ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 145 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 2881 - 2900 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2881 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (นายณัฐพัชร จันทรสูตร) | พปส. | 03/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายณัฐพัชร จันทรสูตร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านกฎหมาย) ในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มีนาคม
๒๕๖๗ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2882 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายรุจ ธรรมมงคล ฯลฯ จำนวน 8 ราย) | กต. | 03/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๘ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่างตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มกราคม ๒๕๖๗
ซึ่งอยู่ระหว่างการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ตำแหน่งที่ว่าง
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. นายรุจ ธรรมมงคล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก สหรัฐเม็กซิโก ๒. นายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการกงสุล ๓. นางสาวศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเอเชียใต้
ตะวันออกกลางและแอฟริกา ๔. นายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพิธีการทูต ๕. นายพลพงศ์ วังแพน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอาเซียน ๖. นายวัฒนวิทย์ คชเสนี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ๗. นางสาวกษมา สืบวิเศษ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายภูบดี ลออเงิน ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2883 | สรุปผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก โครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร สำหรับบ่อบาดาล | พน. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต
กรณีโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
(กองทุนฯ) ในกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก
โครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร สำหรับบ่อบาดาล ซึ่งกระทรวงพลังงานได้พิจารณาข้อเสนอแนะฯ
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว มีผลการดำเนินงานในภาพรวม เช่น (๑) การจัดสรรงบประมาณ
เช่น องค์ประกอบของคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน
ควรมีนักวิชาการในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมพิจารณาจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยกระทรวงพลังงานชี้แจงว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานเชิงพื้นที่
เมื่อปี ๒๕๖๔ มีองค์ประกอบ เช่น พลังงานจังหวัด เกษตรจังหวัด
และผู้แทนจากทุกภาคส่วน และหากพื้นที่ใดขาดนักวิชาการในแต่ละสาขาสามารถเชิญบุคลากรจากหน่วยงานอื่นนอกพื้นที่มาร่วมเป็นคณะทำงานฯ
เพิ่มเติมได้ (๒) กรรมสิทธิ์ในการบำรุงรักษา กองทุนฯ
ควรมีตัวอย่างแผนบริหารจัดการการใช้งานร่วมกันและแผนบำรุงรักษาเพื่อให้ทรัพย์สินของโครงการได้รับการดูแลบำรุงรักษาและสามารถใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ในระยะยาว
โดยกองทุนฯ จะจัดทำแนวทางและแผนบริหารจัดการการใช้งานร่วมกันและแผนบำรุงรักษาให้แก่ผู้รับเงินสนับสนุน
(๓) การเปิดเผยข้อมูลโครงการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส กองทุนฯ ควรเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนต่อสาธารณะ
โดยกองทุนฯ ชี้แจงว่า จะปรับรูปแบบการแจ้งผลการดำเนินงาน โดยจะแจ้งผลของผู้ที่ผ่านและไม่ผ่านการพิจารณาพร้อมเหตุผลประกอบไปยังสำนักงานพลังงานจังหวัดและหน่วยงานที่ยื่นขอรับการสนับสนุน
รวมทั้งจะประกาศผลการพิจารณาผ่านเว็บไซต์ของกองทุนฯ โดยเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ
๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2884 | รายงานผลการศึกษา เรื่อง การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการศึกษา
เรื่อง การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
๒.
มอบหมายให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานหลักรับรายงานพร้อมทั้งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว
และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2885 | การเสนอคำขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล หน่วยงานขององค์กรอิสระหรือองค์กรอัยการ | นร.07 | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเสนอคำขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล
หน่วยงานขององค์กรอิสระหรือองค์กรอัยการ และมอบหมายให้สำนักงบประมาณนำเรื่องการเสนอคำขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล หน่วยงานขององค์กรอิสระหรือองค์กรอัยการ
ตามที่คณะรัฐมนตรีรับทราบแล้ว เสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2886 | การปรับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เดิม ปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (มติคณะรัฐมนตรี ๑๔
พฤศจิกายน ๒๕๖๖) เป็น มติคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบฯ ปี พ.ศ.
๒๕๖๗ (๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) ซึ่งจะมีการพิจารณาอนุมัติงบประมาณ จากเดิมวันที่ ๓-๔
เมษายน ๒๕๖๗ เป็นวันที่ ๒๐-๒๑ มีนาคม ๒๕๖๗ สภาผู้แทนราษฎร
พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบฯ ปี พ.ศ. ๒๕๖๗ วาระที่ ๒-๓ วันที่ ๙-๑๐ เมษายน ๒๕๖๗
เป็นวันที่ ๒๕-๒๖ มีนาคม ๒๕๖๗ วุฒิสภา พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบฯ ปี พ.ศ. ๒๕๖๗ และวันที่
๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ เป็นวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
นำร่างพระราชบัญญัติงบฯ ปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2887 | เอกสารผลลัพธ์สำหรับการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 6 และร่างแถลงการณ์ระดับสูง (High-Level Statement) | ทส. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
สมัยที่ ๖ “การดำเนินการพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และยั่งยืน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ” และร่างแถลงการณ์ระดับสูง High-Level Statement on Plastic
Pollution, including in the Marine Environment และอนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทย หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีฯ
และร่างแถลงการณ์ระดับสูง High-Level Statement on Plastic
Pollution, including in the Marine Environment โดยร่างปฏิญญาฯ มีเป้าหมายเพื่อรับมือกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ มลพิษ
และการตัดไม้ทำลายป่า เช่น (๑) มุ่งมั่นที่จะปกป้องชุมชนจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เช่น ภัยแล้ง ไฟป่า และน้ำท่วม (๒) พยายามจัดการกับมลพิษ เช่น การลดมลพิษทางอากาศ
เพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด
และร่างแถลงการณ์ฯ มีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและการมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่งของภูมิภาคในการสนับสนุนและส่งเสริมความพยายามระดับโลกในเรื่องมลพิษจากพลาสติก
เช่น
ตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับปรุงและการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนของพลาสติก
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
สมัยที่ ๖ และร่างแถลงการณ์ระดับสูง High-Level
Statement on Plastic Pollution, including in the Marine Environment ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2888 | รายงานกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 [เรื่อง สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตร กรณีการบริโภคโฟลิก เอซิด (วิตามิน B9)] | สธ. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการและความเห็นในภาพรวมของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
เรื่อง สิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อนและหลังการคลอดบุตร กรณีการบริโภคโฟลิก
เอซิด (วิตามิน B9)
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2889 | การเสนอร่างแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย วาระปี 2566 - 2570 และร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทยวาระปี 2566 - 2570 | รง. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย
(Decent Work Country Program :
DWCP) (ร่างแผนงาน DWCP) วาระปี ๒๕๖๖-๒๕๗๐ และร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย
วาระปี ๒๕๖๖-๒๕๗๐ และให้ปลัดกระทรวงแรงงานหรือผู้แทน
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย
วาระปี ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ในฐานะรัฐบาลไทยร่วมกับผู้แทนองค์กรนายจ้าง องค์กรลูกจ้าง
และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ โดยร่างแผน DWCP วาระปี ๒๕๖๖-๒๕๗๐
เป็นกรอบความร่วมมือที่มีประเด็นสำคัญ ๓ ประการ ได้แก่ (๑) อนาคต (Future) พัฒนาตลาดแรงงานไทยให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (๒) เข้าถึง (Reach)
รับรองการคุ้มครองทางสังคมและงานที่มีคุณค่าที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน
และ (๓) เชื่อมต่อ (Connect) เสริมความแข็งแกร่งในการจัดการข้อมูล
การสื่อสาร และศักยภาพของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมงานที่มีคุณค่า
และร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อพัฒนาตลาดแรงงานไทยให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการคุ้มครองทางสังคมที่ครอบคลุมและเพียงพอสำหรับแรงงานทุกคน
รวมทั้งยึดถือประเด็นสำคัญ ๓ ประการ ตามแผนงาน DWCP ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย
วาระปี ๒๕๖๖-๒๕๗๐
และร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย
วาระปี ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เห็นว่าหากมีภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าว
ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ในโอกาสแรกก่อนสำหรับปีงบประมาณต่อ ๆ ไป และเห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามภารกิจความจำเป็นและเหมาะสม
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป และควรเพิ่มเติมในส่วนของ “การพัฒนา”
ที่เน้นการพัฒนาทุนมนุษย์และทุนทางสังคมเชิงพื้นที่ ซึ่งจะทำให้แผนงานฯ ฉบับนี้
มีความสมบูรณ์และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ.
๒๕๖๖-๒๕๗๐) พร้อมทั้งตอบประเด็นสำคัญของแผนงานฯ ฉบับนี้ ในประเด็นความสำคัญที่ ๑
อนาคต (Future) พัฒนาตลาดแรงงานไทยให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
และประเด็นความสำคัญที่ ๒ เข้าถึง (Reach) รับรองการคุ้มครองทางสังคมและงานที่มีคุณค่าที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน ควรสร้างแนวทางการแปลงแผนงานฯ ฉบับนี้
ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งควรสร้างแนวทางการแปลงแผนงานฯ เพื่อคุ้มครอง
“แรงงานแพลตฟอร์ม” ซึ่งปัจจุบันยังขาดทั้งกฎหมายและคำนิยามที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของผู้ใช้แรงงานแพลตฟอร์ม
ทำให้ขาดอำนาจในการต่อรอง กฎหมาย และกองทุนให้ความคุ้มครองแรงงานดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2890 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ | กห. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ
(ASEAN Defence Ministers’ Meeting Retreat :
ADMM Retreat) จำนวน ๑ ฉบับ คือ ร่างแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนว่าด้วยผลสำเร็จของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนภายใต้การดำเนินงานตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคง
ค.ศ. ๒๐๒๕ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์เชิงนโยบายร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนบนพื้นฐานความเป็นแกนกลางอาเซียนเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ
เสถียรภาพ และความมั่นคงของภูมิภาค ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรวิเคราะห์
ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งสื่อสารในช่องทางที่เหมาะสม
ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ไทยพึงได้รับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2891 | ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้มอบหมายให้กรมแผนที่ทหารเข้าไปสำรวจแนวเขตที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้ได้ข้อยุติ
กรมแผนที่ทหารได้ดำเนินการเดินสำรวจแล้วเสร็จเร็วกว่าที่คาดไว้และได้รายงานผลการดำเนินการให้ทราบในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างหน่วยงานในระยะยาว
จึงขอมอบหมายการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือเป็นหลักปฏิบัติและประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
จะไม่มีการนำที่ดินตามแนวเขตกันชนกับป่าหรือพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างหน่วยงานมาใช้แบ่งหรือจัดสรรเป็นที่ดิน
ส.ป.ก. อย่างเคร่งครัด
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้มีการปลูกป่าในพื้นที่ดังกล่าว
เพื่อคงความเป็นป่าธรรมชาติไว้
โดยขอให้ประขาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกและอนุรักษ์พื้นที่ป่าดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2892 | ความร่วมมือด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาป่าระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานถึงความพร้อมของรัฐบาลกัมพูชาในการส่งคณะเจ้าหน้าที่มาหารือเกี่ยวกับแนวทางการจัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลและสายด่วน
(Hotline) เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาป่ารวมทั้งควบคุมการเกิดไฟไหม้และลดจุดความร้อนในพื้นที่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศให้เหลือน้อยที่สุด
จึงขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาป่าฝ่ายไทย ให้แล้วเสร็จ
แล้วประสานการดำเนินการต่าง ๆ กับรัฐบาลกัมพูชาต่อไปโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2893 | การพิจารณาทบทวนการวางผังเมืองใหม่ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการและรับฟังความคิดเห็นจากเอกชนและประชาชนในหลายภาคส่วน
ซึ่งมีการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาในการขออนุญาตก่อสร้างและการประกอบอาชีพที่เกิดขึ้นจากการวางผังเมืองในพื้นที่ต่าง
ๆ ไม่สอดคล้องกับการขยายตัวของเมืองในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนทั้งภายในประเทศและจากต่างประเทศ
และขจัดปัญหาอุปสรรคที่เป็นข้อจำกัดต่อการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) อันเนื่องมาจากการวางผังเมืองที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาทบทวนการวางผังเมืองในจังหวัดต่าง
ๆ รวมทั้งกรุงเทพมหานครให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน แล้วดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
รวมถึงให้พิจารณาดำเนินการตามแนวทางข้างต้นเพื่อยกระดับเมืองรองต่าง ๆ ให้มีความพร้อมรองรับการขยายตัวของเมืองและการลงทุนในพื้นที่ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2894 | การเสนอรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่อยูเนสโก (ชุดไทยพระราชนิยม) | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธาน
ได้มีมติให้จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (ชุดไทยพระราชนิยม)
เสนอต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations
Educational, Scientific and Cultural Organization: UNESCO)
หรือยูเนสโก
เพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียนตามอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
ต่อไปนั้น รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่
เพื่อผลักดันวัฒนธรรมไทยให้แพร่หลายและยกระดับไปสู่ระดับโลกต่อไป ดังนั้น
จึงขอให้กระทรวงวัฒนธรรมเร่งรัดติดตามการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จ
แล้วนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็ว
ก่อนนำเสนอต่อยูเนสโกพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2895 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ (กปช.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.02 | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบสรุปรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยผลการดำเนินงานของ กปช. มีสาระสำคัญ เช่น (๑)
การสร้างความตระหนักรู้
ความเข้าใจเรื่องสื่อสารที่สำคัญของประเทศและเกิดพฤติกรรมที่เหมาะสม
เสริมสร้างค่านิยมที่ดีในสังคม เช่น การพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG สังคมสูงวัย กับวิถีชีวิตในอนาคต
(๒) การสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์เชิงบวกของประเทศไทยต่อประชาคมโลก เช่น Health
Care ความก้าวหน้าทางการแพทย์ระดับโลก (๓)
การส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะการรู้เท่าทันสื่อและข่าวปลอม (Fake News) สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือ เช่น
การจัดการข่าวปลอมผ่านรูปแบบของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และ (๔)
การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนของประเทศที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัล
เช่น การพัฒนาหลักสูตรนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารของภาครัฐ และมอบหมายหน่วยงานภาครัฐรับข้อเสนอของประชาชนไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ให้กระทรวงมหาดไทยเน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัด ๗๖ จังหวัด ให้ความสำคัญกับงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนในพื้นที่และสั่งการให้หน่วยงานในระดับจังหวัดสนับสนุนและประสานการดำเนินงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนและพัฒนางานประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของประเทศให้เกิดประสิทธิภาพ
ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ และให้คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงศึกษาธิการ เช่น ควรพิจารณาในมิติของการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม
การรับรู้อย่างเท่าทัน และการป้องกันความปลอดภัยข้อมูลข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์ในกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ถูกต้อง
รวดเร็ว ปลอดภัย และมีภูมิคุ้มกันต่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cyber
Crime) ควรพิจารณารูปแบบการสื่อสารที่เหมาะสมให้แก่คนพิการตามประเภทความพิการ
ในทุกช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้คนพิการทุกประเภทได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ชัดเจน
และตรงประเด็น และในประเด็นที่ ๕ การรู้เท่าทันสื่อ สารสนเทศ และดิจิทัลควรให้มีการรณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม
ในมิติทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพื่อให้ประชาชนและเยาวชนใช้วัฒนธรรมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ตนเอง
และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ความรู้กับประชาชนในทุกภาคส่วนให้รู้เท่าทันสังคมโลก
และประเด็นที่ ๖ ส่งเสริมค่านิยมที่ดีของไทย
ควรผลิตสื่อส่งเสริมค่านิยมไทยในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งภาครัฐควรพัฒนาแอปพลิเคชันทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุ
เพื่อให้ข้อมูลและบริการครบทุกวงจร รวมถึงมุ่งเน้นการสื่อสารสร้างค่านิยมไทยร่วมสมัยให้ประชาชนตระหนักว่าการประพฤติตนตามคุณธรรมและค่านิยมพื้นฐานเป็นเรื่องที่ควรทำ ไม่ควรเป็นการบังคับ
ตลอดจนธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติด้วยรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจและแปลกใหม่
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2896 | ขอความร่วมมือในการใช้ลายผ้าพระราชทาน จำนวน 4 ลาย | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
ได้พระราชทานลายผ้า จำนวน ๔ ลาย ได้แก่ ลายวชิรภักดิ์ ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณรีฯ
๒๕๖๙ ลายหัวใจ และลายดอกรักราษฎร์ภักดี จึงขอความร่วมมือให้คณะรัฐมนตรี ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งประชาชนทุกภาคส่วนใช้ลายผ้าพระราชทานดังกล่าวในการแต่งกายในวาระและโอกาสต่าง
ๆ ตามความเหมาะสม เพื่อส่งเสริมการใช้ลายผ้าทั้ง ๔ ลาย ให้แพร่หลาย
โดยพร้อมเพรียงกันด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2897 | การยกระดับคุณภาพชีวิตและการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่
๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) ในระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เพื่อสร้างโอกาสให้กับประชาชนในพื้นที่ทางด้านเศรษฐกิจและยกระดับการท่องเที่ยว
ซึ่งหลายพื้นที่เป็นจุดที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยวและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนได้
จึงขอความร่วมมือให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งภาคเอกชนและประชาชนในทุกภาคส่วนให้การส่งเสริม สนับสนุน และช่วยกันพัฒนา
ยกระดับคุณภาพชีวิต และดำเนินมาตรการต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
๓ จังหวัดดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไปหลังจากการตรวจราชการในครั้งนี้ด้วย
รวมทั้งขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมประชาสัมพันธ์
และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์
เผยแพร่ข่าวสารและศักยภาพในด้านต่าง ๆ ของทั้ง ๓ จังหวัด
เพื่อดึงดูดการลงทุนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2898 | การพิจารณาทบทวนความจำเป็น เหมาะสมของประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๔/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติให้ส่วนราชการพิจารณาทบทวนความจำเป็น
เหมาะสมของประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่สามารถยกเลิกได้โดยการตราพระราชบัญญัติกลางยกเลิก
จำนวน ๗๑ ฉบับ ตามบัญชีแนบท้ายนี้ โดยให้เสนอความเห็นไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายใน ๑๔ วัน และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งผลการพิจารณาดังกล่าวไปยังคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2899 | มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการรายงานภาพรวมการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ณ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ของสำนักงบประมาณ พบว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในภาพรวมมีจำนวนต่ำกว่าที่วางแผนไว้เกือบหนึ่งหมื่นล้านบาท
ซึ่งการลงทุนของภาครัฐเป็นมาตรการสำคัญประการหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้โดยตรง
ดังนั้น
จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายเงินทั้งในส่วนของเงินงบประมาณและเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง โปร่งใส เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2900 | การจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยและเงินชดเชยความเสียหายรอบแรก ครั้งที่ 1 และเงินชดเชยความเสียหายรอบแรก ครั้งที่ 2 ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบกรอบวงเงินการจัดสรรงบประมาณสำหรับการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยและเงินชดเชยความเสียหายรอบแรก ครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ ตามมาตรา
๙ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ (พระราชกำหนด Soft Loan) คิดเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๔๕๓.๑๑ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรให้กระทรวงการคลัง
โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอน
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และให้กระทรวงการคลังดำเนินการยื่นขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ต่อสำนักงบประมาณ
ตามพระราชกำหนด Soft Loan มาตรา ๑๔ วรรคสอง
ที่กำหนดให้ในกรณีที่ต้องมีการจ่ายเงินชดเชย
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการจ่ายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|