ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1305 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 26081 - 26100 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
26081 | โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้าระยะที่ 12 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 19/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการขยายระบบส่งไฟฟ้าระยะที่ ๑๒ ของ กฟผ. ในวงเงินลงทุนรวม ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนประจำปี ๒๕๕๗ สำหรับโครงการฯ จำนวน ๗.๑ ล้านบาท ๒. ให้ กฟผ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการฯ ให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด การหลีกเลี่ยงดำเนินการในพื้นที่ที่จะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า C พื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือพื้นที่ที่มีความสำคัญทางทรัพยากรธรรมชาติ การศึกษาทางเลือกอื่นเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดต่อสภาพแวดล้อม ระบบนิเวศ และทรัพยากรธรรมชาติที่อาจไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมหรือทดแทนได้ การบริหารจัดการการจัดซื้อที่ดินให้รอบคอบและมีประสิทธิภาพเพื่อลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ภาระทางการเงินและผลกระทบที่อาจมีต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยรวม การบริหารจัดการเรื่องการเงินและการลงทุนให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสอดรับกับแนวโน้มของอัตราแลกเปลี่ยน การให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงินขององค์กรในระยะยาว การพิจารณาดำเนินงานโครงการให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม (เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๓๗) และกลไกการดำเนินงานด้านการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการต่าง ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔ การสำรวจและเตรียมความพร้อมในการดำเนินโครงการ รวมถึงพิจารณาความเชื่อมโยงและความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและโครงการอื่นตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan : PDP) ตลอดจนให้ความสำคัญกับแผนบริหารความเสี่ยงทั้งด้านการดำเนินงานและด้านการเงินให้สอดรับและรัดกุมเพื่อมิให้กระทบต่อผลการดำเนินงานในภาพรวมของหน่วยงาน การจัดลำดับความสำคัญของโครงการย่อยแต่ละโครงการเพื่อเร่งรัดการดำเนินงาน โดยเฉพาะโครงการย่อยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าและการเกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง รวมทั้งมีแผนป้องกันความเสี่ยงและจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลทำให้การดำเนินโครงการมีความล่าช้า การบริหารและควบคุมการดำเนินโครงการฯ ให้มีต้นทุนที่ประหยัดมากที่สุด การพิจารณาทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่เหมาะสม และการจัดสรรงบประมาณไม่น้อยกว่าร้อยละ ๓ ของกำไรสุทธิ เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ เรื่อง กรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
26082 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 | กษ | 19/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 (Expo Milano 2015) ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ถึง ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยเป็นการสรุปผลการดำเนินงานในส่วนของการจ้างออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่งอาคาร จัดนิทรรศการ รื้อถอน และการจัดการนิทรรศการ การดำเนินการออกแบบและก่อสร้างอาคารแสดงประเทศไทย การแต่งตั้งและการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงาน รวมทั้งการเข้าร่วมประชุมกับองค์กรผู้จัดงาน (Expo Organizer) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ การเข้าร่วมงานดังกล่าวควรให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณและประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับด้วย โดยในส่วนของการจัดนิทรรศการ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นการเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านงานวิจัย พัฒนา และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติทั้งดินและน้ำ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สินค้าเกษตรและอาหาร สินค้าภายใต้โครงการหลวง และสินค้าไทยชนิดต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนและความประณีตพิถีพิถันในการผลิต เช่น โครงการหลวง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงดำเนินการโครงการด้วยพระองค์เอง และโครงการมูลนิธิส่งเสริมศูนย์ศิลปาชีพซึ่งเป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงเป็นผู้ก่อตั้งด้วยพระองค์เอง เป็นต้น รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประเพณี และคุณค่าของความเป็นไทยด้วย ๒. เมื่องาน Universal Exhibition Milano 2015 เสร็จสิ้นแล้ว ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำรายงานผลการดำเนินงานและประโยชน์จากการเข้าร่วมงานดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||
26083 | การจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน | นร | 19/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอเรื่อง การจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน มาเพื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณา นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่าเรื่องดังกล่าวได้เคยผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีมาครั้งหนึ่งแล้วในการประชุมเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ซึ่งพิธีสารดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการจัดทำหนังสือสัญญาที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ อย่างไรก็ตาม พิธีสารดังกล่าวอาจเข้าข่ายมาตรา ๒๓ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ต้องได้รับความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จึงมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน โดยเพิ่มเอกสารภาคผนวกเพื่อระบุขั้นตอนการแก้ไขรายการข้อสงวนเพื่อรองรับการแก้ไขรายการข้อสงวนใน ๓ กรณี คือ กรณีที่ ๑ การแก้ไขเพื่อเปิดเสรีเพิ่มเติมตามกำหนดเวลาในพิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) กรณีที่ ๒ การแก้ไขเพื่อเพิ่มเติมมาตรการที่ตกหล่นให้ครบถ้วนตามกฎหมาย ภายในระยะเวลา ๑๒ เดือน นับจากวันที่ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับ (ภายใน ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖) และกรณีที่ ๓ การแก้ไขให้มาตรการเข้มงวดขึ้นกว่าเดิมหลังความตกลงฯ มีผลใช้บังคับครบ ๑๒ เดือน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ลงนามในพิธีสารฯ ต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายในเรื่องดังกล่าว หากยืนยันตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ให้ดำเนินการต่อไปได้ แต่หากเห็นว่าพิธีสารฯ ต้องเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็ให้แจ้งความเห็นมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วน |
|||||||||||||||||||||
26084 | โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า | พน | 19/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ในวงเงินลงทุนรวม ๖๓,๒๐๐ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนประจำปี ๒๕๕๗ สำหรับโครงการฯ จำนวน ๓.๒ ล้านบาท ๑.๓ อนุมัติให้ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๒๗ วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ และวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อให้ กฟผ. สามารถก่อสร้างสายส่ง ๕๐๐ เควี สุราษฎร์ธานี ๒-ภูเก็ต ๓ ซึ่งจะพาดผ่านพื้นที่ป่าชายเลน ๒. ให้กระทรวงพลังงาน โดย กฟผ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ ที่ กฟผ. จะต้องจัดทำแผนผังแสดงรายละเอียดของลักษณะทิศทางและแนวเขตในการวางระบบโครงข่ายพลังงานเสนอต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการดำเนินการ และหากพื้นที่ที่ กฟผ. จะเข้าดำเนินการตามโครงการนั้น อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย หรือมติคณะรัฐมนตรีอื่นใด กฟผ. ต้องดำเนินการตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องนั้นด้วย และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนนำเสนอเพื่อขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการใช้พื้นที่ป่าชายเลนต่อไป ๓. ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เคยสั่งการไว้แล้ว เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยคำนึงถึงการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอในแต่ละภูมิภาค การพัฒนาศักยภาพของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การพิจารณาทางเลือกในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในเขตพื้นที่ของรัฐ เช่น ในพื้นที่บริเวณเขื่อนต่าง ๆ รวมทั้งการพึ่งพาแหล่งพลังงานทดแทนอื่น ๆ ด้วย |
|||||||||||||||||||||
26085 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี 2557 และแนวโน้มปี 2557 | นร11 | 19/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๗ และแนวโน้มปี ๒๕๕๗ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๗ ๑.๑ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๗ ขยายตัวร้อยละ ๐.๔ เมื่อเทียบกับการหดตัวร้อยละ ๐.๕ ในไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๗ และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๗ ขยายตัวจากไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๗ ร้อยละ ๐.๙ (QoQ_SA %) เมื่อรวมกับไตรมาสแรก เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี ๒๕๕๗ หดตัวร้อยละ ๐.๑ ขณะที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยที่อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำร้อยละ ๑.๐ อัตราเงินเฟ้อในไตรมาสที่สองเท่ากับร้อยละ ๒.๕ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ๑๓,๔๔๐ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๔ ของ GDP ๑.๒ ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สองเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดินกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และทำให้ความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี ๒๕๕๗ ๒.๑ เศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๗ มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อในช่วง ๕ เดือนแรก การส่งออกฟื้นตัวช้า และปริมาณการผลิตและจำหน่ายรถยนต์หดตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกยังหดตัว ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้น และการบริหารงานและการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มต่ำกว่าศักยภาพ เนื่องจากข้อจำกัดสำคัญ ๔ ประการ คือ (๑) การขยายตัวของการส่งออกยังมีข้อจำกัดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังล่าช้า และราคาสินค้าส่งออกลดลง (๒) การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวยังต้องใช้เวลาและตลาดท่องเที่ยวมีการแข่งขันมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเปลี่ยนจุดหมายการเดินทางท่องเที่ยว (๓) การขยายตัวของการลงทุนยังมีข้อจำกัดจากการใช้กำลังการผลิตที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และความล่าช้าในการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก และ (๔) การจำหน่ายและการผลิตรถยนต์ยังคงปรับตัวลงจากฐานการจำหน่ายที่สูงในปีก่อน อย่างไรก็ดี เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ๒.๒ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปี ๒๕๕๗ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ ๑.๕-๒.๐ ปรับลดค่าการประมาณกรณีสูงลงจากร้อยละ ๒.๕ ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เป็นร้อยละ ๒.๐ อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำในช่วงร้อยละ ๑.๙-๒.๔ ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะเกินดุลร้อยละ ๒.๖ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
26086 | การแต่งตั้งและกำหนดอัตราเงินเดือนผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (พลตรี ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์) | กค | 18/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งพลตรี ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ๒. กำหนดอัตราค่าตอบแทนคงที่ของผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในอัตรา ๒๘๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน โดยในระหว่างอายุสัญญาจะปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ทุกวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี ในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ ๑๐ ของค่าตอบแทนที่ผู้รับจ้างได้รับ ตามผลการประเมินผลตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล สำหรับครั้งแรกจะปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยจะพิจารณาอัตราร้อยละการปรับขึ้นค่าตอบแทนคงที่ให้ตามสัดส่วนระยะเวลาการปฏิบัติงานนับตั้งแต่วันที่ตกลงปฏิบัติงาน
|
|||||||||||||||||||||
26087 | รัฐบาลเครือรัฐออสเตรเลียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (นายพอล โรบิลลียาร์ด) | กต | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งนายพอล โรบิลลียาร์ด (Mr. Paul Robilliard) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายเจมส์ โจเซฟ ไวส์ (Mr. James Joseph Wise) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
26088 | รัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งนายคีริลล์ มีไฮโลวิช บาร์สกี (Mr. Kirill Mikhailovich Barsky) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายอะเล็กซานเดอร์ มารียาซอฟ (Mr. Alexander Mariyasov) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
26089 | ขออนุมัติถอดถอนกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำประเทศไทยที่พ้นหน้าที่และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำกรุงเทพมหานครคนใหม่ | สลธ.คสช. | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ถอดถอนนายวงศ์กุลพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ออกจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำประเทศไทย ๒. แต่งตั้งนางนวลพรรณ ล่ำซำ (Mrs. Nualphan Lamsam) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำกรุงเทพมหานครคนใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรไทย สืบแทนนายวงศ์กุลพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
|
|||||||||||||||||||||
26090 | การแต่งตั้งข้าราชการ จำนวน 3 ราย (นางชุติมา หาญเผชิญ ฯ) | นร10 | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ดังนี้
๑. นางชุติมา หาญเผชิญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. ตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๒. นายภาณุ สังขะวร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. ตั้งแต่วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๓. นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว และไม่ก่อนวันที่มี คุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
|
|||||||||||||||||||||
26091 | กรแต่งตั้งข้าราชการประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธรรมศักดิ์ ลออเอี่ยม) | กค | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งนายธรรมศักดิ์ ลออเอี่ยม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||
26092 | ขอความเห็นชอบให้ดำเนินการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 รายการผูกพันงบประมาณ จำนวน 5 รายการ | มท | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ จำนวน ๕ รายการ วงเงิน ๒๙,๑๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อนำไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค และค่าถอนคืนเงินค่าปรับ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ (เรื่อง การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน อันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท) รวม ๓ รายการ จำนวน ๒๔,๕๘๒,๓๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการตามกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน โดยขอให้ตรวจสอบค่าสาธารณูปโภคที่เกิดขึ้นจริงและมียอดค้างชำระ เนื่องจากค่าสาธารณูปโภคที่ขออนุมัติในครั้งนี้เป็นประมาณการค่าใช้จ่ายจนถึงเดือนกันยายน ๒๕๕๗ สำหรับค่าถอนคืนเงินค่าปรับจะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. ๒๕๕๐ ก่อน แล้วจึงขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
26093 | ขอรับความเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลงรายการงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่าย งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 (ว.53) | ตช | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่อนุมัติในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้งบประมาณเหลือจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๓๒๓,๙๓๕,๒๔๗.๑๘ บาท เพื่อนำไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีข้อผูกพันตามกฎหมายหรือได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และเรื่องเร่งด่วนตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการ/รายการที่มีความพร้อม สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาส ๑ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ สำหรับงบประมาณส่วนที่เหลือ จำนวน ๕๒๒,๓๘๐,๗๗๖.๘๒ บาท เห็นควรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาทบทวนความจำเป็นอีกครั้งหนึ่ง โดยอาจพิจารณานำไปใช้จ่ายในเรื่องเร่งด่วนตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะแรกของประเทศใน ๕ พื้นที่ชายแดน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์ในปี ๒๕๕๘ และหากมีงบประมาณเหลือจ่ายขอให้ส่งคืนสำนักงบประมาณในโอกาสแรก เพื่อจะได้นำไปใช้จ่ายในรายการที่จำเป็นเร่งด่วนอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ เห็นควรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและมาตรฐานของทางราชการด้วย ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อทบทวนและจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการขอรับการสนับสนุนอัตราการจัดยุทโธปกรณ์ (อจย.) เช่น ยานพาหนะ อาวุธประจำกาย วิทยุ/เครื่องมือสื่อสาร เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของกำลังพลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพ รวมตลอดถึงการจัดทำโครงการด้านสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อย เช่น ที่พักอาศัย เป็นต้น ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำเป็นโครงการที่มีข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนครบถ้วน พร้อมจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนเพื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาโดยเร็วต่อไป |
|||||||||||||||||||||
26094 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณอาคารที่ทำการศาลปกครองสุพรรณบุรี | ศป | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบในหลักการให้เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองสุพรรณบุรี ทั้งนี้ ให้สำนักงานศาลปกครองสุพรรณบุรีรับไปพิจารณาร่วมกับจังหวัดสุพรรณบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาที่ดินแปลงใหม่สำหรับใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองสุพรรณบุรีให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นและไม่เป็นภาระต้องถมดินจำนวนมาก และให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||
26095 | โครงการลานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช | นร11 | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบในหลักการโครงการลานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วงเงิน ๑,๘๖๓,๖๙๒,๐๐๐ บาท ระยะเวลาออกแบบและก่อสร้าง ๒ ปี ๖ เดือน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการลานเฉลิมพระเกียรติฯ มีความสง่างามและสมพระเกียรติ ในระยะแรกมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปประสานงานกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงพื้นที่แปลงที่ดินที่ตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (เดิม) ณ ถนนราชดำเนินกลาง เนื้อที่ ๕-๑-๓๔ ไร่ ให้เป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสมสวยงามก่อน และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาพื้นที่อื่นที่มีความเหมาะสมและมีศักยภาพที่จะสามารถนำมาดำเนินโครงการลานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้อย่างสมพระเกียรติและเป็นประโยชน์สูงสุด และให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
26096 | แนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก วันที่ 5 ธันวาคม 2557 | กษ | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบในหลักการการดำเนินกิจกรรมวันดินโลก ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ โดยมีกิจกรรมหลัก คือ การจัดนิทรรศการในต่างประเทศ (องค์การสหประชาชาติและองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ) และการจัดงานวันดินโลกพร้อมกันทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านการจัดการทรัพยากรดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตตามขั้นตอนให้ถูกต้องก่อนดำเนินการจัดงานต่อไป และให้ดำเนินการจัดงานดังกล่าวให้สมพระเกียรติ โดยเน้นการเผยแพร่พระอัจฉริยภาพและองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการป้องกัน แก้ไข และพัฒนาทรัพยากรดิน รวมทั้งผลสำเร็จของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เป็นต้นแบบของการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพดินที่สามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส และศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เป็นต้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมวันดินโลกในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ สำนักงบประมาณได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ รองรับไว้แล้ว จำนวน ๑๕,๓๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมวันดินโลก ๕ ธันวาคมในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมพัฒนาที่ดิน) เสนอขอตั้งค่าใช้จ่ายไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
26097 | แนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมปีดินสากล 2558 | กษ | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินกิจกรรมปีดินสากล ๒๕๕๘ และมอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว (กรมพัฒนาที่ดินได้เสนอขอตั้งงบประมาณในการดำเนินการไว้แล้ว จำนวน ๔๘.๙๖ ล้านบาท) และอนุมัติกรอบวงเงินตั้งต้น (Initial Seed Money) จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๓.๓ ล้านบาท แก่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organizaiton of the United Nations : FAO) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานปีดินสากล ซึ่งได้ตั้งงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไว้แล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. การดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อแผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะต้องดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถูกต้องตามขั้นตอน และการดำเนินการดังกล่าวจะต้องแสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในงานวิจัย งานส่งเสริมและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และงานวิจัยต่าง ๆ ที่นานาชาติได้ให้การยอมรับและยกย่องเช่นเดียวกับกรณีที่ทางสหประชาชาติได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและต้องเชื่อมโยงกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ ให้รายงานผลกิจกรรมทุก ๓ เดือน ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) |
|||||||||||||||||||||
26098 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบกระทรวงการคลังฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ปรับอัตราขั้นสูง-ขั้นต่ำของการจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวใหม่ ให้มีผลใช้บังคับเป็น ๒ ระยะเวลา ๑.๑ ระยะที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ปรับอัตราขั้นต่ำจาก ๘,๒๐๐ บาท เป็น ๘,๖๑๐ บาท และปรับอัตราขั้นสูงจาก ๑๑,๗๐๐ บาท เป็น ๑๒,๒๘๕ บาท ๑.๒ ระยะที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ปรับอัตราขั้นต่ำจาก ๘,๒๐๐ บาท เป็น ๙,๐๐๐ บาท และปรับอัตราขั้นสูงจาก ๑๑,๗๐๐ บาท เป็น ๑๒,๒๘๕ บาท ๒. ปรับอัตราเงินค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ ๕ ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป โดยยกเลิกบัญชีเงินค่าตอบแทนท้ายระเบียบฯ และกำหนดใหม่ |
|||||||||||||||||||||
26099 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติให้โอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Institution Development Fund : FIDF) เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 สำหรับปีงบประมาณ ๒๕๕๗ เพิ่มเติมจำนวน ๙,๕๘๖ ล้านบาท เข้าบัญชีสะสมเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยให้กองทุนฯ ทยอยโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีสะสมฯ ตามสภาพคล่องของกองทุนฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
26100 | การจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานที่มีเงินเดือนเต็มขั้นสูงของระดับตำแหน่ง | อก | 13/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่มีเงินเดือนเต็มขั้นสูงของระดับตำแหน่ง ภายใต้วงเงินรวมไม่เกินร้อยละ ๔ ของฐานเงินเดือนรวมของพนักงานที่มีเงินเดือนเต็มขั้นสูงของระดับตำแหน่ง ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
.....