ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 766 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 15301 - 15320 จากข้อมูลทั้งหมด 124270 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15301 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร09 | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการ รวมทั้งอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15302 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานตรวจความปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... | รง | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานตรวจความปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการของกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานตรวจความปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15303 | ขออนุมัติเลื่อนฐานะกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครแอดิเลด เครือรัฐออสเตรเลีย เป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครแอดิเลด เครือรัฐออสเตรเลีย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นางอะแมนดา-เจน ยานโนพูลอส (Mrs. Amanda-Jane Giannopoulos)] | กต | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเลื่อนฐานะ นางอะแมนดา-เจน ยานโนพูลอส (Mrs. Amanda-Jane Giannopoulos) กงสุลกิตติมศักดิ์ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย เป็น กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย เครือรัฐออสเตรเลีย โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐเซาท์ออสเตรเลีย และดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี สืบแทน นางโจแอน มูเรียล วอลตัน (Mrs. Joan Muriel Walton) ซึ่งถึงแก่กรรม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15304 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ ในส่วนค่าสิทธิที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือ) | กค | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของบริษัทของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters หรือ IHQ) จากเดิมซึ่งเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับรายได้ค่าสิทธิที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ เป็น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับค่าสิทธิที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ เฉพาะค่าสิทธิที่เกิดจากผลการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่กระทำขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าการวิจัยและพัฒนานั้นจะกระทำโดย IHQ หรือโดยการจ้างผู้อื่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับปรุงมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดทำประมาณการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่จะได้รับในครั้งนี้ให้ชัดเจน โดยจัดทำประมาณการรายได้อย่างน้อย ๓ ปี เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามนัยของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐต่อไป นอกจากนี้ กรมสรรพากรควรเร่งออกกฎหมายลำดับรองกำหนดวิธีการและเงื่อนไขการได้สิทธิประโยชน์เมื่อพระราชกฤษฎีกาฯ มีผลบังคับใช้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15305 | ขอความเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพื่อการพัฒนาปาเลสไตน์ ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 | กต | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพื่อการพัฒนาปาเลสไตน์ ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓ (Draft Joint Statement of the Third Ministerial Meeting of the Conference on Cooperation among East Asian Countries for Palestinian Development) ที่จะมีการรับรองในระหว่างการประชุมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพื่อการพัฒนาปาเลสไตน์ (Conference on Cooperation among East Asian Countries for Palestinian Development : CEAPAD) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ กรุงเทพมหานคร โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญครอบคลุมประเด็นสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ การส่งเสริมข้อริเริ่มของ CEAPAD ให้เป็นเวทีที่มีประสิทธิภาพในการประสานงาน การแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกให้กับปาเลสไตน์ การจับคู่ระหว่างสาขาการพัฒนาที่ได้รับความสำคัญและตรงตามความต้องการของปาเลสไตน์กับทรัพยากรของประเทศเอเชียตะวันออกที่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่ปาเลสไตน์ การจัดทำแผนการดำเนินงาน ๓ ปี ซึ่งสมาชิก CEAPAD จะให้ความช่วยเหลือแก่ปาเลสไตน์ตามสาขาที่มีทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ การยกระดับสำนักเลขานุการของปาเลสไตน์ที่รับผิดชอบการประสานงานระหว่างสมาชิก CEAPAD และการสนับสนุนสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (United Nations Relief and Works Agency for Palestine Refugees in the Near East : UNRWA) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ รวมถึงการมีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประชุม CEAPAD ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มรายละเอียดในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ได้แก่ (๑) กำหนดประเด็นความสำคัญ และ/หรือสาขาที่จำเป็นเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือ (Prioritized Sectors) เพื่อประโยชน์ในการจัดทำแผน ๓ ปี และ (๒) กำหนดรูปแบบการบริหารจัดการ การจัดสรรทุน และลักษณะของการดำเนินการของกองทุน (Trust Fund) ภายใต้กลไก CEAFAM (CEAPAD Facilitation Mechanism) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศในฐานะเจ้าภาพในการจัดประชุมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพื่อการพัฒนาปาเลสไตน์ ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓ ดำเนินบทบาทและแสดงท่าทีของประเทศไทยด้วยความรอบคอบ รัดกุม ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๑ (เรื่อง การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพื่อการพัฒนาปาเลสไตน์ ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15306 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร51 | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๔๐,๘๒๑,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ กอ.รมน. รับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุมและกำกับดูแลโครงการฯ ให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งควรพิจารณาดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยจัดให้มีระบบติดตามประเมินผลโครงการฯ และรายงานความก้าวหน้าให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทราบอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15307 | รายงานผลการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ครั้งที่ 3 | มท | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ครั้งที่ ๓ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการลงพื้นที่ครั้งที่ ๑-๓ ของทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล ได้ลงพื้นที่จัดเวทีประชาคมครบถ้วนทุกหมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว โดยครั้งที่ ๑ (๒๑ กุมภาพันธ์-๒๐ มีนาคม ๒๕๖๑) มีประชาชนเข้าร่วมเวทีประชาคม ๘.๗๘ ล้านคน ครั้งที่ ๒ (๒๑ มีนาคม-๑๐ เมษายน ๒๕๖๑) มีประชาชนเข้าร่วมเวทีประชาคม ๗.๙๘ ล้านคน และครั้งที่ ๓ (๑๑ เมษายน-๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑) มีประชาชนเข้าร่วมเวทีประชาคม ๗.๖๒ ล้านคน และขณะนี้ทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบลอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ครั้งที่ ๔ (ระหว่างวันที่ ๑๖ พฤษภาคม-๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๑) โดยลงพื้นที่แล้ว ๔๑,๓๙๐ แห่ง มีประชาชนเข้าร่วมเวทีประชาคม ๓.๙๖ ล้านคน ๒. ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ตามที่ได้รับงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เช่น (๑) โครงการมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ดำเนินการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย ๘.๒ ล้านคน โดยเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประสงค์พัฒนาตน ๔.๑ ล้านคน (๒) โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน (หมู่บ้าน/ชุมชนละสองแสนบาท) มี ๘๐,๗๘๗ หมู่บ้าน/ชุมชนเสนอโครงการแล้ว (จากทั้งหมด ๘๒,๒๓๓ หมู่บ้าน/ชุมชน) โดยคณะกรรมการบริหารงานอำเภอ/คณะกรรมการของกรุงเทพมหานครได้พิจารณาอนุมัติโครงการแล้ว ๖๗,๖๙๗ หมู่บ้าน/ชุมชน และ (๓) โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชาตามแนวทางประชารัฐ ผ่านกองทุนหมู่บ้าน กองทุนละไม่เกินสามแสนบาท ได้จัดประชุมการเปิดปฏิบัติการโครงการฯ เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15308 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ | กต | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15309 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน (นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข) | กค | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) เป็นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน แทน นายประภาศ คงเอียด ที่ขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15310 | ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร04 | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๔๕/๒๕๖๑ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ในส่วนของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ ๑.๓.๑๘ “๑.๓.๑๘ คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน” ๒. ในส่วนของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ ๖.๕.๕ “๖.๕.๕ รองประธานกรรมการในคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน”
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15311 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561) | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15312 | พิธีสารเพื่อแก้ไขภาคผนวก 2 และภาคผนวก 5 ของความตกลงการค้าเสรีไทย - ออสเตรเลีย (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561) | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอพิธีสารเพื่อแก้ไขภาคผนวก ๒ และภาคผนวก ๕ ของความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15313 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561)] | นร09 | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15314 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์การไต่สวนมูลฟ้อง การพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลย และค่าธรรมเนียม) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561) | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์การไต่สวนมูลฟ้อง การพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลย และค่าธรรมเนียม) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15315 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านสังคม ๑.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น เพื่อดำเนินการกวดขันและจับกุมการเล่นการพนันที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการพนันให้สอดคล้องกับสภาวการณ์การเล่นการพนันในปัจจุบัน เช่น การจัดการพนันและเล่นการพนันออนไลน์ เป็นต้น และดำเนินการต่อไปโดยด่วน ๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น ศึกษาและพัฒนาความร่วมมือด้านนวัตกรรมและการวิจัยกับประเทศที่มีศักยภาพในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการทำการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รัฐอิสราเอล เพื่อนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาปรับใช้ในการพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการเพิ่มผลผลิต และมูลค่าสินค้าทางการเกษตรของไทย ทั้งนี้ ให้เผยแพร่องค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่เกษตรกรเพื่อต่อยอดและนำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพต่อไปด้วย ๑.๓ ให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวชาวเวียดนามเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทยในสาขาที่มีความจำเป็นเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กำหนดไว้แล้วในปัจจุบันในงานกรรมกร ในกิจการก่อสร้าง และกิจการประมงทะเล ๒. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับพืชเกษตรอย่างครบวงจร จำแนกเป็น พืชเศรษฐกิจ (ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา อ้อย และข้าวโพด) พืชเพื่อการพาณิชย์ พืชเพื่อการบริโภค โดยแสดงให้เห็นถึงการดำเนินการที่เกี่ยวกับพืชแต่ละชนิดดังกล่าว ตลอดจนห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เช่น พื้นที่การเพาะปลูก กระบวนการผลิต กระบวนการแปรรูป การจำหน่าย ความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนวโน้มราคาผลผลิต เป็นต้น และให้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปให้ถูกต้องและทั่วถึงเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำการเกษตรของเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15316 | ขอให้เร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดี | นร | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของรัฐและเป็นการป้องกันความเสียหายใด ๆ อันอาจเกิดขึ้นจากการที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการฟ้องร้องคดีต่าง ๆ จึงมีมติให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้
๑. ในส่วนของคดีเกี่ยวกับการดำเนินโครงการจำนำข้าวเปลือก ซึ่งมีทั้งคดีความอาญาและคดีความแพ่งซึ่งใกล้จะหมดอายุความและอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อฟ้องร้องคดี นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร) และกระทรวงพาณิชย์ (องค์การคลังสินค้า) เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จทุกคดีโดยเร็ว แล้วส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดอย่างช้าสุดภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ เพื่อดำเนินการฟ้องร้องคดีให้ทันภายในกำหนดอายุความ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีคดีใดที่ส่วนราชการเจ้าของเรื่องมีประเด็นที่เห็นควรจะประนีประนอม ยอมความ ไกล่เกลี่ย หรือตกลงให้เป็นไปตามคำร้องขอของคู่ความ ส่วนราชการเจ้าของเรื่องจะดำเนินการเช่นนั้นได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายก่อน แล้วแต่กรณี ๒. ในส่วนของคดีความอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ ๑ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่เป็นเจ้าของเรื่องตรวจสอบและเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินการฟ้องร้องคดีทันภายกำหนดอายุความของคดีนั้น ๆ ทั้งนี้ หากส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐใดปล่อยปละละเลยจนคดีขาดอายุความ จะถือเป็นความบกพร่องของหัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐนั้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15317 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 4 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 3 ฉบับ) | อก | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์และส่วนพ่วง ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์เชิงพาณิชย์และส่วนพ่วง ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถจักรยานยนต์และโมเปด และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลม : ข้อกำหนดด้านเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง ๔ ฉบับ ได้แก่ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์และส่วนพ่วง ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถยนต์เชิงพาณิชย์และส่วนพ่วง ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลมสำหรับรถจักรยานยนต์และโมเปด ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อแบบสูบลม : ข้อกำหนดด้านเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเร่งรัดดำเนินการโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ณ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการช่วยยกระดับมาตรฐานและการวิจัยที่นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าและการสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์และยางล้อของประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15318 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม พ.ศ. .... | มท | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม พ.ศ. ... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม ในท้องที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลเกิ้ง ตำบลตลาด ตำบลแก่งเลิงจาน ตำบลเขวา และตำบลแวงน่าง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดแนวเขตปฏิรูปที่ดินและสัญลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน และมีข้อกำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือง รวมทั้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าว และเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด โดยคำนึงถึงการควบคุมการก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นอุปกสรรคกับการระบายน้ำในพื้นที่ ควรพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมและพื้นที่ชุ่มน้ำ ควรจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใดและใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมือง ควรให้มีการยกเว้นให้สามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนขนาดเล็กเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตรและใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ได้ ควรเพิ่มประเภทโรงงานและกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแลและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาฐานเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15319 | ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2561 | นร | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยผลการประชุมฯ มีเรื่องสำคัญ ๕ เรื่อง ได้แก่ (๑) ปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ (๒) แผนงานโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕ (๓) โครงการระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดหนองบัวลำภู (๔) การปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๕๐ และ (๕) การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ด้านนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามผลการประชุมฯ ต่อไป โดยรายละเอียดของงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามแผนงานเร่งด่วน ให้หน่วยงานพิจารณาดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ก่อนเป็นลำดับแรก สำหรับโครงการตามแผนงานโครงการขนาดใหญ่ และโครงการสำคัญ ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕ โครงการที่มีความพร้อม สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ รองรับไว้แล้วบางส่วน ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจ ออกแบบ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการ โดยพิจารณาถึงความจำเป็น เหมาะสม ประโยชน์ที่จะได้รับ และเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณตามแผนที่กำหนดไว้ในแต่ละปีตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปฏิบัติตามนัยของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระยะที่ ๒ เห็นควรให้ดำเนินการตามแนวทางการขอจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ นร ๑๒๐๐/ว๑๓ ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๐ เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ ไปดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ในกรณีเรื่องใดที่เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีในการให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัด/ขับเคลื่อนการดำเนินงานและโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โครงการตามพระราชดำริที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และโครงการตามแผนงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่มีความพร้อมและได้รับอนุมัติงบประมาณแล้ว ให้แล้วเสร็จโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15320 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารเรียนและปฏิบัติการคณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง | ศธ | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารเรียนและปฏิบัติการคณะอุตสาหกรรมเกษตร จากเดิมจำนวน ๑๐๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นจำนวน ๑๐๗,๔๘๓,๔๐๐ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการก่อหนี้ผูกพันหรือจ่ายเงิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมาตรา ๓๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....