ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 251 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 5001 - 5020 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
5001 | ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ. .... | กค. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ
ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะเพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของนางมี
รักเสมอวงศ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดป่าเป้า จังหวัดอุดรธานี
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5002 | ร่างกฎหมายการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข [ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | กค. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการยกเลิกหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคด้านสาธารณสุขตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ และวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
โดยให้หักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation)
ของกรมสรรพากร สำหรับการบริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาค ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5003 | การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) | อก. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยชี้แจงว่า
เนื่องจากไม่มีที่ราชพัสดุในบริเวณใกล้เคียงที่มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับดำเนินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) ประกอบกับผลการสำรวจความต้องการของนักลงทุนพบว่านักลงทุนมีความสนใจที่จะลงทุนในโครงการนี้มากยิ่งขึ้นหากสามารถได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินของโครงการฯ
ด้วย ดังนั้น
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงมีความจำเป็นต้องซื้อที่ดินจากเอกชนเพื่อดำเนินโครงการนี้ ๒. เห็นชอบการลงทุนจัดซื้อที่ดินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลสำนักทอง
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ ๑,๔๘๒ ไร่ วงเงิน ๒,๖๖๘ ล้านบาท
และการลงทุนจัดซื้อที่ดินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำพูน
พื้นที่ตำบลมะเขือแจ้ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เนื้อที่ประมาณ
๖๕๓ ไร่ และที่ดินถนนทางเข้าประมาณ ๒๕ ไร่ วงเงิน ๘๔๒ ล้านบาท ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้กระทรวงอุตสาหกรรม (การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควร (๑)
จัดทำแผนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในภาพรวม
และจัดทำแผนการตลาดของโครงการการศึกษาความต้องการของนักลงทุนในพื้นที่ (๒)
พัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้มีลักษณะเป็นนิคมอุตสาหกรรม Smart Park (๓) ในกระบวนการจัดทำ EIA/EHIA ควรให้ความสำคัญกับความพอเพียงของการจัดการน้ำผิวดิน
น้ำบาดาล และการทำให้เกิด Circular Economy รวมถึงกำหนดให้แบบก่อสร้างมีทางไหลของน้ำเพื่อเลี่ยงกรณีน้ำท่วมใหญ่และไม่ขวางเส้นทางน้ำธรรมชาติ
(๔) ทบทวนรูปแบบการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมในระยะที่ผ่านมา
รวมทั้งทบทวนวิธีการการคำนวณผลตอบแทนทางการเงิน (๕)
ประชาสัมพันธ์และจัดทำแผนการตลาดเพื่อเชิญชวนและจูงใจกลุ่มนักลงทุนเป้าหมาย และ
(๖) สร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิตกำลังคนให้มีความพร้อม และจัดทำมาตรการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผู้ประกอบการหรือบริษัทข้ามชาติในนิคมอุตสาหกรรม
สู่ผู้ประกอบการรายย่อย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5004 | แผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | กสศ. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ภายในกรอบวงเงิน ๗,๙๘๕,๗๘๖,๑๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๖
(๓) ของพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายและค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน ตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม
และควรจัดทำรายละเอียดและฐานการคำนวณค่าใช้จ่ายต่อหัวในการขอปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนแก่นักเรียนทุนเสมอภาคเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จำนำมาใช้ปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนแก่นักเรียนทุนเสมอภาคในปีการศึกษา
๒๕๖๗ โดยคำนึงถึงความเสมอภาคในแต่ละช่วงระดับชั้นและไม่ซ้ำซ้อนในการสนับสนุนเงินและค่าใช้จ่ายให้แก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส
เพื่อมิให้เกิดภาระงบประมาณในระยะยาว รวมทั้งควรพิจารณาให้ความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์
แนวทาง รูปแบบ ในการพิจารณาปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน
และการรับอัตราค่าอาหารกลางวัน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ในการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
(กสศ.) ให้ กสศ. บูรณาการการใช้ประโยชน์ข้อมูลของเด็กนักเรียนยากจนร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตามระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบพุ่งเป้า (TPMAP) เพื่อแก้ไขการขาดโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่มีโอกาสหลุดออกจากระบบการศึกษาได้อย่างครอบคลุม
ทั่วถึง และไม่เกิดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ ให้ กสศ.
รับข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าการให้เงินอุดหนุนเพื่อสร้างหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่กลุ่มเด็กนักเรียนยากจน
ควรคำนึงถึงมาตรการในการป้องกันการตกหล่นจากการได้รับสิทธิประโยชน์ของภาครัฐ
โดยอาจพิจารณาแนวทางการเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลร่วมกับฐานข้อมูลอื่น ๆ ของภาครัฐ
ที่มุ่งให้ความช่วยเหลือครัวเรือนกลุ่มยากจน ด้อยโอกาส และเปราะบาง
ควรยกระดับประสิทธิภาพและแนวทางการดำเนินงานเพื่อส่งต่อโอกาสในการเรียนระดับสูงกว่าการศึกษาภาคบังคับของเด็กนักเรียนยากจน
ผ่านการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการเชื่อมโยงและส่งต่อข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน
และควรมีการติดตามประเมินผลความสำเร็จในการดำเนินงานของกลไกภาคีเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคในเชิงกระบวนการหรือกลไกการดำเนินงาน
เพื่อนำไปสู่การพัฒนากลไกการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานให้สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ในระยะต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5005 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566) | ปสส. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม
๒๕๖๖ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการศึกษาอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันอังคารที่ ๒๔ มกราคม
๒๕๖๖ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๒๕ มกราคม
๒๕๖๖ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๔
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๖
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5006 | ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 4 ฉบับ [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566)] | ปสส. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๖ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... รวม ๔ ฉบับ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5007 | มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ | กค. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบมาตรการทางภาษีและค่าธรรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
และจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่อไปได้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
โดยการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
สำหรับเงินได้ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นใบทรัสต์
และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
สำหรับมูลค่าของฐานภาษีรายรับ หรือการกระทำตราสารที่เกิดขึ้นหรือเนื่องมาจากการโอนหรือก่อทรัพย์สิทธิหรือสิทธิใด
ๆ ในทรัพย์สิน อันเนื่องมาจากการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
โดยมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓.
ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) ดำเนินการตามร่างกฎหมายกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์สำหรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
พ.ศ. ....
และร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารชุดสำหรับการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไปเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ๔.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ
ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5008 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม | ศย. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม
จำนวน ๓๕,๒๔๙,๓๓๕,๒๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5009 | รัฐบาลราชอาณาจักรเอสวาตินีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเอสวาตินีประจำประเทศไทย (นายเมนซี ซีโพ ซามีนี) | กต. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเมนซี ซีโพ ซามีนี (Mr. Menzie Sipho Dlamini)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเอสวาตินีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นางสาวซาเนเล
แอนเจลีน อึมดูลลี (Ms Zanele Angeline Mdluli ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5010 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. 2560 รวม 2 ฉบับ | กค. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้มีหน้าที่รายงานรวบรวม
และนำส่งข้อมูลที่ต้องการรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงานในการรวบรวมข้อมูลที่ต้องรายงานและนำส่งข้อมูลดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
ตลอดจนหน้าที่ในการจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ๑.๒
ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน
พ.ศ. ..... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นขอหนังสือรับรองสถานะของการเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน
กรอบระยะเวลาในการยื่นคำขอ ช่องทางการดำเนินการ ตลอดจนขั้นตอนการพิจารณารับรองสถานะของผู้มีหน้าที่รายงาน รวม ๒ ฉบับ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรปรับแก้ข้อ
๒ ของร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขให้ผู้มีหน้าที่รายงานรวบรวมและนำส่งข้อมูลที่ต้องการรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
พ.ศ. .... เป็น “ข้อ ๒
ให้ผู้มีหน้าที่รายงานมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลบัญชีสหรัฐที่ต้องรายงานทุกประเภทบัญชี
โดยแต่ละบัญชีต้องมีรายการครบถ้วนตามข้อ ๒ อนุวรรค ๒ ก) ของความตกลง...” เพื่อให้สอดคล้องกับความตกลง FATCA ฉบับภาษาอังกฤษ และควรมีการประสานกับผู้มีหน้าที่รายงานเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของกฎหมายและการนำไปใช้ในทางปฏิบัติ
เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าควรมีการประสานกับผู้มีหน้าที่รายงานเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของกฎหมายและการนำไปใช้ในทางปฏิบัติ
เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5011 | รัฐบาลสาธารณรัฐลิทัวเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนียประจำประเทศไทย (นายดาริอุส ไกดีส) | กต. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายดาริอุส ไกดีส (Mr. Darius Gaidys) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ สิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สืบแทน นางสาวอีนา
มาร์ซูโลนีเต (Ms Ina Marciulionyte) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5012 | ร่างกฎหมายการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ | กค. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในระบบอิเล็กทรอนิกส์
โดยกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวน ๒
เท่าของรายจ่าย ดังนี้ ๑)
รายจ่ายเพื่อการลงทุนในระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ๒.
รายจ่ายเพื่อการลงทุนในระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ ๓)
รายจ่ายจากการใช้บริการระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์
และระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์จากผู้ให้บริการ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม
๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ และอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่..) พ.ศ.
.... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้ระบบภาษีหัก
ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการเพิ่มเติมให้ลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่ายที่มีอัตราร้อยละ ๕ อัตราร้อยละ ๓ และอัตราร้อยละ ๒ เหลืออัตราร้อยละ ๑ สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินผ่านระบบภาษีหัก
ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘
(เดิมร้อยละ ๒) รวม ๒ ฉบับ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
ไปพิจารณาดำเนินการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5013 | รัฐบาลสาธารณรัฐเฮลเลนิกเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเฮลเลนิกประจำประเทศไทย (นายฟีโวส กีออร์กีโอส อังเกเลโตส) | กต. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฟีโวส กีออร์กีโอส อังเกเลโตส (Mr. Foivos Georgios Angeletos)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเฮลเลนิกประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายนิโคเลาส์ โดเมนาคิส (Mr.
Nicolaos Kaimenakis) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5014 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ครั้งที่ 2 (นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม) | พณ. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ถึงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5015 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ และนายมณฑล สุดประเสริฐ) | มท. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
จำนวน ๒ คน เพื่อแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ๒. นายมณฑล
สุดประเสริฐ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5016 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกฤษณ์ กระแสเวส) | ปปท. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายกฤษณ์ กระแสเวส ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5017 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุขในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (นายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต) | สธ. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการแพทย์และสาธารณสุข)
ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ มกราคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5018 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (1. พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ฯลฯ รวม 7 คน) จำนวน 7 ราย) | อว. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
รวม ๗ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ มกราคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. พลตำรวจเอก สุวัฒน์
แจ้งยอดสุข ประธานกรรมการ ๒. นายเจษฎา ศิวรักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. พลเรือเอก ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายภาณุ จันทร์เจียวใช้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางรวีรรณ ภูริเดช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายสมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายสุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5019 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่เร็วขับด้วยระบบไฮดรอลิค | กษ. | 17/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน
ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๙๕,๕๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่เร็วขับด้วยระบบไฮดรอลิค
รวม ๒ รายการ จำนวน ๒๕ เครื่อง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ที่เห็นควรจัดทำบัญชีเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของทุกหน่วยงาน
รวมทั้งจัดทำแผนบำรุงรักษาและแผนทดแทนเครื่องมือเครื่องจักรดังกล่าว
เพื่อให้การใช้งบประมาณและการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของประเทศในระยะยาวมีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ในส่วนของการใช้จ่ายงบประมาณ
ให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณและจัดทำแผนงานการบริหารจัดการเครื่องสูบน้ำร่วมกับที่มีอยู่เดิมจัดส่งให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี
หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประชาชนเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5020 | การพิจารณากำหนด “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” | มท. | 17/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้วันที่ ๒๑ มกราคมของทุกปี เป็น
“วันความปลอดภัยของผู้ใช้ทางถนน” ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
ประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ
และให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
และมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการเข้มงวดกวดขันปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและจราจรโดยเคร่งครัด
รวมทั้งประสานหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้รถใช้ถนน
โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการข้ามถนนทั้งที่มีและไม่มีทางม้าลายที่ถูกต้องและปลอดภัยให้แก่เยาวชน
ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในการดำเนินมาตรการ/จัดกิจกรรมต่าง ๆ เนื่องใน “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน”
(วันที่ ๒๑ มกราคมของทุกปี) และ “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน”
(วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ ๓ ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี) ให้เหมาะสม สอดคล้อง
เป็นไปในแนวทางเดียวกันและมีความต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในด้านความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
ซึ่งจะนำไปสู่การลดอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป |