ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 146 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 2901 - 2920 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2901 | ร่างกฎกระทรวงค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยปรับอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย จากเดิม ๕๐,๐๐๐ บาท เป็น ๖๕,๐๐๐ บาท
และแก้ไขลักษณะการบาดเจ็บรุนแรงของศีรษะ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรมีการกำหนดมาตรการในการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายเงินกองทุนเงินทดแทนในกรณีดังกล่าว
เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับเสถียรภาพของกองทุนเงินทดแทน และควรเตรียมความพร้อมและสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่นายจ้างและลูกจ้าง
รวมทั้งวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนเงินทดแทนอย่างเหมาะสมทั้งในระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องและเสถียรภาพของกองทุนเงินทดแทนในอนาคตด้วย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2902 | มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับการบริหารราชการหรือข้าราชการ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 | นร.05 | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. ให้ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน
๒๕๖๒ (เรื่อง ขอความร่วมมือในการมาตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร) โดยให้แก้ไขในส่วนของวันที่กำหนดให้มีระเบียบวาระกระทู้ถามในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
จาก ทุกวันพุธ เป็น ทุกวันพฤหัสบดี เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ได้กำหนดให้ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีการพิจารณากระทู้ถามทุกวันพฤหัสบดี ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม
๒๕๖๒ (เรื่อง แนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ) เนื่องจากมีกฎหมายกำหนดไว้แล้ว
ซึ่งเป็นไปตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๖๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2903 | มาตรการในการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | ปช. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบมาตรการในการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2904 | ขออนุมัติรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา ระยะที่ 2 : จัดหาอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย (Anywhere Anytime) | ศธ. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา ระยะที่ ๒ :
จัดหาอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย (Anywhere Anytime) ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้
ให้กระทรวงศึกษาธิการได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖
มกราคม ๒๕๖๗ (เรื่อง การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘)
ในการเสนอเรื่องนี้ ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณในข้อ ๑
ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไปทั้งหมด
ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างรายได้และโอกาสให้แก่ประชาชน การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐหรืออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
และการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศในด้านต่าง ๆ
เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนแล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ต่อไป ๓. ในการดำเนินโครงการนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการ
(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง
ๆ ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมาย ระเบียบ
ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณ
มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดทำแผนการดำเนินการ
และยืนยันความพร้อมของรายการดังกล่าว โดยกำหนดวัตถุประสงค์และสาระสำคัญของรายการ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะประมาณการราคาหรือผลการสอบราคา
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการให้ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณา ตลอดจนควรกำหนดให้มีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมาย ควรมีการกำหนดผลสัมฤทธิ์ของโครงการในภาพรวม
พร้อมทั้งมีการกำหนดตัวชี้วัดที่สะท้อนผลลัพธ์ และผลกระทบ
รวมถึงมีการกำหนดแนวทางการติดตามและประเมินผลของโครงการเป็นระยะเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทและสถานการณ์ในแต่ละช่วง
เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการ ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการ
(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ดำเนินการเพิ่มเติมด้วย ดังนี้ (๑)
ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนรายละเอียดของสถาปัตยกรรมของระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของโครงการฯ
ให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหาซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อให้การพัฒนาระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
มีความคุ้มค่า ไม่เกิดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนและเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง (๒) จัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินงานของโครงการฯ
และจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่าง ๆ
โดยให้ความสำคัญกับการจัดทำนวัตกรรมสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัลคอนเทนต์เป็นลำดับแรก
ซึ่งควรวิเคราะห์และประเมินระดับคุณภาพของสื่อการเรียนรู้ที่มีอยู่ภายใต้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้แห่งชาติ
(National Digital Learning Platform :
NDLP) รวมถึงพิจารณาเลือกใช้สื่อการเรียนรู้คุณภาพสูงจากดิจิทัลแพลตฟอร์มอื่นร่วมด้วย (๓) กำหนดเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการ
๕ ปี ได้ โดยต้องสามารถปรับเปลี่ยนอุปกรณ์การเรียนการสอนของโครงการฯ ให้ทันสมัย เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง
รวมทั้งให้พิจารณารายละเอียดของการเช่าใช้อุปกรณ์การเรียนการสอนให้รอบคอบและเหมาะสมด้วย (๔)
กำหนดกลุ่มเป้าหมายของโรงเรียนที่จะดำเนินการในระยะแรก
โดยให้ความสำคัญกับการกระจายอุปกรณ์การเรียนการสอน เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา
ลดความเหลื่อมล้ำของการเรียนการสอนและเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมในการดำเนินการ
เพื่อปิดช่องว่างการเรียนรู้และเร่งยกระดับการศึกษาของประเทศในภาพรวมให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2905 | การใช้ถ้อยคำและการปฏิบัติให้สอดคล้องกับความแตกต่างทางอัตลักษณ์และความหลากหลายทางเพศ | นร. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้ว่า
รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม โดยจะผลักดันให้มีกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ
รวมทั้งส่งเสริมการยอมรับความหลากหลายทางอัตลักษณ์ นั้น
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเสมอภาค โดยไม่แบ่งแยกเพศ
จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐปฏิบัติงานตามหน้าที่และอำนาจหรือดำเนินงานอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
รวมตลอดถึงการเขียนและการใช้ถ้อยคำต่าง ๆ ในงานราชการต่าง ๆ ให้เหมาะสม เป็นกลาง
สอดคล้องกับหลักการของความเสมอภาคและความหลากหลายทางเพศดังกล่าวข้างต้น โดยไม่เลือกปฏิบัติเพราะอคติทางเพศหรือความแตกต่างทางอัตลักษณ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2906 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองทุ่งมน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
เพื่อหารือในรายละเอียดให้ได้ข้อยุติก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2907 | การรับรองร่างปฏิญญาวังเวียงว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจวัฒนธรรมขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน | วธ. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาวังเวียงว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจวัฒนธรรมขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองร่างปฏิญญาฯ
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญในการเสริมสร้างการพัฒนาทุนมนุษย์ของอาเซียน
โดยเฉพาะในด้านการเรียนรู้และด้านสมรรถนะของวิสาหกิจวัฒนธรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสร้างศักยภาพสำหรับวิสาหกิจวัฒนธรรมขนาดกลางและขนาดย่อมในอาเซียน
สนับสนุนกิจกรรมต้นน้ำภายใต้ภาคส่วนวัฒนธรรมและศิลปะในระดับที่ต่างกัน
(ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระหว่างประเทศ) รวมถึงยืนยันบทบาทและการสนับสนุนที่สำคัญของภาควัฒนธรรมและศิลปะในเป้าหมาย
การพัฒนาที่ยั่งยืน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
และให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เห็นว่าร่างปฏิญญาฯ ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
กอปรกับไม่มีการลงนามในร่างปฏิญญาดังกล่าว ดังนั้น ร่างปฏิญญาฯ
จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาวังเวียงว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจวัฒนธรรมขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2908 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-อินเดีย ครั้งที่ 10 | กต. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-อินเดีย
ครั้งที่ ๑๐ (10th Joint Commission for
Bilateral Cooperation between Thailand-India) และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี
(นายปานปรีย์ พหิทธานุกร) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในเอกสารผลลัพธ์ฯ
ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอินเดีย โดยร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือทวิภาคีที่ทั้งสองประเทศดำเนินการร่วมกัน
และประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันให้เกิดความคืบหน้า
เพื่อประโยชน์ของการดำเนินความสัมพันธ์
โดยประเด็นหลักที่จะหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุม ได้แก่
ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ ความเชื่อมโยง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา สาธารณสุข การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนของภาคประชาชน
และประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2909 | การขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติคาซัคสถาน เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว | กต. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการในการกำหนดให้สาธารณรัฐคาซัคสถานเป็นรายชื่อประเทศ/ดินแดนในประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง
กำหนดรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน
โดยมีเงื่อนไขให้มีผลใช้บังคับชั่วคราวเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม-๓๑ สิงหาคม
๒๕๖๗ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อมิติเศรษฐกิจและการต่างประเทศกับสาธารณรัฐคาซัคสถานในภาพรวม
โดยเฉพาะด้านความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนสองฝ่ายที่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์จนกว่าการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐคาซัคสถานเป็นการถาวรจะแล้วเสร็จ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. เห็นชอบหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
กำหนดให้ผู้ถือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของสาธารณรัฐคาซัคสถานซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว
ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน
เป็นกรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขชื่อร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
และความในร่างข้อ ๑ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรพิจารณาดำเนินมาตรการคัดกรองบุคคลอย่างเข้มงวด
ควบคู่กับการประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างไทย คาซัคสถาน
เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มก่อการร้ายท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียกลาง
โดยเฉพาะทาจิกิสถานและคาซัคสถาน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายสากล อาทิ
กลุ่ม ISIS ในซีเรีย
ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มก่อการร้าย/อาชญากรอาจแสวงประโยชน์จากการยกเว้นการตรวจลงตรา
โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านหรือเป็นพื้นที่หลบซ่อน (safe heaven) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2910 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานลำน้ำห้วยแคน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
เพื่อหารือในรายละเอียดให้ได้ข้อยุติก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2911 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา ของเขื่อนลำแชะ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน เพื่อหารือในรายละเอียดให้ได้ข้อยุติก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2912 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet | ปช. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital wallet ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2913 | ขอเพิ่มสัดส่วนผู้เข้ารับการอบรมภาคเอกชนหลักสูตรนักบริหารการงบประมาณระดับสูง (นงส.) | นร.07 | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ (เรื่อง
การพัฒนาบุคลากรภาครัฐ โดยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมของหน่วยงานต่าง ๆ)
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้
ให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรพิจารณาให้ความสำคัญกับผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มาจากหน่วยงานภาครัฐเป็นลำดับแรก
และพิจารณากำหนดสัดส่วนผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มาจากหน่วยงานภาคเอกชนให้มีความหลากหลายของหน่วยงานและสาขาอาชีพ
และสอดคล้องกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการบูรณาการการทำงานร่วมกันในด้านการบริหารจัดการงบประมาณ
ทั้งนี้ เพื่อให้ภาครัฐได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝึกอบรม และควรให้ความสำคัญกับหลักเกณฑ์
และกระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับการอบรมดังกล่าวอย่างโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล
รวมทั้งควรทบทวนเนื้อหาของหลักสูตรที่เหมาะสมกับสัดส่วนของผู้เข้ารับการอบรม
ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของหลักสูตรและประโยชน์ต่อทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2914 | การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2567 | นร.04 | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ ณ จังหวัดพะเยา และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
๒ (เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่) ระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2915 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดิน ที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... | อว. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดิน
ที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดิน
ที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๙
เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดลักษณะและเนื้อที่ที่ดินที่จะใช้เป็นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนจากการกำหนดเนื้อที่ที่ดินขั้นต่ำที่สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในแต่ละประเภทพึงมี
เป็นการกำหนด “พื้นที่ใช้สอย” ตามลักษณะการใช้ประโยชน์บนเนื้อที่ที่ดินของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแทน
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2916 | ขอความร่วมมือในการรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะ | นร. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ (เรื่อง การตกแต่งสถานที่ ประดับไฟและธงเฉลิมพระเกียรติและการใช้ตราสัญลักษณ์
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗)
มอบหมายให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย
การตกแต่งสถานที่ราชการ การประดับไฟและธง ให้เหมาะสมและสมพระเกียรติตลอดช่วงเวลาของขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ
นั้น เพื่อให้การดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่
มีทัศนียภาพที่สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงขอมอบหมายการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๑. ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินมาตรการรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะต่าง
ๆ ในความรับผิดชอบให้ทั่วถึงและต่อเนื่อง เช่น ถนน พื้นที่ทางเท้า สวนสาธารณะ
แหล่งน้ำ บริเวณที่ทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูล ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์)
ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำนักโทษที่กรมราชทัณฑ์พิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่าง
ๆ นอกเรือนจำ ตามความเหมาะสม เช่น การขุดลอกคูคลอง การลอกท่อระบายน้ำ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2917 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการ Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 | กก. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอเพิ่มเติมว่า
โดยที่การขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการ Maha Songkran World Water
Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ๒๕๖๗ เป็นเงินจำนวน ๑๓๔,๘๗๒,๐๐๐ บาท
ในครั้งนี้รวมถึงรายการค่าสนับสนุนการจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่อัตลักษณ์ทั่วประเทศไทย
จำนวน ๓๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นรายการเดียวกับที่กระทรวงวัฒนธรรม
(กรมส่งเสริมวัฒนธรรม)
อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น เพื่อลดความซ้ำซ้อนของการขอรับจัดสรรงบประมาณในภาพรวม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงขอปรับลดวงเงินที่เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ในครั้งนี้ (โดยไม่รวมถึงรายการดังกล่าว) ลงเหลือ จำนวน ๑๐๔,๘๗๒,๐๐๐ บาท เท่านั้น
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอเพิ่มเติม
และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๑๓/๓๓๓๔ ลงวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์
๒๕๖๗) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีโดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล หรือผู้ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นผู้กำกับแผนงานบูรณาการ
กรณีเป็นการดำเนินการภายใต้แผนงานบูรณาการ แล้วแต่กรณี
ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓) รวมถึงเตรียมความพร้อมและวางแผนดำเนินงานที่รอบคอบรอบด้าน
โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศให้มีเที่ยวบินเพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว
การดูแลความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่จัดงานให้มีความเข้มแข็ง
รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านปัจจัยพื้นฐาน เช่น สุขา ร้านอาหาร
และรถรับส่งนักท่องเที่ยวมายังพื้นที่จัดกิจกรรม เป็นต้น รวมทั้ง ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดทุกภูมิภาคมีโอกาสเข้ามาเรียนรู้การจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วม
(Inclusive) กับกลุ่มคนต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง ที่จะสามารถต่อยอดการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ไปสู่การจัดพื้นที่กิจกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ
และเป็นการเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมรูปแบบใหม่ ๆ ในพื้นที่
เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2918 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยกำหนดให้กรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวกับการจัดประชุมระดับผู้นำประเทศ
หรือระดับรัฐมนตรีขึ้นไปที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และการประชุมที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
รวมทั้งการเตรียมการ
การประชาสัมพันธ์หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว
สามารถกระทำได้โดยวิธีเฉพาะเจาะจง
เพื่อให้การจัดงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมกับการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมผู้นำความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ
(Bay of Bengal Initiative for
Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation-BIMSTEC) ครั้งที่
๖ ในปี ๒๕๖๗ และการประชุมอื่น ๆ ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2919 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์ป่าชายเลน สำหรับดำเนินการโครงการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กิจกรรมก่อสร้างถนนและสะพานเชื่อมโยงเส้นทางบริเวณอ่าวเขาควาย ท้องที่หมู่บ้านอ่าวเขาควาย ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง | มท. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์ป่าชายเลน
สำหรับดำเนินการโครงการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
กิจกรรมก่อสร้างถนนและสะพานเชื่อมโยงเส้นทางบริเวณอ่าวเขาควาย
ท้องที่หมู่บ้านอ่าวเขาควาย ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรชาวไทยและชาวมอแกนที่ได้อยู่อาศัยมาแต่เดิม
และเพื่อให้มีปัจจัยพื้นฐานด้านสาธารณสุข การศึกษา สาธารณูปโภค และสาธารณูปการ
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยรวมต่อไป
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นสำหรับการดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงป่าเห็นควรให้กระทรวงมหาดไทย
โดยจังหวัดระนองร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง การดำเนินโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าให้ได้ข้อยุติก่อน
หากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงป่าดังกล่าว
ให้หน่วยงานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ตามผลการสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการตามระเบียบฯ
ก่อนเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
พร้อมจัดสรรงบประมาณให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม
ไม่น้อยกว่า ๒๐ เท่าของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์
ตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม
กรณีการดำเนินการโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. ๒๕๖๖
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ อย่างเคร่งครัด และการดำเนินการใด
ๆ ในเขตพื้นที่ป่า ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2920 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เรื่อง มาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน | ปช. | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขตามนัยมาตรา
๓๕ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.
๒๕๖๑ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|