ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1306 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 26101 - 26120 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
26101 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และขออนุมัติวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างใหม่ โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องทางจราจร (ระยะที่ 2) ของกรมทางหลวง | คค | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติในหลักการและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงสัดส่วนการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ร้อยละ ๕๐ และเงินงบประมาณร้อยละ ๕๐ เป็นเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณทั้งจำนวน เนื่องจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการเงินกู้ธนาคารโลกเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ และธนาคารโลกไม่ขยายระยะเวลากู้เงิน ประกอบกับกรมทางหลวงมีงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้ส่วนหนึ่งแล้ว รวมทั้งการขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒-พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒-พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑.๒ อนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันสำหรับโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น ๔ ช่องจราจร (ระยะที่ ๒) จำนวน ๕ สายทาง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข ๒๐๑ สาย อ. สีคิ้ว-ชัยภูมิ ตอน อ. สีคิ้ว-บ. หนองบัวโคก จ. นครราชสีมา, ทางหลวงหมายเลข ๒๔ สาย อ. สีคิ้ว-อุบลราชธานี ตอน อ. นางรอง-อ. ปราสาท จ. บุรีรัมย์ จ. สุรินทร์, ทางหลวงหมายเลข ๓๓๑ สายแยกทางหลวงหมายเลข ๓๖-ทางหลวงหมายเลข ๓ (อ. สัตหีบ) จ. ชลบุรี, ทางหลวงหมายเลข ๔ สายพังงา-กระบี่ ตอน ๓ (ทับปุด-อ่าวลึก) จ. พังงา จ. กระบี่ และทางหลวงหมายเลข ๔๐๘ สายนครศรีธรรมราช-สงขลา ตอน อ. ระโนด-อ. สทิงพระ จ. สงขลา จากเดิมวงเงิน ๕,๒๐๐.๐๐๐๐ ล้านบาท เป็นวงเงิน ๖,๑๘๙.๒๐๐๐ ล้านบาท ตามนัยของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งไม่เกินหลักการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ โดยขอทำความตกลงกรมบัญชีกลางเพื่อเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๙๒.๐๘๔๐ ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๑,๔๙๖.๐๓๔๓ ล้านบาท ที่ได้รับจัดสรรแล้ว ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๔,๖๐๑.๐๘๑๗ ล้านบาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้กรมทางหลวงเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ให้กรมทางหลวงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ประสานงานกับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยความโปร่งใสและถูกต้อง รวมทั้งการจัดทำขอบเขตงาน (TOR) ให้มีความรัดกุม และประกาศเชิญชวนผ่านสื่อทุกประเภท เพื่อให้ประชาชนและผู้สนใจได้รับทราบล่วงหน้าโดยทั่วกัน และมีการแข่งขันการประมูลอย่างเป็นธรรมตามความเห็นของ คตร. ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
26102 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงเงินอุดหนุนชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับสินทรัพย์รอการพัฒนาในลักษณะเงินยืมไม่เกิน 2 ปี เป็นเงินอุดหนุนชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับสินทรัพย์รอการพัฒนา จำนวน 470.88 ล้านบาท | พม | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงเงินอุดหนุนชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับสินทรัพย์รอการพัฒนาในลักษณะเงินยืมไม่เกิน ๒ ปี เป็นเงินอุดหนุนชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับสินทรัพย์รอการพัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวน ๔๗๐.๘๘ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้ ให้การเคหะแห่งชาติปรับปรุงแผนการบริหารจัดการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยมุ่งเน้นปรับโครงสร้างหนี้ที่สัญญากู้เงินมีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง แล้วเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป ตามความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ รวมทั้งให้เร่งรัดการดำเนินการจำหน่ายบ้านเอื้ออาทรเพื่อให้เกิดรายได้โดยเร็วและชำระหนี้ได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
26103 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าขยายเขตไฟฟ้าที่ยังค้างชำระให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | กษ | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ภายใต้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าขยายเขตไฟฟ้าที่ยังค้างชำระให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในวงเงินทั้งสิ้น ๑๒๘,๘๗๓,๒๔๗.๕๘ บาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า จำนวน ๔๗,๐๕๓,๕๕๗.๐๙ บาท และค่าใช้จ่ายงานขยายเขตระบบจำหน่ายแรงสูง จำนวน ๘๑,๘๑๙,๖๙๐.๔๙ บาท โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
26104 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 และ 2554 | คค | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ ประกอบด้วย รายงานงบการเงินของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ และสรุปผลการดำเนินงานของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมจัดส่งรายงานในเรื่องนี้เพื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมการขนส่งทางบก) รับไปดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ เร่งรัดการดำเนินการเกี่ยวกับการนำระบบ GPS และระบบการติดตามผู้ขับขี่มาใช้ในรถยนต์โดยสารสาธารณะเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถโดยสารสาธารณะ ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) และวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ [เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใช้บังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครั้งที่ ๔) รวม ๑๔ ฉบับ] ให้แล้วเสร็จและมีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ๒.๒ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเงินที่ได้รับจากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวยให้ประชาชนและผู้สนใจได้ทราบโดยทั่วกัน
|
||||||||||||||||||||||||
26105 | โครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.34 (กม.ที่ 26) เชื่อมกับทางหลวงชนบท สาย ฉช.3001 (ตอนที่ 1) จังหวัดสมุทรปราการ | คค | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติโครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล. ๓๔ (กม.ที่ ๒๖) เชื่อมกับทางหลวงชนบท สาย ฉช. ๓๐๐๑ (ตอนที่ ๑) จังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง ๔.๐๗๕ กิโลเมตร ในวงเงิน ๗๑๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๙ ก่อนกระทรวงคมนาคมดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
26106 | มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 | กค | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม ๓ ฉบับ (มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ ๒) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ ๒ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ๓. ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ ๒ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด |
||||||||||||||||||||||||
26107 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงานในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สลธ.คสช. | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงานในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงินให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทราบ และแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
26108 | ร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใชับังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครั้งที่ 5) รวม 14 ฉบับ | สลธ.คสช. | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใช้บังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครั้งที่ ๕) รวม ๑๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับยกเว้นภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมภาษีประจำปีที่ค้างชำระของหน่วยงานราชการ) ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๖ ในเรื่องการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยให้ประชาชนหรือชุมชนประมงท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการด้วย พร้อมทั้งกำหนดมาตรการส่งเสริมให้สัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำได้คุณภาพมาตรฐาน และปลอดภัยเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภค) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของกระทรวงกลาโหม (ขยายหลักสูตรการสอนของสถาบันการศึกษาวิชาการทหารจากระดับปริญญาโทเป็นระดับปริญญาเอก และให้สภาการศึกษาวิชาการทหารมีอำนาจให้ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงและประกาศนียบัตรบัณฑิตแก่นักเรียนวิชาการทหาร) ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพที่มีอายุเด็กเป็นองค์ประกอบ ความผิดโดยกำหนดไม่ให้ผู้กระทำความผิดอ้างความไม่รู้ของอายุของเด็กเพื่อให้พ้นความรับผิดทางอาญาได้) ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดนิยามคำว่า “เจ้าพนักงาน” ให้รวมถึงบุคคลซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าเป็นเจ้าพนักงานหรือได้รับแต่งตั้งตามกฎหมาย ไม่ว่าจะประจำหรือชั่วคราว เพื่อให้มีความชัดแจ้งและลดข้อโต้แย้ง พร้อมทั้งเพิ่มลักษณะความผิดเกี่ยวกับศพ ความผิดเกี่ยวกับการคุกคาม และปรับปรุงอัตราโทษปรับสำหรับความผิดลหุโทษ) ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... (อนุวัติการตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความรับผิดทางแพ่งสำหรับความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน ค.ศ. ๑๙๙๒ โดยกำหนดให้เจ้าของเรือต้องรับผิดชดใช้ความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน และต้องมีการเอาประกันภัยหรือจัดหาหลักประกันความเสียหาย) ๑.๗ ร่างพระราชบัญญัติความลับทางการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงองค์ประกอบ คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และวิธีการประชุมของคณะกรรมการความลับทางการค้า รวมทั้งปรับปรุงบทกำหนดโทษ) ๑.๘ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรมฯ เพื่อแบ่งส่วนราชการในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๑.๙ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (จัดตั้งสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเป็นส่วนราชการระดับกรมในกระทรวงพาณิชย์) ๑.๑๐ ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดให้มีการคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิและมาตรการทางเทคโนโลยี รวมทั้งกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของนักแสดง) ๑.๑๑ ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... (เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ) ๑.๑๒ ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดหลักเกณฑ์ทางศุลกากรที่ใช้กับพื้นที่ควบคุมร่วมกันตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนภายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน) ๑.๑๓ ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงกฎหมายสถานพยาบาลสัตว์ให้ครอบคลุมทั้งเอกชนและของรัฐเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพสัตวแพทย์) ๑.๑๔ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... (จัดตั้งสถาบันวิทยาลัยชุมชนเป็นสถานศึกษาที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยโอนกิจการและทรัพย์สินของสำนักงานบริหารงานวิทยาลัยชุมชน คณะกรรมการการอุดมศึกษา ไปเป็นของสถาบันฯ เพื่อขยายโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาของประชาชน) ๒. ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนกรณีที่นำที่ดินมาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนครบถ้วนแล้ว ให้สามารถนำที่ดินส่วนที่เหลือไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ เช่น พื้นที่ใต้แนวเขตทางด่วน พื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น แล้วให้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป ๓. ให้กระทรวงกลาโหมรับข้อสังเกตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการตามร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ว่าเมื่อร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว กระทรวงกลาโหมควรพิจารณาจัดทำร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหลักต่าง ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสถาบันการศึกษาหลักดังกล่าว และควรเปิดสอนเฉพาะสาขาวิชาที่จำเป็นต่อเหล่าทัพเป็นหลัก ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษาปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับโทษทางอาญาสำหรับความผิดที่กระทำผิดต่อเด็กซึ่งเป็นผู้ไร้เดียงสาและไม่สามารถป้องกันตนเองได้ โดยควรกำหนดอัตราโทษขั้นสูงสุดและไม่ควรมีการลดโทษในความผิดนั้น แล้วให้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
26109 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. .... | พม | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่งโดยด่วน แล้วเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการออกกฎหมายเพื่อควบคุมดูแลสเต็มเซลล์ (Stem Cells) ร่วมกับแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหากเห็นควรออกเป็นกฎหมายก็ให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว แล้วเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
26110 | โครงการระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ เพื่อรองรับบริการอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) | ทก | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (ทีโอที) ดำเนินโครงการระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ เพื่อรองรับบริการอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ วงเงินลงทุน ๕,๙๗๙.๑๔ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการเพื่อระงับข้อพิพาทตามสัญญาก่อสร้างและบำรุงรักษาระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศฯ และสัญญาจ้างก่อสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศที่ต้องใช้ในการดำเนินโครงการระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศฯ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง การทำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชน) ๑.๓ เห็นชอบให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแจ้งภาคีสมาชิกผู้ร่วมก่อสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ เส้นทาง Asia-Africa-Europe (AAE-1 Consortium) ทราบความคืบหน้าในการพิจารณาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๒. ให้ ทีโอที จัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ โดยให้มีการลงทุนจัดสร้างเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศใน ๒ เส้นทาง ได้แก่ Asia Africa-Europe-1 (AAE-1) และ Southeast Asia-Japan Cable System (SJC) เป็นลำดับแรกก่อน และให้ยึดหลักผลประโยชน์แห่งชาติเป็นหลักตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒ และ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ด้วย ทั้งนี้ หากการดำเนินโครงการดังกล่าวมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕ ก็ให้ ทีโอที ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนดำเนินโครงการต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ นำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจเพื่อรับทราบการดำเนินโครงการดังกล่าวของ ทีโอที และพิจารณาผลตอบแทนและความคุ้มทุนในการลงทุนโครงการดังกล่าวให้สอดคล้องกับการจัดทำแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจในกรณีของ ทีโอที หากมีข้อทักท้วงหรือประเด็นที่มีนัยสำคัญกับการลงทุนดังกล่าว ให้รีบแจ้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพิจารณาก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ๔. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเร่งรัดให้ ทีโอที นำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการ ทีโอที พิจารณาโครงการลงทุนนี้ หากไม่มีข้อทักท้วงที่มีนัยสำคัญ ให้ดำเนินการให้สัตยาบันการดำเนินโครงการดังกล่าวด้วย ๕. ให้ ทีโอที จัดทำแผนการลงทุนของบริษัทให้ชัดเจน โดยคำนึงถึงศักยภาพและขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนเพื่อให้สามารถสร้างรายได้และรักษาสภาพคล่องและฐานะทางการเงินขององค์กรได้อย่างเหมาะสมด้วย ๖. ในกรณีที่ ทีโอที จะมีการทำสัญญาร่วมลงทุนดำเนินโครงการกับเอกชนต่อไปในอนาคต ให้ ทีโอที ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
26111 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้สำนักงบประมาณเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของทุกส่วนราชการให้สามารถเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยให้เน้นการดำเนินงาน/โครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้และการสร้างงานให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนราชการที่มีโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ให้ความสำคัญต่อขั้นตอนการเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของราชการเป็นหลัก และรายงานการใช้จ่ายงบประมาณและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการรายไตรมาสต่อสำนักงบประมาณด้วย ๑.๒ แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในภาพรวมจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังคงเผชิญความเสี่ยงในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ต่างประเทศและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและถือว่าการจัดเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกเป็นวาระเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยให้ดำเนินการ ดังนี้ ๑.๒.๑ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณกำหนดแผนงาน/มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วน โดยให้ครอบคลุมมาตรการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก มาตรการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนและผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจด้วย ๑.๒.๒ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตรที่คาดว่าจะมีปัญหาผลผลิตล้นตลาดในเดือนกันยายนและในระยะต่อไป ๑.๒.๓ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการจัดหาเงินทุนเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศให้ปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น ๑.๓ ให้ทุกส่วนราชการปฏิบัติตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ที่กำหนดให้หน่วยงานตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินโครงการก่อนเสนอขอตั้งและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้ รวมทั้งให้ระบุผู้รับผิดชอบหากโครงการไม่บรรลุตามเป้าหมายด้วย ๑.๔ สืบเนื่องจากกรณีที่รัสเซียได้ประกาศใช้มาตรการปกป้องทางการค้า ห้ามการนำเข้าอาหารหลายประเภทจากสหรัฐอเมริกาและสภาพยุโรปเพื่อเป็นการตอบโต้กรณีที่เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษรัสเซียต่อกรณีวิกฤตยูเครน นั้น ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์หาช่องทางและแนวทางเพิ่มการส่งออกสินค้าอาหารของไทยไปยังรัสเซียในช่วงนี้ด้วย ๑.๕ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) ของพืชเกษตร นั้น เพื่อให้มีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมในการชักจูงให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูก จึงให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินโครงการนำร่องเพื่อเป็นต้นแบบการเรียนรู้ให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป ๑.๖ ให้ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณากำหนดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง แล้วนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณา ตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการดูแลราคาสินค้า ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และการแก้ปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยว ๒. ด้านสังคม ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินการกำหนดมาตรการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยและไม่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานคร โดยยึดหลักความเป็นธรรมและคำนึงถึงความเดือดร้อนของกลุ่มคนดังกล่าวด้วย ๓. ด้านอื่น ๆ ๓.๑ ให้ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) และหน่วยทหารในพื้นที่ เร่งระบายน้ำที่ยังท่วมขังในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ และปราจีนบุรี และดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ดังกล่าวอย่างทั่วถึงด้วย ๓.๒ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำพิจารณาหามาตรการในการป้องกันภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการเกษตรกรรม จึงควรพิจารณาทำโครงการแก้มลิง เพื่อเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำ โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุ พื้นที่ราชการ หรือพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม เพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าว ๓.๓ ให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาปรับปรุงการทำงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยให้เน้นการเป็นหน่วยประสานงานและบริหารจัดการเพื่อบูรณาการทรัพยากรและความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันการณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ๓.๔ ให้ทุกส่วนราชการใช้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance) ในการปฏิบัติภารกิจในความรับผิดชอบให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนเพื่อให้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย ๓.๕ ให้ทุกส่วนราชการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการต่าง ๆ ที่แล้วเสร็จตามที่ได้รับมอบหมาย โดยอาจขอความร่วมมือสื่อต่าง ๆ ร่วมเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินการด้วย ๓.๖ ให้ทุกส่วนราชการเร่งรวบรวมประเด็นและข้อเสนอต่าง ๆ ที่เห็นควรเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติ ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรวบรวมและจัดทำเป็นข้อเสนอในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
26112 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวจิตรา เศรษฐอุดม) | สธ | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวจิตรา เศรษฐอุดม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข (นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||
26113 | รัฐบาลราชรัฐลักเซมเบิร์กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | สลธ.คสช. | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งนายรอแบร์ เลาแอร์ (Mr. Robert Lauer) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายมาร์ก ทิลล์ (Mr. Marc Thill) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
26114 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สุนทร) | คค | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ดังนี้
๑. นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สุนทร ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวงชนบท ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ ๒. นายสิรภพ จึงสมาน ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก (นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ๓. นายสมศักดิ์ ห่มม่วง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ (นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ |
||||||||||||||||||||||||
26115 | ร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลบังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครั้งที่ 4) รวม 14 ฉบับ | สลธ.คสช. | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลบังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครั้งที่ ๔) จำนวน ๑๓ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์) ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายเรืองแสงหรืออุปกรณ์เรืองแสงอื่นในการแสดงสัญญาณจราจรได้ และกำหนดข้อสันนิษฐานว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นในกรณีที่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. .... (กำหนดลักษณะความผิด และขยายเขตอำนาจรัฐสำหรับความผิดที่มีลักษณะเป็นการประพฤติไม่เหมาะสมบนอากาศยาน เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาเกี่ยวกับการกระทำความผิดบางประการต่อการเดินอากาศและอนุสัญญาอื่น ๆ ที่ประเทศไทยเป็นภาคี) ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การนำของเข้าเพื่อการผ่านแดนและอำนาจของพนักงานศุลกากรในการตรวจสอบ การขอให้อธิบดีตีความพิกัดเป็นการล่วงหน้า อำนาจอธิบดีในการตรวจและป้องกันการลักลอบหนีศุลกากร และการใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์) ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดอำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการประกาศอัตราศุลกากรตามพันธกรณีระหว่างประเทศ อำนาจอธิบดีในการพิจารณาถิ่นกำเนิดและตีความพิกัดล่วงหน้า และกำหนดประเภทของที่ได้รับยกเว้นเพิ่มขึ้น) ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดให้ผู้ที่บันทึกภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดเฉพาะ มีอัตราโทษเช่นเดียวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ทางการค้า และกำหนดข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ของคนพิการทางการมองเห็น คนพิการทางการได้ยิน คนพิการทางสติปัญญา และคนพิการประเภทอื่น) ๑.๗ ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม “วิชาชีพเภสัชกรรม” ให้สอดคล้องกับภารกิจของเภสัชกร ปรับปรุงอำนาจหน้าที่คณะกรรมการสภาเภสัชกรรมในการออกข้อบังคับสภาในเรื่องใบอนุญาต รวมทั้งกำหนดเรื่องอายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาต เพื่อให้การประกอบวิชาชีพมีคุณภาพและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค) ๑.๘ ร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... (ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการกีฬาจังหวัด รวมทั้งให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งประเทศไทย และหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งสมาคมกีฬา) ๑.๙ ร่างพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. .... (แก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยสาเหตุเกี่ยวกับเพศและเพื่อให้รองรับการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีของสหประชาชาติ โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการและหน่วยงานอิสระขึ้นเพื่อรับผิดชอบในด้านนี้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการสงเคราะห์ผู้เสียหายและมีกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมกัน) ๑.๑๐ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... (กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์และองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ กำหนดหลักเกณฑ์ในการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ที่เลี้ยงไว้เป็นสัตว์บ้าน เพื่อใช้งาน เพื่อใช้เป็นอาหาร หรือเพื่อใช้ในการแสดง และการขึ้นทะเบียนสถานสงเคราะห์สัตว์) ๑.๑๑ ร่างพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล กำหนดประเภทรถห้ามใช้ และข้อยกเว้นการใช้รถที่ยังไม่ได้จดทะเบียน ปรับปรุงอำนาจนายทะเบียนในการเข้าตรวจสถานที่และยึดแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ค้างชำระภาษี และปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมและบทกำหนดโทษ) ๑.๑๒ ร่างพระราชบัญญัติรับขนคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ. .... (กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดของคู่สัญญาในสัญญารับขนคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศ เพื่อช่วยลดอุปสรรคในทางการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคและเพื่อให้สอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง) ๑.๑๓ ร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... (การปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับโรคระบาดสัตว์ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันที่โรคระบาดสัตว์สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปรับปรุงการทำงานของสัตวแพทย์ สารวัตรและพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น) ๒. รับทราบร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยให้ฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ รับไปพิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติฯ ร่วมกับกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในประเด็นข้อสังเกตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับความเหมาะสมในการยกเว้นคุณสมบัติและลักษณะด้านทุนและอำนาจการบริหารกิจการของผู้รับใบอนุญาตผลิตอากาศยาน ผู้รับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานและผู้ขอรับใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่หนึ่ง โดยให้คำนึงถึงผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม แล้วให้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาต่อไป ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ว่าการกำหนดให้คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยมีอำนาจออกข้อบังคับว่าด้วยค่าใช้จ่ายและค่าตอบแทนให้แก่ประธานกรรมการและกรรมการ ซึ่งเป็นการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่ตนเองนั้น อาจก่อให้เกิดความขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์สาธารณะ ควรให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาหรือให้ความเห็นชอบด้วย รวมทั้งประเด็นในเรื่องความซ้ำซ้อนของวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติกับอำนาจหน้าที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย และข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในเรื่องความเหมาะสมของการให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติจัดเก็บเงินบำรุงกองทุนจากภาษีสุราและยาสูบในอัตราร้อยละสอง ไปเสนอเป็นข้อสังเกตในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย ๔. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับข้อสังเกตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. .... ว่าควรมีการบัญญัติในกรณีที่บางสาขาอาชีพ เช่น อาชีพที่ต้องมีความเสี่ยงภัยหรืออันตราย เป็นต้น ไม่สามารถจะปฏิบัติต่อเพศหญิงและเพศชายได้อย่างเท่าเทียมกันได้ ไปเสนอเป็นข้อสังเกตในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย ๕. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... ว่าหลักเกณฑ์ในการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ไม่ควรกระทบการดำเนินธุรกิจของเจ้าของสัตว์ ไปเสนอเป็นข้อสังเกตในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย ๖. ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติรับขนคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศ พ.ศ. .... ว่าการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการขนส่งระหว่างประเทศตามร่างพระราชบัญญัตินี้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการขนส่งและควรอยู่บนพื้นฐานของหลักการต่างตอบแทนที่เท่าเทียมกัน ไปเสนอเป็นข้อสังเกตในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย ๗. ให้กระทรวงคมนาคมรับไปดำเนินการออกมาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยทั้งด้านตัวรถ ผู้ขับรถ และผู้ประกอบการขนส่ง รวมทั้งมาตรการในการนำเทคโนโลยีที่เพิ่มความปลอดภัยในการขับรถมาใช้ด้วย แล้วให้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป ๘. ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐดำเนินการตรวจสอบความจำเป็นและเหมาะสมในการใช้จ่ายเงินของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ แล้วรายงานให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
26116 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 งบกลาง สำหรับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร รายการเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม | ศย | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเพิ่มเงินค่าครองชีพชั่วคราวข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม (ผู้พิพากษาชั้น ๓-ชั้น ๕ และผู้พิพากษาอาวุโส) ตามร่างระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ว่าด้วยการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จำนวน ๕๙๐,๔๒๑,๖๐๐ บาท ให้สำนักงานศาลยุติธรรมปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ภายใต้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๓๙๐,๔๒๑,๖๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมรับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการปรับปรุงค่าตอบแทนหรือเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งองค์กรอิสระและองค์กรอื่น ๆ ตามรัฐธรรมนูญ ให้เกิดความเป็นธรรม เท่าเทียม และมีการยึดโยงกันอย่างเหมาะสม เพื่อให้บุคลากรดังกล่าวมีรายได้ที่เพียงพอและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และให้นำเรื่องนี้เสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่จะจัดตั้งขึ้นตามแนวทางปฏิรูปประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในระยะที่ ๒ เพื่อพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
26117 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลืออพยพคนไทยออกจากประเทศลิเบีย | กต | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือคนไทยออกจากประเทศลิเบีย ภายในกรอบวงเงิน ๒๒๔,๖๔๕,๘๐๐ บาท โดยผู้รับความช่วยเหลือไม่ต้องชดใช้คืนเงินราชการ และให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษตามที่จ่ายจริง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. สำหรับกรณีการขออนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) สำหรับกรณีจำเป็นด้วย เนื่องจากการอพยพครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์พิเศษคับขัน และจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือคนไทยทันที ซึ่งการดำเนินการหลายกรณีอาจไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบราชการปกติได้ นั้น ให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เร่งดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยด่วน ๓. ให้กระทรวงแรงงานรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาดูแลแรงงานไทยที่จำเป็นต้องเดินทางกลับก่อนกำหนดทำให้ขาดรายได้และมีปัญหาหนี้สิน รวมทั้งการดำเนินการเพื่อให้แรงงานไทยดังกล่าว สามารถกลับไปทำงานเดิมในประเทศลิเบียได้เมื่อสถานการณ์สงบ |
||||||||||||||||||||||||
26118 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสิรภพ จึงสมาน นายสมศักดิ์ ห่มม่วง) | คค | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ดังนี้
๑. นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สุนทร ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวงชนบท ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ ๒. นายสิรภพ จึงสมาน ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก (นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ๓. นายสมศักดิ์ ห่มม่วง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ (นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ |
||||||||||||||||||||||||
26119 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 1/2557 | นร11 | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ เมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานในแต่ละกลุ่มเพื่อนประธาน ได้แก่ กลุ่มนโยบายการแข่งขันและกฎหมาย (Competition Policy and Law Group : CPLG) กลุ่มนโยบายการแข่งขัน (Competition Policy) กลุ่มกฎหมายหุ้นส่วนบริษัทและบรรษัทภิบาล (Corporate Law and Governance) กลุ่มความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business : EODB) กลุ่มธรรมาภิบาลภาครัฐ (Public Sector Governance) และกลุ่มการปฏิรูปกฎระเบียบ (Regulatory Reform) การจัดทำรายงานเศรษฐกิจเอเปคประจำปี และยุทธศาสตร์การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ (APEC New Strategy for Structural Reform : ANSSR) รวมทั้งการหารือระดับนโยบายเรื่อง สภาพเศรษฐกิจในภูมิภาคและนัยเชิงนโยบาย (State of the Regional Economy and its Policy Implication) และเรื่อง ความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business : EODB) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยเฉพาะข้อสังเกตของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในรูปแบบใหม่ (Unconventional Quantitative Easing) ที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนในปริมาณมากและรวดเร็ว และข้อสังเกตขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organizational Economic Cooperation and Development : OECD) เกี่ยวกับการผลักดันให้อุปสงค์ในประเทศเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเอเปคมากกว่าส่งออก และความท้าทายในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งสอดคล้องกับข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ในประเด็นโครงการลงทุนต่าง ๆ ที่ให้มีการจ้างงานและใช้วัตถุดิบภายในประเทศและการสนับสนุนให้เกิดวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของคนไทย ๒. สำหรับในกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและกระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการยกร่างโครงการเบื้องต้น (Concept Note) เรื่อง ANSSR : Developing Regulatory Impact Assessment (RIA) Guidelines as an anti-corruption แล้ว นั้น เพื่อให้การนำเสนอเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับมติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) เกี่ยวกับการเจรจาและการจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ และให้สอดคล้องกับแนวทางที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติดำเนินการในกรอบของข้อกฎหมายอยู่ จึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการเสนอข้อเสนอร่างโครงการเบื้องต้นฯ ต่อฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
26120 | การติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ | กค | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ซึ่งผลการเบิกจ่ายเงินปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีรายจ่ายภาพรวม จำนวน ๑,๗๒๐,๐๓๒.๘๖ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๘.๑๒ ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ ๑.๘๘ (เป้าหมายไตรมาสที่ ๓ ร้อยละ ๗๐.๐๐) และมีรายจ่ายลงทุน จำนวน ๒๐๙,๑๖๙.๒๗ ล้านบาท หรือร้อยละ ๔๘.๘๒ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายรายจ่ายลงทุนร้อยละ ๒๑.๑๘ (เป้าหมายไตรมาสที่ ๓ ร้อยละ ๗๐.๐๐) ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ได้ออกมาตรการสนับสนุนการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้ ๑.๑ การอนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ กรณีการดำเนินการคัดเลือกเบื้องต้นเพื่อหาผู้มีสิทธิเสนอราคา แล้วมีผู้มีสิทธิเสนอราคาเพียงรายเดียว หรือมีผู้มีสิทธิเสนอราคาเพียงรายเดียว เมื่อถึงเวลาเริ่มการเสนอราคา ซึ่งตามหลักเกณฑ์เดิมต้องยกเลิกการประกวดราคา แต่ตามหลักเกณฑ์ใหม่ ถ้าคณะกรรมการประกวดราคาเห็นว่ามีเหตุผลสมควรที่จะดำเนินการต่อไป ให้คณะกรรมการฯ ต่อรองราคากับผู้มีสิทธิเสนอราคารายนั้น แล้วเสนอหัวหน้าหน่วยงานพิจารณาในขั้นตอนต่อไปได้ ซึ่งจะทำให้การจัดหาพัสดุรวดเร็วขึ้น ๑.๒ การขอยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ ต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ หรือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เร่งเสนอเรื่องให้กรมบัญชีกลางโดยด่วน เพื่อให้ทันกับการดำเนินการก่อหนี้ และเบิกจ่ายภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ได้ยกเว้นแล้ว จำนวน ๔๑๘ เรื่อง จำนวนเงิน ๔๙,๕๓๑.๓๙ ล้านบาท ๑.๓ การซ้อมความเข้าใจแนวทางการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ และอนุมัติการดำเนินการจัดหาพัสดุ กรณีวงเงินตั้งแต่ ๒ ล้านบาทขึ้นไป ไม่ต้องทำ Auction ถ้าเป็นการจ้างที่ปรึกษา การจ้างออกแบบและควบคุมงาน การซื้อการจ้างโดยวิธีพิเศษ และวิธีกรณีพิเศษ หรือการจัดหาสินค้าและบริการที่มีการแข่งขันน้อยราย มีความซับซ้อนหรือเทคนิคเฉพาะของสินค้าและบริการ หรืองานหรือโครงการ สินค้าและบริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีประเภทระบบ IT ที่เป็นลักษณะเฉพาะ หรือเป็นพัสดุที่มีความผันผวนด้านราคา หน่วยงานสามารถจัดหาพัสดุด้วยวิธีอื่น เช่น วิธีพิเศษได้โดยไม่ต้องเริ่มจาก Auction และไม่ต้องขออนุมัติคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ๑.๔ การเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ กรณีมีการอุทธรณ์ผลการพิจารณาคัดเลือกเบื้องต้น และอุทธรณ์ผลการเสนอราคา ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ให้หน่วยงานที่จัดหาพัสดุดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้ โดยไม่ต้องระงับการดำเนินการ ทำให้ลดระยะเวลาจาก ๘๕ วัน คงเหลือ ๔๒ วัน ๑.๕ กระทรวงการคลังจะไม่อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี ทั้งปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ยังไม่ได้ก่อหนี้ ถ้าหน่วยงานไม่สามารถก่อหนี้ได้ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ เว้นแต่จะมีความจำเป็น ๒. ให้ส่วนราชการเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหนังสือของกระทรวงการคลัง (หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๔๒๐.๕/๙๔๔๓ ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้
|
.....