ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 778 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 15541 - 15560 จากข้อมูลทั้งหมด 124270 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15541 | ข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | นร | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการดำเนินการในการจัดเตรียมร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑.๒ การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑.๓ ให้สำนักงบประมาณนำข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปเปิดเผยในเว็ปไซต์ของสำนักงบประมาณ (www.bb.go.th) และจัดพิมพ์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และเอกสารประกอบงบประมาณ เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ และนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมถึงกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตามขั้นตอนที่กำหนดในปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๓. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15542 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายสุวัฒน์ แก้วสุข) | กต | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุวัฒน์ แก้วสุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15543 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ และ นางวิลาวรรณ มังคละธนะกุล) | กต | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมยุโรป ๒. นางวิลาวรรณ มังคละธนะกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15544 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ และ นายอนุชา เศรษฐเสถียร) | คค | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ และนายอนุชา เศรษฐเสถียร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15545 | ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คำสั่ง นร ที่ 99/2561) | นร04 | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๙๙/๒๕๖๑ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการรองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๑ โดยปรับปรุงการมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๒๔/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15546 | ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ 97 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ ๙๗ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๔ เมษายน ๒๕๖๑ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ ๙๗ ที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินกระบวนการเพิ่มทุนที่ชำระแล้ว (Paid-In Capitals) จำนวน ๑๓,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและวิวัฒนาการ (The International Bank for Reconstruction and Development : IBRD) จำนวน ๗,๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (The International Finance Corporation : IFC) จำนวน ๕,๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะการเงินและประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพื่อการพัฒนาของกลุ่มธนาคารโลก และที่ประชุมได้ขอให้ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาระดับหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นของประเทศที่มีรายได้ต่ำซึ่งเป็นข้อจำกัดของการพัฒนา นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าของการบริหารความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ (Mainstreaming Disaster Risk Management) และแนวทางเพิ่มความเท่าเทียมกันในคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลกในเรื่องของ Gender Diversity ๒. การประชุมร่วมของผู้ว่าการประเทศสมาชิกกลุ่มออกเสียงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (Joint Governors’ Meeting of the World Bank-IMF Southeast Asia Voting Group : Joint Meeting OF SEA Group) เป็นการประชุมร่วมกันของผู้ว่าการธนาคารโลกของกลุ่มออกเสียง SEA Group ๑๑ ประเทศ (บรูไนดารุสซาลาม ฟิจิ อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา มาเลเซีย เนปาล สิงคโปร์ ตองกา เวียดนาม และไทย) และผู้ว่าการกองทุนการเงินระหว่างประเทศของกลุ่มออกเสียง SEA Group ๑๓ ประเทศ (บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ฟิจิ อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา มาเลเซีย เนปาล ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ตองกา เวียดนาม และไทย) มีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบการดำเนินงานและนโยบายที่สำคัญในช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา และพร้อมกับรายงานความคืบหน้าของแผนการดำเนินการที่สำคัญ ๓. การประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย (๑) การประชุมหารือทวิภาคีกับนาง Victoria Kwakwa รองประธานธนาคารโลกดูแลภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (๒) การประชุมในหัวข้อ Maximizing the Development Impact of the Belt and Road (๓) การสัมมนาด้านภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก IMF (๔) การสัมมนา Fiscal Forum ในหัวข้อ Corruption and Public Sector Governance และ (๕) การสัมมนาด้านภาษี (Tax Conference) ในหัวข้อ Splitting the Riches : The Present and Future of Taxation by Formula
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15547 | การแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม | นร01 | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และการดำเนินการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาตามประเด็นข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กำชับให้หน่วยงานในสังกัดและคณะอนุกรรมการฯ เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ประธานกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15548 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 | นร11 | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ๑ (จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) ระหว่างวันที่ ๒๓ เมษายน-๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ซึ่งมีประเด็นการพัฒนาและข้อสั่งการ ได้แก่ (๑) การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันเกษตรอุตสาหกรรมและแปรรูป (๒) การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ไหม (๓) การส่งเสริมพัฒนาการค้าการลงทุนและการค้าชายแดน และ (๔) การยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการไปพิจารณาดำเนินการ และรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15549 | ผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 | นร11 | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกร เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ๑ (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์) เมื่อวันอังคารที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ซึ่งมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับด้านการเกษตรและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการค้า การลงทุน และการค้าชายแดน ด้านการท่องเที่ยว และด้านคุณภาพชีวิต ๑.๒ เห็นชอบตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ รวมทั้งรายงานผลการดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15550 | แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ | กก | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ ๕ จังหวัด (นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี) และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อีสานใต้ และขยายหรือพัฒนาต่อยอดไปยังจังหวัดอื่น ๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสร้างและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนและเมืองรอง อันจะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งเห็นควรสนับสนุนโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๔๕ โครงการ วงเงิน ๒๙๗.๓๙ ล้านบาท และในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๗๐ โครงการ วงเงิน ๕๕๔.๓๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้และพื้นที่ใกล้เคียงเร่งดำเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ดังกล่าวให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้สอดคล้องกับแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ในการดำเนินกิจกรรมการให้บริการท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับความสะอาด หลักสุขอนามัย รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15551 | ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2561)] | นร | 08/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15552 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายวิศัลย์ มูลศาสตร์) | สธ | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายวิศัลย์ มูลศาสตร์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานการรักษา กลุ่มบริการเฉพาะทาง สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๒. นางจิตสุดา บัวขาว ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม) กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15553 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นางสาวรสา กาญจนสาย) | กค | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวรสา กาญจนสาย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประเมินผลรัฐวิสาหกิจ (นักวิเคราะห์รัฐวิสาหกิจทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15554 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลมะขามสูง ตำบลบ้านป่า อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลมะขามสูง ตำบลบ้านป่า อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการประกาศให้พื้นที่เขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลท้อแท้ อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลมะขามสูง ตำบลบ้านป่า อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่ได้กำหนดให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน ให้ดำเนินการตราเป็นพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดินได้ และเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดินต่อไปได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) และคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลาง รวบรวมพื้นที่ที่จะกำหนดแนวเขตแผนผังโครงการจัดรูปที่ดินภายในท้องที่ตำบลหรืออำเภอเดียวกันเสนอคณะรัฐมนตรีในคราวเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15555 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. 2556) | มท | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. ๒๕๕๖) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. ๒๕๕๖ ในส่วนของข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว) บริเวณหมายเลข ก.๑-๑๑ ให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการโรงแรม การอยู่อาศัย การประกอบพาณิชยกรรม และศูนย์ประชุมที่ไม่ใช่ประเภทอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตรได้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15556 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... | สว | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตว่า ควรแก้ไขเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว รวมทั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพิจารณาสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ช. การจัดทำรายงานประจำปีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. การจัดทำคู่มือตามมาตรา ๖๑ วรรคสาม การทำความตกลงร่วมกันเพื่อบูรณาการการทำงาน การดำเนินการเกี่ยวกับการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน หรือการเปิดเผยที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเจ้าของข้อมูล การออกระเบียบเกี่ยวกับการกำหนดเบี้ยประชุม การจัดทำระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกับอัตราเงินเดือนของบุคลากร การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ การกำหนดตำแหน่งเพิ่มเติมสำหรับ “ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง” ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. สามารถกำหนดเพิ่มเติมได้นั้น ควรกำหนดให้ครอบคลุมถึงบุคคลหรือคณะบุคคลที่มีหน้าที่และอำนาจในการบริหารงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณ การเสนอโครงการ และการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการทุกประเภทด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม (กรมพระธรรมนูญ) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน ก.พ. สำนักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15557 | การขอจัดตั้งหน่วยงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ | นร12 | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ส่วนราชการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๑ ในการรองรับการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศ โดยต้องพิจารณาปรับปรุงบทบาท ภารกิจ และโครงสร้างของหน่วยงานที่มีอยู่เดิมเป็นลำดับแรกก่อน สำหรับข้อเสนอการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ ไม่ควรมีผลผูกพันกับส่วนราชการในทันที และหากยังมีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งหน่วยงานใหม่เพิ่ม ควรจัดตั้งเฉพาะที่มีเหตุผลความจำเป็นและคำนึงถึงค่าใช้จ่าย และนอกจากนี้ มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. ศึกษาเรื่องดังกล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลความจำเป็นและความคุ้มค่าในการจัดตั้งให้ชัดเจนควบคู่ไปด้วย ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอของสำนักงาน ก.พ.ร. อย่างเคร่งครัดต่อไป และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทยอยดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ในประเด็นการจัดตั้งองค์กรหรือหน่วยงานใหม่ และการยุบเลิกหรือยุบรวมหน่วยงานในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วน เหตุผลความจำเป็น และความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต รวมถึงภาระด้านงบประมาณ กรอบนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของแต่ละกระทรวงด้วย ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการภาครัฐในลักษณะประชารัฐให้มากขึ้นด้วย ๓. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ. เช่น ควรให้มีการผลักดันการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอันจะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานภาครัฐตามแผนปฏิรูปประเทศไปสู่เป้าหมาย ทดแทนการจัดตั้งหน่วยงานเพิ่มใหม่ สำหรับหน่วยงานที่มีการจัดตั้งขึ้นใหม่ หรือหน่วยงานที่มีโครงสร้างยังไม่สมบูรณ์ อาทิ ยังมีอัตรากำลังที่ไม่เหมาะสม และไม่สามารถเกลี่ยอัตรากำลังได้ ควรให้มีการวิเคราะห์ค่างานเป็นหลัก เพื่อขอสนับสนุนอัตรากำลังที่เหมาะสมต่อไป และในการดำเนินงานตามขั้นตอนของแผนปฏิรูปประเทศดังกล่าว ควรใช้ประโยชน์จากบุคลากรทุกประเภทที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอาจพิจารณาถึงการปรับโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐทั้งระบบ เพื่อลดความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีภารกิจรับผิดชอบดำเนินการอยู่ตามกฎหมายให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนของแผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐที่มีเป้าหมายให้ภาครัฐมีขนาดที่เล็กลง โดยจัดลำดับความสำคัญตามข้อเสนอการขอจัดตั้งหน่วยงานตามแผนการปฏิรูปประเทศดังกล่าว โดยมิให้ส่งผลกระทบต่อขนาดกำลังคนภาครัฐโดยรวมและภาระงบประมาณ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15558 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 6 | คค | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Cross-Border Transport Agreement : GMS CBTA) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๖ ซึ่งกระทรวงคมนาคมเวียดนามร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) จัดการประชุมดังกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมฯ ยินดีต่อการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง “ระยะแรก” (Memorandum of Understanding of the “Early Harvest” Implementation of the CBTA) ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งจะส่งผลให้บันทึกความเข้าใจ Early Harvest มีผลบังคับใช้ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ และได้มีมติเห็นชอบการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ Early Harvest เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ (๑) ให้ประเทศสมาชิกดำเนินการออกใบอนุญาตการขนส่งทางถนน (Permit) และเอกสารนำเข้าชั่วคราว (Temporary Admission Document : TAD) ทันที และ (๒) ให้ ADB ทำการศึกษาเพื่อหากลไกที่เหมาะสมในประเด็นการเก็บค่าผ่านทางและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของประเทศภาคีคู่สัญญาที่ด้อยพัฒนา (The Least Developed GMS Countries) เพื่อใช้ในการบำรุงรักษาถนนให้แล้วเสร็จทันเวลาที่จะเริ่มดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ Early Harvest ต่อไป ๒. ที่ประชุมฯ รับทราบความคืบหน้าในการเจรจาหารือเพื่อขยายเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ จุดข้ามแดน ภายใต้พิธีสาร ๑ ของความตกลง CBTA และร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสดำเนินการหาข้อสรุปรายชื่อ เส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ จุดข้ามแดนฯ และร่างบันทึกความเข้าใจให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ เพื่อให้มีการรับรองแบบเวียน (ad-referendum endorsement) โดยคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลง CBTA รวมถึงให้ประเทศสมาชิกดำเนินการตามขั้นตอนภายในประเทศที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ จุดข้ามแดน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ๓. ที่ประชุมฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของกลไกการติดตามผลของการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและการค้า (Transport and Trade Facilitation) และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสปฏิบัติตามข้อผูกพันเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูล ณ จุดข้ามแดนที่ระบุไว้ในพิธีสาร ๑ รวมถึงยินดีต่อการมีส่วนร่วมของสถาบันแม่น้ำโขงเพื่อสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ Early Harvest ซึ่งจะรายงานผลการดำเนินงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลง CBTA ครั้งที่ ๗ ในปี ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15559 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 2/2561 | นร04 | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๑ ซึ่งผลการประชุมมีความคืบหน้าการติดตามเร่งรัดการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ๕ เรื่อง ตามที่ กขร. เสนอ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดการดำเนินการร่างพระราชบัญญัติฯ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๑ เดือน (เมษายน ๒๕๖๑) ๒. ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับกิจการสหกรณ์การเงินขนาดใหญ่ พ.ศ. .... ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติฯ และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓ เดือน (มิถุนายน ๒๕๖๑) ๓. การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายประสานการดำเนินการปรับปรุงพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๑ เดือน (เมษายน ๒๕๖๑) ๔. แนวทางการบูรณาการระบบสวัสดิการภาครัฐเพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนมุ่งเป้า ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลักดำเนินการร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) บูรณาการข้อมูลระบบสวัสดิการภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือน (กันยายน ๒๕๖๑) โดยประสานเชื่อมโยงกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายเพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และคลาวด์คอมพิวติง (Cloud Computing) ด้วย ๕. โครงการเพิ่มศักยภาพกำลังคนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการจัดทำรายละเอียดของโครงการฯ เพิ่มเติม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๑ เดือน (เมษายน ๒๕๖๑)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15560 | รายงานผลการเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 01/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๒ มีนาคม ๒๕๖๑ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างไทยและฮ่องกง เพื่อเชื่อมต่อการค้าของไทยทั้งในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค พร้อมทั้งเพื่อให้มีการติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวนโยบายเศรษฐกิจของจีนและฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้รับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจบันเทิงไทย (Thai Night) และเยี่ยมชมงาน Hong Kong International Film & TV Market (FILMART) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าภาพยนตร์และธุรกิจบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค รวมทั้งได้พบหารือกับรองผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บริหารระดับสูงภาครัฐและเอกชน ผู้นำเข้าและนักธุรกิจรายสำคัญของฮ่องกง โดยมีประเด็นหารือกันในเรื่องการเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เยี่ยมชมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานฮ่องกง-มาเก๊า-จูไห่ และ Cyber Port Center (แหล่งรวมนักธุรกิจ Start-Up รุ่นใหม่ของฮ่องกง) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
.....