ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 560 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 11181 - 11200 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11181 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ | นร04 | 11/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ รวม ๖ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่รองรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11182 | คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร05 | 11/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่มีคำวินิจฉัยโดยเสียงข้างมากว่า ให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการให้ถูกต้องเฉพาะในวาระที่สองและวาระที่สามจากนั้นให้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขถูกต้องแล้วให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบเพื่อดำเนินการตามรัฐธรรมนูญต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11183 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร04 | 11/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๙/๒๕๖๓ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11184 | รายงานมติคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) ขอยกเลิกการผูกพันงบประมาณรายการค่าเช่าอุปกรณ์เครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring : EM) พร้อมระบบควบคุมการทำงาน จำนวน 4,000 เครื่อง ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0505/8215 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2561 และขออนุมัติผูกพันงบประมาณรายการค่าเช่าอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring : EM) พร้อมระบบที่เกี่ยวข้อง จำนวน 30,000 เครื่อง | ยธ | 11/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมติคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ กรณีกระทรวงยุติธรรม (กรมคุมประพฤติ) ขอยกเลิกการผูกพันงบประมาณรายการค่าเช่าอุปกรณ์เครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring : EM) พร้อมระบบควบคุมการทำงาน จำนวน ๔,๐๐๐ เครื่อง ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๕/๘๒๑๕ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๑ และพิจารณาอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม (กรมคุมประพฤติ) ผูกพันงบประมาณรายการค่าเช่าอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring : EM) พร้อมระบบที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๓๐,๐๐๐ เครื่อง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้กระทรวงยุติธรรม (กรมคุมประพฤติ) ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ รายการค่าเช่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring : EM) พร้อมระบบที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๓๐,๐๐๐ เครื่อง วงเงินรวม ๗๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาในการดำเนินการ ๓๐ เดือน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๑๖๖,๕๐๐,๐๐๐ บาท ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๕๐,๕๘๙,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย โครงการพัฒนาระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน งบดำเนินงาน จำนวน ๕,๙๐๗,๐๐๐ บาท และจากการยกเลิกรายการก่อหนี้ผูกพันเดิม จำนวน ๔๔,๖๘๒,๐๐๐ บาท ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน และใช้จ่ายจากเงินกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาสมทบอีก จำนวน ๑๑๕,๙๑๑,๐๐๐ บาท ส่วนวงเงินของโครงการที่เหลืออีก จำนวน ๕๕๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11185 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | พม | 11/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๒,๐๕๖,๕๑๖,๔๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11186 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563) | นร04 | 11/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๒๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11187 | สรุปรายงานการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว World Travel Market (WTM) 2019 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร | กก | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว World Travel Market (WTM) 2019 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เดินทางเข้าร่วมงานดังกล่าว ระหว่างวันที่ ๒-๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ซึ่งในปีนี้ประเทศไทยได้จัดบูทแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยออกแบบบูทแสดงสินค้าเป็นรูปทรงกลีบบัว นำเสนอแนวคิด Open to the New Shades of Thailand ซึ่งอยู่ภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand ที่นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ เช่น การท่องเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แก่ งาน Amazing Thailand Networking Lunch at WTM 2019 : New Shades of Thailand on Responsible Tourism กิจกรรม Amazing Thailand Happy Hour การให้ข้อมูลสถานการณ์ตลาด (Marketing Situation Update) และการจัดกิจกรรมเสวนาเรื่องช้างไทยในหัวข้อ “Well-being of Elephant and Thai Community” ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลภายหลังการจัดงานพบว่าผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่ได้รับความพึงพอใจในภาพรวมจากการเข้าร่วมงานในระดับดี-ดีมาก โดยประสบผลสำเร็จในเรื่องการเจรจาซื้อขายธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศไทยได้รับนัดหมายธุรกิจโดยรวม ๘๘๒ นัดหมาย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11188 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 4 ฉบับ | กษ | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานฝายทดน้ำคลองบางสะพาน ในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ ในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโดมน้อย ในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี และโครงการชลประทานกระบี่ ในท้องที่จังหวัดกระบี่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำและให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประมิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานฝายทดน้ำคลองบางสะพาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโดมน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานกระบี่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11189 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 19 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ดศ | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (ASEAN Telecommunications and Information Technology Ministers Meeting : TELMIN) ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุม TELMIN ครั้งที่ ๑๙ มีสาระสำคัญ ได้แก่ (๑) รับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๓๔ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือด้านไอที (๒) การร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์การพัฒนาด้านดิจิทัลในภูมิภาค (๓) การอนุมัติงบประมาณ จำนวน ๗๖๖,๙๗๐ ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๒๓,๒๑๐,๘๑๓ บาท) จากกองทุน ASEAN ICT Fund เพื่อใช้ดำเนินโครงการและกิจกรรมสำหรับปี ๒๕๖๓ (๔) รับทราบความก้าวหน้าของการจัดทำแผนแม่บทอาเซียนด้านดิจิทัล (ASEAN Digital Master Plan) ค.ศ. ๒๐๒๕ และ (๕) รับทราบและรับรองเอกสารที่สำคัญ เช่น เอกสารปฏิญญาเวียงจันทน์ (Vientiane Declaration) และข้อเสนอแนวทางสำหรับกลไกการไหลเวียนข้อมูลข้ามพรมแดนของอาเซียน เป็นต้น ๒. การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศและประเทศคู่เจรจา ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี โดยมีสาระสำคัญในการรองรับแผนงานความร่วมมือต่าง ๆ ได้แก่ China-ASEAN ICT Work Plan in 2020, ASEAN-Japan ICT Work Plan in 2020, และ ASEAN-Republic of Korea (ROK) ICT Work Plan in 2020 ๓. การมอบรางวัล ASEAN ICT Awards 2019 โครงการ ASEAN ICT Award โดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับ ๔ รางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ จำนวน ๑ รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ จำนวน ๒ รางวัล และรองชนะเลิศอันดับ ๒ จำนวน ๑ รางวัล
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11190 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการกำหนดอาหารเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. .... | สธ | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการกำหนดอาหารเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สาขาการกำหนดอาหารอันเป็นวิชาชีพหนึ่งที่เกี่ยวกับการกระทำต่อมนุษย์หรือมุ่งหมายจะกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการโภชนาการของผู้ป่วย เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11191 | ขออนุมัติผ่อนผันการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารฝึกปฏิบัติการทางวิชาชีพครู ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา | อว | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติผ่อนผันการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารฝึกปฏิบัติการทางวิชาชีพครู ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จากเดิม จำนวนเงิน ๑๖๓,๙๖๐,๐๐๐ บาท เป็น จำนวนเงิน ๑๘๓,๙๑๒,๕๓๑.๓๕ บาท โดยเป็นการปรับปรุงการใช้งานพื้นที่ ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ระบบเครือข่าย ระบบโทรทัศน์ และระบบภาพและเสียง ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๒. การดำเนินโครงการต่าง ๆ ในครั้งต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามโครงการอย่างละเอียดรอบคอบให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติก่อนตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ) อย่างเคร่งครัด และหากมีความจำเป็นต้องขอเปลี่ยนแปลงรายการหรือเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ให้เสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีก่อนการดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11192 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้พ้นโทษเข้าทำงาน) | กค | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างงานผู้พ้นโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๓ ปี นับแต่วันที่ได้รับการปล่อยตัวเข้าทำงาน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน ในรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งควรมีหน่วยงานทำหน้าที่คัดกรองและให้ใบรับรองผู้พ้นโทษที่มีความประพฤติดี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11193 | กรอบการเจรจาความตกลงที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์และการตรวจสอบรับรองของอาเซียน ภายใต้คณะรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ | กษ | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบกรอบการเจรจาความตกลงที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์และการตรวจสอบรับรองของอาเซียนภายใต้คณะรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดท่าทีของไทยในการเจรจาจัดทำความตกลงที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำมาตรฐานและกฎระเบียบสำหรับใช้ในการตรวจสอบและรับรองสินค้าเกษตรอินทรีย์ และการยอมรับผลการตรวจสอบรับรองเกษตรอินทรีย์ร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียน ที่จะเริ่มดำเนินการในการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรอินทรีย์ของอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting on Agriculture and Forestry : AMAF) ในเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ โดยยังไม่มีการทำความตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างกัน และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายพิจารณาใช้ดุลยพินิจตามสถานการณ์ตามความเหมาะสมในเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรพิจารณามาตรการจูงใจและส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนระบบการผลิตให้เข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์มากขึ้น โดยกรอบการเจรจาความตกลงฯ จะต้องไม่นำมาเป็นเงื่อนไขในการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์อาเซียน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรในมาตรฐานอื่น เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11194 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... | อว | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11195 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าสำหรับการใช้งานแบบพกพา - คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าสำหรับการใช้งานแบบพกพา-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าสำหรับการใช้งานแบบพกพา ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11196 | การทบทวนคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน ๒ คณะ ได้แก่ ๑.๑ คณะกรรมการเพื่อพิจารณาการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเกี่ยวกับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ ๑.๒ คณะกรรมการพิจารณาธรรมนูญศาลอาญาระหว่างประเทศ ๒. ยืนยันการคงอยู่ของคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๔๙ คณะ โดยขอปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ จำนวน ๒ คณะ ได้แก่ ๒.๑ ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการประสานงานด้านสหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ และองค์การต่างประเทศ ๒.๒ ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการกับต่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11197 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กหล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....) | อก | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม ๔ ฉบับ เพื่อกำหนดให้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน อันเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของประเทศและสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการใช้งานในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูปต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นสำหรับงานรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นสำหรับงานรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11198 | ผลการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ ครั้งที่ 31 ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ | คค | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ ครั้งที่ ๓๑ ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน-๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ สำนักงานใหญ่ของ IMO กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ) ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมสมัชชาฯ ได้ให้การรับรองในเรื่องต่าง ๆ เช่น (๑) รับรองงบประมาณที่อิงตามผลลัพธ์ (Result-based Budget) ประจำปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ จำนวน ๗๒,๗๐๐,๐๐๐ ปอนด์ หรือประมาณ ๒,๙๐๐ ล้านบาท (๒) รับรองการแต่งตั้งนาย Kitack Lim จากสาธารณรัฐเกาหลีให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ IMO ต่อไปอีกหนึ่งวาระ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓-๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ และ (๓) รับรองร่างข้อมติต่าง ๆ เช่น หลักจริยธรรมและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรณรงค์หาเสียงสำหรับการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรี IMO ข้อมติเกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเลและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล เป็นต้น ๒. สมัชชาได้มีการเลือกตั้งคณะมนตรีซึ่งเป็นองค์กรระดับบริหารเพื่อทำหน้าที่แทนสมัชชา ซึ่งแบ่งตามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม A ประเทศที่มีผลประโยชน์มากที่สุดในการให้บริการด้านการเดินเรือระหว่างประเทศ กลุ่ม B ประเทศที่มีผลประโยชน์มากที่สุดด้านการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ และกลุ่ม C ประเทศที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามกลุ่ม A และ B แต่มีผลประโยชน์เป็นพิเศษด้านการขนส่งทางทะเลหรือการเดินเรือ และเป็นตัวแทนของภูมิภาค โดยไทยได้สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีของ IMO กลุ่ม C ซึ่งเป็นองค์กรระดับบริหารเพื่อทำหน้าที่แทนสมัชชา และได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ ๘ ติดต่อกัน ๓. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้เข้าพบเลขาธิการ IMO เพื่อหารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ (๑) ความคืบหน้าในการสนับสนุนงาน IMO ของไทยตามข้อเสนอแนะของเลขาธิการ IMO ในช่วงการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ ครั้งที่ ๓๐ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ ได้แก่ การส่งผู้แทนไทยไปประจำการ ณ กรุงลอนดอน เพื่อทำหน้าที่ผู้ช่วยทูตฝ่ายกิจการทางทะเล (Maritime Attache) ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๖๒ และการสนับสนุนกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการของ IMO (๒) การให้ความสำคัญกับประเด็นขยะทางทะเล (Marine Debris) โดยไทยได้แจ้งให้เลขาธิการ IMO ทราบถึงนโยบายของรัฐบาลไทยในการลดขยะพลาสติกในทะเล และ (๓) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้ยื่นภาคยานุวัติสารเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการกู้เรือ ค.ศ. ๑๙๘๙ (International Convention on Salvage, 1989) ให้แก่เลขาธิการ IMO และย้ำว่าไทยจะสานต่อความมุ่งมั่นในการสนับสนุนงานของ IMO เพื่อยกระดับการขนส่งทางทะเลให้มีความปลอดภัย ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11199 | รายงานสรุปผลการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและคณะกรรมาธิการยุโรป ในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ครั้งที่ 2/2562 | กษ | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและคณะกรรมาธิการยุโรป ในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๙-๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ กรมประมง กรุงเทพมหานคร โดยในการประชุมฯ สหภาพยุโรปยังคงมุ่งเน้นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการด้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU) ในประเด็นที่เห็นว่าไทยอาจมีความเสี่ยงในการลดหย่อนการปฏิบัติในการตรวจสอบควบคุม และประเด็นสำคัญที่คงค้างจากการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๓-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ได้แก่ ประเด็นด้านกรอบกฎหมาย การติดตามควบคุมและเฝ้าระวัง การทำการประมงนอกน่านน้ำ การบริหารจัดการกองเรือ การบังคับใช้กฎหมาย ความร่วมมือกับประเทศที่สามและองค์การบริหารจัดการประมงในระดับภูมิภาค และระบบการตรวจสอบย้อนกลับและระบบการรับรองการจับสัตว์น้ำ โดยไทยได้รับทราบแนวคิดและข้อคิดเห็นของคณะกรรมาธิการยุโรปต่อการพัฒนาและการดำเนินการต่อต้านการทำประมง IUU ของไทย ที่จะต้องดำเนินการและพัฒนาต่อไปให้เหมาะสมกับสถานการณ์การประมงของประเทศและของโลก และสามารถรักษามาตรฐานที่ไทยพัฒนาเพื่อมิให้กลับไปสู่สถานการณ์ที่ตกต่ำลงจนอาจได้รับใบเหลืองอีกครั้ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11200 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร12 | 04/02/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ขององค์กร ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....