ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1345 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 26881 - 26900 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
26881 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 10 ฉบับ | กษ | 15/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน ๑๐ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย คลองน้ำแดง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทราย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำยม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองท่าแนะ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองสิ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ .... ๗. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน่าน (ลำน้ำเดิม) เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๘. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำนครนายก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๙. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๑๐. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||
26882 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สพฐ. 1 โรงเรียนบ้านแม่แฮเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ | ศธ | 15/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบ สพฐ. ๑ โรงเรียนบ้านแม่แฮเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน ๑ หลัง เป็นวงเงิน ๑๕,๙๘๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ วงเงิน ๒,๙๐๙,๖๐๐ บาท ที่ได้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ วงเงิน ๑๑,๖๓๘,๔๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีก วงเงิน ๑,๔๓๒,๐๐๐ บาท ให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต่อไป และให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดก่อนลงนามในสัญญาจ้าง ตามข้อ ๗ (๒) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
26883 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน แบบ 216 ปรับปรุง 46 โรงเรียนเบตง วีระราษฎร์ประสาน จังหวัดยะลา | ศธ | 15/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน แบบ ๒๑๖ ปรับปรุง ๔๖ โรงเรียนเบตง วีระราษฎร์ประสาน จังหวัดยะลา จำนวน ๑ หลัง เป็นวงเงิน ๒๓,๐๕๕,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ วงเงิน ๓,๕๔๐,๐๐๐ บาท ที่ได้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ วงเงิน ๑๔,๑๖๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีก วงเงิน ๕,๓๕๕,๐๐๐ บาท ให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต่อไป และเมื่อได้รับอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขอขยายอนุมัติระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดก่อนลงนามในสัญญาจ้าง ตามข้อ ๗ (๒) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
26884 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "การจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" | สสป | 15/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "การจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงเทพมหานคร และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยในส่วนความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. ด้านการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่ ส่งเสริมการจัดทำฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปริมาณ ประเภท และชนิดของขยะมูลฝอย รวมถึงการส่งผ่านข้อมูลที่เป็นปัจจุบันไปยังประชาชนในท้องถิ่นเพื่อให้ได้รับทราบและตรวจสอบข้อมูลการจัดการขยะมูลฝอยในชุมชนของตนเอง และร่วมมือลดปริมาณ จำนวน และประเภทขยะมูลฝอยทุกชนิดจนให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ๒. ด้านมาตรการทางกฎหมาย ได้แก่ ส่งเสริมให้ท้องถิ่นออกเป็นข้อบัญญัติของเทศบาลหรือมาตรการการจัดการขยะมูลฝอยที่สอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน รวมถึงให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการติดตามและการบังคับใช้ข้อบัญญัติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ส่งเสริมให้ภาครัฐร่วมลงทุนกับภาคเอกชนในการบริหารขยะมูลฝอยอย่างครบวงจรทั้งระบบ และจัดการขยะอันตราย รวมทั้งรัฐควรอำนวยความสะดวกด้วยการปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เอกชนดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการบริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล ๓. ด้านงบประมาณและบุคลากร ได้แก่ สนับสนุนหรืออุดหนุนงบประมาณแก่ท้องถิ่นที่มีรายได้ไม่เพียงพอในการจัดการขยะมูลฝอยให้สามารถดำเนินการเดินระบบการจัดการในเบื้องต้นได้ตามความเหมาะสมกับสภาพจริงของท้องถิ่นนั้น ๆ และสนับสนุนให้มีบุคลากรสำหรับดำเนินการจัดการขยะมูลฝอยอย่างเพียงพอ และต้องกำหนดค่าตอบแทนที่ครอบคลุมทั้งเงินเดือนและสวัสดิการในอัตราที่สามารถดำรงชีพได้อย่างไม่ขัดสน ๔. ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แก่ ส่งเสริมและสนับสนุนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนในการจัดการขยะมูลฝอยตั้งแต่ระดับครอบครัว จนถึงสังคมเมืองขนาดใหญ่ให้มีความตระหนักในการลด และคัดแยกขยะมูลฝอยนำกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งส่งเสริมให้ร่วมรับผิดชอบในการจ่ายค่าจัดการขยะมูลฝอยในอัตราที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของท้องถิ่น ๕. ด้านการใช้เทคโนโลยีจัดการขยะมูลฝอย ได้แก่ สนับสนุนให้มีการบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบรวมกลุ่ม เพื่อให้มีต้นทุนในการดำเนินงานด้วยการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรกลเพียงพอ ดังที่มีการดำเนินการไปแล้วในบางพื้นที่ เพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
26885 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนเขตอำเภอท่าปลากับอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... | มท | 15/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนเขตอำเภอท่าปลากับอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เปลี่ยนเขตอำเภอท่าปลากับอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อประโยชน์แก่การปกครองและความสะดวกของประชาชน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
26886 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การขยายเวลามาตรการภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน) | กค | 15/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การขยายเวลามาตรการภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน) มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เพื่อกำหนดให้เงินได้ของวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนควรให้ความสำคัญกับการสนับสนุนในด้านการพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และพัฒนากลุ่มอาชีพที่ครบวงจรทั้งห่วงโซ่มูลค่า รวมทั้งการหาช่องทางการตลาดหรือช่องทางในการกระจายสินค้า และควรมีการปรับปรุงกฎระเบียบของกองทุนต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางให้วิสาหกิจชุมชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ควรเพิ่มบทบาทของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้สนับสนุนการดำเนินกิจการของวิสาหกิจชุมชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
26887 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 สายกรุงเทพมหานคร - แม่สาย (เขตแดน) รวมทางยกระดับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ - รังสิต ตอนบ้านห้วยยาง - บ้านพุแค พ.ศ. .... | คค | 15/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑สายกรุงเทพมหานคร-แม่สาย (เขตแดน) รวมทางยกระดับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ตอนบ้านห้วยยาง-บ้านพุแค พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ สายกรุงเทพมหานคร-แม่สาย (เขตแดน) รวมทางยกระดับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ตอนบ้านห้วยยาง-บ้านพุแค ในท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
26888 | พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ให้เขตพื้นที่แขวงดุสิตและแขวงจิตรลดา เขตดุสิต แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบ้านพานถม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร และแขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2556) | นร05 | 09/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอรายงานข้อเท็จจริงการชุมนุมซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอันเป็นกรณีจำเป็นในการรักษาประโยชน์สำคัญของประเทศและเป็นกรณีฉุกเฉิน ๒. เห็นชอบ ๒.๑ ร่างประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ๒.๒ ร่างประกาศ เรื่อง การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ๒.๓ ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ รวม ๓ ฉบับ (ในเขตพื้นที่แขวงดุสิต และแขวงจิตรลดา เขตดุสิต แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบานพานถม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร และแขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบปรามศัตรูพ่าย กรุงเทพเทพมหานคร) ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นายนิพนธ์ ฮะกีมี) ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง หรือสามารถดำเนินการแก้ไขได้ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบตามปกติแล้ว ก็ให้ยกเลิกประกาศ และข้อกำหนดดังกล่าว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลต่อสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาทราบโดยเร็ว ๓. ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ จัดให้มีการชี้แจงจัดทำความเข้าใจกับประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยว่า การออกประกาศและข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ เป็นการป้องกันเหตุร้าย และความวุ่นวาย รวมทั้งคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของทางราชการ และประชาชนที่มาร่วมชุมนุม
|
|||||||||||||||||||||
26889 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร04 | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๑๓ (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๗ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ และครั้งที่ ๑๘ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ๒. รับทราบผลการประสานงานของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวราเทพ รัตนากร) เรื่อง การนัดประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อพิจารณารายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปีที่หนึ่ง (วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๕) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมาย
|
|||||||||||||||||||||
26890 | รายงานแสดงผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปีที่หนึ่ง (วันที่ 23 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2555) | สว | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประสานงานของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวราเทพ รัตนากร) เรื่อง การนัดประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เพื่อพิจารณารายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปีที่หนึ่ง (วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๕) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมาย
|
|||||||||||||||||||||
26891 | การลงพื้นที่ติดตามและรายงานสถานการณ์อุทกภัย | นร | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดในความรับผิดชอบโดยด่วน และให้รายงานผลไปยังคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเพื่อรวบรวมและนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
26892 | การเสนอเรื่องที่อาจเกี่ยวข้องกับบทบัญญัติตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กำชับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การเสนอเรื่องที่อาจเกี่ยวข้องกับบทบัญญัติตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) อย่างเคร่งครัดว่า หากเรื่องที่เสนอคณะรัฐมนตรีมีประเด็นที่อาจจะเกี่ยวกับบทบัญญัติตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และหน่วยงานเจ้าของเรื่องไม่ได้ส่งเรื่องพร้อมความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาด้วย ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องเสนอเรื่องถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีล่วงหน้าก่อนคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องนั้นไม่น้อยกว่า ๗ วัน เพื่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้ขอความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
26893 | การรายงานผลการดำเนินงานมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2557 มาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2556/57 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ตามมติคณะรัฐมนตรี | กษ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานผลการดำเนินการมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี ๒๕๕๗ มาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี ๒๕๕๖/๕๗ และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต ๒๕๕๖/๕๗ โดยผลการดำเนินงาน ณ วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๖ ของกรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งมีหน้าที่ในการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร ประชาคม และออกใบรับรองให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าว ในปี ๒๕๕๖/๕๗ ดังนี้ ๑.๑ ยางพารา เกษตรกรแจ้งขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน ๕๗๕,๒๔๑ ครัวเรือน รับขึ้นทะเบียนและบันทึกในระบบสารสนเทศเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราแล้ว จำนวน ๒๑๖,๔๑๓ ครัวเรือน พื้นที่ปลูก ๓,๑๔๑,๕๗๒ ไร่ พื้นที่เปิดกรีด ๒,๕๓๖,๓๘๐ ไร่ ส่งรายชื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่เปิดกรีดระดับตำบลดำเนินการแล้ว จำนวน ๓,๗๙๒ ครัวเรือน พื้นที่ปลูก ๔๓,๗๖๗ ไร่ พื้นที่เปิดกรีด ๓๘,๔๓๕ ไร่ ๑.๒ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เกษตรกรขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน ๑๓๕,๘๔๙ ครัวเรือน พื้นที่ ๒,๔๒๕,๘๑๐ ไร่ ผลผลิต ๑,๗๓๕,๔๒๗ ตัน เกษตรกรผ่านประชาคม จำนวน ๒๘,๕๘๔ ครัวเรือน พื้นที่ ๕๘๓,๐๗๓ ไร่ ผลผลิต ๔๐๔,๕๓๐ ตัน (คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๐๔ ของจำนวนครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียน) ออกใบรับรอง ๒๓,๐๓๘ ครัวเรือน พื้นที่ ๔๔๑,๘๒๗ ไร่ ผลผลิต ๓๐๖,๓๓๒ ตัน (คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๖๐ ของจำนวนครัวเรือนที่ผ่านการประชาคม) ๑.๓ ข้าว เกษตรกรขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน ๒,๓๔๓,๘๒๔ ครัวเรือน พื้นที่ ๔๑,๘๙๙,๐๘๐ ไร่ ผลผลิต ๑๗,๘๕๔,๗๐๘ ตัน เกษตรกรผ่านประชาคม จำนวน ๓๘,๗๙๙ ครัวเรือน พื้นที่ ๘๕๓,๓๓๓ ไร่ ผลผลิต ๔๘๓,๐๘๖ ตัน (คิดเป็นร้อยละ ๑.๖๖ ของจำนวนครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียน) ออกใบรับรอง ๑๙,๒๘๙ ครัวเรือน พื้นที่ ๓๙๘,๑๓๙ ไร่ ผลผลิต ๒๓๙,๐๗๓ ตัน (คิดเป็นร้อยละ ๔๙.๗๒ ของจำนวนครัวเรือนที่ผ่านการประชาคม) ๒. ให้กระทรวงการคลัง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการเร่งดำเนินมาตรการการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี ๒๕๕๗ โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง การเข้มงวดต่อการตรวจสอบสิทธิ์ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และข้าวที่เข้าร่วมโครงการเพื่อป้องกันการสวมสิทธิและการบุกรุกป่า การเร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็ว โดยดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง การเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์และสิทธิครอบครองประกอบการออกใบรับรองเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวแก่เกษตรกรอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง การประเมินผลสำเร็จการดำเนินโครงการเพื่อใช้เป็นแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในระยะต่อไป รวมทั้งการเตรียมความพร้อมและการปรับตัวของเกษตรกรในการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ควรเพิ่มการรายงานการป้องกันปัญหาการทุจริตในกระบวนการขึ้นทะเบียนและการทำประชาคม ตลอดจนผลจากการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของโครงการให้มีความรัดกุมมากขึ้น และการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลเกษตรกรให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันเพื่อให้การลงทะเบียนต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการตรวจสอบในระดับพื้นที่ ซึ่งจะช่วยป้องกันเรื่องการสวมสิทธิได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
26894 | รายงานประจำปี 2555 ของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ | สสส. | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๕ ของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การบริหารงบประมาณในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ใช้จ่ายงบประมาณเพื่อสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพรวม ๓,๕๓๑ ล้านบาท และมีการเบิกจ่ายเพื่อสนับสนุนโครงการใหม่ และโครงการต่อเนื่อง จำนวน ๓,๒๒๔ ล้านบาท ๑.๒ ผลงานเด่นประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ได้แก่ ขยายต้นแบบสถานประกอบการปลอดบุหรี่ ระดมความร่วมมือขยายพื้นที่วัฒนธรรมปลอดเหล้า ความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อความปลอดภัยทางถนน ขับเคลื่อนมาตรการเพื่อคนไทยปลอดภัยจากแร่ใยหิน สร้างคุณค่าผู้พิการทางสายตาเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะด้านการนวดไทย ร่วมคิดร่วมสร้างจังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองต้นแบบส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อเด็กและเยาวชน เพิ่มพื้นที่สุขภาวะและพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย สร้างสุขภาวะในวัด เสริมสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์ สร้างแรงจูงใจใหม่ เพิ่มจำนวนคนไทยออกกำลังกาย ฟื้นฟูชุมชนทั่วไทย และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ จุดกระแสสวดมนต์ข้ามปี สร้างค่านิยมเริ่มต้นปีใหม่คนไทย ๑.๓ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ งบรายได้และค่าใช้จ่าย และงบกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ สสส. แล้วเห็นว่า รายงานการเงินแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวของแต่ปีของ สสส. ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่กระทรวงการคลังกำหนด ๒. ให้ สสส. รับความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการตรวจสอบภายใน ที่เห็นว่า สสส. ควรกำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม และนำข้อเสนอแนะในประเด็นต่าง ๆ ของคณะกรรมการประเมินผลฯ ไปดำเนินการปรับปรุงการดำเนินงานของ สสส. รวมทั้งควรให้มีการจัดทำแผนลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังร่วมกันระหว่าง สสส. กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเห็นควรพิจารณาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของมาตรการ แนวทางการจัดสรรและบริหารจัดการงบประมาณที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงานสำหรับลดปัจจัยเสี่ยงและสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อความคุ้มค่าของการลงทุนในระยะต่อไป ตลอดจนควรมีการทบทวนระบบการควบคุมภายใน และการบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในเรื่องการเน้นการควบคุม/ป้องกันและรับช่วงต่อในการดูแลรักษาผู้ป่วยเรื้อรังอย่างต่อเนื่องไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
26895 | ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗ ดังนี้
๑. แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “วิชาชีพเภสัชกรรม” ๒. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสภาเภสัชกรรมในการออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรม เรื่องการต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ๓. กำหนดอายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาต ๔. เพิ่มเติมอัตราค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต |
|||||||||||||||||||||
26896 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. .... | ศธ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับเรื่องอำนาจในการกู้ยืมเงินของมหาวิทยาลัย โดยเห็นควรกำหนดกรอบวงเงินให้ชัดเจน และหากเกินวงเงินที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ อำนาจในการปกครอง ดูแล และการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ซึ่งสมควรให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขในการใช้ที่ราชพัสดุ การให้มหาวิทยาลัยต้องนำเงินรายได้ฝากกับกระทรวงการคลัง หากจะฝากกับธนาคารต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง การกำหนดให้รัฐบาลต้องจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป ควรแก้ไขเป็นให้จัดสรรตามความจำเป็น เหมาะสม สอดคล้องกับสถานะการเงินการคลังของประเทศ และปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับระบบบัญชีและการจัดทำงบการเงิน รวมทั้งให้ตัดร่างมาตรา ๑๕ วรรคสาม เกี่ยวกับการให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ ในสัดส่วนเดียวกับกรณีที่มีการปรับเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้กับข้าราชการ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและแนวทางการพัฒนาการจัดการศึกษา ควรคำนึงถึงการพัฒนาและการผลิตกำลังคนเพื่อรองรับประชาคมอาเซียนและการแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยการพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล การพัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างสถาบันการศึกษาและองค์กรต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ และกำหนดให้การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารและดำเนินงานในทุกระบบขององค์กร นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ควรให้ความสำคัญในการพัฒนาและวางระบบการบริหารการเงินการคลังที่เอื้อต่อประโยชน์สูงสุดต่อการวางแผนการพัฒนาการศึกษาในระดับอุดมศึกษาให้สามารถรองรับการพัฒนาประเทศ รวมทั้งติดตามประเมินผลเพื่อหาจุดที่คุ้มทุนในการจัดการศึกษาของแต่ละสาขาวิชาเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการวางแผนการผลิตและพัฒนากำลังคนที่เป็นรูปธรรมในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
26897 | ร่างระเบียบว่าด้วยบัตรประจำตัวครอบครัวของผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 และการเรียกบัตรประจำตัวครอบครัวคืน พ.ศ. .... | มท | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบว่าด้วยบัตรประจำตัวครอบครัวของผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑ และการเรียกบัตรประจำตัวครอบครัวคืน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงระเบียบว่าด้วยบัตรประจำตัวทายาทผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวทายาทคืน พ.ศ. ๒๕๑๔ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
26898 | การบริหารโครงการลงทุนภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ (พ.ร.ก.) ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ หลังจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ วงเงินประมาณ ๒๖.๒๕๕๐ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติการขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ หลังจากปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ได้แก่ ๑.๒.๑ โครงการวิจัยสู่ภาคเอกชน ณ โครงการพัฒนาที่ดินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สระบุรี ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน ๒๓.๙๐๕๐ ล้านบาท โดยขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงิน พ.ร.ก. ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ๑.๒.๒ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพส่วนราชการ (รายการก่อสร้างศูนย์กีฬาและนันทนาการ ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน ๑๓๙.๒๐ ล้านบาท โดยขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงิน พ.ร.ก. ถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ๑.๒.๓ โครงการขยายวิทยาเขตราชบุรีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (รายการก่อสร้างหอประชุม ๑ หลัง) วงเงิน ๑๔.๙๕๗๑ ล้านบาท และโครงการเพิ่มศักยภาพสวนอุตสาหกรรมของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (รายการก่อสร้างอาคารวิจัยและนวัตกรรม) วงเงิน ๗๒ ล้านบาท ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงิน พ.ร.ก. ถึงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ และ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ตามลำดับ ๑.๒.๔ โครงการก่อสร้างอาคารสิรินธรเพื่อดูแลผู้สูงอายุ วงเงิน ๖๙๙.๗๐ ล้านบาท และโครงการผลิตและพัฒนาศักยภาพแพทย์และบุคลากร ด้านสาธารณสุข วงเงิน ๓.๙๗๖๑ ล้านบาท ของสภากาชาดไทย โดยให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงิน พ.ร.ก. ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ และ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ ตามลำดับ ๑.๒.๕ รายการก่อสร้างของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๒๘ รายการ วงเงิน ๓๒๓.๙๒๒๗ ล้านบาท เบิกจ่ายถึงระหว่างเดือนธันวาคม ๒๕๕๖-เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ ตามความคืบหน้าของแต่ละโครงการและอนุมัติการยกเลิกรายการก่อสร้างของกระทรวงสาธารณสุข และนำวงเงินกู้ดังกล่าวรวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายในสาขาเศรษฐกิจต่อไป ๑.๒.๖ เงินสำรองจ่ายและค่าประกันผลงานที่จะต้องเบิกจ่ายหลังการดำเนินโครงการแล้วเสร็จจึงไม่สามารถเบิกจ่ายได้ภายในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ โดยขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายจนกว่าการเบิกจ่ายรายการดังกล่าวจะแล้วเสร็จ ๑.๓ อนุมัติการยกเลิกโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่โครงการหลวงประจำปี ๒๕๕๕ ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงิน ๙,๙๑๑,๕๐๐ บาท และนำวงเงินกู้ดังกล่าวรวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายในสาขาเศรษฐกิจต่อไป ๑.๔ จัดสรรเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ได้แก่ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๖ รายการ วงเงิน ๒๑,๗๖๔,๐๙๖.๓๗ บาท และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๔ รายการ วงเงิน ๑,๔๖๕,๙๕๔ บาท ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้หน่วยงานเร่งรัดการดำเนินโครงการเดิมให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาใหม่ที่ขยายให้ในครั้งนี้ และไม่ควรให้มีการนำเสนอโครงการใหม่ใด ๆ ที่จะเป็นภาระผูกพันกับการขยายกรอบระยะเวลาอีก เนื่องจากการบริหารโครงการลงทุนภายใต้พระราชกำหนดดังกล่าวได้เลยกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้เดิมในปี ๒๕๕๕ มาระยะหนึ่งแล้ว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
26899 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมเขตศุลกากร ด่านพรมแดน และทางอนุมัติของด่านศุลกากรเชียงของและด่านศุลกากรบึงกาฬ เพื่อรองรับเส้นทางตามกรอบการดำเนินการโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
26900 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ ดังต่อไปนี้
๑. กำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชานิเทศศาสตร์ และสาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ ๒. กำหนดสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชานิเทศศาสตร์ และสาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์
|
.....