ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 6220 หน้า แสดงรายการที่ 41 - 60 จากข้อมูลทั้งหมด 124394 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 41 | มาตรการเพื่อป้องกันมิให้ภาษีที่ควรจะได้รับรั่วไหลจากการประกอบกิจการในเขตปลอดอากร | ปช. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมาตรการเพื่อป้องกันมิให้ภาษีที่ควรจะได้รับรั่วไหลจากการประกอบกิจการในเขตปลอดอากร
เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเกี่ยวกับภาษีศุลกากร
กรณีภาษีที่ควรจะได้รับรั่วไหลจากการประกอบกิจการในเขตปลอดอากร
มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในภาพรวมของประเทศ
ป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงคมนาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ได้ข้อยุติ
โดยให้กระทรวงการคลังสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 42 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2568 | ปสส. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๘ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๓๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ
วันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๓๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่
๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๘ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 43 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ | กค. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศและสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยว
รวมทั้งสนับสนุนการบริโภคและส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรแก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับการจัดอบรมสัมมนาให้แก่ลูกจ้างภายในประเทศในจังหวัดท่องเที่ยวรองและในจังหวัดท่องเที่ยวอื่นภายในประเทศ
โดยให้หักเป็นค่าใช้จ่ายได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ทุกภาคส่วนทราบ
ตลอดจนควรมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
เพื่อให้เป็นไปตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงประมาณการการสูญเสียรายได้อย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อให้การดำเนินการมาตรการภาษีดังกล่าวมีความคุ้มค่า
และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐ
รวมทั้งตรวจสอบการดำเนินการในทุกขั้นตอนให้สอดคล้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 44 | ร่างแถลงการณ์ของผู้นำอาเซียน+3 ว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาค | กค. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 45 | การขอรับความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กต. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 46 | รัฐบาลฮังการีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งฮังการีประจำประเทศไทย | กต. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 47 | การลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ | ดศ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 48 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งปรเภทบริหารระดับสูง (นายฉันทานนท์ วรรณเขจร) | กษ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายฉันทานนท์ วรรณเขจร ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบการต่อเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) เมื่อวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๘ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๙ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 49 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | พณ. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 50 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) | อว. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 51 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร) | นร.52 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 52 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4/2568 | นร.08 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง
อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน
อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๘
ถึงวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๙ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑
เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง
อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน
อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒
รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 53 | ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ฉบับที่ 6 | พน. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 54 | แนวทางการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันอังคารที่ 14 - วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 และแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 | ปสส. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. แนวทางการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันอังคารที่ ๑๔
ตุลาคม ๒๕๖๘ และวันพุธที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๘ ๒. แนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๓๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 55 | ขอความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (World Capital Marathon Series) รายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok ประจำปี 2568-2570 (3 ปี) | กก. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการกรอบวงเงินงบประมาณค่าลิขสิทธิ์และค่าภาษีที่เกี่ยวข้อง
ในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (World Capital Marathon Series) รายการ Amazing
Thailand Marathon Bangkok ประจำปี ๒๕๖๘ - ๒๕๗๐ (๓ ปี) วงเงิน ๒๖๐,๕๗๖,๔๐๐ บาท ประกอบด้วย ค่าลิขสิทธิ์ จำนวน ๖,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือปีละ ๒,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และค่าภาษีที่เกี่ยวข้อง
โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทยนำเงินรายได้จากผู้สนับสนุน รายได้จากค่าสมัคร
รายได้จากการขายของที่ระลึก และรายได้จากบูธแสดงสินค้า เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
และเงินสะสมการกีฬาแห่งประเทศไทย
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาสมทบค่าลิขสิทธิ์และค่าภาษีในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ตามความเหมาะสมและเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการกีฬาแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินงบประมาณจากทุกแหล่งเงินให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งควรมีมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการแข่งขันที่มีต่อชุมชนตามเส้นทางการแข่งขัน
และประเมินผลการจัดการแข่งขันดังกล่าวให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมกรีฑาโลก
(World Athletics) โดยยึดหลักการใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม
คุ้มค่า โปร่งใส และตรวจสอบได้
ตลอดจนบูรณาการกิจกรรมท่องเที่ยวควบคู่กับการจัดการแข่งขัน
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม และวางแผนการสื่อสารสาธารณะเชิงรุกอย่างเป็นระบบและใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายเพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดการแข่งขันฯ
รวมทั้งสามารถใช้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการขยายผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้ในระดับสากล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 56 | ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ครั้งที่ 19 | กต. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 57 | การประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคด้านการปฏิรูปโครงสร้าง ครั้งที่ 4 | นร.11 สศช | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 58 | ร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มพันธมิตรเอเชียเพื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (เอเซค) ครั้งที่ 3 | พน. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 59 | แนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 | นร.07 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๗๐ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้เป็นแนวทางประกอบการวางแผนการดำเนินงานและกำหนดแผนการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาล
ตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๘
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.
๒๕๖๒ ตลอดจนมติคณะรัฐมนตรีและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาปรับปรุงกรอบระยะเวลาในการดำเนินการตามขั้นตอนและกิจกรรมต่าง
ๆ ตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ ดังกล่าว ให้เหมาะสมและมีความกระชับมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้สามารถนำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ ประกาศใช้ได้ทันในวันเริ่มปีงบประมาณฯ
(๑ ตุลาคม ๒๕๖๙) ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 60 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร.07 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ จำนวน ๑,๙๑๗ รายการ เป็นวงเงินภาระผูกพัน รวมทั้งสิ้น ๓๔๙,๖๕๖.๔๐
ล้านบาท สำหรับรายการที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๔๔ รายการ วงเงิน ๑๑๗,๗๐๐.๒๐ ล้านบาท เมื่อทราบผลประกวดราคาแล้ว
ให้หน่วยรับงบประมาณนำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป ๒.
อนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘ (เรื่อง ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามที่เสนอได้ ๓.
รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น
รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน ค่าเช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ
และค่าครุภัณฑ์ ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้รับอนุมัติเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยน
ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณสามารถปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนมีความเหมาะสม หน่วยรับงบประมาณที่มีรายการที่ต้องชำระเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ
ควรพิจารณาเร่งรัดดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อราชการ ๔. เพื่อเป็นการเร่งรัดให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน
สำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่เป็นรายจ่ายลงทุนลักษณะค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างรายการใหม่
ให้หน่วยรับงบประมาณจัดส่งราคากลาง คุณลักษณะเฉพาะ แบบรูปรายการสิ่งก่อสร้าง และรายละเอียดประกอบที่เกี่ยวข้อง
ให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของราคาควบคู่ไปกับการดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
และเมื่อได้ผลจัดซื้อจัดจ้างแล้ว หากไม่เกินวงเงินที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบ
ให้แจ้งสำนักงบประมาณทราบและดำเนินการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันต่อไปได้ ทั้งนี้
ขอให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลและเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ และติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรเร่งรัดให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันสำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่เป็นรายจ่ายลงทุนลักษณะค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างรายการใหม่
โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด
กำกับดูแลและเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ และติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ที่เห็นว่าในการอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันใหม่ในแต่ละปีงบประมาณ
เมื่อรวมกับภาระผูกพันเดิมที่กำหนดไว้ก่อนแล้วทุกกรณี
จะต้องพิจารณายอดภาระงบประมาณที่จะผูกพันให้สอดคล้องกับฐานะทางการคลังของประเทศในแต่ละช่วงเวลา
เพื่อลดภาระงบประมาณในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป และเตรียมงบประมาณไว้สำหรับรองรับรายจ่ายลงทุนรายการใหม่
ๆ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในระยะถัดไป
โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนเพื่ออนาคต การรักษาเสถียรภาพและความยืดหยุ่นทางการคลัง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
