ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 68 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1341 - 1360 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1341 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน | รง. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1342 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประสพ เรียงเงิน) | วธ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประสพ เรียงเงิน ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1343 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า | พณ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า
จำนวน ๑๒ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายสมศักดิ์ พณิชยกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคเอกชน) ๒. นายชัยณรงค์ โชไชย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคเอกชน) ๓. นางภาณุมาศ สิทธิเวคิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคเอกชน) ๔. นางสาวอุรวี เงารุ่งเรือง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคเอกชน) ๕. นายภูสิต รัตนกุล
เสรีเริงฤทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคเอกชน) ๖. นายวัชระ เปียแก้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคเอกชน) ๗. นายพิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคเอกชน) ๘. นางสาววัชรี วัฒนพรพรหม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคเอกชน) ๙. นายธนัญชัย ลิมปิพิพัฒนากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคเอกชน) ๑๐. นายพินัย ณ นคร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ภาคราชการ) ๑๑. นางสาวอรพรรณ พนัสพัฒนา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคราชการ) ๑๒. นางพัฒนาพร ฉัตรจุฑามาส กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคราชการ)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1344 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายเพชรฤกษ์ แทนสวัสดิ์) | สธ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเพชรฤกษ์
แทนสวัสดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
[ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) สูง] สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน)
โรงพยาบาลศรีสะเกษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1345 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวเสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย และนายขรรค์ชัย มลังไพศรพณ์) | สธ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวเสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย ดำรงตำแหน่งนายสัตวแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสาธารณสุข)
กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๖๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1346 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายโตมร ทองศรี และนางสุภาพร พุทธรัตน์) | สธ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายโตมร ทองศรี ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1347 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาววรนัดดา ศรีสุพรรณ) | สธ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาววรนัดดา ศรีสุพรรณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งเภสัชกรเชี่ยวชาญ (ด้านเภสัชกรรม)
กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ
(ด้านอาหารและยา) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1348 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายประวีณ ตัณฑประภา) | สธ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประวีณ ตัณฑประภา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล
[ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) สูง] โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ และมีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่ง
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1349 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี กรณีการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิเฉพาะราย (นางสาวทัศลาภา แดงสุวรรณ) | สธ. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ [เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวทัศลาภา แดงสุวรรณ และนายวิทยา
พลสีลา)] เฉพาะราย นางสาวทัศลาภา แดงสุวรรณ เนื่องจากสำนักงาน ก.พ. ได้รับหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับผลงานของ
นางสาวทัศลาภา แดงสุวรรณ และ สำนักงาน ก.พ. มีมติยกเลิกผลการประเมินผลงานของนางสาวทัศลาภา แดงสุวรรณ
เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1350 | ขอความเห็นชอบอนุมัติใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติม และขออนุมัติงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | มท. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติมอีก จำนวนเงิน ๕,๐๓๙,๗๙๓,๐๐๐ บาท และอนุมัติพื้นที่ดำเนินการ และระยะเวลาการช่วยเหลือเพิ่มเติม
ในพื้นที่จังหวัดต่อไปนี้ ๑) เกิดสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่
๒ พฤศจิกายน ๖๕๖๗ ในพื้นที่ ๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร
และจังหวัดสิงห์บุรี และ ๒) เกิดสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ในพื้นที่ ๑๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี
ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1351 | ร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการความขาดแคลนน้ำและการฟื้นฟูดินเพื่อระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น (Ministerial Declaration on managing water scarcity and reversing soil degradation for sustainable and resilient agrifood systems) | กษ. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
1352 | ขอยกเลิกโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และขอเสนอโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 | กษ. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยกเลิกโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๗ (เรื่อง โครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
ภายใต้มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต ๒๕๖๗/๖๘) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒.
เห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต
๒๕๖๗/๖๘ ภายในกรอบวงเงิน ๓๘,๕๗๘.๒๒ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นและเป็นภาระต่องบประมาณนั้น
ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามผลการดำเนินงานจริงตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ รวมทั้งให้นำข้อสังเกตของคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ
(นบข.) ไปประกอบการพิจารณาด้วย ทั้งนี้
การชดเชยต้นทุนเงินให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ให้คงหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการชดเชยอัตราต้นทุนทางการเงินที่ต้องขอรับชดเชยจากภาครัฐในอัตราต้นทุนทางการเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ประจำไตรมาส บวก ๑ เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา และหากจะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราการชดเชยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง
กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลกข้าว
ปีการผลิต ๒๕๖๗/๖๘ ดังกล่าว ตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรจัดทำระบบหรือกลไกในการตรวจสอบที่มีมาตรฐาน
เพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างถูกต้องและทันสถานการณ์ รวมทั้งบูรณาการข้อมูลการลงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
จำนวนเกษตรกร จำนวนพื้นที่เพาะปลูก ราคาซื้อขายในตลาด ปริมาณผลผลิตต่อไร่
ต้นทุนการผลิตต่อไร่ เพื่อจัดทำอัตราการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเหมาะสมตามความจำเป็น
ข้อมูลเกษตรกรไม่ตกหล่นและไม่ซ้ำซ้อนในทุกมิติ
โดยดำเนินการในพื้นที่ที่อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๖
รวมทั้งการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดทำระบบการรายงาน การติดตาม
และการประเมินผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากการดำเนินโครงการ
เพื่อให้มีข้อมูลในการบริหารงานอย่างถูกต้องครบถ้วน และการกำหนดนโยบายภาครัฐที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นควรติดตามการปฏิบัติตามเงื่อนไขของเกษตรกรผู้รับเงินสนับสนุนอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้เกิดการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และในระยะต่อไป
ควรกำหนดแผนในการยกระดับผลิตภาพเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้งการลดต้นทุนการผลิต
และเพิ่มผลิตภาพผ่านการใช้เทคโนโลยีให้มีความต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
รวมถึงจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรของภาครัฐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1353 | การเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ | นร. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้เกิดอุทกภัยขึ้นในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัดและส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
ซึ่งแม้ว่าในขณะนี้สถานการณ์จะได้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว
แต่ก็ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานียังมีปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าและน้ำประปาเป็นอย่างมาก
ประกอบกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ประกาศแจ้งเตือนว่าตั้งแต่วันที่
๓ - ๕ ธันวาคม ๒๕๖๗
จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและมีคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย
อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เสี่ยงเกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและน้ำป่าไหลหลากขึ้นอีก
ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ดังนั้น
เพื่อให้การบริหารสถานการณ์และบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ภาคใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จึงขอมอบหมายให้คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติที่มีรองนายกรัฐมนตรี
(นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานกรรมการ
เร่งประสานการดำเนินงานต่อเนื่องจากการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)
โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นที่ปรึกษา
และให้เร่งปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กลไกตามกฎหมายในการบริหารจัดการและระดมความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นให้คลี่คลายลงโดยเร็ว
รวมทั้งให้ดำเนินการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าว
ตลอดจนกำหนดแนวทางการช่วยเหลือฟื้นฟูให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1354 | ผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ประจำปี 2567 | พณ. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1355 | ผลการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 9 | กษ. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1356 | การอนุญาตให้ผู้ควบคุมอากาศยานต่างชาติ (นักบิน) ทำการบินในเส้นทางการบินภายในประเทศเป็นการชั่วคราว | รง. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการอนุญาตให้ผู้ควบคุมอากาศยานต่างชาติ
(นักบิน) ทำการบินในเส้นทางการบินภายในประเทศเป็นการชั่วคราว
โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๔ แห่งพระระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อยกเว้นให้ผู้ควบคุมอากาศยานต่างชาติ
(นักบิน) ที่มาพร้อมอากาศยาน (เครื่องบิน) สามารถทำงานได้เป็นการชั่วคราว และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ประจำหน้าที่นักบิน
หรือผู้ควบคุมอากาศยานในอากาศยานด้วยวิธีการเช่าพร้อมผู้ประจำหน้าที่ (Wet Lease) และประชาสัมพันธ์
สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้นายจ้าง ผู้ประกอบการ คนต่างด้าว
และผู้ที่เกี่ยวข้อง รับทราบข้อมูลการดำเนินการดังกล่าวอย่างทั่วถึง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ประจำหน้าที่นักบินประจำอากาศยานด้วยวิธีการเช่าพร้อมผู้ประจำหน้าที่
(Wet Lease) ตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมชื่อร่างประกาศเป็น
“ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ประจำหน้าที่นักบินประจำอากาศยานด้วยวิธีการเช่าพร้อมผู้ประจำหน้าที่
(Wet Lease) ตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ”
เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มการกำหนดขอบเขตการได้รับอนุญาตให้ทำงานตามร่างประกาศนี้ให้ชัดเจนว่าคนต่างด้าวมีสิทธิทำงานเฉพาะงานขับขี่เครื่องบินในประเทศกับผู้ดำเนินการเดินอากาศและอากาศยานที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งที่ได้รับจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
และจะทำงานอื่นหรือทำงานกับนายจ้างรายอื่นมิได้ (ร่างข้อ ๔) เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1357 | โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน - บางบัวทอง ของกรมทางหลวง | คค. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข
๙ สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน - บางบัวทอง ตามหลักการของโครงการฯ
ที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อให้การดำเนินงานโครงการฯ เป็นไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
พ.ศ. ๖๕๖๒ มาตรา ๒๙ เมื่อคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนได้พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักการของโครงการร่วมลงทุนแล้ว
ให้รัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดนำเสนอหลักการของโครงการร่วมลงทุนดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินโครงการร่วมลงทุนตามหลักการนั้นต่อไป
ซึ่งกรมทางหลวงได้รับความเห็นของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งได้ดำเนินการตามความเห็นของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลังไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่ากรมทางหลวงจะต้องดำเนินการตามมติของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการพิจารณาแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนของภาครัฐเพิ่มเติม
การปรับลดการสนับสนุนเงินร่วมลงทุนในกรณีที่ภาคเอกชนสามารถจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมผ่านทางได้มากกว่าที่ประมาณการไว้
การปรับผลตอบแทนของภาคเอกชนและอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวการณ์ของตลาดทุน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ทั้งนี้
เพื่อมิให้เป็นภาระผูกพันงบประมาณภาครัฐในอนาคตเกินสมควร ควรที่กระทรวงคมนาคม
โดยกรมทางหลวงจะพิจารณาจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นเร่งด่วนของโครงการขนาดใหญ่ที่จะดำเนินการในภาพรวมให้สอดคล้องกับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นด้วย กระทรวงการคลัง เห็นว่าการร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost ตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม เอกชนจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรายได้ค่าธรรมเนียมผ่านทางทั้งหมดของโครงการฯ
ดังนั้นกรมทางหลวงและคณะกรรมการคัดเลือกฯ
ควรพิจารณากำหนดวิธีการหรือกลไกการแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนที่ภาครัฐมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมหรือปรับลดการสนับสนุนเงินร่วมลงทุนในกรณีที่ปริมาณจราจรหรือรายได้ค่าธรรมเนียมผ่านทางของโครงการฯ
สูงกว่าที่ประมาณการไว้มาก นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมควรพิจารณาการลงทุนโครงการต่าง ๆ
ให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญของแผนการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในภาพรวม |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1358 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 3/2566 เรื่อง การพัฒนาเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ | สกพอ. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
1359 | รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.12 | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการตามรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖) และรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ และเห็นชอบข้อเสนอแนะที่สำคัญของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ
จำนวน ๗๒ ข้อเสนอแนะ โดยให้รัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงและกรม
ที่มีประเด็นสมควรปรับปรุงแก้ไข รับข้อเสนอแนะไปพิจารณาดำเนินการ
พร้อมทั้งรายงานผลความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการต่อไป
ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการเสนอ และให้คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรกำหนดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการกำกับดูแลฐานข้อมูลกลางและมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลในข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเร่งรัดดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลกลางของกลุ่มเปราะบางอย่างเป็นระบ กระทรวงแรงงาน เห็นควรนำประเด็นข้อเสนอแนะจากรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ มาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันและยกระดับงานบริการของส่วนราชการให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมีการบูรณาการฐานข้อมูลให้เป็นรูปแบบมาตรฐานเดียวกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในทุกขั้นตอนเพื่อให้การปฏิบัติงานของภาครัฐ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1360 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันและขยายกรอบวงเงินงบประมาณโครงการนำสายสาธารณูปโภคลงดินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ในพื้นที่ราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินใน ถนนท้ายวัง ถนนเชตุพน และถนนมหาราช | มท. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติก่อหนี้ผูกพันโครงการนำสายสาธารณูปโภคลงดินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ในพื้นที่ถนนราชดำเนินกลาง
ถนนราชดำเนินใน ถนนท้ายวัง ถนนเชตุพน และถนนมหาราช
เกินกว่าหรือนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย
และขยายกรอบวงเงินงบประมาณ จากวงเงินเดิม ๒๒๕,๖๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๒๔๗,๙๗๖,๕๑๕.๗๔ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
|