ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 643 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 12841 - 12860 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12841 | การปรับปรุงแก้ไขการจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน อำนาจหน้าที่ของส่วนงาน และอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร51 | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้าง การแบ่งส่วนงานของ กอ.รมน. ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ (เรื่อง การขอจัดตั้งหน่วยงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ) ซึ่งกำหนดให้ส่วนราชการต้องพิจารณาปรับปรุงบทบาท ภารกิจ โครงสร้างและวิธีทำงานที่มีอยู่เดิมเป็นลำดับแรกก่อน และปรับวิธีการทำงานให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมก่อนเสนอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ รวมทั้งต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอย่างแท้จริงเท่านั้น ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. โดยในส่วนของกรอบอัตรากำลังประจำ ให้บริหารจัดการภายใต้กรอบอัตรากำลังประจำที่มีอยู่เดิม สำหรับกรอบอัตรากำลังช่วยราชการ ให้พิจารณาตามเหตุผลความจำเป็นของภารกิจตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ๒. ให้ กอ.รมน. รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงานก่อนในโอกาสแรก สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดังกล่าว ต้องเป็นไปตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยคำนึงถึงหลักความคุ้มค่าและประหยัด ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12842 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศสำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยและดอกเบี้ยพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) | กค | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย สำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรที่ได้รับจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือดอกเบี้ยพันธบัตรที่ได้รับจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้รับ ตั้งแต่วันที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๖๑ เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรบางกรณี ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ถูกยกเลิกเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ควรกำหนดให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๖๑ เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรบางกรณี ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ ไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกานี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้ ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12843 | การรับรองแถลงการณ์รัฐมนตรีในการประชุมรัฐมนตรีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ค.ศ. 2019 | ดศ | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการส่งเสริมอนาคตด้านดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือ “Singapore Statement of the Asia-Pacific ICT Ministers on Co-creating a Connected Digital Future in the Asia-Pacific” ฉบับแก้ไขสุดท้าย มีสาระสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ๕ หัวข้อสำคัญ ได้แก่ (๑) การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) (๒) นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ทางดิจิทัล (Digital Innovation and Creativity) (๓) ชุมชนดิจิทัล (Digital Community) (๔) ความเชื่อมั่นด้านดิจิทัล (Digital Trust) และ (๕) ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและความร่วมมือในทุกภาคส่วน (Digital Skills and Partnerships) โดยจะมีการรับรองร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีฯ ในการประชุมรัฐมนตรีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ค.ศ. ๒๐๑๙ ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับแก้ไขข้อความในหน้าที่ ๔ บรรทัดที่ ๓ หัวข้อ B. Digital Innovation and Creativity เรื่อง 5G จาก “re-farming 2G/3G Spectrum” เป็น “unused and/or underutilized spectrum bands” เพื่อทำให้ความหมายถูกต้องตามข้อเท็จจริง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12844 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ [การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2561] | กค | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. รับทราบรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองได้ภายในกำหนดระยะเวลาตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งกระทรวงการคลังรายงานว่า เนื่องจากการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน การจะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขดังกล่าว จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา ต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง และต้องพิจารณาให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการประกอบธุรกิจไม่ให้เกิดผลเสียต่อรัฐ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายหนี้สูญของภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๘๖ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ดังนั้น จึงทำให้การดำเนินการไม่อาจแล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๙๐ วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๑ ใช้บังคับ ได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12845 | การประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 4 และร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 4 | กก | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๔ (Draft Joint Statement of the 4th ACMECS Tourism Ministerial Meeting) มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานภายใต้แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕ ในประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑) รับทราบสรุปผลการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๘ โดยผู้นำจาก ๕ ประเทศสมาชิก (ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) เกี่ยวกับการรับรองแผนแม่บท ACMECS (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖) (๒) รับทราบจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ACMECS ในปี ๒๕๖๑ จำนวน ๗๘.๘๓ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙.๓๖ จากปี ๒๕๖๐ และ (๓) การกำหนดทิศทางการดำเนินความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภายใต้แผนแม่บทการท่องเที่ยว ACMECS ปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ๑.๒ ให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายโชติ ตราชู) ซึ่งได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS ของไทย ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ โดยไม่มีการลงนาม ในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS ครั้งที่ ๔ ณ จังหวัดเชียงราย ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12846 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน | พน | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม G20 Ministerial Meeting on Energy Transitions and Global Environment for Sustainable Growth (การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ เมืองคารุอิซาว่า ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ (๑) แถลงการณ์ G20 Communique (Joint Part) (๒) แถลงการณ์ G20 Communique (Energy Part) (๓) แผนปฏิบัติการ G20 Innovation Action Plan และ (๔) แผนปฏิบัติการ G20 Energy Innovation Action Plan และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยให้การรับรองร่างเอกสารฯ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12847 | โครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) | วธ | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) ในนามรัฐบาล โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม มหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวิชรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่พระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย และประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และเพื่อเป็นการเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กรมการศาสนาพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณไปดำเนินการก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้กรมการศาสนาจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรี (๒๗ มกราคม ๒๕๕๘) เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12848 | ขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 | สกพอ | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอ และเห็นชอบการปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ ๓ ช่วงที่ ๑ โดย (๑) เปลี่ยนแปลงจำนวนเงินร่วมลงทุนของรัฐ หักค่าสิทธิการร่วมลงทุนจากเอกชนสุทธิ ๗๑๐ ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี และ (๒) เปลี่ยนแปลงผลตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจากการร่วมลงทุนกับเอกชน ช่วงที่ ๑ และช่วงที่ ๒ รวมเท่ากับมูลค่าปัจจุบันสุทธิประมาณ ๖,๗๒๑ ล้านบาท (อัตราคิดลดร้อยละ ๖.๔๘) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการติดตามผลประกอบการของโครงการฯ โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่ผันแปรกับปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านท่าเทียบเรือ เพื่อให้สามารถกำหนดแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินของกิจการได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12849 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (เรืออากาศโท อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร และคณะ) | กต | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เรืออากาศโท อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ๒. นายสุนทร ชัยยินดีภูมิ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ๔. นายชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12850 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธีรวุธ กลั่นเลี้ยง) | นร04 | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธีรวุธ กลั่นเกลี้ยง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12851 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมตรีกำหนด [การลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)] | อื่นๆ | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญเป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) โดยให้ บจธ. และคู่สัญญาได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของ บจธ. กรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ตามอัตราค่าเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในอัตราร้อยละ ๒ และร้อยละ ๑ ให้เหลือในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ ตามที่ บจธ. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12852 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (นายกัมพล ตติยกวี) | วธ | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายกัมพล ตติยกวี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร แทนผู้ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12853 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่งปี 2562 | นร11 | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่งปี ๒๕๖๒ โดยความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสหนึ่งปี ๒๕๖๒ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานลดลง รายได้และผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้น หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การเจ็บป่วยยังต้องเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่และโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้น คดีอาญารวมเพิ่มจากคดียาเสพติดที่เพิ่มขึ้น และการเกิดอุบัติเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงทั้งในช่วงปกติและช่วงเทศกาล สำหรับสถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ เช่น เยาวชนมีความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะซึมเศร้าและฆ่าตัวตายมากขึ้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือป้องกันแก้ไขอย่างจริงจัง เป็นต้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12854 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้ ตามที่ได้มีข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย สำรวจความต้องการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรของเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มเกษตรกรที่ทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ กลุ่มสหกรณ์การเกษตร และให้การสนับสนุนเครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวตามลำดับความพร้อมในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องมือเครื่องจักรกลดังกล่าว นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณเร่งรัดและขยายผลการดำเนินมาตรการหรือแผนการสนับสนุนเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่เกษตรกรอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรกลที่ผลิตภายในประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการและแรงงานไทย โดยอาจพิจารณากำหนดมาตรการทางการเงินการคลังเพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12855 | การปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ต่าง ๆ | นร04 | 11/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการปลูกไม้มีค่าเพิ่มเติม ดังนี้
๑. การปลูกไม้มีค่าในพื้นที่สาธารณะ เพื่อเป็นร่มเงาและเป็นทรัพย์สินร่วมกันของชุมชนและท้องถิ่น ๒. การปลูกไม้มีค่าในพื้นที่การเกษตรบริเวณหัวไร่ปลายนาและให้พิจารณาขยายผลไปสู่การทำเกษตรแปลงใหญ่ด้วย ๓. การขึ้นทะเบียนไม้มีค่าจากการปลูกในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายและ/หรือการบริหารจัดการในอนาคตต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12856 | สถานะและมาตรการรองรับการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2562 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ ลงวันที่ 28 มกราคม 2562 | พณ | 04/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสถานะและมาตรการรองรับการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑/๒๕๖๒ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ ลงวันที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. มาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษที่กำหนดให้การประดิษฐ์ที่มีสารสกัดจากกัญชาธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ เป็นการประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตรที่ประกาศโฆษณาแล้ว แต่ผู้ขอรับสิทธิบัตรยังไม่ได้ยื่นคำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ มาตรการดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว เมื่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับ โดยเปิดโอกาสให้สามารถนำกัญชาไปทำการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าวต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรเกี่ยวกับกัญชาที่ได้ยื่นก่อนวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ จึงไม่จำเป็นต้องเสนอมาตรการระยะยาวเพื่อรองรับมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษอีก ๒. กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ตามข้อ ๕ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑/๒๕๖๒ โดยเสนอร่างพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเลิกมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒) และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒ อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. กรณีอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑/๒๕๖๒ ไม่ได้มีสภาพบังคับเป็นมาตรการพิเศษ และไม่ได้มีผลเป็นการแก้ไขกฎหมาย จึงไม่ต้องกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรองรับกรณีดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12857 | การขอต่ออายุการกู้เงินภายใต้ Euro Commercial Paper (ECP) Programme ครั้งที่ 3 | กค | 04/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่ออายุการกู้เงินภายใต้ Euro Commercial Paper (ECP) Programme ครั้งที่ ๓ วงเงิน ๒,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ ต่อไปอีก ๑๐ ปี (การต่ออายุการกู้เงินภายใต้ ECP Programme ครั้งที่ ๒ จะครบกำหนดสิ้นสุดในวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๒) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกู้เงินและการบริหารหนี้สาธารณะต้องกระทำด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงความคุ้มค่า ความสามารถในการชำระหนี้ เสถียรภาพและความยั่งยืนทางการเงินการคลังตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12858 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : เงินกู้ DPL) ของโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House: CCH) | กค | 04/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : เงินกู้ DPL) สำหรับโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร โดยให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ภายใน ๑ เดือน หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรมีการติดตามเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานให้เร่งดำเนินโครงการและเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ โดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12859 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ FIDF 1 และ FIDF 3 | กค | 04/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน ๓,๑๒๑ ล้านบาท เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12860 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 04/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๑๑,๓๑๙.๕๘๐ ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและ ขสมก. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรให้ ขสมก. ดำเนินการขอบรรจุแผนการกู้เงินจำนวนดังกล่าวไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ และให้ ขสมก. ดำเนินการกู้เงินได้เมื่อแผนการบริหารหนี้สาธารณะฯ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และได้บรรจุวงเงินกู้ของ ขสมก. ที่เสนอในครั้งนี้ไว้ด้วยแล้ว โดยให้การกู้เงินดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ความสามารถในการชำระหนี้ การกระจายภาระการชำระหนี้ที่เหมาะสม ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
.....