ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน
ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ
ประเภทของประโยชน์ทดแทน
ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล
ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. ๒๕๖๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับหลักเกณฑ์
ระยะเวลา และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
กรณีทุพพลภาพ กรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ เพื่อให้ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐
มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ กระทรวงสาธารณสุข เห็นควรแก้ไขเป็นเฉลี่ยจ่ายให้แก่คู่สมรส
เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่
๒๔) พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งกำหนดให้บุคคลเพศหลากหลายสามารถหมั้นและสมรสกันได้
อันทำให้มีสิทธิ หน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง
และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลไม่ว่าจะมีเพศใด
ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม
ควรพิจารณาทบทวนการขยายช่วงอายุของบุตรของผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐
ที่ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร ให้สอดคล้องกับช่วงอายุของบุตรของผู้ประกันตนตามมาตรา
๓๓ และมาตรา ๓๙ ที่ยังกำหนดอายุบุตรไว้ไม่เกิน ๖ ปีบริบูรณ์ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการดำเนินนโยบาย
และการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในอนาคต
ควรคำนึงถึงความสมดุลของภาระค่าใช้จ่าย สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
และการเพิ่มขีดความสามารถในการจัดเก็บเงินสมทบ
รวมทั้งการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างเหมาะสม
เพื่อให้กองทุนประกันสังคมมีเสถียรภาพในระยาว ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรพิจารณาถึงความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|