ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 256 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 5101 - 5120 จากข้อมูลทั้งหมด 124436 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 5101 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน 12 เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน
๑๒ เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ สรุปได้ ดังนี้ (๑)
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้กู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ วงเงินรวม ๑,๒๐๔,๐๓๐.๕๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๗ ของวงเงินตามแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ครั้งที่ ๓
ซึ่งเป็นการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน ๑๒ เดือน
รวม ๖๔๓,๓๐๔.๒๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๓
ของวงเงินที่ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และ (๒)
การปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาลซึ่งช่วยลดการกระจุกตัวของหนี้ระยะสั้น
โดย ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ หนี้เงินกู้คงค้างของรัฐบาลมีจำนวนรวม ๙.๑๖
ล้านล้านบาท อายุเฉลี่ยของหนี้อยู่ที่ ๙ ปี ๑ เดือน ซึ่งยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามตัวชี้วัดความเสี่ยงด้านการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะระยะปานกลางในระยะ
๕ ปี ได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5102 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของสำนักงานอัยการสูงสุด | อส. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของสำนักงานอัยการสูงสุด
และอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินทั้งสิ้น ๒๓๑,๐๖๕,๘๗๐
บาท ตามนัยข้อ ๘ และข้อ ๙ (๓) ของระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน วงเงิน ๒๑๙,๙๖๓,๑๗๐ บาท และค่าครุภัณฑ์
เพื่อจัดหาครุภัณฑ์สำหรับศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๑,๑๐๒,๗๐๐
บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5103 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (ครั้งที่ 1) (นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท) | พน. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน
ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี ในวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๖ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑)
ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๗
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5104 | การยกเว้นอัตราภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ (Drone) | นร.04 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
ในฐานะประธานกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ รายงานว่า
คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ และครั้งที่
๑/๒๕๖๕ ได้มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
โดยเห็นควรให้ชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าหรือเรือแบบพลังานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่มีการนำเข้ามาเพื่อผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศได้รับยกเว้นอากรศุลกากรขาเข้า
ซึ่งกระทรวงการคลังได้เสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า
หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว
และในระยะต่อไปจะได้มีการพิจารณาอัตราภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ
(Drone) เช่น แบตเตอรี่
เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศไทยในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยจะได้มีการหารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
ในฐานะประธานกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ รายงาน
และให้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยพิจารณาอัตราภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ
(Drone) ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5105 | โครงการสลากการกุศลเพิ่มเติม | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑
เห็นชอบให้มีการออกสลากการกุศลเพื่อสนับสนุนโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล
จำนวน ๓ โครงการ วงเงินรวม ๙๒๑.๔๕ ล้านบาท
เพื่อสนับสนุนโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อประโยชน์แก่ประชาชนและสังคมอย่างทั่วถึงในวงกว้าง ๑.๒
มอบหมายให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย
และจ่ายเงินรางวัลสลากการกุศล
รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับการสนับสนุนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนเกี่ยวกับการออกสลากการกุศล
การขออนุญาตการออกสลากการกุศล การนำส่งเงินให้หน่วยงานเจ้าของโครงการสลากการกุศล
และการจัดทำแผนการออกสลากการกุศลและแผนการใช้เงินของแต่ละโครงการ
และรายงานต่อคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล เพื่อประโยชน์ในการกำกับ
ติดตามการดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ ๑.๓
มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล
กำหนดระยะเวลาในการผูกพันวงเงินของโครงการที่ได้รับการสนับสนุน
กำกับติดตามเร่งรัดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามแผนการออกสลากการกุศลและแผนการใช้เงินตามที่เสนอมา
และหากเกิดกรณีที่หน่วยงานเจ้าของโครงการไม่สามารถผูกพันวงเงินได้ตามกำหนด
ให้ยกเลิกวงเงินดังกล่าว
หรือให้หน่วยงานเจ้าของโครงการชี้แจงเหตุผลความจำเป็นเพื่อขออนุมัติจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล
จะขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการใช้เงินภายในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจะต้องไม่เปลี่ยนแปลงเป็นกิจกรรมที่แตกต่างจากโครงการที่ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ๒.
ให้กระทรวงการคลัง คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจำแนกกิจกรรมภายใต้โครงการ
เพื่อให้การจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินมีความชัดเจน
และควรมีการกำกับ ติดตามการดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5106 | มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้น | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้จ่ายในวงเงิน ๓,๑๙๑,๗๔๐,๐๐๐
บาท โดยใช้แหล่งเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคมถึงเมษายน ๒๕๖๖ เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน
๓๐๐ หน่วยต่อเดือน โดยเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน ๕๑๗,๙๕๐,๐๐๐ บาท
และเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน ๒,๖๗๓,๗๙๐,๐๐๐ บาท
โดยให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเบิกจ่ายเงินจากสำนักงบประมาณต่อไป
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5107 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... [การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token)] | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังจัดทำข้อมูลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผ่านมาจากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต่อประชาชน
แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างผระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ ๓. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต่อประชาชนตามร่างพระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงการคลังเสนอขายในครั้งนี้
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ซึ่งเดิมที่เคยมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวตามประมวลรัษฎากรและได้จัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้วนั้น
อาจมีผลกระทบต่อการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จึงควรพิจารณาประเด็นดังกล่าวโดยคำนึงถึงการจัดสรรรายได้ที่รัฐจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านมาด้วย
ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และพิจารณาดำเนินการตามนัยมาตราของมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5108 | ขออนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ เพื่อจัดตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก (ที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร) จังหวัดเลย | พศ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๔-๓-๔๖ ไร่ เพื่อจัดตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก
(ที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร) ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการจำกัดมิให้มีการขยายขอบเขตของการใช้ประโยชน์ป่าไม้เพิ่มขึ้น
การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
การป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมถึงการควบคุมมิให้มีการใช้พื้นที่เพื่อแสวงหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่ไม่บังเกิดผลดีต่อส่วนรวม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5109 | ร่างพระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2563 พ.ศ. .... | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์
พ.ศ. ๒๕๖๓ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์
พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5110 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ บางส่วน ในท้องที่ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย พ.ศ. .... | ทส. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าภูเปือย
ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ บางส่วน ในท้องที่ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า
และป่าภูเรือ บางส่วน ในท้องที่จังหวัดเลย เพื่อเป็นที่ตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก
(สำนักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร)
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5111 | การปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และสิทธิประโยชน์สำหรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (Long-Term Resident Visa : LTR Visa) | นร.13 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
(Highly Skilled Professionals) ภายใต้การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ
ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย
[Long-Term Resident Visa (LTR Visa)] เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการรองรับคุณสมบัติแก่ชาวต่างชาติที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษในสาขาวิชาที่ประเทศไทยยังขาดแคลน
และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนออกประกาศในเรื่องดังกล่าวต่อไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ ทั้งนี้ การประกาศกำหนด เพิ่ม ลด
หรือปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายในครั้งต่อ ๆ ไป ให้คณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทยพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจ
แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5112 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อก่อสร้าง/ปรับปรุง ซ่อมแซมถนน แหล่งกักเก็บน้ำหรือสิ่งสาธารณประโยชน์อื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้รับความเสียหายจากสาธารณภัย | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อก่อสร้าง/ปรับปรุง ซ่อมแซมถนน แหล่งกักเก็บน้ำ
หรือสิ่งสาธารณประโยชน์อื่น ๆ
ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งได้รับความเสียหายจากสาธารณภัย จำนวน ๗๖ จังหวัด ๒,๗๖๕ โครงการ งบประมาณ ๘,๑๗๑,๕๙๘,๘๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
และให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาถนน แหล่งกักเก็บน้ำ และสิ่งสาธารณประโยชน์ดังกล่าวให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5113 | ขอความเห็นชอบการเสียภาษีสลากบำรุงสภากาชาดไทย | กช. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สภากาชาดไทย
หรือเหล่ากาชาดจังหวัด หรือกิ่งกาชาดอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนของสภากาชาดไทย ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินแบ่งหรือสลากบำรุงสภากาชาดไทย
ประจำปี ๒๕๖๖ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้มอบให้สภากาชาดไทย
เสียภาษีในอัตราร้อยละ ๐.๕ แห่งยอดราคาสลาก ซึ่งมีผู้รับซื้อก่อนหักรายจ่ายตามข้อ
๑๒ (๔) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน
พุทธศักราช ๒๔๗๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ ตามที่สภากาชาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5114 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสำนักท้อน และตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง พ.ศ. .... | คค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลสำนักท้อน และตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลสำนักท้อน และตำบลพลา
อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษ หมายเลข ๗
กรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔ (บางวัว)
ทางแยกเข้าชลบุรีทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง
ทางแยกเข้าพัทยาและทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓ (บ้านอำเภอ)
และทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค
และเพื่อนำที่ดินไปชดเชยเกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าก่อนการก่อสร้างทางหลวงพิเศษทุกเส้นทางขอให้กระทรวงคมนาคม
(กรมทางหลวง)
ให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างทางพิเศษกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการระบายน้ำไม่ทันและอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหรือเกิดอุทกภัยต่อไปในอนาคต
ควรตระหนักและให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาในครั้งต่อไปด้วย
เร่งพิจารณาหารือรูปแบบการก่อสร้างที่เหมาะสมให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว
เพื่อให้โครงการฯ สามารถก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนการดำเนินงาน
และสอดคล้องกับการเปิดให้บริการของสนามบินอู่ตะเภา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5115 | ขออนุมัติจ่ายเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพเป็นกรณีพิเศษให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายราษีไศลในเขตท้องที่จังหวัดสุรินทร์ | กษ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การเยียวยาความเดือดร้อนหรือความเสียหายให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการอย่างเป็นธรรมตามประเภทที่ดินในการถือครอง
โดยไม่เลือกปฏิบัติเป็นการเฉพาะกลุ่มสำหรับราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
เพื่อมิให้มีค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าที่รัฐได้เคยจ่ายชดเชย อันจะนำไปสู่กรณีที่ราษฎรที่ได้รับค่าชดเชยจากโครงการอื่น
ๆ ไปแล้ว
มาเรียกร้องให้มีการจ่ายชดเชยเพิ่มในลักษณะเดียวกันตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๑ เมษายน ๒๕๔๑
ที่เห็นชอบหลักการการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนแล้ว
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาอัตราเงินชดเชยให้เท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสมและให้ครอบคลุมในทุกมิติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น ควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐในกรณีต่าง
ๆ เช่น กรณีที่ดินมีเอกสารสิทธิ กรณีที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ
รวมทั้งกำหนดประเภทและวิธีการคำนวณอัตราค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้อง เช่น
ค่าเยียวยา ค่าขนย้าย ให้ชัดเจน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานต่าง
ๆ ของรัฐมีบรรทัดฐานเดียวกัน และเกิดความเหมาะสมเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ควรพิจารณาจัดหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ
รวมทั้งพัฒนาอาชีพและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้สามารถดำรงชีพได้อย่างปกติสุข หรือพิจารณาการจัดที่ดินทำกินตามโครงการจัดที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาลภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
คณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ควรประสานคณะกรรมการเพื่อการขับเคลื่อนตามแนวทางในการป้องกัน
แก้ไขและฟื้นฟูผลกระทบโครงการฝายราศีไศลในเขตท้องที่จังหวัดสุรินทร์ ร้อยเอ็ด
และศรีสะเกษ เช่นเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5116 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. .... (เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์) | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. .... (เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์)
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ธุรกิจให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ และมีธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจดังกล่าว
เพื่อให้การประกอบธุรกิจดังกล่าวมีการกำกับดูแลเป็นการเฉพาะและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการมากยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกันกำหนดแนวทางกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจภายใต้ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ
และผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตการกำกับดูแลต่อไป ๔.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งให้ครอบคลุมสินทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5117 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม
(ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ
โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยแก้ไขเพิ่มเติมสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
โดยกำหนดให้สถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกิน
๘ ห้อง และมีจำนวนผู้พักรวมกันทั้งหมดไม่เกิน ๓๐ คน
ซึ่งให้บริการเพื่อหารายได้เสริม
เมื่อได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบให้นายทะเบียนออกหนังสือรับแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม
พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยกำหนดให้หนังสือรับแจ้งมีอายุ ๕ ปีนับแต่วันแจ้ง เพื่ออนุรักษ์อาคารที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ทรงคุณค่าเฉพาะในแต่ละท้องถิ่น
และเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่น นอกจากนี้
ได้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับโรงแรม โดยเพิ่มเติมให้สามารถนำอาคารที่มีลักษณะเป็นแพ
และอาคารที่มีลักษณะพิเศษ เช่น เต็นท์ กระโจม มาประกอบธุรกิจโรงแรมได้ รวมทั้งกำหนดเพิ่มเติมเงื่อนไขต่าง
ๆ เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้พัก ทั้งนี้
เพื่อให้ผู้ประกอบการดังกล่าวสามารถดำเนินการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมได้
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข เช่น
ผู้ประกอบการและผู้ให้บริการสถานที่พักดังกล่าว จำเป็นต้องคำนึงถึงสุขลักษณะ
ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวพร้อมการบริหารจัดการ
รวมถึงการลดผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว ควรพิจารณาเพิ่มเติมเรื่องสุขลักษณะการจัดการส้วมและสิ่งปฏิกูล
สำหรับโรงแรมที่มีลักษณะเป็นแพ เพื่อให้เป็นไปตามข้อ ๗ และ ๘
ของกฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๑
และการจัดการน้ำเสียที่มีไขมันจากการประกอบอาหารและให้บริการอาหารบนแพ
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม
กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลเป็นไปเพื่อประโยชน์ของรัฐและประชาชนเป็นสำคัญ
อาคารที่ใช้เป็นโรงแรม ไม่อยู่ในพื้นที่ที่กฎหมายควบคุมอาคารใช้บังคับอาจเพิ่มเติมเรื่อง
การจัดสิ่งปฏิกูลให้เป็นไปตามกฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการสิ่งปฏิกูล พ.ศ. ๒๕๖๑ ควรพิจารณาจัดทำประเภทและหลักเกณฑ์เงื่อนไขของที่พักแรมให้มีความหลากหลายตามประเภทของที่พักแรมและศักยภาพเบื้องต้นของผู้ประกอบการ
เช่น หลักเกณฑ์เงื่อนไขสำหรับที่พักแรมท้องถิ่น ที่พักแรมอาคารอนุรักษ์
ที่พักแรมวิสาหกิจชุมชน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5118 | การกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 300,000,000.00 บาท (สามร้อยล้านบาทถ้วน) | พม. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จำนวน ๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (สำนักงานธนานุเคราะห์)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันตามนัยมาตรา
๙ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยกู้เงินตามความจำเป็นและพิจารณาเงื่อนไขการกู้เงินให้สอดคล้องกับภาวะตลาด
รวมทั้งการกู้เงินดังกล่าวต้องกระทำด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความสามารถในการชำระหนี้ รวมทั้งการกระจายภาระการชำระหนี้
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.
๒๕๖๑ และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ
ตลอดจนความสามรถในการชำระหนี้ รวมถึงการกระจายภาระชำระหนี้ที่เหมาะสม ตามนัยมาตรา
๔๙ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5119 | การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2564/2565 | อก. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๔/๒๕๖๕ เป็นรายเขต ๙ เขต โดยมีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี
๒๕๖๔/๒๕๖๕ เฉลี่ยทั่วประเทศในอัตราตันอ้อยละ ๑,๑๐๖.๔๐ บาท ณ ระดับความหวานที่ ๑๐ ซี.ซี.เอส.
อัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย เฉลี่ยทั่วประเทศ เท่ากับ ๖๖.๓๘ บาท ต่อ ๑ หน่วย
ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี
๒๕๖๔/๒๕๖๕ เฉลี่ยทั่วประเทศ เท่ากับ ๔๗๔.๑๗ บาทต่อตันอ้อย
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น ให้กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
ดำเนินการให้โรงงานน้ำตาลนำส่งเงินเข้ากองทุนตามส่วนต่างระหว่างรายได้สุทธิและราคาอ้อยขั้นสุดท้าย
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๔/๒๕๖๕ ให้กับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
เพื่อรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในภาพรวม
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5120 | โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ 3 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) | คค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น
การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ ๓
ตามหลักการของโครงการที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อให้การดำเนินงานโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น
การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบการรายที่ ๓
เป็นไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒
มาตรา ๒๙ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
พ.ศ. ๒๕๖๒ รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๐๖/๑๓๗๐
ลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖) และคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
(หนังสือสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ด่วนที่สุด ที่
กค. ๐๘๒๐.๑/๓๑๕ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖
และหนังสือคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ด่วนที่สุด ที่ กค.
๐๘๒๐.๑/๖๑๒ ลงวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) เช่น
ควรพิจารณากำหนดกรอบเพดานบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นฯ ที่เหมาะสม
โดยคำนึงถึงต้นทุนผู้รับบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
และขีดความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยในระยะยาว
พิจารณากำหนดอัตราค่าบริการและระดับคุณภาพการให้บริการที่เป็นไปตามหลักสากล
เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งพิจารณาความเหมาะสมในการพัฒนา/ปรับปรุงระดับการให้บริการของท่าอากาศยานให้สามารถรองรับความต้องการเดินทางและขนส่งสินค้าของท่าอากาศยานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เร่งลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เป็นไปตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฉบับปี
๒๕๔๖ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
