สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวง
มหาดไทย  สรุปได้ดังนี้  สถานการณ์ภัยแล้ง  ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549  ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2550
มีพื้นที่ประสบภัย รวม 31 จังหวัด 261 อำเภอ 27 กิ่งอำเภอ  1,556 ตำบล 1 2,504  หมู่บ้าน  แยกเป็น  ภาค
เหนือ 11 จังหวัด 3,538 หมู่บ้าน  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด 7,873 หมู่บ้าน  ภาคกลาง  2  จังหวัด
186 หมู่บ้าน ภาคตะวันออก 4 จังหวัด 902 หมู่บ้าน และภาคใต้ 1 จังหวัด 5 หมู่บ้าน  พื้นที่การเกษตรได้รับผล
กระทบ จำนวน 872,200 ไร่ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร และน้ำอุปโภค/
บริโภค รวมทั้งการสนับสนุนน้ำประปา และการจัดเตรียมรถยนต์บรรทุกน้ำ/เครื่องสูบน้ำ เพื่อสนับสนุนจังหวัด
ที่ประสบภัยแล้ง ของหน่วยงานต่าง ๆ

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กู้เงินระยะ
สั้นกับธนาคารที่มีเงื่อนไขเหมาะสมที่สุดเป็นระยะเวลา 1 ปี (มกราคม-ธันวาคม 2550) ในวงเงิน  3,000  ล้าน
บาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนกรณีจำเป็นเร่งด่วน โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือจากภัยหนาว และภัย
แล้ง ของกระทรวงมหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยหนาว  ข้อมูล ณ วันที่  12  กุมภาพันธ์  2550  มีพื้นที่
ประสบภัยหนาว จำนวน 48 จังหวัด 472 อำเภอ 54 กิ่งอำเภอ 3,444 ตำบล  36,874  หมู่บ้าน  ราษฎรได้รับ
ความเดือดร้อน 6,875,546 คน  2,324,169  ครัวเรือน  แยกเป็น  ภาคเหนือ 17 จังหวัด  ภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ 19 จังหวัด  ภาคกลาง 9 จังหวัด  และภาคตะวันออก  3  จังหวัด  โดยมีจังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบ
ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน  46  จังหวัด  ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยหนาว ได้จัด
ซื้อเครื่องกันหนาว  และส่งไปให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เขต  1-10  และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิด
ชอบ เพื่อสนับสุนนให้แก่จังหวัดที่ประสบภัยหนาวตามที่ร้องขอ  รวมทั้งขออนุมัติกระทรวงยกเว้นหลักเกณฑ์และ
วิธีดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 ข้อ 5.1.19  ในกรณีภัยหนาวที่เกิดขึ้น
ในปี พ.ศ. 2550 โดยให้จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยหนาวสามารถใช้จ่ายเงินทดรองราชการในอำนาจ
ของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจัดซื้อเครื่องกันหนาวช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเพิ่มเติมจากหลักการที่กำหนดได้ใน
ราคาเท่าที่จ่ายจริง คนละไม่เกิน 240 บาท ตามความเหมาะสม  แต่ไม่เกินวงเงิน 25 ล้านบาทต่อจังหวัด ได้เป็น
กรณีพิเศษ  สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง ช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 มี
พื้นที่ประสบภัย รวม 28 จังหวัด 221 อำเภอ 24 กิ่งอำเภอ 1,427 ตำบล  12,393  หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน
1,176,019 ครัวเรือน 4,859,241 คน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 554,890 ไร่  ในส่วนของการให้ความ
ช่วยเหลือ ได้จัดหาน้ำเพื่อการเกษตร และน้ำเพื่อการอุปโภค/บริโภคให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยแล้ง เป็นต้น

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญคือ  ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องตำบลละงู
อำเภอละงู จังหวัดสตูล บางส่วน  เพื่อมอบให้กรมการขนส่งทางบกใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานขนส่งจังหวัดสตูล สาขา
ละงู และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน  ในท้องที่ตำบลวังเหนือ  อำเภอวังเหนือ  จังหวัด
ลำปาง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง บางส่วน เพื่อมอบให้กรมที่ดินใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักข้าราช
การสำนักงานที่ดิน  จังหวัดลำปาง  สาขาวังเหนือ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชน
บ้านแพรก-โรงช้าง-มหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้อง
ที่ตำบลบ้านใหม่ ตำบลบ้านแพรก ตำบลลำพะเนียง อำเภอบ้านแพรก  และตำบลโรงช้าง  ตำบลบ้านนา  ตำบล
พิตเพียน ตำบลบ้านขวาง ตำบลเจ้าปลุก ตำบลน้ำเต้า  ตำบลมหาราช  ตำบลหัวไผ่  อำเภอมหาราช  จังหวัดพระ
นครศรีอยุธยา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยเพิ่ม "ตำบลบ้านนา" ซึ่งเป็นเขตท้อง
ที่ที่ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในบันทึกหลักการและเหตุผล และให้ดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
เมืองหนองเสือ-คลองหลวง-ธัญบุรี  จังหวัดปทุมธานี  พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมใน
ท้องที่ตำบลนพรัตน์ ตำบลศาลาครุ ตำบลบึงกาสาม ตำบลบึงชำอ้อ ตำบลหนองสามวัง ตำบลบึงบา ตำบล
บึงบอน อำเภอหนองเสือ ตำบลคลองเจ็ด  ตำบลคลองหก  ตำบลคลองห้า  ตำบลคลองสี่  ตำบลคลองสาม
อำเภอคลองหลวง ตำบลบึงน้ำรักษ์ ตำบลบึงสนั่น  ตำบลลำผักกูด  และตำบลรังสิต  อำเภอธัญบุรี  จังหวัด
ปทุมธานี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าโครงการรณรงค์ก่อสร้าง
และซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ  "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย"  ในพื้น
ที่จังหวัดเป้าหมาย  64  จังหวัด โดยข้อมูล ณ วันที่  31  ธันวาคม  2549  ผลการดำเนินงานตามเป้าหมายโครง
การกำหนด ปี พ.ศ. 2549 จำนวน 80,000 ฝาย เป้าหมายที่จังหวัดเสนอจำนวน 114,808 ฝาย เพิ่มขึ้นจากเป้า
หมายจำนวน  34,808  ฝาย  หรือร้อยละ 43.51  โดยฝายที่ก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน  114,996  ฝาย  เกินเป้า
หมายที่กำหนดจำนวน 34,996 ฝาย หรือร้อยละ 43.75 ในส่วนของงบประมาณดำเนินงาน จังหวัดได้บูรณาการ
งบประมาณในการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการ  รวมทั้งสิ้น 615,729,570 บาท  วงเงินงบประมาณสูงกว่า
รายงานคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 (603,303,777 บาท) จำนวน  12,425,793  บาท  สำหรับ
การดำเนินงานในปี พ.ศ. 2550-2551  คณะกรรมการอำนวยการ ฯ ได้จัดทำแผนการดำเนินงาน  พร้อมทั้งแจ้ง
จังหวัดแต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับผิดชอบระดับจังหวัด  ระดับอำเภอ/กิ่งอำเภอ   เพื่อประสานและบูรณาการทุก
ภาคส่วนในพื้นที่ดำเนินการตามโครงการอย่างต่อเนื่อง   และจะประสานกับกระทรวงและกรมที่เกี่ยวข้องรายงาน
ผลความก้าวหน้าให้คณะรัฐมนตรีรับทราบทุกระยะ 3 เดือน

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 1  ที่มีมติเห็น
ชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 3 เพิ่มเติม ของการไฟฟ้า
ส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรเพิ่มเติมประมาณ 111,810
ครัวเรือน (ประมาณ 12,000 หมู่บ้าน) ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กฟภ. (73  จังหวัด) ทั่วประเทศ  โดยก่อสร้าง
ระบบจำหน่ายแรงสูง 2,380 วงจร-กิโลเมตร  ก่อสร้างระบบจำหน่ายแรงต่ำ 8,990 วงจร-กิโลเมตร  ติดตั้งหม้อ
แปลง 72,810 เควีเอ. และติดตั้งมิเตอร์ 111,810 ชุด  วงเงินลงทุนรวม 2,323 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินลงทุน
จากเงินกู้ภายในประเทศ จำนวน 1,742 ล้านบาท  และเงินรายได้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน  581  ล้าน
บาท  ทั้งนี้  ให้กระทรวงมหาดไทยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นควรคงนโยบายการ
อุดหนุนในลักษณะไขว้ (Cross Subsidy) เพื่อคงอัตราค่าไฟฟ้าระหว่างผู้ใช้ไฟในเขตเมืองและชนบทเป็นอัตราเดียว
กัน  โดย  กฟภ.  ควรพิจารณาลดภาระการอุดหนุนต่อไปด้วย  รวมทั้งความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  อาทิ
กระทรวงการคลังที่เห็นว่าค่าใช้จ่ายของโครงการ ฯ ส่วนใหญ่เป็นเงินบาทและมีผลตอบแทนสุทธิ (NPV) ของโครง
การติดลบ จึงเห็นควรพิจารณาใช้เงินทุนที่มาจากรายได้ของตนเองเป็นลำดับแรก  แต่หากประสงค์จะใช้เงินกู้ ควร
พิจารณาใช้เงินกู้ในประเทศ โดย กฟภ. จะต้องใช้เงินลงทุนจากรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ  25  ของวงเงินลงทุน ซึ่ง
กระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาแหล่งเงินกู้  วิธีการกู้เงิน  เงื่อนไข  และรายละเอียดต่าง  ๆ  ของการกู้เงินตาม
ความเหมาะสมและจำเป็นและสอดคล้องกับสภาวะตลาดการเงิน ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายชวลิต สารันต์ เป็นผู้ว่าการการ
ประปาส่วนภูมิภาค ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (6 กุมภาพันธ์ 2550) เป็นต้นไป สำหรับค่าตอบแทนหรือผล
ประโยชน์อื่น   รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาคให้
เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยกำหนดผลตอบแทนในการจ้างตามหลักเกณฑ์และแนวทางการ
จ่ายผลตอบแทนที่กำหนดแนวทางไว้  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  13  มิถุนายน  2543   โดยกำหนดกรอบ
อัตราค่าตอบแทนขั้นต่ำ-ขั้นสูง  เท่ากับ  250,000 - 450,000  บาทต่อเดือน   ตลอดระยะเวลาการจ้าง  และ
กำหนดค่าตอบแทนคงที่ในอัตรา 300,000 บาทต่อเดือน และเมื่อครบกำหนดทุก ๆ  1 ปี  อาจปรับขึ้นค่าตอบ
แทนไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของค่าตอบแทนคงที่ที่ผู้รับจ้างได้รับ  ทั้งนี้  ให้ขึ้นกับผลการประเมินตามหลักเกณฑ์
และวิธีการประเมินของคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค รวมทั้งผลตอบแทนในเรื่องสิทธิประโยชน์อื่นตาม
เอกสารแนบท้ายสัญญาจ้าง  และให้นายชวลิต  สารันต์ ลาออกจากการเป็นพนักงานก่อนลงนามในสัญญาจ้าง
ด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อ
สร้าง ดัดแปลง  หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่อำเภอคุระบุรี อำเภอ
ตะกั่วป่า  อำเภอท้ายเหมือง  อำเภอเมืองพังงา  อำเภอทับปุด  อำเภอตะกั่วทุ่ง   และอำเภอเกาะยาว  จังหวัดพังงา 
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยน
การใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วป่า  อำเภอท้ายเหมือง
อำเภอเมืองพังงา อำเภอทับปุด  อำเภอตะกั่วทุ่ง  และอำเภอเกาะยาว  จังหวัดพังงา  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน  ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2528  เพื่อรองรับการนำ
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในสำนักงานที่ดินจังหวัดและสำนักงานที่ดินสาขา  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา   ก่อน
เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยหนาว และการให้ความช่วยเหลือจากภัยหนาว
และภัยแล้ง ของกระทรวงมหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยหนาว ข้อมูล ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550  มีพื้น
ที่ประสบภัยหนาว จำนวน 48 จังหวัด 471 อำเภอ 54 กิ่งอำเภอ 3,423 ตำบล  35,618  หมู่บ้าน ราษฎรได้รับ
ความเดือดร้อน 6,512,633 คน  2,177,530 ครัวเรือน  แยกเป็น  ภาคเหนือ  17  จังหวัด  ภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 9 จังหวัด  และภาคตะวันออก 3 จังหวัด  โดยมีจังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย
พิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน  46  จังหวัด  ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยหนาว  ได้จัดซื้อ
เครื่องกันหนาว  และส่งไปให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เขต 1-10  และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
เพื่อสนับสนุนให้แก่จังหวัดที่ประสบภัยหนาวตามที่ร้องขอ เป็นต้น  สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง  ช่วงระหว่างวันที่
1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550 มีพื้นที่ประสบภัย รวม 20 จังหวัด 158 อำเภอ  20 กิ่งอำเภอ
1,072 ตำบล 9,097 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 881,907 ครัวเรือน 3,642,967 คน  พื้นที่การเกษตรได้รับผล
กระทบ 438,809 ไร่  ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้จัดหาน้ำเพื่อการเกษตร และน้ำอุปโภค/บริโภคให้แก่
ประชาชนที่ประสบภัยแล้ง เป็นต้น

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอัน
เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน  ในท้องที่ตำบลกาฬสินธุ์  อำเภอเมืองกาฬสินธุ์
จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพล
เมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์  เนื้อที่ประมาณ  27  ไร่  2
งาน 45  2/10 ตารางวา  เพื่อมอบให้เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ใช้เป็นที่ก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำ
เสีย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการ
ยกเว้น ผ่อนผัน หรือกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ
คือ  ปรับปรุงข้อกำหนดในการยกเว้น  ผ่อนผัน  หรือกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบ
คุมอาคารสำหรับอาคารบางประเภท   ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว   และให้ดำเนิน
การต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522  มีสาระสำคัญคือ  กำหนดค่าธรรมเนียมใบรับรอง
การตรวจสอบสภาพอาคาร และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยหนาวและภัยแล้ง ของกระทรวงมหาดไทย
สรุปได้ดังนี้  สถานการณ์ภัยหนาว  ข้อมูล ณ วันที่  29  มกราคม  2550  มีพื้นที่ประสบภัยหนาว จำนวน 48
จังหวัด 470 อำเภอ 52 กิ่งอำเภอ 3,329 ตำบล 34,422 หมู่บ้าน  ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,875,984
คน 1,983,337 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  19  จังหวัด  ภาคกลาง
9  จังหวัด  และภาคตะวันออก  3  จังหวัด  โดยมีจังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว
จำนวน  46  จังหวัด  ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ  ได้จัดซื้อเครื่องกันหนาว และส่งไปให้ศูนย์ป้องกันและ
บรรเทาสาธารณภัย เขต 1-10 และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และเก็บสำรองไว้ที่ส่วนกลางเพื่อสนับสนุน
จังหวัดที่ประสบภัยหนาว เป็นต้น  สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง ช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่
29 มกราคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัย รวม  12  จังหวัด 99 อำเภอ 15 กิ่งอำเภอ 689 ตำบล 5,959 หมู่บ้าน
ราษฎรเดือดร้อน 2,619,420 คน  574,082  ครัวเรือน  พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ  214,615  ไร่ ใน
ส่วนของการให้ความช่วยเหลือ  ได้แจ้งให้จังหวัดที่ประสบภัยแล้งดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไข
ปัญหาภัยแล้งในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2550 รวมทั้งการกำหนดมาตรการและแจ้งให้องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นเตรียมความพร้อม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยหนาวและภัย
แล้งปี พ.ศ. 2550  ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่  โดยให้จัดทำบัญชีหมู่บ้านและชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อภัย  จัดทำแผน
เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวและภัยแล้ง รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อมด้านกำลังคน วัสดุอุปกรณ์
และรถยนต์บรรทุกน้ำสำหรับช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย เป็นต้น

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงิน
ประจำตำแหน่ง เงินค่าเบี้ยประชุม และเงินตอบแทนอื่นของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาเขตของ
กรุงเทพมหานคร  และกรรมการของสภากรุงเทพมหานคร  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  ปรับปรุง
อัตราเบี้ยประชุมกรรมการและอนุกรรมการ เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมการที่สภากรุงเทพ
มหานครตั้งขึ้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะ
เวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้
บังคับผังเมืองรวม จำนวน 5 ฉบับ ต่อไปอีกหนึ่งปี  ได้แก่  ผังเมืองรวมเมืองอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ผังเมือง
รวมเมืองจันทบุรี ผังเมืองรวมเมืองนครศรีธรรมราช  ผังเมืองรวมเมืองสุราษฎร์ธานี  และผังเมืองรวมเมืองสายบุรี
จังหวัดปัตตานี และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้