ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 645 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 12881 - 12900 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12881 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนมีนาคม - เมษายน 2562 (เมษายน 2562) | นร | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนมีนาคม-เมษายน ๒๕๖๒ และมอบหมายให้โฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการประกันภัยข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต ๒๕๖๒ เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการประกันภัยข้าวนาปี และการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต ๒๕๖๒ และการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต ๒๕๖๑/๖๒ (เพิ่มเติม) ๒. ภัยแล้ง เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี ๒๕๖๒ ๓. โครงการระบบรถไฟชานเมือง เน้นการประชาสัมพันธ์ในการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดง (ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา) และสายสีแดงเข้ม (ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) และโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน (ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ๔. ประเพณีสงกรานต์ เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นแนวทางการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๒ (สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย) ๕. การเลือกตั้ง เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ๖. ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12882 | สรุปผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยโดยสถาบัน IMD ปี 2562 | นร11 | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติสรุปผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยโดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development : IMD) ปี ๒๕๖๒ ซึ่งผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจทั่วโลก จำนวน ๖๓ ประเทศ ปรากฏว่า สิงคโปร์ขยับขึ้นมาครองอันดับที่ ๑ จากอันดับที่ ๓ ในปี ๒๕๖๑ ในขณะที่สหรัฐอเมริกาตกจากอันดับ ๑ ในปี ๒๕๖๑ มาเป็นอันดับ ๓ ในปีนี้ ส่วนฮ่องกงยังคงอันดับที่ ๒ เช่นเดียวกับปี ๒๕๖๑ และสวิตเซอร์แลนด์ครองอันดับที่ ๔ ดีขึ้น ๑ อันดับ สำหรับการจัดอันดับประเทศในกลุ่มอาเซียน ๕ ประเทศ ประกอบด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่มีอันดับดีขึ้น โดยเฉพาะอินโดนีเซียมีอันดับดีขึ้นถึง ๑๑ อันดับ มาอยู่ในอันดับที่ ๓๒ (จากอันดับที่ ๕๐ ในปี ๒๕๖๑) และไทยมีอันดับดีขึ้น ๕ อันดับ มาอยู่ในอันดับที่ ๒๕ (จากอันดับที่ ๓๐ ในปี ๒๕๖๑) และยังเป็นอันดับที่ ๓ ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยมาเลเซียยังคงรักษาอันดับ ๒๒ ไว้ได้ และสิงคโปร์ดีขึ้น ๒ อันดับ มาอยู่ในอันดับที่ ๑ แม้ว่ามีผลคะแนนรวมลดลงเป็น ๗๗.๒๓๓ คะแนน จาก ๗๙.๔๕๐ คะแนน ในปี ๒๕๖๑ โดยที่ประเทศส่วนใหญ่มีคะแนนลดลง ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12883 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2562 | ทส | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๒ ซึ่งที่ประชุม คทช. ได้รับทราบและพิจารณาผลการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ (๑) รับทราบผลการดำเนินงานตามมติ คทช. ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ประกอบด้วยผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการ คทช. และผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๑ (๒) รับทราบความคืบหน้าการเสนอร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (๓) รับทราบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ เรื่อง รายงานผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) (๔) รับทราบการดำเนินงานในการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน คทช. (๕) เห็นชอบการดำเนินโครงการตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๔ โครงการ และ (๖) เห็นชอบให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่ ๒/๒๕๕๘ เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย และคำสั่งคณะอนุกรรมการฯ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย จำนวน ๔ คณะ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12884 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน พ.ศ. 2560 - 2564 ประจำปี พ.ศ. 2561 | กค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยกระทรวงการคลังสามารถดำเนินการตามแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชนให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน ๓๑ โครงการ จากทั้งหมด ๖๙ โครงการ และโครงการที่คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ แต่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จก่อนกำหนด จำนวน ๙ โครงการ โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. .... ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งแล้วเสร็จก่อนกำหนดถึง ๒ ปี รวมทั้งมีโครงการที่ดำเนินการได้เกินร้อยละ ๗๐ ของเป้าหมายถึง ๗ โครงการ อย่างไรก็ตาม ยังมีโครงการที่มีผลการดำเนินการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ โครงการในกลยุทธ์การลดภาระหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะต้องมีการปรับแนวทางการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และโครงการการอบรมโปรแกรมบัญชีสถาบันการเงินชุมชนที่อาจจะต้องปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยหลังจากนี้กระทรวงการคลังจะประเมินผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินการและใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำนโยบายในระยะต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12885 | รายงานผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560-2564) ประจำปี 2561 | กค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ ๓ (ปี ๒๕๖๐/๒๕๖๔) ประจำปี ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงกาคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รายงานผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทยฯ ณ สิ้นไตรมาสที่ ๔/๒๕๖๑ ประกอบด้วย (๑) แผนงานที่ดำเนินการแล้วเสร็จ เช่น การพัฒนาระบบ (platform) เพื่อรองรับการซื้อขายสำหรับนักลงทุนประเภทพิเศษ การพัฒนาระบบการชำระเงินสำหรับตลาดทุน เป็นต้น (๒) แผนงานที่ดำเนินการแล้วเสร็จตามตัวชี้วัดแต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากการดำเนินการส่วนใหญ่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย เช่น การจัดทำกลไกคะแนนบัตรเครดิต (credit scoring) ให้แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การแก้ไขหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการตั้ง Thailand Future Fund เป็นต้น (๓) แผนงานที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เช่น การส่งเสริมการแข่งขันและการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยเทคโนโลยี การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อใช้วิเคราะห์การลงทุนในตลาดทุน เป็นต้น (๔) แผนงานที่ล่าช้ากว่ากำหนด เช่น การสนับสนุนให้ Startup เข้าถึงแหล่งเงินทุน การปรับกติการองรับรูปแบบการทำธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีแทนคน เป็นต้น และ (๕) แผนงานที่ไม่เป็นไปตามแผน คือ การเปิดให้บุคคลที่ไม่ใช่ผู้ออกหลักทรัพย์สามารถนำหลักทรัพย์มายื่นขอจดทะเบียนเพื่อทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ๒. การประเมินผลสัมฤทธิ์ของแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฯ ในระยะครึ่งแผน ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทยฯ เตรียมเก็บข้อมูลเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฯ ผ่านตัวชี้วัดผลการดำเนินการทั้งในระดับวิสัยทัศน์และระดับเป้าหมายหลัก ๔ ด้าน ในระยะครึ่งแผน (สิ้นปี ๒๕๖๒) เปรียบเทียบกับเป้าหมายในปี ๒๕๖๔ ซึ่งจะได้เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12886 | การดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในการคมนาคมบนทางยกระดับอุตราภิมุข | คค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในการคมนาคมทางยกระดับอุตราภิมุข ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กรมทางหลวงและบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงการเข้าร่วมดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในการคมนาคมบนทางยกระดับอุตราภิมุขแล้ว เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๒. คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการทางหลวงสัมปทาน ในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑ ถนนวิภาวดีรังสิต ตอน ดินแดง-ดอนเมือง และทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือ ได้ประชุมเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ และ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๑ รับทราบการดำเนินการของกรมทางหลวง และให้กรมทางหลวงติดตามการดำเนินการในเรื่องการชำระเงิน รวมทั้งเมื่อได้รับอนุมัติงบประมาณและเบิกจ่ายเงินชดเชยแล้ว ให้รายงานกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ๓. กระทรวงคมนาคมได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในการคมนาคมบนทางยกระดับอุตราภิมุข เป็นเงินจำนวน ๑๔,๕๐๔,๐๐๐ บาท และกรมทางหลวงได้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยชำระให้กับบริษัท ทางยกระดับดอนเมืองฯ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น ๑๔,๕๐๓,๐๕๕ บาท เรียบร้อยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12887 | สรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 51 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2561 - 28 กุมภาพันธ์ 2562) และครั้งที่ 52 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2561 - 31 มีนาคม 2562) (ครั้งที่ 51) | นร04 | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๕๑ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) และครั้งที่ ๕๒ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๒) ประกอบด้วย (๑) การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เช่น การแก้ไขความเดือดร้อนในพื้นที่เรื่องที่ดินทำกิน สาธารณูปโภค สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม และการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ของศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ และ (๒) การบริหารราชการแผ่นดิน จำแนกสาระสำคัญเป็นด้านความมั่นคง ด้านสังคมจิตวิทยา ด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12888 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนมีนาคม - เมษายน 2562 (มีนาคม 2562) | นร | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนมีนาคม-เมษายน ๒๕๖๒ และมอบหมายให้โฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการประกันภัยข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต ๒๕๖๒ เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการประกันภัยข้าวนาปี และการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต ๒๕๖๒ และการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต ๒๕๖๑/๖๒ (เพิ่มเติม) ๒. ภัยแล้ง เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี ๒๕๖๒ ๓. โครงการระบบรถไฟชานเมือง เน้นการประชาสัมพันธ์ในการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดง (ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา) และสายสีแดงเข้ม (ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) และโครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดงอ่อน (ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ๔. ประเพณีสงกรานต์ เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นแนวทางการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๒ (สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย) ๕. การเลือกตั้ง เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ๖. ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12889 | ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ในปี 2561 และปี 2562 (ไตรมาส 1) | ศธ | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ในปี ๒๕๖๑ และปี ๒๕๖๒ (ไตรมาส ๑) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ คณะกรรมการฯ ได้ผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับกรอบคุณวุฒิการศึกษาและมาตรฐานอาชีพให้สอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติแล้ว ๒. การจัดทำต้นแบบการผลิตและพัฒนากำลังคนตามกรอบคุณวุฒิ คณะกรรมการฯ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำต้นแบบการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมอันจะนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานอาชีพ โดยคัดเลือกจากสาขาอาชีพที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงานในการรองรับการก้าวเข้าสู่ประเทศไทย ๔.๐ และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๓. การเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติกับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน คณะกรรมการฯ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นประเทศนำร่องในโครงการเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติกับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน ระยะที่ ๔ (Referencing National Qualifications Frameworks to the ASEAN Qualification Reference Framework-Phrase IV) และดำเนินการเทียบเคียงตามเกณฑ์ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนกำหนดขึ้น เพื่อใช้เป็นกรอบกลางในการเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12890 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน (กรณีการกำหนดเขตพื้นที่ในการทำกิน การอยู่อาศัย และการดำเนินวิถีชีวิต ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติ) | สม | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน (กรณีการกำหนดเขตพื้นที่ในการทำกิน การอยู่อาศัย และการดำเนินวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติ) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12891 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้เองทางชีวภาพ) | กค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนผู้ประกอบการหรือประชาชนสามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกที่จะกลายเป็นขยะตกค้างที่ย่อยสลายได้ยาก โดยกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละยี่สิบห้าของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้เองทางชีวภาพ และได้รับการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจของผู้เกี่ยวข้องกับร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวอย่างทั่วถึง เพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลต่อไป และควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจของผู้เกี่ยวข้องกับร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12892 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของ SMEs (มาตรการพี่ช่วยน้อง)] | กค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) (มาตรกาพี่ช่วยน้อง) ออกไปอีก ๒ ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs อย่างต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมถึงจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลัง และงบประมาณของประเทศ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ ๒๕๖๑ ต่อไป รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์ตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งบูรณาการการส่งเสริม SMEs ในด้านการประยุกต์ใช้เครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและการให้บริการ การพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการ การใช้ประโยชน์วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าและยกระดับห่วงโซ่คุณค่าของสินค้า และการส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลและการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจและยกระดับ SMEs ไทยไปสู่ SMEs 4.0 นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการติดตามผลการดำเนินงานอย่างเป็นระบบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12893 | ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีต่อถ้อยแถลงรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนว่าด้วยข้อริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอที่ประชุมใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยที่ 108 | รง | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบถ้อยแถลงรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนว่าด้วยข้อริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอที่ประชุมใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Conference : ILC) สมัยที่ ๑๐๘ ระหว่างวันที่ ๑๐-๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างถ้อยแถลงฯ โดยร่างถ้อยแถลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิกอาเซียนในการร่วมกันขับเคลื่อนแนวคิดงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะบูรณาการการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันและเน้นย้ำให้ภาคส่วนต่าง ๆ เห็นความสำคัญของงานที่มีคุณค่า ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งจะร่วมกันศึกษาวิจัยและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เพื่อให้เกิดการจ้างงานอย่างสร้างสรรค์ต่อไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12894 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ จังหวัดเชียงใหม่ (นายฮิโรชิ มัตสึโมโตะ) | กต | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฮิโรชิ มัตสึโมโตะ (Mr. Hiroshi Matsumoto) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ และอุตรดิตถ์ สืบแทน นายคาซูโนริ คาวาดะ (Mr. Kazunori Kawada) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12895 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) | คค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๕ (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) และอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้แทนสำหรับการลงนามร่างความตกลงฯ โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญ เช่น การกำหนดพื้นที่ตั้งของโครงการ สิทธิและกรรมสิทธิ์ในโครงการของแต่ละประเทศ การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง การรักษาความปลอดภัย และการจัดการจราจร เป็นต้น ทั้งนี้ ยังไม่มีกำหนดเวลาที่จะลงนามในร่างความตกลงฯ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นตามมาตรา ๑๗๘ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12896 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) | คค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๕ (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ในวงเงินรวมทั้งสิ้น ๒,๖๓๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ งบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการฯ ให้กรมทางหลวงจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ พร้อมทั้งเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติก่อนที่จะมีการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กรมทางหลวงรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการฯ ให้แล้วเสร็จทันภายในระยะเวลาบังคับใช้ของพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๔๔ สายทางเข้าสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่บึงกาฬ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ เพื่อให้สามารถส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างตามสัญญาและสามารถเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมระหว่างประเทศในอนุภูมิภาค ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12897 | ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง หน้าที่และอำนาจในการจัดการปัญหาสุนัขจรจัดของกรมปศุสัตว์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีเทศบาลตำบลเขาน้อย | นร09 | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) เรื่อง หน้าที่และอำนาจในการจัดการปัญหาสุนัขจรจัดของกรมปศุสัตว์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีเทศบาลตำบลเขาน้อย สรุปได้ว่า การที่ราชการส่วนภูมิภาคไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจตามที่กฎหมายกำหนด และปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยจนเป็นเหตุให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นตัวอย่างของปัญหาการจัดความสัมพันธ์ในการปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจระหว่างราชการส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งโดยหลักการแล้ว แม้ว่าจะมีการกระจายหน้าที่และอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้ว แต่หากกฎหมายเฉพาะยังกำหนดให้ราชการส่วนภูมิภาคมีหน้าที่และอำนาจใด ๆ ราชการส่วนภูมิภาคก็ยังคงต้องปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจตามที่กฎหมายเฉพาะกำหนดเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) ในเรื่องนี้ไปพิจารณาเพื่อกำหนดเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจระหว่างราชการส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12898 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... | มท | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ แปลงที่ ๑ “ที่จับสัตว์น้ำลาดขะโมยฯ” บางส่วน และแปลงที่ ๒ “ลาดชะโดสาธารณประโยชน์” ในท้องที่ตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อมอบหมายให้มหาวิทยาลัยสวนดุสิตใช้เป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้องค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่าและมหาวิทยาลัยสวนดุสิตซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะใช้ประโยชน์ปฏิบัติตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12899 | รายงานการเงินประจำปีพร้อมรายงานผลการตรวจสอบ (สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561) | อส | 28/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินประจำปีของสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า งบการเงินไม่ได้แสดงฐานะการเงินของสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ถูกต้องอย่างมีนัยสำคัญ งบการเงินไม่ได้แสดงฐานะการเงินของสำนักงานอัยการสูงสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงแก้ไขบัญชีดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะมีการติดตามการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จต่อไป ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12900 | รายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) และความก้าวหน้าผลการดำเนินการคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูล 4 คณะ (ประจำเดือนมกราคม - มีนาคม 2562) | ดศ | 28/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และความก้าวหน้าผลการดำเนินการคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูล ๔ คณะ (ประจำเดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๒) ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายเพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น สำรวจและวิเคราะห์ความต้องการใช้ศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ของหน่วยงานภาครัฐ ๑๕๙ หน่วยงาน กำหนดแนวทางแก้ปัญหา โดยใช้ร่างพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. .... เป็นกฎหมายกลางในการขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการ และจัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาบุคลากรเพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔) เป็นต้น ๒. ความก้าวหน้าผลการดำเนินการคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูล ๔ คณะ เช่น จัดตั้งศูนย์บูรณาการฐานข้อมูลด้านความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศฐม.จชต.) เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ได้เชื่อมโยงเว็บไซต์ของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปต.) ส่วนหน้า และเว็บไซต์สืบค้นข้อมูลประชากรของสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง และโครงการถ่ายภาพทางอากาศพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดำเนินการถ่ายซ่อมในพื้นที่ที่คลาดเคลื่อนและภาพไม่สมบูรณ์ มีพื้นที่ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์อยู่ที่ร้อยละ ๘๑.๒๒ เป็นต้น
|
.....