คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเกตรี และตำบลคลองขุด อำเภอเมือง
สตูล จังหวัดสตูล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ  ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้
ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเกตรี และตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล บางส่วน เพื่อมอบให้สำนักงานคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดตั้งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ที่
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองแต่งตั้งวิศวกรหรือสถาปนิกเป็นนายช่างตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุม
อาคาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ  กำหนดหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองแต่งตั้งวิศวกรหรือ
สถาปนิกเป็นนายช่าง ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการขอมีบัตร มีบัตรใหม่หรือเปลี่ยนบัตร สำหรับผู้ประสบภัยธรรมชาติ ในพื้นที่จังหวัด
นครปฐม  เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549  มีสาระสำคัญคือ  ขยายกำหนดเวลาการขอมีบัตร  มีบัตรใหม่
หรือเปลี่ยนบัตรแก่ผู้ถือบัตรซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน  ในท้องที่ประสบภัยธรรมชาติ  ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
โดยให้ยื่นคำขอภายในกำหนดระยะเวลา  120  วัน  (วันที่ 17 พฤศจิกายน 2549  ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2550)
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา    แล้วให้
ดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
เมืองแก่งคอย จังหวัดสระบุรี พ.ศ. 2549 มีสาระสำคัญคือ  ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลสองคอน
ตำบลบ้านป่า ตำบลเตาปูน ตำบลตาลเดี่ยว ตำบลแก่งคอย อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมือง
สระบุรี จังหวัดสระบุรี  เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือ
ชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและขนส่ง  การสาธารณูปโภค  บริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อม  ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทยได้ลงนามด้วยแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้

           สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์อุทกภัย ภัยหนาวและคลื่นซัดชายฝั่ง ของกระทรวง
มหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์อุทกภัย ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม-25 ธันวาคม 2549 มีพื้นที่ประสบภัยรวม
47 จังหวัด 442 อำเภอ  40 กิ่งอำเภอ  16  เขต  3,054  ตำบล  20,625  หมู่บ้าน  ราษฎรได้รับความเดือดร้อน
5,198,814 คน 1,430,085 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 856 หลัง เสียหายบางส่วน 48,755 หลัง ถนน
10,391 สาย สะพาน 671 แห่ง ท่อระบายน้ำ 1,085 แห่ง  ทำนบ/ฝาย/เหมือง  778  แห่ง  พื้นที่การเกษตรเสีย
หาย 5,605,559 ไร่ บ่อปลา/กุ้ง 113,260 บ่อ กระชังปลา 12,433 กระชัง ปศุสัตว์ 142,211 ตัว วัด  743  แห่ง
โรงเรียน 682 แห่ง  ฯลฯ  มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น  7,707,574,527  บาท  สำหรับสถานการณ์ภัยหนาว ณ
วันที่ 25 ธันวาคม 2549 มีพื้นที่ประสบภัยหนาวจำนวน 36 จังหวัด  216  อำเภอ  28  กิ่งอำเภอ  1,495  ตำบล
16,109 หมู่บ้าน  ราษฎรได้รับความเดือดร้อน  1,554,399  คน  652,680  ครัวเรือน  แยกเป็น  ภาคเหนือ 13
จังหวัด  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  19  จังหวัด  ภาคกลาง  2  จังหวัด  และภาคตะวันออก  2  จังหวัด  โดยจังหวัด
ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว  มีจำนวน  32  จังหวัด   ส่วนสถานการณ์คลื่นลมแรงและคลื่น
ซัดชายฝั่งจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ  ระหว่างวันที่ 18-25 ธันวาคม 2549  มีพื้นที่ประสบภัย
จำนวน 5 จังหวัด 16 อำเภอ 41 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 19,155 คน 5,491 ครัวเรือน โดยพื้นที่ที่ได้
รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอเมือง ฯ และอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร  อำเภอดอนสัก  อำเภอท่าชนะ
อำเภอเกาะพะงัน  อำเภอไชยา  อำเภอกาญจนดิษฐ์  และอำเภอเกาะสมุย  จังหวัดสุราษฎร์ธานี   อำเภอปากพนัง
อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอระโนด  และอำเภอจะนะ  จังหวัดสงขลา  อำเภอตากใบ  และอำเภอ
เมือง ฯ จังหวัดนราธิวาส

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและ
ซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ  "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย"  ในพื้นที่
จังหวัดเป้าหมาย 64 จังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2549 โดยเป้าหมายที่โครงการกำหนด 80,000 ฝาย เป้าหมายที่
จังหวัดเสนอ 119,332 ฝาย  เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 39,332 ฝาย  หรือร้อยละ 49.16  โดยฝายที่ก่อสร้างแล้ว
เสร็จ 99,862 ฝาย เกินเป้าหมาย 19,862 ฝาย หรือร้อยละ 24.83 ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ  สำหรับงบ
ประมาณดำเนินการ จังหวัดได้บูรณาการงบประมาณจากงบจังหวัดแบบบูรณาการ  งบยุทธศาสตร์การพัฒนา
จังหวัด  งบปกติของส่วนราชการ  งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  งบประมาณรายจ่ายงบกลาง  (รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น)  งบ กปร. และงบจากภาคประชาชนสมทบ รวมทั้งสิ้น 603,303,777
บาท

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 100,223,600 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของวงเงินรวมทั้ง
สิ้นของโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำของเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน  501,118,000  บาท ที่เหลืออีก
จำนวน  400,894,400  บาท  ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551  โดยให้กรมส่ง
เสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551
ให้สอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวด้วยโดยให้นำ
เงินรายได้ของเทศบาลนครหาดใหญ่มาสมทบการก่อสร้างตามขีดความสามารถ  และเร่งรัดดำเนินการให้เป็น
ไปตามแผนที่กำหนด และให้จัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตามพระราช
บัญญัติวิธีการงบประมาณ  พ.ศ. 2502   และที่แก้ไขเพิ่มเติม   โดยให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการ
กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดให้อยู่ในสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยและสถานการณ์ภัยหนาว ของกระทรวง
มหาดไทย  สรุปได้ดังนี้  สถานการณ์อุทกภัย  ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม-18 ธันวาคม 2549  มีพื้นที่ประสบภัย
รวม 47 จังหวัด 442 อำเภอ 40 กิ่งอำเภอ 16 เขต 3,054 ตำบล 20,625 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน
5,198,814 คน 1,430,085 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 331 คน  บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 649 หลัง  เสียหายบาง
ส่วน 36,735 หลัง ถนน  10,391  สาย  สะพาน  671  แห่ง  ทำนบ/ฝาย/เหมือง  778  แห่ง  พื้นที่การเกษตร
5,605,559 ไร่ วัด/โรงเรียน 1,425 แห่ง ฯลฯ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 7,636,574,897 บาท  ทั้งนี้ สถาน
การณ์อุทกภัยปัจจุบัน ยังคงมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี  นครปฐม
และนนทบุรี ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้ระดมกำลังเครื่องจักรกล เรือท้องแบน เต็นท์ยกพื้นพักอาศัยชั่ว
คราว พร้อมเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย  เป็นต้น  สำหรับสถานการณ์ภัยหนาว ข้อมูล ณ วันที่
18 ธันวาคม 2549  มีพื้นที่ประสบภัยหนาว  21  จังหวัด 182 อำเภอ 24 กิ่งอำเภอ 1,257 ตำบล 13,471 หมู่
บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 953,474 คน 361,507 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 11 จังหวัด ภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด และภาคกลาง 1 จังหวัด ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้จัดซื้อเครื่องกันหนาวและ
ส่งไปให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1-10 และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ  นอกจากนี้  มูลนิธิรัฐ
บุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์  ได้มอบเงินที่ได้รับบริจาคให้แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เพื่อนำไป
จัดหาเครื่องกันหนาวแจกจ่ายประชาชนที่ประสบภัย เป็นต้น

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอน
สภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอ
บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อมอบให้เทศ
บาลตำบลบางพลีใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานเทศบาลตำบลบางพลี  และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการของเทศ
บาล ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้
บังคับเป็นกฎหมายต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่
ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน  ในท้องที่ตำบลเจดีย์หัก  อำเภอเมืองราชบุรี
จังหวัดราชบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้
ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี  บางส่วน  เพื่อมอบให้สำนักงานอัยการสูง
สุดใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารบ้านพักข้าราชการ  สำนักงานอัยการเขต  7  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมให้เทศบาลองค์การส่วนตำบล กรุงเทพ
มหานคร เมืองพัทยา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง ที่ที่ดินที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 9
ตั้งอยู่ มีอำนาจกำหนดและจัดเก็บค่าตอบแทน  และแก้ไขเพิ่มเติมให้อธิบดีกรมที่ดินหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบ
หมาย ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 9  หรือตำแหน่งที่เทียบเท่า  เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการสั่งเพิกถอนหรือ
แก้ไขตามมาตรา 61  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรวมเป็นร่างพระ
ราชบัญญัติฉบับเดียว   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา  ก่อนนำเสนอสภา
นิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่ม
เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ  ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการออกโฉนดที่
ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น  และให้มีมาตรการเร่งรัดผู้มีหลักฐานการแจ้งการ
ครอบครองที่ดินมาดำเนินการเพื่อขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์   และให้ส่งสำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรวมเป็นร่างพระราชบัญญัติฉบับเดียว  แล้วส่งให้
คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา
ต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามี่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวย
การความปลอดภัยทางถนนเสนอมติคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในการประชุมครั้งที่
6/2549  เมื่อวันที่  7  ธันวาคม  2549  ซึ่งมีมติเห็นชอบแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่
2550 ตามที่ฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ และให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัย
ทางถนนรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปประสาน และดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้  การรายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ผู้
เสียชีวิตและบาดเจ็บของจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้อง  ต้องให้ตรงตามข้อเท็จจริงและเป็นปัจจุบัน  โดย
ระบุให้ชัดเจนว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีภูมิลำเนาที่ใด และประสบเหตุที่ใด  เพื่อให้สามารถประมวลข้อมูลได้อย่างครบ
ถ้วนถูกต้อง  และเป็นประโยชน์ในการที่จะศึกษาวิเคราะห์เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป เช่น การ
ร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ  เป็นต้น   และการลดอุบัติเหตุทางถนนต้องให้ความ
สำคัญกับสาเหตุของปัญหาต่าง  ๆ  ด้วย  เช่น  หลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และการกำหนดคุณ
สมบัติของผู้ขอมีใบอนุญาตดังกล่าวที่ควรเข้มงวดมากยิ่งขึ้น  ซึ่งในบางประเทศกำหนดให้ต้องมีการทดสอบความรู้
เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นต้น

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
ครั้งที่ 2/2549 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2549 ที่มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ่ายเงินสำหรับผู้
ปฏิบัติงานช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้  โดยให้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือในวงเงิน
1,000-2500 บาทต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2547-31 มีนาคม 2548  ซึ่งมีจำนวนผู้ปฏิบัติงานที่จะได้
รับการช่วยเหลือ 432 คน เป็นวงเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 944,000 บาท

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้ปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์เบี้ย
ยังชีพผู้สูงอายุ จากเดิมคนละ 300 บาทต่อเดือน เป็นคนละ 500 บาทต่อเดือน

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพิ่มวงเงิน
ค่าก่อสร้างรายการต่อเชื่อมสะพานข้ามแยกถนนพหลโยธิน-ถนนกำแพงเพชร-ถนนกำแพงเพชร 2  จากวงเงิน
73,850,000 บาท เป็นวงเงิน 82,394,133 บาท  โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นจำนวน 8,544,133 บาท ให้เบิกจ่ายจาก
งบประมาณของ กทม. ร้อยละ 60 เป็นเงิน  5,126,480  บาท และเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสมทบอีกร้อยละ 40
เป็นเงิน 3,417,653 บาท  โดยในส่วนของเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ให้ กทม. เบิกจ่ายจากเงินอุดหนุนที่ได้รับจัด
สรรให้แล้วในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549   โดยให้ กทม. ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปี พ.ศ. 2549 โครงการบำบัดน้ำเสียคลองเตยที่คาดว่าจะไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันทีในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2549 มาดำเนินการตามที่ขอทำความตกลงไปได้  และให้ กทม. รายงานการปรับแผนการปฏิบัติงาน และ
แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549  ดังกล่าว  ตามมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิ
ภาพในการใช้จ่ายงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2549   ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2549
ด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้กรมโยธาธิการและผังเมืองก่อหนี้ผูกพันข้าม
ปีงบประมาณโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย รวม  5  แห่ง  ได้แก่  โครงการก่อ
สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านหม้อ หมู่ 1,7 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ โครงการก่อสร้างเขื่อน
ป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านเวินโดน ตำบลปากคาด โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านพันลำ
หมู่ 2 ตำบลวิศิษฎ์ อำเภอบึงกาฬ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านท่าไร่ หมู่ 2 ตำบลท่าดอก
คำ อำเภอบึงโขนหลง และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง  บ้านเวิน  หมู่ 3  ตำบลจุมพล  อำเภอ
โพนพิสัย ความยาวรวม 2,100 เมตร วงเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น  125,787,000  บาท  ซึ่งเบิกจ่ายจากงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์
การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัด จำนวน 18,910,000 บาท  ส่วนที่เหลือ จำนวน 106,877,000 บาท  ให้กรม
โยธาธิการและผังเมืองผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2550  ต่อไป  โดยให้ยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมติ
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 ในประเด็นเป็นโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีแรกต่ำกว่า
ร้อยละ 20 ของวงเงินทั้งโครงการ

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยและสถานการณ์ภัยหนาว ของกระทรวง
มหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์อุทกภัย ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม-8 ธันวาคม 2549 มีพื้นที่ประสบภัย รวม
47 จังหวัด 442 อำเภอ 40 กิ่งอำเภอ  16  เขต  3,054  ตำบล  20,625  หมู่บ้าน  ราษฎรได้รับความเดือดร้อน
5,198,814 คน 1,430,085 ครัวเรือน  มีผู้เสียชีวิต 316 คน  บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 649 หลัง  เสียหายบาง
ส่วน 36,735 หลัง ถนน 10,391 สาย  สะพาน 671 แห่ง  ทำนบ/ฝาย/เหมือง  778  แห่ง  พื้นที่การเกษตรเสีย
หาย 5,605,559 ไร่ วัด 743 แห่ง โรงเรียน 682 แห่ง ฯลฯ  มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 7,636,574,897 บาท
ทั้งนี้ สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2549 ยังมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และนนทบุรี  ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้ระดมกำลังเครื่องจักร
กล เรือท้องแบน เต็นท์ยกพื้นพักอาศัยชั่วคราว  พร้อมเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย  และได้จัดส่ง
ถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง ไปสนับสนุนจังหวัดที่ประสบภัย เป็นต้น  สำหรับสถานการณ์ภัยหนาว ข้อมูล ณ วัน
ที่ 8 ธันวาคม 2549  มีพื้นที่ประสบภัยหนาว  19  จังหวัด 155 อำเภอ 22 กิ่งอำเภอ 1,117 ตำบล 12,023 หมู่
บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 578,319 คน 230,540 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 11 จังหวัด  ภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้จัดซื้อเครื่องกันหนาว และส่งไปให้ศูนย์ป้องกันและ
บรรเทาสาธารณภัยเขต 1-10 และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลา
นนท์ ได้มอบเงินที่ได้รับบริจาคให้แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อนำไปจัดหาเครื่องกันหนาวแจกจ่าย
ประชาชนที่ประสบภัย เป็นต้น

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการ
อื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง จำนวน 13 ราย  โดยมีนายสมชาย  ชุ่มรัตน์  เป็นประธานกรรม
การ พลโทจิรเดช คชรัตน์  นายธรรมนูญ จุลมณีโชติ  นายจาดุร อภิชาติบุตร  นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์
นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา นายบัณฑูร สุภัควณิช นายลอยเลื่อน บุนนาค  รศ.มัทยา จิตติรัตน์  นาย
เสรี ศุภราทิตย์  นายอติรัชต์  จรูญศรี  นายสมบัติ  ธรธรรม  และนางสุนันทา  กาญจนอัครเดช  เป็นกรรม
การ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (28 พฤศจิกายน 2549) เป็นต้นไป  ยกเว้นกรณีนายณัฐจักร
ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา  ให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะ
รัฐมนตรีมีมติ

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการแลกรรมการอื่น
ในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาคชุดใหม่ จำนวน 8 ราย  โดยมีนายสุรอรรถ ทองนิรมล เป็นประธาน
กรรมการ  นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์  นายชวลิต รำจวนจร  ศ.นพ.วิรัติ พาณิชย์พงษ์  นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย
นายดิเรก เลาวัณย์ศิริ พลโท สุเจตน์ วัฒนสุข และพลตรี พิศณุ พุทธวงศ์ เป็นกรรมการ  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่
คณะรัฐมนตรีมีมติ (28 พฤศจิกายน 2549) เป็นตนไป  ยกเว้นกรณีนายชวลิต รำจวนจร ให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้
รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ