ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 143 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 2841 - 2860 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2841 | การอำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมือง (ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6) | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
สืบเนื่องจากการเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา
ปัตตานี และนราธิวาส) ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ พบว่า
กระบวนการในการตรวจคนเข้า/ออกเมือง ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองต่าง ๆ ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน
ทำให้เกิดความไม่สะดวกและความแออัดในบริเวณหน้าด่านเป็นอย่างมาก จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาการดำเนินการเพื่อยกเว้นการยื่นรายการตามแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
(แบบ ตม.๖) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วในทุกด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางและลดความแออัดบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ในทุกพื้นที่ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2842 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ และคณะอนุกรรมาธิการด้านต่าง ๆ ว่า
ยังมีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนกันในหลายหน่วยงาน เนื่องจากขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำยังคงมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายลงทุน
ดังนั้น ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ขอให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับ ดูแลแผนงานบูรณาการต่าง
ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อน
และมีการบูรณาการกันอย่างจริงจัง สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำ ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
เช่น งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ งบประมาณด้านการฝึกอบรมและดูงาน
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเช่ายานพาหนะ
(ให้ใช้การส่งเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือการจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น)
รวมทั้งการลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่ โดยให้มีเฉพาะที่จำเป็นตามกรอบอัตรากำลัง
ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ. กำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้
เพื่อจะได้นำงบประมาณในส่วนที่ปรับลดนี้ไปจัดสรรเป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2843 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร.04 | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังต่อไปนี้ จำนวน
๗ ฉบับ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ๑.
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น พ.ศ.
.... ๒. ร่างพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติอาหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๔. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ฉบับที่ ..) ศ. .... ๕.
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. .... ๖. ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2844 | การสนับสนุนการดำเนินงานของสมัชชาเด็กและเยาวชน | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้เยาวชนมีสิทธิในการแสดงออกในพื้นที่ปลอดภัยภายใต้กรอบของกฎหมาย
ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดให้มีสมัชชาเด็กและเยาวชนเป็นเวทีแสดงออก
โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) นั้น
ขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณากำหนดกรอบและแนวทางการดำเนินงาน/กิจกรรมของสมัชชาเด็กและเยาวชนให้ละเอียด
รอบคอบ ชัดเจน
เพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนสามารถสะท้อนความคิดเห็นและความต้องการของตนได้อย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2845 | การแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของหน่วยงานของรัฐทับซ้อนกัน | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ปัญหาแนวเขตที่ดินของส่วนราชการทับซ้อนกันเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
โดยเฉพาะประชาชนที่พักอาศัยและเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เกี่ยวเนื่องกับแนวเขตที่ดินดังกล่าว
ดังนั้น จึงขอกำชับให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องเร่งประสานหารือกันและดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในทุกพื้นที่ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
โดยให้เร่งดำเนินการในพื้นที่ที่มีปัญหาหรือข้อพิพาทให้แล้วเสร็จเป็นลำดับแรก ทั้งในส่วนของพื้นที่ชายแดน
พื้นที่รอยต่อกับอุทยานแห่งชาติ และที่ดิน ส.ป.ก. โดยให้ใช้หลักวิทยาศาสตร์และแผนที่ทหาร
(มาตราส่วน ๑ : ๕๐๐๐) เป็นบรรทัดฐาน ทั้งนี้
ให้พิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2846 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567) และแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร | ปสส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.
รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กุมภาพันธ์
๒๕๖๗ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2847 | ร่างตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (Instrument of Extension of the Memorandum of Understanding on the ASEAN Power Grid: IOE of APG MOU) | พน. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
(Instrument of Extension of
the Memorandum of Understanding on the ASEAN Power Grid : IOE of APG MOU) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นผู้ลงนามในตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า
รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้ลงนามตราสารดังกล่าวข้างต้น
โดยร่างตราสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการบังคับใช้ของบันทึกความเข้าใจฯ
ออกไปเป็นวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘
เพื่อสนับสนุนกลไกการดำเนินงานของการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
ให้สามารถยกระดับการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า และการส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน
โดยเปิดโอกาสให้มีการแบ่งปันทรัพยากรของภูมิภาค
ด้วยการส่งพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างตราสารว่าด้วยการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) และให้กระทรวงพลังงาน (สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงพลังงาน
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงานพิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2848 | การลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) | นร.01 | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) ขอความร่วมมือให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งภาคเอกชนและประชาชนในทุกภาคส่วนให้การส่งเสริม สนับสนุน
และช่วยกันพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิต และดำเนินมาตรการต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารและศักยภาพในด้านต่าง
ๆ ของทั้ง ๓ จังหวัด
เพื่อดึงดูดการลงทุนและนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น
นั้น จากการลงพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒๗-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ได้เห็นถึงโอกาสและศักยภาพของทั้ง
๓ จังหวัด ทั้งในด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร และผลิตภัณฑ์ของชุมชนต่าง
ๆ
(ที่พร้อมรับการสนับสนุนและผลักดันจากทุกภาคส่วนให้เจริญเติบโตและแพร่ขยายออกไปในวงกว้าง
ดังนั้น จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทาง/มาตรการต่าง
ๆ ในกรอบหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานเพื่อดำเนินการสนับสนุน ส่งเสริมการเจริญเติบโต
และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกมิติ ทั้งนี้
ให้รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การยกระดับท่าอากาศยานเบตง
รวมตลอดถึงการยกระดับการศึกษา การปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว การสร้างพิพิธภัณฑ์ เครื่องทองเหลือง
การตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงเอกสารโบราณและคัมภีร์อัลกุรอาน
การยกระดับอาหารและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของชุมชน เช่น ปลานิลสายน้ำไหล ปลาพลวงชมพู
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2849 | การเร่งรัดกระบวนการอนุมัติ อนุญาตเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ) มอบหมายให้คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง
(กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต) กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)
สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อกฎหมายและกฎระเบียบ
รวมทั้งกระบวนการขอใบอนุญาตต่าง ๆ
ที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว นั้น
โดยที่ได้รับการร้องขอให้เร่งรัดการดำเนินการในเรื่องนี้จากทูตานุทูตหลายประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีเอกชนของต่างประเทศจะเข้ามาร่วมลงทุนประกอบการอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ในประเทศไทย
จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดกระบวนการพิจารณาอนุมัติ
อนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น
เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2850 | ขอรับจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ทส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๗๒,๖๕๕,๓๕๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ของกรมป่าไม้ เป็นเงิน
๑๐๙,๙๔๖,๖๕๐ บาท และของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเงิน ๑๖๒,๗๐๘,๗๐๐ บาท ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๗/๓๕๗๕ ลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗) โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอน
สำหรับค่าใช้จ่ายโครงการจัดหาระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง
ขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ แบบครบวงจร เห็นควรให้กรมควบคุมมลพิษพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไปโดยคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน
ความประหยัด ความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๒.๑ ให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับติดตามการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน
เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ของกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง
การจ้างแรงงานในพื้นที่ การกำหนดจุดจัดตั้งและการปฏิบัติงานของจุดเฝ้าระวัง
และการดำเนินกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า
เพื่อให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการฯ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
รวมทั้งเพื่อป้องกันปัญหาข้อร้องเรียนการทุจริตอันอาจเกิดขึ้นในภายหลังด้วย ๒.๒
ให้นำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมของหน่วยงานของรัฐซึ่งมีการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
(update) อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงข้อมูลการเกิดจุดความร้อน (hotspots) ในอดีต มาใช้ประกอบการวิเคราะห์
เพื่อกำหนดจุดเฝ้าระวังไฟป่าให้เหมาะสมกับข้อเท็จจริง รวมทั้งจัดทีมระงับไฟป่าตามจุดที่มีความเสี่ยงสูง
เพื่อให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่เกิดไฟป่าได้โดยเร็วที่สุด ๒.๓
ให้เพิ่มเติมตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ (KPIs) ของโครงการฯ ให้เหมาะสม ชัดเจน และเป็นการดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้น เช่น
กำหนดให้จำนวนจุดความร้อน/ไฟป่าในพื้นที่โครงการฯ ลดลงมากกว่าร้อยละ ๕๐ เมื่อเทียบกับก่อนดำเนินโครงการฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2851 | การตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร | นร. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีในการตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จึงขอกำชับให้รัฐมนตรีทุกท่านที่ได้รับมอบหมายไปตอบกระทู้ถามในเรื่องที่รับผิดชอบตามกำหนดเวลาที่ได้นัดหมายไว้กับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้
ในกรณีที่รัฐมนตรีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้หรือติดราชการสำคัญ
ทำให้ไม่สามารถไปตอบกระทู้ถามด้วยตนเองตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้ให้มอบหมายให้รัฐมนตรีท่านอื่นไปตอบกระทู้ถามแทนหรือให้แจ้งขอเลื่อนวันตอบกระทู้ถามให้ชัดเจนทุกครั้ง
เพื่อมิให้เกิดปัญหาว่าไม่มีรัฐมนตรีไปตอบกระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้บรรจุในระเบียบวาระการประชุมแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2852 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ] | นร.09 | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
(ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนายเจริญ
เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๐,๙๔๒ คน เป็นผู้เสนอ นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
จำนวน ๙๒,๙๗๘ คน เป็นผู้เสนอ และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร
กับคณะเป็นผู้เสนอ รวม ๓ ฉบับ) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... นายเจริญ เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๐,๙๔๒ คน เป็นผู้เสนอ
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๙๒,๙๗๘ คน เป็นผู้เสนอ และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร กับคณะ เป็นผู้เสนอ) รวม ๓
ฉบับ ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมแจ้งข้อสังเกตดังกล่าว
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2853 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่อง ขอให้สั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่บริเวณเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล | ทส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่อง
ขอให้สั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่บริเวณเกาะหลีเป๊ะ
จังหวัดสตูล โดยได้รวบรวมผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปผลในภาพรวมได้
ดังนี้ ๑) สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เพื่อรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ
ให้ได้รับการแก้ไขปัญหาด้วยความเป็นธรรมอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการและมีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ๒) กรณีปัญหาการปิดกั้นทางสาธารณะ คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน
จำนวน ๓ คณะ ได้แก่ (๑) คณะอนุกรรมการตรวจสอบสิทธิในที่ดิน
กระบวนการครอบครองหรือออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน (๒) คณะอนุกรรมการบังคับใช้กฎหมายกรณีข้อพิพาทในที่ดินเกาะหลีเป๊ะ
จังหวัดสตูล และ (๓) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนชาวเล
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ๓) กรณีการจัดการด้านผังเมืองเพื่อพัฒนาพื้นที่
คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อมูลฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนชาวเล
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เพื่อแก้ไขปัญหา โดยได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการวางผังเมืองและกำหนดเขตวัฒนธรรมวิถีชีวิตชาวเล
และ ๔) การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บริเวณเกาะหลีเป๊ะ
ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
เกี่ยวกับปัญหาของชาวเลต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายประมงและกฎหมายอุทยานแห่งชาติ คณะอนุกรรมการบังคับใช้กฎหมายฯ
ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยรับเรื่องร้องทุกข์และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2854 | ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... | สธ. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.
๒๕๕๑ โดยปรับปรุงบทนิยาม องค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของรัฐมนตรีผู้รักษาการ คณะกรรมการต่าง
ๆ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และพนักงานเจ้าหน้าที่ บทบัญญัติเกี่ยวกับการโฆษณา
และการส่งเสริมและสนับสนุนการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ตลอดจนกำหนดเวลาห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสถานที่หรือบริเวณสถานที่จัดบริการเพื่อให้การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อประโยชน์ทางการค้า
รวมทั้งบทกำหนดโทษ เพื่อให้การบังคับกฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2855 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล) | ยธ. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมถอนเรื่องการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล)
คืนไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2856 | รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย (นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห) | กต. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห (Mrs. Edirisinghe
Arachchilage Sriyani Wijayanthi Edirisinghe) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางโกโลนเน อัปปุหามิลาเค จมินทะ อิโนกา
โกโลนเน (Mrs. Colonne Appuhamillage Chaminda Inoka Colonne) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2857 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (1. นายชยธรรม์ พรหมศร ฯลฯ รวม 11 คน) | คค. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย
รวม ๑๑ คน เพื่อแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
และขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มีนาคม ๒๕๖๗)เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. นายชยธรรม์ พรหมศร ประธานกรรมการ ๒. นายคุณดร งามธุระ กรรมการ ๓. นายจำเริญ โพธิยอด กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๔. นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงคมนาคม) ๕. นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ กรรมการ ๖. นายดรุฒ คำวิชิตธนาภา กรรมการ ๗. นายไพบูลย์ ศิริภาณุเสถียร กรรมการ ๘. นายรุธิร์ พนมยงค์ กรรมการ ๙. พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ กรรมการ ๑๐. นางสาวสุทิษา ประทุมกุล กรรมการ ๑๑. นายอนันต์ แก้วกำเนิด กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2858 | การแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์) | พน. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เนื่องจากนายบุญญนิตย์
วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเดิม
ได้ดำรงตำแหน่งครบวาระตามสัญญาจ้าง โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ ๖๙๐,๐๐๐ บาท [ตามมติคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ (วาระพิเศษ) (วาระลับ) เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๖
และครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ (วาระลับ) เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗]
ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าหากมีกรณีที่กำหนดระยะเวลาวันเริ่มปฏิบัติงานและข้อสัญญาอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้อง กำหนดสาระสำคัญแตกต่างจากร่างสัญญาจ้างที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว
คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
จะต้องนำเสนอเรื่องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในร่างสัญญาจ้างเพื่อให้กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบตามที่กำหนดในมาตรา
๘ จัตวา แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมก่อนลงนามในสัญญาจ้างต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2859 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (นายณัฐพัชร จันทรสูตร) | พปส. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายณัฐพัชร จันทรสูตร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านกฎหมาย) ในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มีนาคม
๒๕๖๗ เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2860 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายรุจ ธรรมมงคล ฯลฯ จำนวน 8 ราย) | กต. | 03/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๘ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่างตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มกราคม ๒๕๖๗
ซึ่งอยู่ระหว่างการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ตำแหน่งที่ว่าง
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. นายรุจ ธรรมมงคล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก สหรัฐเม็กซิโก ๒. นายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการกงสุล ๓. นางสาวศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเอเชียใต้
ตะวันออกกลางและแอฟริกา ๔. นายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพิธีการทูต ๕. นายพลพงศ์ วังแพน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอาเซียน ๖. นายวัฒนวิทย์ คชเสนี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ๗. นางสาวกษมา สืบวิเศษ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายภูบดี ลออเงิน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|