ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 258 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 5141 - 5160 จากข้อมูลทั้งหมด 124436 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 5141 | การขอจัดตั้งหมู่บ้านใหม่ บ้านห้วยขาบใหม่ หมู่ที่ 8 ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน โดยขอยกเว้นหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2539 | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๓๙ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดตั้งหมู่บ้าน ตำบล กิ่งอำเภอและอำเภอ
เพื่อดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านใหม่ บ้านห้วยขาบใหม่ หมู่ที่ ๘ ตำบลดงพญา
อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงบประมาณที่เห็นควรปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาตอย่างเคร่งครัด
โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
เพื่อเป็นค่าตอบแทนผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในการจัดตั้งหมู่บ้านใหม่ดังกล่าว
เห็นควรให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ไปดำเนินการในลำดับแรกก่อน ส่วนในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป
ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5142 | การให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/65 G2/65 และ G3/65 | พน. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้สิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต
โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๒ (๑) และวรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๓ มาตรา ๕๓/๑ และมาตรา ๕๓/๘
แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
แก่ผู้ขอสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต ๑.๑.๑
อนุมัติให้บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G1/65 และ G3/65 ๑.๑.๒
อนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G2/65 ทั้งนี้
กระทรวงพลังงานได้จัดทำร่างสัญญาแบ่งปันผลผลิตของทั้ง ๓ แปลงสำรวจข้างต้น ตามแบบ
ชธ/ป๑๒ ท้ายกฎกระทรวงกำหนดแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑.๒
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีอำนาจลงนามกับผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G1/65 G2/65 และ G3/65 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๕๓/๒ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๓
เห็นชอบให้ใช้ข้อกำหนดการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการในสัญญาแบ่งปันผลผลิตของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G1/65 G2/65 และ G3/65 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๒.
ให้กระทรวงพลังงาน (กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า
การดำเนินการในขั้นตอนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ G3/65 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
จะต้องไม่ขัดต่อมาตรการทางกฎหมายที่กำหนดในกฎกระทรวงดังกล่าว
ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5143 | การลงนามข้อตกลงรับทุนสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลกภายใต้โครงการการผลักดันการประยุกต์ใช้และการจัดการตลอดวงจรของการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย | สกพอ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างข้อตกลงโครงการการผลักดันการประยุกต์ใช้และการจัดการตลอดวงจรของการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global
Environment Facility : GEF) ร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ
(United Nations Industrial Development Organization : UNIDO) และมอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามข้อตกลงรับการสนับสนุนฝ่ายไทย โดยเป็นที่ยอมรับระหว่างภาคีแล้วว่าไม่จำเป็นต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจเต็มสำหรับลงนาม
รวมทั้งมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับการดำเนินโครงการ
(Project Executing Entity) เพื่อดำเนินงานดังกล่าวต่อไป
โดยร่างข้อตกลงฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคขนส่ง
โดยยกระดับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าผ่านการเสริมสร้างนโยบายที่เป็นกรอบกำกับดูแล
การเสริมสร้างศักยภาพและการแบ่งปันองค์ความรู้
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตกระทรวงการต่างประเทศ เช่น (๑) หากมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนงบประมาณรายจ่าย โอนเงินจัดสรร หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรงบประมาณ แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ และ (๒)
ควรมีการติดตามและประเมินผลโครงการเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ
เพื่อนำมาพัฒนาขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนข้อตกลงฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5144 | (ร่าง) แผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566 - 2569) | ยธ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (ร่าง)
แผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๙) จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในการบริหารงานเพื่อการอำนวยความยุติธรรมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
โดยยึดหลักนิติธรรม
โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ซึ่งมีกรอบการบริหารงานใน ๓ มิติหลัก ได้แก่ (๑) การสร้างความเป็นธรรมตามกฎหมาย (๒)
การพัฒนากระบวนการยุติธรรมตามมาตรฐานสากล และ (๓)
การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารงานยุติธรรม ๑.๒
ให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นกรอบทิศทางและแนวทางดำเนินงาน
รวมทั้งใช้เป็นกรอบแนวทางจัดทำและเสนอคำของบประมาณของหน่วยงานตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน ๑.๓
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้องและสนับสนุนมิติการบริหารงานและเป้าหมายของร่างแผนแม่บทฯ
และใช้เป็นแนวทางการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามห้วงระยะเวลาการบังคับใช้ของแผน ๑.๔ ให้กระทรวงยุติธรรม
(สำนักงานกิจการยุติธรรม)
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการประสาน
สนับสนุน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทฯ ไปสู่การปฏิบัติ
และรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เช่น การกำหนดตัวชี้วัดควรสะท้อนถึงการแก้ปัญหาที่ยังเป็นประเด็นจุดอ่อนของกระบวนการยุติธรรม
และการกำหนดค่าเป้าหมายที่มีความชัดเจน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5145 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. .... | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม
โดยกำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารที่จะใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องดำเนินการตามที่กำหนดในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างของโรงแรม
ระบบป้องกัน และระงับอัคคีภัย ระบบทางหนีไฟ ลักษณะภายใน และภายนอกของอาคาร
และการนำอาคารลักษณะพิเศษมาใช้ประกอบธุรกิจโรมแรม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5146 | ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) สมัยพิเศษ ค.ศ. 2022 | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป
(อียู) สมัยพิเศษ ค.ศ. ๒๐๒๒ เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๕ ณ กรุงบรัสเซลส์
ราชอาณาจักรเบลเยียม และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมฯ
ไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป
โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำนโยบายเศรษฐกิจของไทยที่ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญต่อการทำการค้ากับ EU
และที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมืออาเซียน-EU รวมทั้งประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยมีประเด็นที่สำคัญ เช่น
การต่อต้านก่อการร้าย และความมั่นคงทางไซเบอร์ การส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง
เสรี ครอบคลุม และอยู่บนกฎกติกา และการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล เช่น การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ EU ได้เน้นย้ำข้อริเริ่ม “Global
Gateway” ซึ่งมุ่งหวังที่จะระดมทุนมูลค่า
๓๐๐,๐๐๐ ล้านยูโร (๑๐.๘ ล้านล้านบาท) ภายในปี ๒๕๗๐
เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ รวมทั้งด้านดิจิทัล ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม และข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
รวมทั้งเรื่องนโยบายและมาตรการเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การพัฒนาสีเขียว
ควรส่งเสริมให้เกิดการค้าการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ
ในลักษณะไม่ก่อให้เกิดการกีดกันทางการค้าต่อประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5147 | พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 | สผ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา ๑๗๓ ว่า
พระราชกำหนดฉบับดังกล่าวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้บัญญัติไว้นรัฐธรรมนูญ มาตรา
๑๗๒ วรรคหนึ่ง และมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม (การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ)
สำนักงานตำรวจแห่งชาติกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำคำชี้แจงและเอกสารประกอบในเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน
แล้วจัดส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อเตรียมการไว้เป็นการล่วงหน้าสำหรับประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ตามแนวทางปฏิบัติ อ้างถึง ๒ (หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๓/ว ๓๘๐
ลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒) ตามที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5148 | ร่างแผนพัฒนาระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) สำหรับสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง | พณ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนพัฒนาระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) สำหรับสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง และอนุมัติให้อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองร่างแผนพัฒนาระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) สำหรับสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
มีสาระสำคัญเพื่อมุ่งเน้นการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์
และดิจิทัลข้ามพรมแดน
การพัฒนายุทธศาสตร์ความร่วมมือและส่งเสริมการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน รวมทั้งการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแผนพัฒนาระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) สำหรับสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากมีแผนในลักษณะเดียวกันนี้เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในคราวถัดเห็นควรไปให้กระทรวงพาณิชย์นำเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพื่อพิจารณากลั่นกรองตามขั้นตอนและกระบวนการตามนัยของมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5149 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สหราชอาณาจักร ณ จังหวัดภูเก็ต (นางสาวชานทาล ลูร์ด เฟอร์นานเดส) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นางสาวชานทาล ลูร์ด เฟอร์นานเดส (Ms. Chantal Lourdes Fernandes) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สหราชอาณาจักร ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต
สืบแทน นายมาร์ติน ชาลส์ ริชาร์ด คาร์เพนเตอร์ (Mr.
Martin Charles Richard Carpenter) ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอยุติการปฏิบัติหน้าที่เพื่อไปประกอบธุรกิจส่วนตัว
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5150 | รัฐบาลสาธารณรัฐกัวเตมาลาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำประเทศไทย (นางชีร์เลย์ เดนนิเซ อากิลาร์ บาร์เรรา) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางชีร์เลย์ เดนนิเซ อากิลาร์ บาร์เรรา (Mrs. Shirley Dennise Aguilar Barrera) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร
สืบแทน นายการ์โรส อุมเบร์โต ฆิเมเนช ลิโกนา (Mr.
Carlos Humberto Jimenez Licona) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5151 | การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต (นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑.
การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา ๒. แต่งตั้ง นายณัฐพงศ์
พันธเกียรติไพศาล ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5152 | รัฐบาลสาธารณรัฐกานาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทย (นางฟลอเรนซ์ เบอร์คี อะโคนอร์) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางฟลอเรนซ์ เบอร์คี อะโคนอร์ (Mrs. Florence Buerki Akonor) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
มาเลเซีย สืบแทน นางอาคูอา เซชีวา อาเฮนโครา (Ms.
Akua Sekyiwa Ahenkora) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5153 | รัฐบาลสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทย (นายอะเล็กซานเดอร์ คาร์เตอร์ บิง) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายอะเล็กซานเดอร์ คาร์เตอร์ บิง (Mr. Alexander Carter Bing) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น
สืบแทน นายทอมัส ดี คีจิเนอร์ (Mr.
Thomas D. Kijiner) ซึ่งถึงแก่กรรม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5154 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายยศพล เวณุโกเศศ) | ศธ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5155 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (รองศาสตราจารย์ประวิต เอราวรรณ์) | ศธ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง รองศาสตราจารย์ประวิต เอราวรรณ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)
ประธานกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5156 | การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวสุลักขณา ธรรมานุสติ) | นร. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นางสาวสุลักขณา
ธรรมานุสติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ.
และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นักบริหารระดับสูง) สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5157 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (นายอรรถพล อรรถวรเดช) | กค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอรรถพล อรรถวรเดช
เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่ง
เนื่องจากขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖)
เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5158 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 5/2565 | นร.52 | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๕/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕
ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑. เรื่องเพื่อทราบ จำนวน ๓
เรื่อง ได้แก่ ๑) รายงานสรุปพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเมื่อวันที่
๒๑ กันยายน ๒๕๖๕ ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒) การตรวจติดตามงานด้านการพัฒนาและด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรองนายกรัฐมนตรี
(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๕ และ ๓)
กิจกรรมแถลงผลงานในรอบ ๓ ปี ของ กพต. เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๕ ๒. เรื่องที่ประชุมรับทราบการติดตามความก้าวหน้า ตามมติ กพต.จำนวน ๔
เรื่อง ได้แก่ ๑) ความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการตำบลมั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผ่านโครงการนำร่อง “๑ ข้าราชการ ๑ ครัวเรือนยากจน” ๒)
ความก้าวหน้ากิจกรรมโคบาลชายแดนใต้ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้
ระย ๗ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๑) ๓)
ความก้าวหน้าการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA)
สำหรับแผนพัฒนาเชิงพื้นที่ : กรณีอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ๔)
ความก้าวหน้าการจัดทำแผนงาน/โครงการสำคัญการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเชิงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
และจังหวัดปัตตานี ภายใต้การมีส่วนร่วมของจังหวัดและทุกภาคส่วน ๓. เรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน ๖ เรื่อง ได้แก่
๑)
ขอความเห็นชอบโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
เศรษฐกิจชุมชนในระดับหมู่บ้านและชุมชนผ่านกลไกคณะกรรมการหมู่บ้าน
โดยมีกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นแกนสำคัญ พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ (ระยะเวลา ๕ ปี) ๒) ขอความเห็นชอบโครงการส่งเสริมการเลี้ยงแพะแบบครบวงจร
เพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์เศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ (ระยะเวลา ๕ ปี) ๓)
ขอความเห็นชอบโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้นำศาสนาทุกศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.
๒๕๖๖-๒๕๗๐ (ระยะเวลา ๕ ปี) ๔) ขอความเห็นชอบโครงการจัดตั้งอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๗๒ พรรษา พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๘ ๕) ขอความเห็นชอบ
(ร่าง)
แผนส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชนทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ระยะที่ ๔ ปี พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๗๐ และ ๖) ขอความเห็นชอบหลักการโครงการจัดหายานพาหนะและขนส่ง
สนับสนุนสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด
และสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5159 | รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2565 | กค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 5160 | การขยายระยะเวลาและรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 | สธ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการขยายระยะเวลาและรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา
๙ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา
๙ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ออกไปอีก ๑ ปี
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดให้มีการเผยแพร่รายการเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อสาธารณชนตามที่กฎหมายกำหนด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
