ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 24 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 461 - 480 จากข้อมูลทั้งหมด 124181 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
461 | แนวทางปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) | สคทช | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอน
และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One
Map) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป และขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕ เฉพาะกรณีการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (แผนที่ One Map)
และมอบหมายกรมธนารักษ์ กรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า
และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการปกครอง กรมแผนที่ทหาร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอน
และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่ One Map ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอื่น
เช่น สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เป็นต้น เพื่อร่วมดำเนินการพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนที่ดิจิทัล
และนำเทคโนโลยีดาวเทียมมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำแผนที่แนบท้ายกฎหมาย
รวมถึงลดระยะเวลาการดำเนินงานในอนาคตด้วย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าเนื่องจากแผนที่ท้ายถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายที่ใช้เป็นการแสดงแนวเขตที่ดินที่ประสงค์จะดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องนั้น
ๆ ว่า แนวเขตที่ดินที่จะดำเนินการตั้งอยู่บริเวณใด โดยแสดงจุดยึดโยงต่าง ๆ
เพื่อให้ทราบที่ตั้งของแนวเขตที่ดินที่ชัดเจนขึ้น ด้วยเหตุนี้ในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อให้แนวเขตที่ดินตามแผนที่ท้ายสอดคล้องกับผลการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ
อาจส่งผลกระทบต่อท้องที่ที่กำหนดไว้ในแผนที่ท้ายกฎหมาย
รวมทั้งอาจมีรายละเอียดเกี่ยวกับจุดยึดโยงที่แตกต่างจากที่กำหนดไว้เดิมตามสภาพของข้อเท็จจริงที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้น
หน่วยงานของรัฐผู้เสนอร่างกฎหมายจำเป็นต้องพิจารณาความถูกต้องของท้องที่การปกครองและแนวเขตการปกครองด้วย
เพื่อมิให้เกิดข้อโต้แย้งขึ้นในภายหลัง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
462 | แนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการตรวจลงตราอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามระบบ MOU | รง. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่องนี้คืนไปได้
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
463 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน
ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ
ประเภทของประโยชน์ทดแทน
ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล
ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. ๒๕๖๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับหลักเกณฑ์
ระยะเวลา และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
กรณีทุพพลภาพ กรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ เพื่อให้ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐
มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ กระทรวงสาธารณสุข เห็นควรแก้ไขเป็นเฉลี่ยจ่ายให้แก่คู่สมรส
เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่
๒๔) พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งกำหนดให้บุคคลเพศหลากหลายสามารถหมั้นและสมรสกันได้
อันทำให้มีสิทธิ หน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง
และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลไม่ว่าจะมีเพศใด
ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม
ควรพิจารณาทบทวนการขยายช่วงอายุของบุตรของผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐
ที่ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร ให้สอดคล้องกับช่วงอายุของบุตรของผู้ประกันตนตามมาตรา
๓๓ และมาตรา ๓๙ ที่ยังกำหนดอายุบุตรไว้ไม่เกิน ๖ ปีบริบูรณ์ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการดำเนินนโยบาย
และการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในอนาคต
ควรคำนึงถึงความสมดุลของภาระค่าใช้จ่าย สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
และการเพิ่มขีดความสามารถในการจัดเก็บเงินสมทบ
รวมทั้งการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างเหมาะสม
เพื่อให้กองทุนประกันสังคมมีเสถียรภาพในระยาว ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรพิจารณาถึงความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
464 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานคดีประจำศาลยุติธรรม) | ศย. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มี “เจ้าพนักงานคดี” เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือศาลในการดำเนินคดีและการดำเนินกระบวนพิจารณาอื่นใดตามที่ศาลมอบหมาย
และร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้เจ้าพนักงานคดีเป็นข้าราชการศาลยุติธรรม
และแก้ไขเพิ่มเติมคุณวุฒิและการประกอบวิชาชีพของผู้สมัครทดสอบความรู้เพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการ
รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
465 | แผนการนำงานบริการของหน่วยงานของรัฐมาให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง | นร.12 | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการและกรอบระยะเวลาของแผนการนำงานบริการของหน่วยงานของรัฐมาให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง
รวมทั้งวิธีการและกลไกการดำเนินการในการพัฒนาและเชื่อมโยงงานบริการมาให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๖ (ด้านดิจิทัล สาธารณสุข
ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ที่ดินและการบริหารจัดการน้ำ) ในคราวประชุม ครั้งที่
๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๘ ๒.
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพัฒนาและเชื่อมโยงงานบริการมาให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง
ในกรอบวงเงิน ๘๙๗.๘ ล้านบาท ให้สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๘/๔๗๕ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๘)
ต่อไป ๓. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(องค์การมหาชน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามแผนการนำงานบริการของหน่วยงานของรัฐมาให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยให้หน่วยงานของรัฐ เจ้าของงานบริการที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ด่วนที่สุด
ที่ สกมช ๐๑๐๐/๓๑๙๓ ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘) รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(องค์การมหาชน) [หนังสือสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ด่วนที่สุด ที่
สพร ๒๕๖๘/๑๑๙๙ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๘]
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
เห็นควรให้ปฏิบัติตามประมวลแนวปฏิบัติและกรอบมาตรฐานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
สำหรับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ
เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของบริการที่สำคัญของหน่วยงาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
466 | การจัดพื้นที่สูบบุหรี่ภายในท่าอากาศยาน | นร. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า โดยที่ท่าอากาศยานต่าง
ๆ ของไทยมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นนักท่องเที่ยว
ผู้โดยสารที่เดินทางต่อเนื่อง (transit/transfer) และผู้โดยสารทั่วไป
ซึ่งมีทั้งกลุ่มผู้โดยสารที่สูบบุหรี่และที่ไม่สูบบุหรี่ ดังนั้น
การจัดสถานที่ให้เป็นเขตปลอดบุหรี่และเขตสูบบุหรี่เป็นการเฉพาะ
รวมทั้งมีระบบระบายควันและอากาศภายในท่าอากาศยานที่เหมาะสมและมีมาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็น
เพื่อคุ้มครองสุขภาพของกลุ่มผู้โดยสารที่ไม่สูบบุหรี่
ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานของท่าอากาศยาน
รวมทั้งยังเป็นการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย
และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในระดับสากลด้วย จึงขอมอบหมายการดำเนินการ
ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมท่าอากาศยาน) บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กระทรวงสาธารณสุข
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันในการพิจารณาจัดสถานที่ภายในท่าอากาศยานต่าง
ๆ ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานให้เป็นเขตสูบบุหรี่เป็นการเฉพาะ
ตามความจำเป็นและเหมาะสมของแต่ละท่าอากาศยาน
โดยให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้านและไม่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ
และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องด้วย ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาความจำเป็นและเหมาะสมในการดำเนินการแก้ไขกฎหมาย
ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
ให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับการกำหนดสถานที่ภายในท่าอากาศยานให้เป็นเขตสูบบุหรี่ในข้อ
๑ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
467 | สถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี | นร. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย
- กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม
๖๕๖๘ นั้น กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก
และกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเป็นเอกภาพ
และขอยืนยันว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาอธิปไตยของประเทศไทยอย่างเต็มที่
โดยจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ภายใต้กรอบกฎหมายและข้อตกลงกับฝ่ายกัมพูชา
(MoU43) อย่างสันติ
และได้เร่งรัดให้มีการเจรจาร่วมกันผ่านกลไกคณะกรรมาธิการจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมไทย - กัมพูชา (Joint
Boundary Commission : JBC) หรือคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม
โดยเร็ว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมขึ้นในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๘
นี้ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุดและหลีกเลี่ยงการเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายที่ไม่จำเป็น
ในการนี้ จึงขอมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวเป็นระยะ
ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยให้ประสานงานและบูรณาการข้อมูลข่าวสารกับกระทรวงกลาโหม
เหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องด้วย ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับเหล่าทัพและหน่วยงานความมั่นคงต่าง
ๆ เร่งดำเนินการติดตามและควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ (Fake News) เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นผ่านสื่อและช่องทางการสื่อสารต่าง
ๆ อย่างเข้มงวด รวมทั้งขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน สื่อสังคมออนไลน์ และภาคส่วนต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องให้นำเสนอข่าวอย่างเหมาะสมและรอบคอบ
เพื่อไม่ให้เกิดการปลุกเร้าความขัดแย้งให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ๓. ขอส่งกำลังใจไปยังกำลังพลของกองทัพไทย
โดยเฉพาะทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่แนวหน้า และขอให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของประเทศด้วยความอดทน
อดกลั้น เพื่อความสงบสุขของประชาชนไทยทั้งประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
468 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. .... | ยธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานศาลยุติธรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานตามร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
ให้กระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเพื่อรองรับภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาไว้แล้ว
และ/หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีเพื่อมาดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป สำนักงานศาลยุติธรรม เห็นว่าร่างกฎกระทรวงนี้จะมีการปรับเพิ่มอัตราในการช่วยเหลือเยียวยาขึ้นมามากขึ้น
แต่เนื่องจากอัตราที่ปรับเพิ่มขึ้นมีที่มาจากการศึกษาอัตราการช่วยเหลือเยียวยาของ
๘ หน่วยงาน
โดยมิได้ปรากฏว่ามีการศึกษาวิจัยทางเศรษฐศาสตร์หรือการศึกษาจากมุมมองของผู้เสียหายและจำเลยว่าอัตราการช่วยเหลือเยียวยาเท่าใดจึงถือได้ว่าเหมาะสมกับค่าครองชีพที่แท้จริงในปัจจุบันหรือไม่
ควรมีการศึกษาวิจัยจากมุมมองดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แม้ภายหลังร่างกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับแล้วย่อมจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการใช้ประเมินผลสัมฤทธิ์ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ เช่นกัน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
469 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธัญญวัฒน์ พากเพียร) | กษ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายธัญญวัฒน์
พากเพียร เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอัครา
พรหมเผ่า) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน ๒๕๖๘ ) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
470 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงศึกษาธิการ) | ศธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี
ของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน ๑๕ คณะ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ๒.
คณะกรรมการอำนวยการโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ๓. คณะกรรมการ PISA และพัฒนาคุณภาพการศึกษาแห่งชาติ เดิมชื่อ คณะกรรมการ PISA แห่งชาติ ๔.
คณะกรรมการกำหนดนโยบายผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕.
คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(ซีมีโอ) ๖. คณะกรรมการพิจารณายกเว้นอากรนำเข้าสื่อ วัสดุ
เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการศึกษา ๗. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๘.
คณะกรรมการฝ่ายการศึกษาของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(ยูเนสโก) ๙. คณะกรรมการฝ่ายวัฒนธรรมของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาชาติ (ยูเนสโก) ๑๐. คณะกรรมการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาชาติ (ยูเนสโก) ๑๑. คณะกรรมการฝ่ายสังคมศาสตร์ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(ยูเนสโก) ๑๒. คณะกรรมการฝ่ายสื่อสารมวลชนของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๑๓.
คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ๑๔.
คณะกรรมการโครงการมนุษย์และชีวมณฑลของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ๑๕. คณะกรรมการโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน
ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน ให้มีหน้าที่และอำนาจเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโครงการ
๑ อำเภอ ๑ ทุน ที่ได้รับการขยายเวลาการดำเนินโครงการไว้แล้ว ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๖ มีนาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง ขออนุมัติขยายกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน
รุ่นที่ ๔ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๖๙) เท่านั้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
471 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี) | คค. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี เป็นผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ ๓๔๐,๐๐๐ บาท
ส่วนค่าตอบแทนพิเศษประจำปีและสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลัง
ให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ ตามมติคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ในการประชุม (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๘ และครั้งที่ ๖/๒๕๖๘
เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป
แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
472 | รัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาเสนอขอแต่งตั้งกงสุลใหญ่ราชอาณาจักรกัมพูชา ณ จังหวัดสงขลา (นายโฮย โซะเพียบ) | กต. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายโฮย โซะเพียบ (Mr. Hoy Sopheap) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ราชอาณาจักรกัมพูชา ณ จังหวัดสงขลา
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดสงขลา กระบี่ นราธิวาส นครศรีธรรมราช ปัตตานี พังงา
พัทลุง ภูเก็ต สตูล สุราษฎร์ธานี ตรัง และยะลา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
473 | การแต่งตั้งผู้แทนองค์กรเอกชนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 มาตรา 4 (5) (นายอนันต์ ดิสระ) | พม. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายอนันต์ ดิสระ
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ
ตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๔ (๕)
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากได้ถึงแก่กรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๔ มิถุนายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
474 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ) | ยธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
475 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายปิยะ เกียรติเสวี) | สธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปิยะ
เกียรติเสวี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) โรงพยาบาลเลิดสิน
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
476 | แต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (นายไชยยง รัตนอังกูร) | สศส03 | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายไชยยง รัตนอังกูร เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นางสาวจิราพร สินธุไพร) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
477 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบกำหนดวาระ และแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติมในคณะกรรมการเฉพาะด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้อมูล (นางศรีดา ตันทะอธิพานิช และนางปิยนุช วุฒิสอน) | ดศ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการเฉพาะด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้อมูลแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบกำหนดวาระ
จำนวน ๑ คน และแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติม จำนวน ๑ คน รวม ๒ คน
โดยขอให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่างหรือเพิ่มเติมนั้นดำรงตำแหน่งได้เท่ากับวาระที่เหลืออยู่
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) ประธานกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ดังนี้ ๑. นางศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
478 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (นายปกรณ์ นิลประพันธ์ ฯลฯ จำนวน 10 คน) | นร.12 | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
(นายปกรณ์ นิลประพันธ์ ฯลฯ จำนวน 10 คน) คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
จำนวน ๑๐ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ)
ประธานกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ ดังนี้ ๑. นายปกรณ์ นิลประพันธ์ (ด้านนิติศาสตร์) ๒. นายเสรี นนทสูติ (ด้านนิติศาสตร์) ๓. นายศุภวุฒิ สายเชื้อ (ด้านเศรษฐศาสตร์) ๔. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ (ด้านรัฐศาสตร์) ๕. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ
(ด้านบริหารรัฐกิจ) ๖. นายภูมินทร์ หะรินสุต (ด้านบริหารธุรกิจ) ๗. นายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา (ด้านบริหารธุรกิจ) ๘. นายกุลิศ สมบัติศิริ (ด้านการเงินการคลัง) ๙. นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ (ด้านจิตวิทยาองค์การ) ๑๐. นายแบ๊งค์ งามอรุณโชติ (ด้านสังคมวิทยา)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
479 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (นายทรงพันธ์ เจิมประยงค์) | วธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายทรงพันธ์ เจิมประยงค์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากขอลาออก ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
480 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร.05 | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. .... (ตั้งแต่วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘)
ตามแนวทางการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|