้การส่งเสริม สนับสนุน
และช่วยกันพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิต และดำเนินมาตรการต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารและศักยภาพในด้านต่าง
ๆ ของทั้ง ๓ จังหวัด
เพื่อดึงดูดการลงทุนและนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น
นั้น จากการลงพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒๗-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ได้เห็นถึงโอกาสและศักยภาพของทั้ง
๓ จังหวัด ทั้งในด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร และผลิตภัณฑ์ของชุมชนต่าง
ๆ
(ที่พร้อมรับการสนับสนุนและผลักดันจากทุกภาคส่วนให้เจริญเติบโตและแพร่ขยายออกไปในวงกว้าง
ดังนั้น จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทาง/มาตรการต่าง
ๆ ในกรอบหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานเพื่อดำเนินการสนับสนุน ส่งเสริมการเจริญเติบโต
และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกมิติ ทั้งนี้
ให้รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การยกระดับท่าอากาศยานเบตง
รวมตลอดถึงการยกระดับการศึกษา การปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว การสร้างพิพิธภัณฑ์ เครื่องทองเหลือง
การตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงเอกสารโบราณและคัมภีร์อัลกุรอาน
การยกระดับอาหารและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของชุมชน เช่น ปลานิลสายน้ำไหล ปลาพลวงชมพู
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3115 | การเร่งรัดกระบวนการอนุมัติ อนุญาตเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ) มอบหมายให้คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง
(กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต) กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)
สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อกฎหมายและกฎระเบียบ
รวมทั้งกระบวนการขอใบอนุญาตต่าง ๆ
ที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว นั้น
โดยที่ได้รับการร้องขอให้เร่งรัดการดำเนินการในเรื่องนี้จากทูตานุทูตหลายประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีเอกชนของต่างประเทศจะเข้ามาร่วมลงทุนประกอบการอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ในประเทศไทย
จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดกระบวนการพิจารณาอนุมัติ
อนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น
เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3116 | ขอรับจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ทส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๗๒,๖๕๕,๓๕๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ของกรมป่าไม้ เป็นเงิน
๑๐๙,๙๔๖,๖๕๐ บาท และของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเงิน ๑๖๒,๗๐๘,๗๐๐ บาท ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๗/๓๕๗๕ ลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗) โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอน
สำหรับค่าใช้จ่ายโครงการจัดหาระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง
ขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ แบบครบวงจร เห็นควรให้กรมควบคุมมลพิษพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไปโดยคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน
ความประหยัด ความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๒.๑ ให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับติดตามการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน
เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ของกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง
การจ้างแรงงานในพื้นที่ การกำหนดจุดจัดตั้งและการปฏิบัติงานของจุดเฝ้าระวัง
และการดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า
เพื่อให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการฯ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
รวมทั้งเพื่อป้องกันปัญหาข้อร้องเรียนการทุจริตอันอาจเกิดขึ้นในภายหลังด้วย ๒.๒
ให้นำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมของหน่วยงานของรัฐซึ่งมีการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
(update) อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงข้อมูลการเกิดจุดความร้อน (hotspots) ในอดีต มาใช้ประกอบการวิเคราะห์
เพื่อกำหนดจุดเฝ้าระวังไฟป่าให้เหมาะสมกับข้อเท็จจริง รวมทั้งจัดทีมระงับไฟป่าตามจุดที่มีความเสี่ยงสูง
เพื่อให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่เกิดไฟป่าได้โดยเร็วที่สุด ๒.๓
ให้เพิ่มเติมตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ (KPIs) ของโครงการฯ ให้เหมาะสม ชัดเจน และเป็นการดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้น เช่น
กำหนดให้จำนวนจุดความร้อน/ไฟป่าในพื้นที่โครงการฯ ลดลงมากกว่าร้อยละ ๕๐ เมื่อเทียบกับก่อนดำเนินโครงการฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3117 | การตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีในการตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จึงขอกำชับให้รัฐมนตรีทุกท่านที่ได้รับมอบหมายไปตอบกระทู้ถามในเรื่องที่รับผิดชอบตามกำหนดเวลาที่ได้นัดหมายไว้กับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้
ในกรณีที่รัฐมนตรีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้หรือติดราชการสำคัญ
ทำให้ไม่สามารถไปตอบกระทู้ถามด้วยตนเองตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้ให้มอบหมายให้รัฐมนตรีท่านอื่นไปตอบกระทู้ถามแทนหรือให้แจ้งขอเลื่อนวันตอบกระทู้ถามให้ชัดเจนทุกครั้ง
เพื่อมิให้เกิดปัญหาว่าไม่มีรัฐมนตรีไปตอบกระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้บรรจุในระเบียบวาระการประชุมแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3118 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ] | นร.09 | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
(ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนายเจริญ
เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๐,๙๔๒ คน เป็นผู้เสนอ นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
จำนวน ๙๒,๙๗๘ คน เป็นผู้เสนอ และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร
กับคณะเป็นผู้เสนอ รวม ๓ ฉบับ) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... นายเจริญ เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๐,๙๔๒ คน เป็นผู้เสนอ
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๙๒,๙๗๘ คน เป็นผู้เสนอ และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร กับคณะ เป็นผู้เสนอ) รวม ๓
ฉบับ ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมแจ้งข้อสังเกตดังกล่าว
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3119 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่อง ขอให้สั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่บริเวณเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล | ทส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่อง
ขอให้สั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่บริเวณเกาะหลีเป๊ะ
จังหวัดสตูล โดยได้รวบรวมผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปผลในภาพรวมได้
ดังนี้ ๑) สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เพื่อรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ
ให้ได้รับการแก้ไขปัญหาด้วยความเป็นธรรมอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการและมีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ๒) กรณีปัญหาการปิดกั้นทางสาธารณะ คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน
จำนวน ๓ คณะ ได้แก่ (๑) คณะอนุกรรมการตรวจสอบสิทธิในที่ดิน
กระบวนการครอบครองหรือออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน (๒) คณะอนุกรรมการบังคับใช้กฎหมายกรณีข้อพิพาทในที่ดินเกาะหลีเป๊ะ
จังหวัดสตูล และ (๓) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนชาวเล
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ๓) กรณีการจัดการด้านผังเมืองเพื่อพัฒนาพื้นที่
คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อมูลฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนชาวเล
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เพื่อแก้ไขปัญหา โดยได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการวางผังเมืองและกำหนดเขตวัฒนธรรมวิถีชีวิตชาวเล
และ ๔) การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บริเวณเกาะหลีเป๊ะ
ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
เกี่ยวกับปัญหาของชาวเลต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายประมงและกฎหมายอุทยานแห่งชาติ คณะอนุกรรมการบังคับใช้กฎหมายฯ
ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยรับเรื่องร้องทุกข์และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
3120 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... | สธ. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.
๒๕๕๑ โดยปรับปรุงบทนิยาม องค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของรัฐมนตรีผู้รักษาการ คณะกรรมการต่าง
ๆ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และพนักงานเจ้าหน้าที่ บทบัญญัติเกี่ยวกับการโฆษณา
และการส่งเสริมและสนับสนุนการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ตลอดจนกำหนดเวลาห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสถานที่หรือบริเวณสถานที่จัดบริการเพื่อให้การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อประโยชน์ทางการค้า
รวมทั้งบทกำหนดโทษ เพื่อให้การบังคับกฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ |