สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวง
มหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยแล้ง ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2550  มีพื้น
ที่ประสบภัย รวม 52 จังหวัด 454 อำเภอ 48 กิ่งอำเภอ  2,994 ตำบล  23,129 หมู่บ้าน  แยกเป็น  ภาคเหนือ
16 จังหวัด 121 อำเภอ  12 กิ่งอำเภอ  712  ตำบล  4,792  หมู่บ้าน  ราษฎรประสบภัย  395,093  ครัวเรือน
1,349,978 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด 249 อำเภอ 30 กิ่งอำเภอ 1 ,885  ตำบล  15,914  หมู่
บ้าน ราษฎรประสบภัย 1,454,616 ครัวเรือน 5,964,516 คน ภาคกลาง 6 จังหวัด  32  อำเภอ  1  กิ่งอำเภอ
126 ตำบล 886 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 70,749 ครัวเรือน  282,885 คน  ภาคตะวันออก  6  จังหวัด  32
อำเภอ 5 กิ่งอำเภอ 163 ตำบล 902 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 88,824 ครัวเรือน 281,377 คน  และภาคใต้
5 จังหวัด 20 อำเภอ 108 กิ่งอำเภอ 635 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย  31,292  ครัวเรือน  107,595  คน  รวม
จำนวนราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน  2,040,574  ครัวเรือน  7,986,351  คน  สำหรับการให้ความช่วยเหลือ
ได้แก่  การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร  การปรับปรุง  ซ่อมและทำความสะอาดภาชนะเก็บน้ำ   และการแจกจ่ายน้ำ
อุปโภค/บริโภคของจังหวัดที่ประสบภัย เป็นต้น

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือง
รวมเมืองเบตง จังหวัดยะลา พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลเบตง  ตำบลยะรม
และตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและ
บริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน  การคมนาคมและการขนส่ง  การสาธารณูป
โภค  บริการสาธารณะ  และสภาพแวดล้อม   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
เมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ  ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลอ่าวน้อย  ตำบลประจวบคีรี
ขันธ์ ตำบลเกาะหลัก และตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทาง
ในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน  การ
คมนาคมและการขนส่ง  การสาธารณูปโภค  บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณ
ที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น  สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 93  กับซอยสุขุมวิท 101 พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อ
สร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 93 กับซอยสุขุมวิท 101 ในท้องที่แขวงบางจาก เขต
พระโขนง กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณ
ที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 กับถนนสิรินธร พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อ
สร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น  สายเชื่อมระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์  69  กับถนนสิรินธร  ในท้องที่แขวงบางพลัด
เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือง
รวมเมืองพิษณุโลก  พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลจอมทอง  ตำบลปากโทก
ตำบลบ้านกร่าง ตำบลหัวรอ ตำบลดอนทอง  ตำบลพลายชุมพล  ตำบลสมอแข  ตำบลบ้านคลอง  ตำบลอรัญ
ญิก ตำบลในเมือง ตำบลวัดจันทร์ ตำบลท่าทอง ตำบลบึงพระ ตำบลท่าโพธิ์  ตำบลวัดพริก  อำเภอเมืองพิษณุ
โลก ตำบลวังทอง และตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง ตำบลบางระกำ  อำเภอบางระกำ  จังหวัดพิษณุโลก  เพื่อใช้
เป็นแนวทางในการพัฒนา  และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท  ในด้านการใช้ประโยชน์
ในทรัพย์สิน การคมนาคม และการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม  และให้ส่ง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง
กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้  จังหวัดภูเก็ต  เป็นกรณีที่มีความจำเป็น
โดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลป่าตอง  อำเภอกระทู้  จังหวัด
ภูเก็ต   เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน   เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ
เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้น และส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ
คณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวง
มหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยแล้ง  ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549  ถึงวันที่  2  มีนาคม  2550  มี
พื้นที่ประสบภัย รวม 46 จังหวัด 372 อำเภอ 38 กิ่งอำเภอ  2,348  ตำบล  17,688  หมู่บ้าน  แยกเป็น  ภาค
เหนือ 15 จังหวัด 121 อำเภอ 9 กิ่งอำเภอ 671 ตำบล 4,653 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 371,760 ครัวเรือน
1,313,213 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด 183 อำเภอ 24 กิ่งอำเภอ  1,328 ตำบล  10,706  หมู่
บ้าน ราษฎรประสบภัย 1,055,302 ครัวเรือน 4,143,579 คน ภาคกลาง 6 จังหวัด  29 อำเภอ  1  กิ่งอำเภอ
119 ตำบล 818 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 74,244 ครัวเรือน  241,193 คน ภาคตะวันออก  5  จังหวัด  26
อำเภอ 4 กิ่งอำเภอ 156 ตำบล 952 หมู่บ้าน  ราษฎรประสบภัย 90,620 ครัวเรือน  272,321  คน  และภาค
ใต้ 4 จังหวัด 13 อำเภอ 74 ตำบล  559  หมู่บ้าน  ราษฎรประสบภัย  27,271  ครัวเรือน  83,789  คน  รวม
จำนวนราษฎรที่ได้รับความเดือนร้อน 1,619,197 ครัวเรือน 6,054,095 คน  พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ
627,797 ไร่ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร และน้ำอุปโภค/บริโภค  ในการ
นี้ คณะกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งชาติได้ประชุมเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2550 เพื่อรับทราบสถานการณ์
ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสั่งการเพิ่มเติมให้ทุกหน่วยงาน
ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ประสานการปฏิบัติงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในพื้นที่ที่ประสบภัย เพื่อเร่ง
ระดมการให้ความช่วยเหลือในเรื่องน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตรให้ทั่วถึงและทันต่อเหตุการณ์

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ใน
ท้องที่ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองสุรินทร์  จังหวัดสุรินทร์  เพื่อสร้างและขยายถนน  สาย  ง 1  ตามโครงการผัง
เมืองรวมเมืองสุรินทร์ แต่โดยที่มีการแก้ไขแผนที่และบัญชีรายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ต้องเวนคืนท้ายพระ
ราชบัญญัติดังกล่าวจึงเห็นควรให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วส่งให้คณะ
กรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ
วันที่ 18 สิงหาคม 2541  เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบ
ประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
ซึ่งเป็นปีแรกของโครงการมีวงเงินต่ำกว่าร้อยละ  20  ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายทั้งสิ้น  สำหรับรายการที่ 1
-5  ประกอบด้วย  รายการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หน้าผาเทวดา ขององค์การบริหารส่วน
ตำบลสันโค้ง จังหวัดพะเยา  รายการพัฒนาและฟื้นฟูเกาะพีพี  รายการจัดซื้อจัดจ้างต่อเรือขนถ่ายขยะ ขนาดน้ำ
หนักบรรทุก 25 ตัน จำนวน 1 ลำ  ขององค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง  จังหวัดกระบี่  รายการขุดลอกคลอง
บางปรองเพื่อผันน้ำเข้าบึงบอระเพ็ด  ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์   รายการปรับปรุงภูมิทัศน์และ
แหล่งท่องเที่ยว  (ทางขึ้นเขาคีรีวงษ์  หอชมเมือง)  ของเทศบาลนครนครสวรรค์   และรายการป้องกันน้ำท่วมใน
เขตเทศบาลนครลำปาง จังหวัดลำปาง  และให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบ
ประมาณ พ.ศ. 2502  และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 23 วรรคสี่  สำหรับรายการที่ 1-5  และรายการพัฒนาพื้นที่
ก่อนประวัติศาสตร์เป็นแหล่งท่องเที่ยว ระยะที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านมาง จังหวัดพะเยา รายการ
ศึกษาออกแบบสะพานข้ามเกาะคอเขา  ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางนายสี  จังหวัดพังงา  และรายการอนุ
รักษ์และพัฒนาเมืองโบราณสถานเวียงลอ ระยะที่ 2 ขององค์การบริหารส่วนตำบลลอ จังหวัดพะเยา

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะ
เวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน 15 ฉบับ  มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับ
ผังเมืองรวม ออกตามความในพระราชบัญญัติผังเมือง พ.ศ. 2518 จำนวน  15  ฉบับ  ซึ่งจะสิ้นอายุการใช้บังคับใน
เดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2550  ออกไปอีก 1 ปี  ได้แก่  ผังเมืองรวมเมืองสมุทรปราการ  จังหวัดสมุทรปราการ
ผังเมืองรวมเมืองนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผังเมืองรวมชุมชนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ผังเมืองรวมเมือง
สงขลา  จังหวัดสงขลา   ผังเมืองรวมชุมชนปากน้ำหลังสวน  จังหวัดชุมพร   ผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม  จังหวัด
มหาสารคาม  ผังเมืองรวมเมืองบุรีรัมย์  จังหวัดบุรีรัมย์  ผังเมืองรวมชุมชนตะพง  จังหวัดระยอง   ผังเมืองรวมเมือง
ตราด จังหวัดตราด ผังเมืองรวมเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม  ผังเมืองรวมเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร
ผังเมืองรวมเมืองตะพานหิน  จังหวัดพิจิตร  ผังเมืองรวมเมืองวัดสิงห์  จังหวัดชัยนาท-เมืองท่าซุง   จังหวัดอุทัยธานี
ผังเมืองรวมเมืองตาก  จังหวัดตาก  และผังเมืองรวมเมืองตะกั่วป่า  จังหวัดพังงา  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม
2536 เกี่ยวกับโครงการศูนย์ราชการและเมืองใหม่ อำเภอท่าตะเกียบ และอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา
เพื่อให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำที่ดินที่อยู่ในเขตโครงการปฏิรูปที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม - สียัด
ซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการมาดำเนินการปฏิรูปที่ดิน  เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร   และ
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย
เพื่อพิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตพื้นที่ดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติเห็น
ชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการขยายเขตติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะศรีบอยา
เกาะปู และเกาะพีพีดอน  จังหวัดกระบี่  วงเงิน  620  ล้านบาท  โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นผู้ลงทุน
ร้อยละ  100  โดยมีการจัดเก็บอัตราค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมจากอัตราปกติอีก  5.0  บาทต่อหน่วย  เป็นระยะเวลา 10
ปี จนคุ้มค่าการลงทุน หลังจากนั้นเก็บในอัตราปกติ ยกเว้นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่อยู่อาศัยซึ่งมีการใช้ไฟฟ้าภายใน
บ้านเรือนไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน จะเก็บในอัตราปกติ และให้ผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน
ที่ 3 มีนาคม 2535  เรื่อง แผนแม่บทการจัดการปะการังของประเทศ ซึ่งได้กำหนดการใช้ประโยชน์แนวปะการัง
เกาะพีพีดอน  จังหวัดกระบี่  เป็นเขตท่องเที่ยวธรรมชาติ  (ห้ามการขุดร่องน้ำ  หรือเปลี่ยนแปลงพื้นท้องทะเลใน
ระยะ  1  กิโลเมตร  จากแนวปะการัง)  เพื่อให้ กฟภ. ดำเนินการวางสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะศรีบอยา  เกาะปู
และเกาะพีพีดอน จังหวัดกระบี่ได้  ทั้งนี้  ให้กระทรวงพลังงานพิจารณาในรายละเอียดการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า
ตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานให้ความเห็นชอบก่อนการ
ประกาศใช้ต่อไป  และให้กระทรวงมหาดไทย  (กฟภ.)  รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประเด็นอภิ
ปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า  การดำเนินโครงการขยายเขตติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยการวางสาย
เคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะศรีบอยา เกาะปู และเกาะพีพีดอนเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ จึงต้องดำเนินการตาม
ข้อบัญญัติของกฎหมาย  ประกาศ  และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง  และดำเนินการตามความเห็นของสำนักงาน
นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเรื่องรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นใน
การวางสายเคเบิลใต้น้ำ ฯ และควรผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2535 เรื่อง แผน
แม่บทการจัดการปะการังของประเทศ  ซึ่งได้กำหนดเขตการใช้ประโยชน์แนวปะการังเกาะพีพีดอน  จังหวัดกระบี่
เป็นเขตท่องเที่ยวธรรมชาติ  (ห้ามการขุดร่องน้ำ หรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่ท้องทะเลในระยะ 1 กิโลเมตร  จากแนว
ปะการัง)  เพื่อดำเนินการวางสายเคเบิลใต้น้ำ ฯ  ได้  แต่ก่อนดำเนินการ กฟภ. ต้องส่งแนวสายเคเบิลใต้ทะเลให้
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพิจารณาอนุมัติก่อนเพื่อให้การวางสายเคเบิลเลี่ยงแนวปะการัง ส่วนการลาก
สายเคเบิลผ่านป่าชายเลนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ   ต้องขออนุมัติจากกรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ด้วย ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทยในรอบ 4
เดือน (ตุลาคม 2549-มกราคม 2550) ได้แก่ การจัดทำแผนกลยุทธ์การสร้างมหาดไทยใสสะอาด  โดย 7 ส่วน
ราชการและ 5 รัฐวิสาหกิจในสังกัด โดยมีกลยุทธ์ในการสร้างจิตสำนึกการป้องกันเหตุการณ์และพฤติกรรม การ
ดำเนินการกรณีทุจริตที่เกิดขึ้น การพิจารณาทบทวนโครงสร้างอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอ  กำนัน  และผู้ใหญ่
บ้าน เพื่อพัฒนาระบบความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารราชการส่วนภูมิภาค การปกครองท้องที่ และการบริหาร
ราชการท้องถิ่น เพื่อให้การกำหนดอำนาจหน้าที่และการประสานการปฏิบัติ อำนวยประโยชน์สุขแก่ประชาชนมี
ความชัดเจนยิ่งขึ้น การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาใช้ในการให้บริการประชาชน การจัดตั้งศูนย์พัฒนาการ
เมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระดับจังหวัด อำเภอ  กิ่งอำเภอ
เทศบาล  และเทศบาลนครทุกแห่ง  การดำเนินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรากฐานของ
ชีวิตประชาชนในหมู่บ้านโดยเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมกิจกรรมเศรษฐกิจ
พอเพียงหมู่บ้าน สนับสนุนการพัฒนาแหล่งเรียนรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง สร้างความรู้ ความเข้าใจแก่แกนนำ
หมู่บ้าน จัดเวทีสร้างการเรียนรู้และมีส่วนร่วม การสร้างบ้านให้ผู้ยากจนและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม การก่อสร้าง
สวนสาธารณะทุกจังหวัด การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ระดับจังหวัด อำเภอ กิ่งอำเภอทุกแห่ง เพื่อแก้ไขปัญหา เรื่อง
ราวร้องทุกข์ตามกระบวนการรับเรื่อง การสร้างเสริมความมั่นคงและสังคมสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติราชการประจำตำบลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพ
ติด  รวมทั้งการเสริมความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในสังคม  ส่งเสริมบทบาทกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  พนัก
งานฝ่ายปกครอง ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม จัดระเบียบสังคม เป็นต้น

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการนโยบายและ
อำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอการ
แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  31  พฤษภาคม  2548  เรื่อง การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผล
กระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยา  ฯ  ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแทนสำนักงาน
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี   โดยมีอำนาจอนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณให้ความช่วยเหลือจากงบประมาณราย
จ่ายงบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  โดยประสานและขอทำความตกลงกับสำนัก
งบประมาณ ส่วนการช่วยเหลือกรณีพิเศษอื่น ๆ นอกเหนือตามหลักเกณฑ์และการดำเนินการตามอำนาจหน้า
ที่ของคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบใน
จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบ
ประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  โดยให้ประสานและขอทำความ
ตกลงกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นต่อไป  ทั้งนี้ ในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฯ ให้ยึดถือ
การรับรองว่า เป็นเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้จากความเห็นของคณะกรรมการ 3 ฝ่ายใน
พื้นที่ (ทหาร ตำรวจ และพนักงานปกครอง) ประกอบผลการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวนโดยหากกรณี
เหตุการณ์ปรากฏชัดเจนว่า  เกิดจากเหตุความไม่สงบ   ให้จังหวัดจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบได้ครบ
ถ้วน (ร้อยละ 100) ตามหลักเกณฑ์ ฯ จากเงินทดรองราชการ  และหากการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฯ  ซึ่งมิ
ได้กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์ ฯ ก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของ กยต. พิจารณาตามความเหมาะสม

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 47 จังหวัด ของ
กระทรวงมหาดไทย  สรุปได้ดังนี้  การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของคณะอนุกรรมการช่วยเหลือผู้
ประสบอุทกภัย ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 47 จังหวัดเพื่อเป็นค่าจัดการศพ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เครื่องมือประกอบอาชีพ เครื่องครัว เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยทั้งหลัง/บางส่วน  และ
เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน  เป็นเงิน  333,627,509  บาท  ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของ
คณะอนุกรรมการช่วยเหลือส่วนราชการที่ได้รับความเสียหาย  สำนักงบประมาณได้โอนเงินให้ส่วนราชการ
แล้ว (เฉพาะงบกลางปี) จำนวน 27 หน่วยงาน เป็นเงิน  582,218,871  บาท  คงเหลือเงินงบประมาณงบ
กลาง จากกรอบวงเงิน 14 หน่วยงาน  เป็นเงิน  40,059,644  บาท  ซึ่งส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรงบ
ประมาณไปแล้ว  อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อ-จัดจ้าง  ตามระเบียบงบประมาณ  สำหรับส่วนราชการที่ยัง
ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดคำขอเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณจากสำนัก
งบประมาณ  และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบ
การรายย่อย ได้มีการเบิกจ่ายเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย จำนวน 12,541 ราย  เป็น
เงิน 67,487,409 บาท โดยมีจังหวัดเสนอขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 9 จังหวัด จำนวน  4,662  ราย
รวมเป็นเงิน 19,250,489 บาท

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวง
มหาดไทย  สรุปได้ดังนี้  สถานการณ์ภัยแล้ง  ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549  ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550
มีพื้นที่ประสบภัย รวม 40 จังหวัด 311 อำเภอ 36 กิ่งอำเภอ  1,947 ตำบล  15,698  หมู่บ้าน  แยกเป็น  ภาค
เหนือ12 จังหวัด 92 อำเภอ 7 กิ่งอำเภอ 547 ตำบล  3,769  หมู่บ้าน  ราษฎรเดือดร้อน  275,410  ครัวเรือน
962,473คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด 175 อำเภอ 24 กิ่งอำเภอ 1,196 ตำบล  10,574  หมู่บ้าน
ราษฎรเดือดร้อน 967,424 ครัวเรือน 3,832,355 คน ภาคกลาง 5 จังหวัด 15 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ  54 ตำบล
409 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 41,374 ครัวเรือน 177,227 คน  ภาคตะวันออก 5 จังหวัด  25  อำเภอ  3  กิ่ง
อำเภอ 141 ตำบล 884 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 83,828 ครัวเรือน 248,366 คน  และภาคใต้  2  จังหวัด 4
อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 9 ตำบล 62 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 4,391 ครัวเรือน 20,806 คน  สำหรับการให้ความ
ช่วยเหลือ ได้แก่ การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร และแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ  จังหวัด
พิษณุโลก พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วม
กันในท้องที่ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก บางส่วน  เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบล
ปลักแรดใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลปลักแรด บ้านพัก และอื่น ๆ  และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไข หลัก
เกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมทะเบียนประวัติราษฎรและการอุทธรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ  กำหนดเงื่อนไข
หลักเกณฑ์ และวิธีการแก้ไข เพิ่มเติม ลบ หรือทำให้ทันสมัยซึ่งข้อมูลใด ๆ  ในข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร  และ
การอุทธรณ์ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติเห็น
ชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  (กฟภ.)  ดำเนินการลงทุนโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำ
ไปยังเกาะต่าง ๆ ที่มีไฟฟ้าใช้แล้ว (เกาะล้าน และเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี) วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 322 ล้านบาท
โดยเบิกจ่ายจากเงินกู้ในประเทศ/ระดมทุน 269 ล้านบาท และเงินรายได้ของ กฟภ. จำนวน 53 ล้านบาท โดย
ให้ กฟภ. รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ให้ กฟภ. ดำเนินการตามมาตรการป้องกัน ลด
ผลกระทบ  และติดตามตรวจสอบตามที่ได้เสนอไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE)
และตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  (สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม  ฯ)  กำหนด
เพิ่มเติมโดยเคร่งครัด  และให้นำมาตรการดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับเกาะสีชังด้วย  รวมทั้งควรพิจารณากำหนด
อัตราค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม  โดยให้คำนึงถึงความสามารถในการรับภาระของผู้ใช้บริการ เช่น ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท
ธุรกิจ และการเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าไม่ควรให้ภาระค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่มตกอยู่กับประชาชนทั่วไป  โดยให้ กฟภ. เสนอ
อัตราค่าไฟฟ้าต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานให้ความเห็นชอบ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลัง
งานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2548 และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย
ทั้งนี้  ให้ผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 มีนาคม 2535  เกี่ยวกับมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
แห่งชาติ เรื่อง แผนแม่บทจัดการปะการังของประเทศในส่วนของเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี