ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 157 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 3121 - 3140 จากข้อมูลทั้งหมด 9647 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3121 | มาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ที่ประสบอุทกภัยปี 2553 | กค | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ มาตรการให้ความช่วยเหลือที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เสนอ และอนุมัติเงินงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ของเกษตรกรให้แก่ ธ.ก.ส. ๑.๒ เห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และจัดสรรเงินงบประมาณให้กรมส่งเสริมสหกรณ์รับไปดำเนินการ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้ตรวจสอบรายละเอียดจำนวนเกษตรกร/สมาชิกสหกรณ์ และวงเงินที่ต้องชดเชยให้กับเกษตรกรแล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3122 | แนวทางการบริหารการคลังในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2554 | กค | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอผลการคาดการณ์การจัดเก็บรายได้รัฐบาลปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งคาดว่าจะจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิจำนวน ๑,๗๗๐,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗.๓ สูงกว่าที่จัดเก็บได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ไม่รวมรายได้พิเศษ (๑,๖๔๗,๓๒๕ ล้านบาท) จำนวน ๑๒๒,๖๗๕ ล้านบาท หรือร้อยละ ๗.๔ โดยคาดว่าการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจจะสูงกว่าประมาณการ ภาษีที่คาดว่าจะจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรขาเข้า ๒. เห็นชอบในหลักการให้มีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติม (งบกลางปี) เพื่อชดใช้เงินคงคลังที่ได้มีการใช้ไปในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๘๔,๑๔๒.๕๖ ล้านบาท จัดสรรเพิ่มเติมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนประมาณ ๕,๐๐๐ ล้านบาท และจัดสรรเป็นงบประมาณช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ จำนวนประมาณ ๑๗,๐๐๐ ล้านบาท รวมเป็นวงเงินทั้งหมดไม่เกิน ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประธานกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย รับไปพิจารณารายละเอียดของงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วให้สำนักงบประมาณนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3123 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 14 มกราคม 2554 | กค | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๖๐๗ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๑,๓๑๔ โครงการ วงเงิน ๑๓,๓๑๙.๙๕ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๑,๒๙๓ โครงการ วงเงิน ๓๓๖,๖๔๐.๔๙ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๒,๓๗๘ โครงการ วงเงิน ๑๖,๑๔๖.๒๕ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๙๐ โครงการ วงเงิน ๕,๙๖๖.๗๖ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๒๘๘ โครงการ วงเงิน ๑๐,๑๗๙.๔๙ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๘,๙๑๕ โครงการ วงเงิน ๓๒๐,๔๙๔.๒๔ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๘,๙๑๕ โครงการ วงเงิน ๓๑๐,๔๑๖.๒๙ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๒,๐๕๓ โครงการ วงเงิน ๕๑,๙๙๖.๔๖ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๒,๓๙๓ โครงการ วงเงิน ๒๑๖,๓๑๔.๗๓ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๔,๔๖๙ โครงการ วงเงิน ๔๒,๑๐๕.๑๐ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๖,๘๖๒ โครงการ วงเงิน ๒๕๘,๔๑๙.๘๓ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3124 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 2 (มกราคม - มีนาคม 2553) ไตรมาสที่ 3 (เมษายน - มิถุนายน 2553) และไตรมาสที่ 4 (กรกฎาคม - กันยายน 2553) ปีงบประมาณ 2553 | กค | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๒ (มกราคม - มีนาคม ๒๕๕๓) ไตรมาสที่ ๓ (เมษายน - มิถุนายน ๒๕๕๓) และไตรมาสที่ ๔ (กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๕๓) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ดังนี้
๑. การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (มกราคม - มีนาคม ๒๕๕๓) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม ๔๓๑.๑๗๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ๑๐๓.๕๐๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๓๑.๕๙ และเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้ารวม ๔๒,๖๔๖.๓๙๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้ว มูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ ๑.๐๑ ของมูลค่านำเข้ารวม ๒. การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๓ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (เมษายน - มิถุนายน ๒๕๕๓) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม ๓๘๙.๙๑๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๘๓.๙๓๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๒๗.๔๓ และเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในไตรมาสที่ ๓ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้ารวม ๔๔,๖๑๘.๖๙๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้ว มูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ ๐.๘๗ ของมูลค่านำเข้ารวม ๓. การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๔ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๕๓) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม ๔๘๖.๗๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๘๔.๙๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๒๑.๑๔ และเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในไตรมาสที่ ๔ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้ารวม ๔๗,๓๐๖.๙๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้ว มูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ ๑.๐๓ ของมูลค่านำเข้ารวม
|
|||||||||||||||||||||||||||
3125 | รายงานผลการดำเนินงานในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพประจำไตรมาส 2 ปี 2552 และไตรมาส 2 ปี 2553 | กค | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพประจำไตรมาส ๒ ปี ๒๕๕๒ และไตรมาส ๒ ปี ๒๕๕๓ ของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ประจำไตรมาส ๒ ปี ๒๕๕๒ ระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๒ โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ ๒ ปี ๒๕๕๒ บสท. ได้บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจนได้ข้อยุติทั้งหมดแล้ว จำนวน ๑๕,๒๑๒ ราย มูลค่าทางบัญชี๗๗๕,๒๐๔ ล้านบาท สำหรับการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย บสท. ได้รับโอนทรัพย์สินจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (“ทรัพย์สินรอการขาย”) มูลค่ารวม ๑,๕๗๓ ล้านบาท โดยสามารถจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายได้ทั้งสิ้นมูลค่า ๑,๐๗๔ ล้านบาท จากมูลค่าตีโอนชำระหนี้ และรับโอนตามมาตรา ๗๖ จำนวน ๙๔๑ ล้านบาท และจนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๒ บสท. ได้รับโอนทรัพย์สินรอการขายด้วยมูลค่าตีโอนชำระหนี้และรับโอนตามมาตรา ๗๖ รวมทั้งสิ้น ๑๒๘,๔๗๕ ล้านบาท แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์มูลค่า ๑๐๖,๓๒๗ ล้านบาท และสังหาริมทรัพย์มูลค่า ๒๒,๑๔๘ ล้านบาท โดยได้จำหน่ายทรัพย์สินรอการขายตามราคาจำหน่ายตามสัญญาไปแล้วทั้งสิ้นในราคา ๓๖,๕๑๒ ล้านบาท จากมูลค่าตีโอนชำระหนี้ และรับโอนตามมาตรา ๗๖ ประมาณ ๓๔,๐๔๒ ล้านบาท คงเหลือทรัพย์สินรอการขายที่จะต้องบริหารจัดการอีกจำนวน ๙๔,๔๓๓ ล้านบาท ๒. รายงานผลการดำเนินงานในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ประจำไตรมาส ๒ ปี ๒๕๕๓ ระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ ๒ ปี ๒๕๕๓ บสท. ได้บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจนได้ข้อยุติทั้งหมดแล้ว จำนวน ๑๕,๒๐๔ ราย มูลค่าทางบัญชี ๗๗๕,๐๒๖ ล้านบาท สำหรับการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย บสท. ได้รับโอนทรัพย์สินจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (“ทรัพย์สินรอการขาย”) มูลค่ารวม ๓,๓๕๒ ล้านบาท และจนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ บสท. ได้รับโอนทรัพยิ์สินรอการขายด้วยมูลค่าตีโอนชำระหนี้ และรับโอนตามมาตรา ๗๖ รวมทั้งสิ้น ๑๓๗,๓๑๕ ล้านบาท แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์มูลค่า ๑๑๓,๕๐๔ ล้านบาท และสังหาริมทรัพย์มูลค่า ๒๓,๘๑๑ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๘๒.๖๖ และร้อยละ ๑๗.๓๔ ตามลำดับ ซึ่ง บสท. ได้จำหน่ายทรัพย์สินรอการขายตามราคาจำหน่ายตามสัญญาไปแล้วทั้งสิ้นในราคา ๕๑,๕๖๘ ล้านบาท คงเหลือทรัพย์สินรอการขายที่จะต้องบริหารจัดการอีกจำนวน ๙๐,๙๐๘ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3126 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | กค | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้คงกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน ๑,๑๗๔,๗๑๑,๐๐๐ บาท ตามมติคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้ กปภ. ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ โครงการชำระเงินกู้เพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) รายการชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน ๕๘๗,๓๕๕,๕๐๐ บาท สำหรับวงเงินส่วนที่ขาด จำนวน ๕๘๗,๓๕๕,๕๐๐ บาท ให้ กปภ. กู้เงินเพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ดังกล่าว และในส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้ให้ใช้จ่ายจากรายการค่าดอกเบี้ยเงินกู้ที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว จำนวน ๒๕,๑๐๓,๖๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ กปภ. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำระบบบัญชี โดยแยกบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายของการให้บริการเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม เพื่อให้การคำนวณต้นทุนและประมาณการทางการเงินมีความชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญในการบริหารต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดวงเงินอุดหนุนการบริการสาธารณะในปีต่อ ๆ ไป ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
3127 | รายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (ประจำไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2553) | กค | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ประจำไตรมาสที่ ๒ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ (เมษายน - มิถุนายน) มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน (ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสหภาพพม่า) โดยมีมูลค่าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษรวม ๑๙๑,๐๑๗ บาท แยกเป็นมูลค่าสินค้าที่ยกเว้นอากร ๑๙๑,๐๑๗ บาท และไม่พบมูลค่าสินค้าที่ลดหย่อนอากร และเมื่อเปรียบเทียบกับการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ไตรมาสที่ ๑ ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ มีการนำเข้าลดลง จำนวน ๑๑,๔๕๐,๓๒๒ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3128 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ครั้งที่ 2 ที่ครบกำหนดในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 | กค | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙ ครั้งที่ ๒ ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้จำนวนดังกล่าวทั้งจำนวน โดยกู้เงินระยะยาวโดยตั๋วสัญญาใช้เงินอายุ ๕ ปี จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท จากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ย BIBOR ลบ Spread ร้อยละ ๐.๐๒ ต่อปี
|
|||||||||||||||||||||||||||
3129 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีแรก ปี 2553 | กค | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีแรก ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยศูนย์ข้อมูลฯ สามารถดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยสามารถรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เช่น การรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ๗ ประเภท (ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม-รีสอร์ท นิคมอุตสาหกรรม สนามกอล์ฟ และที่ดินเปล่า) โดยนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผล ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านอุปทาน ด้านอุปสงค์ ด้านราคา และด้านการเงิน และเผยแพร่ผ่านทาง Web Site รวมทั้งมีการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการจัดอบรมและสัมมนาเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างบทบาทของศูนย์ข้อมูลฯ ให้เป็นแหล่งข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่น่าเชื่อถือและนำไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อประกอบการตัดสินใจของทั้งผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปได้ นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลฯ ยังได้จัดทำค่าดัชนีราคาก่อสร้างมาตรฐานและดัชนีราคาห้องชุดรายครึ่งปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงประชาชนโดยทั่วไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3130 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 7 มกราคม 2554 | กค | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๖๐๖ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๑,๓๑๖ โครงการ วงเงิน ๑๔,๐๘๗.๗๐ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๑,๒๙๐ โครงการ วงเงิน ๓๓๕,๘๗๒.๗๔ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๒,๔๒๗ โครงการ วงเงิน ๑๖,๒๗๐.๐๔ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๑๑๓ โครงการ วงเงิน ๖,๒๐๑.๔๐ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๒๙๔ โครงการ วงเงิน ๑๐,๐๖๘.๖๔ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๘,๘๖๓ โครงการ วงเงิน ๓๑๙,๖๐๒.๗๐ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๘,๘๖๓ โครงการ วงเงิน ๓๐๙,๕๘๓.๑๖ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๒,๑๗๙ โครงการ วงเงิน ๕๑,๙๕๙.๔๕ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๒,๒๑๕ โครงการ วงเงิน ๒๑๕,๕๒๐.๔๑ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๔,๔๖๙ โครงการ วงเงิน ๔๒,๑๐๓.๓๐ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๖,๖๘๔ โครงการ วงเงิน ๒๕๗,๖๒๓.๗๑ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3131 | มาตรการภาษีสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น | กค | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น ดังนี้ ๑.๑ กรณีบุคคลธรรมที่มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น สามารถนำมาหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้สองเท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของเงินได้สุทธิ ๑.๒ กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น มีสิทธินำรายจ่ายดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้สองเท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ และรายจ่ายในการจัดสร้างและบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชนที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไปโดยไม่เก็บค่าบริการทั่วไป หรือสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของทางราชการแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของกำไรสุทธิ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนเงินที่บริจาคให้กับกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3132 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. ๒๕๒๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ยกเลิกมาตรา ๘ ตรี แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. ๒๕๒๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมจากทางราชการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3133 | รายงานผลการกู้เงิน Short term facility สำหรับรัฐวิสาหกิจ วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท | กค | 04/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงิน Short term facility สำหรับรัฐวิสาหกิจ วงเงินไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจัดหา Short term facility สำหรับรัฐวิสาหกิจกับสถาบันการเงิน จำนวน ๖ แห่ง เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๒ วงเงินรวม ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถกู้เงินระยะสั้นได้โดยตรงเพื่อเป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและจัดการการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ โดยมีโครงสร้าง การดำเนินการ ตลอดจนวิธีการสอดคล้องกับความต้องการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจัดสรรการกู้เงินของภาครัฐไม่ให้เกิดภาวการณ์กระจุกตัวในช่วงเวลาใด เวลาหนึ่งได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดสรรเงินกู้ Short term facility ไปแล้วเป็นจำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเต็มจำนวน ดังนั้น ยอดเงินกู้ดังกล่าวจึงมีวงเงินคงเหลือเท่ากับ ๑๙๙,๐๐๐ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3134 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ครั้งที่ 2 ที่ครบกำหนดในวันที่ 15 กันยายน 2553 | กค | 04/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ ครั้งที่ ๒ ที่ครบกำหนดในวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๓ จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้จำนวนดังกล่าวทั้งหมด โดยกู้เงินระยะยาวโดยตั๋วสัญญาใช้เงินอายุ ๖ ปี จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ย BIBOR ลบ Spread ร้อยละ ๐.๐๙ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3135 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 | กค | 04/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ สรุปได้ ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๕๖๗ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๑,๓๑๖ โครงการ วงเงิน ๑๕,๐๐๒.๒๖ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๑,๒๕๑ โครงการ วงเงิน ๓๓๔,๙๕๘.๑๘ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๒,๔๒๓ โครงการ วงเงิน ๑๖,๖๙๔.๑๕ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๑๐๓ โครงการ วงเงิน ๕,๘๓๘.๘๔ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๓๒๐ โครงการ วงเงิน ๑๐,๘๕๕.๓๑ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๘,๘๒๘ โครงการ วงเงิน ๓๑๘,๒๖๔.๐๓ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๘,๘๖๘ โครงการ วงเงิน ๓๐๘,๙๕๖.๔๘ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๒,๒๓๘ โครงการ วงเงิน ๕๑,๘๘๒.๐๐ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๒,๑๒๑ โครงการ วงเงิน ๒๑๔,๙๗๑.๑๙ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๔,๔๖๙ โครงการ วงเงิน ๔๒,๑๐๓.๒๙ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๖,๕๙๐ โครงการ วงเงิน ๒๕๗,๐๗๔.๔๘ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3136 | รายงานผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2552 | กค | 04/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงาน ประกอบด้วย ๑.๑ การศึกษาแนวทางการกำหนดโครงสร้าง หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติงาน ตลอดจนระเบียบในการดำเนินงานต่าง ๆ ของหน่วยราชการและกองทุนอื่น ๆ ที่มีสถานะและลักษณะการดำเนินงานคล้ายคลึงกับกองทุน เพื่อยกร่างระเบียบและข้อบังคับคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อใช้ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการบริหารงาน การดำเนินงาน และการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของกองทุน ตลอดจนใช้บังคับในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ๑.๒ การศึกษาวิเคราะห์ถึงวัตถุประสงค์ และเป้าหมายในการลงทุนของกองทุนฯ รวมทั้งหลักการบริหารสินทรัพย์ เพื่อกำหนดแนวทางการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำเงินของกองทุนไปลงทุน การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุน หลักเกณฑ์การคัดเลือกและกำกับการดำเนินงานของผู้บริหารสินทรัพย์จากภายนอก รวมถึงการคัดเลือกผู้เก็บรักษาสินทรัพย์ ๑.๓ จัดทำรูปแบบมาตรฐานของสัญญาธุรกรรมทางการเงินของกองทุนฯ สำหรับใช้ในการทำธุรกรรม ได้แก่ ๑.๓.๑ การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน เป็นการจัดทำรูปแบบมาตรฐานของสัญญาธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน โดยการทำสัญญา ISDA Master Agreement ซึ่งจัดทำโดย International Swap and Derivatives Association, Inc (ISDA) ระหว่างกองทุนฯ และสถาบันการเงินที่จะเป็นคู่สัญญาเพื่อใช้ในการปกป้องสิทธิและลดความเสี่ยงของกองทุน ๑.๓.๒ การทำธุรกรรมซื้อโดยมีสัญญาจะขายคืนซึ่งตราสารหนี้ เป็นการจัดทำรูปแบบมาตรฐาน (Standard Format) ของสัญญาประกอบ (Schedule to the Master Agreement) ซึ่งเป็นสัญญาแบบท้ายสัญญา Global Master Repurchase Agreement (GMRA) ซึ่งจัดทำโดย International Securities Market Association (ISMA) กับคู่สัญญาเพื่อปกป้องสิทธิและลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรม (Counter - party Risk) ของกองทุนฯ และสัญญายืนยันการเข้าทำธุรกรรม (Confirmation) ซึ่งเป็นสัญญาที่ระบุรายละเอียดของการทำธุรกรรม ๒. กองทุนได้รับจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน แต่เนื่องจากระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ของกองทุนยังไม่มีผลบังคับใช้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของกองทุนจึงมีเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน ๕๙,๘๗๒ บาท สำหรับงบแสดงฐานะการเงินของกองทุน ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ กองทุนมีรายได้จากเงินงบประมาณและดอกเบี้ยรับรวม ๑,๐๐๐,๗๐๖.๖๑ บาท และมีค่าใช้จ่ายรวม ๕๙,๘๗๒ บาท ทำให้กองทุนมีสินทรัพย์รวม ๙๔๐,๘๓๔.๖๑ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
3137 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๖ ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเกี่ยวกับศพข้าราชการและลูกจ้างประจำของทางราชการซึ่งถึงแก่ความตายในระหว่างเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๐๙ ๑.๒ แก้ไขการเบิกจ่ายเงินเกี่ยวกับค่าพาหนะในการเดินทางเพื่อไปปลงศพหรือพาหนะ และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับการส่งศพกลับของข้าราชการและลูกจ้างประจำของทางราชการ จากเดิมที่ให้จ่ายได้เฉพาะข้าราชการและลูกจ้างประจำ เปลี่ยนเป็นให้จ่ายแก่ผู้เดินทางไปราชการซึ่งมีทั้งข้าราชการ ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ และพนักงานราชการ ๑.๓ กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกค่าเช่าที่พักในลักษณะเหมาจ่ายและลักษณะจ่ายจริง โดยอัตราค่าเช่าที่พักให้เบิกตามบัญชี ๓ ท้ายระเบียบ ๑.๔ แก้ไขชื่อตำแหน่งให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ สำหรับการเบิกจ่ายค่าพาหนะเดินทางโดยรถไฟ ๑.๕ แก้ไขชื่อตำแหน่งให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ สำหรับการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศกรณีเดินทางไปปฏิบัติภารกิจร่วมกับหัวหน้าคณะ ๑.๖ แก้ไขให้ผู้เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวสามารถเบิกค่าเครื่องแต่งตัวได้ทุก ๒ ปี นับจากปีที่ได้รับค่าเครื่องแต่งตัว ๑.๗ แก้ไขตำแหน่งข้าราชการในบัญชีหมายเลข ๒, ๓, ๖, ๗, ๘ และ ๑๐ ท้ายระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ร่างข้อ ๙) ทั้งนี้ ปรับเพิ่มอัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร (บัญชีหมายเลข ๒) และปรับอัตราค่าเช่าที่พักในราชอาณาจักร (บัญชีหมายเลข ๓) ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) เกี่ยวกับกรณีการเดินทางไปราชการเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะในการเดินทางไปราชการในต่างประเทศต้องพักแรมรวมกันสองคนต่อหนึ่งห้อง โดยให้เบิกค่าเช่าที่พักได้เท่าที่จ่ายจริงในอัตราค่าเช่าห้องพักคู่คนละไม่เกินร้อยละเจ็ดสิบของอัตราค่าเช่าห้องพักคนเดียว เนื่องจากโรงแรมในต่างประเทศส่วนใหญ่มีห้องพักขนาดเล็กและจัดห้องพักในลักษณะเตียงเดี่ยว โดยห้องพักซึ่งเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียงมีจำนวนน้อยหรือแทบไม่มีเลย การกำหนดให้ข้าราชการดังกล่าวต้องพักรวมกันสองคนจะไม่สะดวกในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ การกำหนดหลักเกณฑ์การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวและค่าใช้จ่ายอื่น ควรปรับปรุงแก้ไขให้สามารถใช้บริการของเอกชนในการอำนวยความสะดวก เช่น จัดหายานพาหนะและที่พักให้แก่ข้าราชการที่เดินทางไปราชการในต่างประเทศ เป็นต้น ไปพิจารณาความเหมาะสมจำเป็นในการปรับปรุง แก้ไข กฎหมายในเรื่องนี้ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3138 | กำหนดให้มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเป็นมาตรการถาวร | กค | 28/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบกำหนดให้มีมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างองค์กรเป็นมาตรการถาวร ไม่มี กำหนดระยะเวลา เพื่อให้กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิ ภาพในการดำเนินงานของบริษัท ช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ และลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ตลอดจนเป็น การสอดคล้องกับการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ผู้ประกอบกิจ การซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัด หรือบริษัทจำกัด ที่เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน สำหรับมูลค่าของฐานภาษี รายรับ หรือการกระทำตราสารที่เกิดขึ้นหรือเนื่องมาจากการโอนกิจการบางส่วนให้แก่กัน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3139 | การบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | กค | 28/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบวงเงินเหลือจ่ายภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๕,๐๗๘.๒๑ ล้านบาท ๒. อนุมัติให้ดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ที่หน่วยงานพิจารณาทบทวนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ และอนุมัติการจัดสรรเงินเหลือจ่ายตามพระราชกำหนดฯ วงเงิน ๑,๕๕๔.๖๗ ล้านบาท สำหรับโครงการกลุ่มที่ ๑ (โครงการที่ปรับกิจกรรมเพื่อใช้แก้ไขปัญหาน้ำท่วม) และโครงการกลุ่มที่ ๒ (โครงการที่ยืนยันโครงการเดิม และเสนอปรับแผนงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูปัญหาน้ำท่วมทดแทนแล้ว) ส่วนโครงการกลุ่มที่ ๓ (โครงการที่ยืนยันโครงการเดิม แต่ไม่เสนอการปรับแผนงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๔) อนุมัติโครงการและจัดสรรเงินเหลือจ่ายตามผลการพิจารณาทบทวนของหน่วยงาน และให้หน่วยงานดำเนินการได้ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณตรวจสอบความพร้อมและความจำเป็นเร่งด่วนของโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานดังกล่าวที่ได้รับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไว้ และพิจารณาปรับแผนการดำเนินการโครงการให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงเพื่อนำไปฟื้นฟูแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นการทดแทนตามความเหมาะสมต่อไป สำหรับโครงการกลุ่มที่ ๔ (โครงการภายใต้แผนพัฒนา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้) ให้คณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นผู้พิจารณาอนุมัติการปรับแผนการดำเนินโครงการเพื่อนำไปฟื้นฟูแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยให้หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรวงเงินเหลือจ่าย ส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ ๓. อนุมัติให้ดำเนินโครงการใหม่เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานในสาขาต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ และอนุมัติการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายตามพระราชกำหนดฯ วงเงิน ๒,๖๑๙.๖๘ ล้านบาท โดยให้หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายดังกล่าวส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ สำหรับโครงการของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วงเงิน ๑๓๘.๐๐ ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมาการการอาชีวศึกษา วงเงิน ๕๖๒.๐๐ ล้านบาท และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน วงเงิน ๓๗๘.๐๐ ล้านบาท ให้หน่วยงานจัดส่งรายละเอียดโครงการให้สำนักงบประมาณพิจารณานำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ เห็นชอบก่อน ๔. อนุมัติให้ดำเนินโครงการก่อสร้างหอประชุมเอนกประสงค์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ และอนุมัติการจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายตามพระราชกำหนดฯ ให้แก่โครงการก่อสร้างหอประชุมเอนกประสงค์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา วงเงิน ๑๖๑.๖๖ ล้านบาท โดยให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหอประชุมเอนกประสงค์ในอนาคต ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลหอประชุมเอนกประสงค์เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการบำรุงรักษาดังกล่าว ๕. อนุมัติการขยายระยะเวลาการขอรับจัดสรรเงินและการพิจารณาของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ หากหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติโครงการแล้วไม่สามารถดำเนินการโครงการได้ทันภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ ให้ยกเลิกวงเงินที่จัดสรรให้โครงการและนำมารวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายต่อไป ๖. อนุมัติการขยายระยะเวลาการลงนามในสัญญาตามที่หน่วยงานเสนอ โดยในส่วนของโครงการ/รายการที่หน่วยงานขอขยายระยะเวลาการลงนามถึงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ นั้น เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการลงนามเป็นภายในวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๔ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ หากหน่วยงานเจ้าของโครงการไม่สามารถดำเนินโครงการได้ทัน ให้ยกเลิกวงเงินที่จัดสรรให้โครงการและนำมารวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายต่อไป ๗. รับทราบการยกเลิกโครงการชุมชนเข้มแข็งด้วยพลังงานทดแทน วงเงิน ๕๖.๕๐ ล้านบาท และโครงการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ห่างไกลด้วยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ วงเงิน ๑๐๕.๖๘ ล้านบาท ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ๘. อนุมัติเป็นหลักการให้กระทรวงการคลังสามารถดำเนินการลงนามในสัญญาเงินกู้ล่วงหน้าก่อนสำนักงบประมาณจัดสรรเงิน สำหรับโครงการที่ได้รับการอนุมัติการจัดสรรวงเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ภายในวงเงิน ๑๒,๑๐๑.๓๓ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังต้องลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าวได้ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ทั้งนี้ สำหรับรายการที่สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรก่อนวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ให้กระทรวงการคลังกู้เงินภายในวงเงินที่สำนักงบประมาณอนุมัติจัดสรรแล้ว และอนุมัติให้ยกเลิกวงเงินเหลือจ่ายคงเหลือ จำนวน ๑,๐๒๐.๓๕ ล้านบาท ๙. อนุมัติและรับทราบการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการฯ โดยให้หน่วยงานส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วันทำการ หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ และสำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายใน ๑๕ วันทำการ โดยหลังจากได้รับอนุมัติแล้วหน่วยงานจะต้องลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วันทำการ |
|||||||||||||||||||||||||||
3140 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2553) | กค | 28/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ๒๕๕๓ มีการเบิกจ่ายแล้วจำนวนทั้งสิ้น ๒,๐๑๘,๗๕๙.๖๑ ล้านบาท หรือร้อยละ ๘๙.๑๖ ของวงเงิน จำนวน ๒,๒๖๔,๓๐๗.๘๔ ล้านบาท ประกอบด้วย
๑. เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๑,๖๒๗,๘๒๑.๑๐ ล้านบาท หรือร้อยละ ๙๕.๗๕ สูงกว่าเป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรี (ร้อยละ ๙๔.๐๐) และสูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ร้อยละ ๓.๓๓ ประกอบด้วย รายจ่ายประจำ จำนวน ๑,๔๔๔,๗๐๗.๒๔ ล้านบาท หรือร้อยละ ๙๘.๓๗ และรายจ่ายลงทุน จำนวน ๑๘๓,๑๑๓.๘๖ ล้านบาท หรือร้อยละ ๗๙.๑๕ สูงกว่าเป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรี (ร้อยละ ๗๕.๐๐) และสูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ร้อยละ ๓.๓๗ ๒. เงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน ประกอบด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕ - ๒๕๕๒ สามารถเบิกจ่ายได้จำนวน ๑๕๖,๕๓๗.๖๔ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๔.๒๗ ของวงเงินงบประมาณเหลื่อมปี จำนวน ๒๔๓,๕๔๖.๙๖ ล้านบาท ๓. เงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท มีการจัดสรรแล้ว (ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓) จำนวนทั้งสิ้น ๓๒๐,๗๖๐.๘๘ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้วจำนวน ๒๓๔,๔๐๐.๘๗ ล้านบาท หรือร้อยละ ๗๓.๐๘
|