ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 144 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 2861 - 2880 จากข้อมูลทั้งหมด 124453 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2861 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวุฒิรักษ์ เดชะพงษ์พันธุ์) | นร.04 | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวุฒิรักษ์ เดชะพงษ์พันธุ์ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจักรพงษ์ แสงมณี) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2862 | รัฐบาลราชอาณาจักรเดนมาร์กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย (นายแดนนี แอนนัน) | กต. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายแดนนี แอนนัน (Mr. Danny Annan) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายยอน ทัวร์กอร์ด (Mr. Jon
Thorgaard) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2863 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางรัชนี พึ่งพาณิชย์กุล) | ศธ. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางรัชนี พึ่งพาณิชย์กุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก (ผู้อำนวยการสูง) สำนักนโยบายและแผนการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านระบบการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2864 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง
การศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน
(โครงการแลนด์บริดจ์)
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน
(โครงการแลนด์บริดจ์) สภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักรับรายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะและข้อสังเกตดังกล่าว
และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน
๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2865 | รายงานประจำปี 2566 ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา | กสศ. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๖ ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
(กสศ.) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑) กสศ. ได้ดำเนินภารกิจโดยมีกลุ่มผู้รับประโยชน์สามารถเข้าถึงการศึกษาและการเรียนรู้
รวม ๒,๙๐๙,๙๖๐ คน-ครั้ง และมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ๒ ภารกิจ ได้แก่ (๑)
ภารกิจสนับสนุนให้เข้าถึงการศึกษาและการเรียนรู้ เช่น กสศ. ร่วมกับ ๖
หน่วยงานต้นสังกัดสถานศึกษา มีการจัดเงินอุดหนุนแก่นักเรียน ๒,๘๓๙,๒๕๓ คน มีผู้รับทุนการศึกษาสะสม รวม ๙,๙๙๑ คน ดำเนินโครงการพัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา
(ทุนเสมอภาค) เพื่อบรรเทาอุปสรรคในการมาเรียนและเพื่อให้เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสยังคงอยู่ในระบบการศึกษา
และ (๒) ภารกิจมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลง เช่น มีการพัฒนาครู นักจัดการเรียนรู้
และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน ๑๙,๐๕๐ คน
และมีนักเรียนได้รับประโยชน์ ๑๒๗,๐๐๐ คน มีการพัฒนาตัวแบบการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่
รวมทั้งสิ้น ๑๕ จังหวัด และ ๒) รายงานผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2866 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 | ศย. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2867 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและกองทุนเพื่อการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน) | ตผ. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ และรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของกองทุนเพื่อการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า
ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2868 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การพัฒนาองค์การนักศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะทางด้านวิชาชีพและทักษะชีวิตสำหรับผู้เรียนอาชีวศึกษา ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา | สว. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การพัฒนาองค์การนักศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะทางด้านวิชาชีพและทักษะชีวิตสำหรับผู้เรียนอาชีวศึกษา
ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ๒.
มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา
ไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณา หรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2869 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือ และการประกันภัยเรือสำหรับโดยสาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือ และการประกันภัยเรือสำหรับโดยสาร (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับการยื่นหนังสือรับรองจากกรมประมงประกอบคำขอรับใบอนุญาตใช้เรือสำหรับเรือประมง
อันเป็นการบรรเทาภาระและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการขออนุญาต
โดยกำหนดเอกสารและหลักฐานเท่าที่จำเป็นและสอดคล้องกับสภาพการณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2870 | รายงานการเงินประจำปีพร้อมกับรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 | ลต. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินประจำปีพร้อมกับรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2871 | การแต่งตั้งกรรมการผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์ และกรรมการผู้แทนองค์กรสวัสดิการชุมชนในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ (1. พันตำรวจโท ธรรมนิศร โภคทรัพย์ ฯลฯ จำนวน 16 คน) | พม. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์
และกรรมการผู้แทนองค์กรสวัสดิการชุมชนในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ
จำนวน ๑๖ คน ตามมาตรา ๗ (๕)
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. ๒๕๔๖
และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากกรรมการผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์
และกรรมการผู้แทนองค์กรสวัสดิการชุมชนเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑. ผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์
จำนวน ๘ คน ได้แก่ ๑.๑ พันตำรวจโท ธรรมนิศร โภคทรัพย์ ผู้แทนองค์กรฯ
กรุงเทพมหานคร ๑.๒ นายยงยุทธ ใจชื่น ผู้แทนองค์กรฯ ภาคกลาง ๑.๓
นายประจักษ์ อาษาธง ผู้แทนองค์กรฯ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑.๔ นายสมพร ไหมบุญแก้ว ผู้แทนองค์กรฯ ภาคใต้ ๑.๕ นายภัคนันท์ เครือแก้ว ผู้แทนองค์กรฯ ภาคเหนือ ๑.๖ นายวิชัย โชควิวัฒน ผู้แทนองค์กรฯ
เครือข่าย ๑.๗ นายวีระ สมความคิด ผู้แทนองค์กรฯ
เครือข่าย ๑.๘ รองศาสตราจารย์กฤตติกา แสนโภชน์ ผู้แทนองค์กรฯ เครือข่าย ๒. ผู้แทนองค์กรสวัสดิการชุมชน จำนวน ๘ คน
ได้แก่ ๒.๑ นางเสาวณี สุชาฎา ผู้แทนองค์กรฯ กรุงเทพมหานคร ๒.๒ นายบรรจง พรมวิเศษ ผู้แทนองค์กรฯ ภาคกลาง ๒.๓ นายฐานิศร์ แสงพล ผู้แทนองค์กรฯ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒.๔ นายอับดุลเล๊าะ วาแม ผู้แทนองค์กรฯ ภาคใต้ ๒.๕ นายสมศักดิ์ เทพตุ่น ผู้แทนองค์กรฯ
ภาคเหนือ ๒.๖ นายบุญธรรม คงสกูล ผู้แทนองค์กรฯ
เครือข่าย ๒.๗ นายมณเฑียร สอดเนื่อง ผู้แทนองค์กรฯ เครือข่าย ๒.๘ นายบุญส่ง ศรีสายัณห์ ผู้แทนองค์กรฯ เครือข่าย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2872 | รายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการประมงและกิจการประมงทั้งระบบ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการประมงและกิจการประมงทั้งระบบ
สภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงคมนาคม
กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2873 | รายงานประจำปี 2565 ของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ | กห. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
๒๕๖๕ ของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ซึ่งผู้สอบบัญชีได้ตรวจรับรองในส่วนของรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินแล้ว
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2874 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา) | กค. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง [ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล)] โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มิถุนายน
๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2875 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายดุสิต เมนะพันธุ์) | กต. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายดุสิต เมนะพันธุ์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๔ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2876 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กต. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งต่อฝ่ายสหภาพยุโรปเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เพื่อให้ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับสหภาพยุโรปว่าด้วยการยอมรับแลสเซ – ปาสเซ (Laissez Passer) ที่ออกโดยสหภาพยุโรปว่าเป็นเอกสารการเดินทางที่สมบูรณ์มีผลใช้บังคับ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา พ.ศ.
๒๕๔๕ เพื่อรองรับการตรวจลงตราประเภททูต ประเภทราชการ และประเภทอัธยาศัยไมตรี
สำหรับหนังสือเดินทางสหภาพยุโรป และสอดคล้องกับความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับสหภาพยุโรปว่าด้วยการยอมรับแลสเซ-ปาสเซ
(Laissez Passer) ที่ออกโดยสหภาพยุโรปว่าเป็นเอกสารการเดินทางที่สมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2877 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการมอบหมายหน่วยงานให้ปฏิบัติหน้าที่หน่วยประสานงานหลัก (National Designated Authority : NDA) ของกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund : GCF) | ทส. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการมอบหมายหน่วยงานให้ปฏิบัติหน้าที่หน่วยประสานงานหลัก
(National Designated Authority : NDA) ของกองทุนภูมิอากาศสีเขียว
(Green Climate Fund : GCF) ดังนี้ ๑)
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๘ เรื่อง
สรุปผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สมัยที่ ๒๐ และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๑๐ ณ กรุงลิมา
สาธารณรัฐเปรู จากเดิม “สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยประสานงานกลาง (National Focal Point) ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เป็นหน่วยประสานงานหลัก ของกองทุนภูมิอากาศสีเขียว” เป็น “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยประสานงานกลางของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เป็นหน่วยประสานงานหลักของกองทุนภูมิอากาศสีเขียว” และ ๒) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๐ เรื่อง การแต่งตั้งผู้มีอำนาจ (Designated Authority) สำหรับกองทุน Green Climate Fund ของประเทศไทย
จากเดิม “มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นผู้จัดทำกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ตลอดจนรูปแบบวิธีการอื่น ๆ
ที่จำเป็นต้องกำหนดหรือบัญญัติขึ้นภายในประเทศเพื่อรองรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
พร้อมทั้งเป็นผู้พิจารณาโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่ต้องการขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียวให้ถูกต้องตามระเบียบราชการต่อไป”
เป็น “มอบหมายกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้จัดทำกฎหมาย
กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ตลอดจนรูปแบบวิธีการอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องกำหนดหรือบัญญัติขึ้นภายในประเทศเพื่อรองรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
พร้อมทั้งเป็นผู้พิจารณโครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่ต้องการขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียวให้ถูกต้องตามระเบียบราชการต่อไป”
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2878 | รายงานผลการวิเคราะห์ดัชนีการรับรู้การทุจริต ประจำปี พ.ศ. 2566 (Corruption Perceptions Index: CPI 2023) และรายงานผลการขับเคลื่อนการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ปปท. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการวิเคราะห์ดัชนีการรับรู้การทุจริต ประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๖ (Corruption
Perceptions Index : CPI 2023) และรายงานผลการขับเคลื่อนการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ซึ่งไทยได้คะแนน CPI ๓๕ คะแนน
(จากคะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน) อยู่ในอันดับที่ ๑๐๘ (จาก ๑๘๐ ประเทศ
ที่ได้รับการประเมิน) และอยู่ในอันดับที่ ๔ ของอาเซียน (ลดลงจากปี ๒๕๖๕ ที่ได้ ๓๖
คะแนน อยู่ในอันดับที่ ๑๐๑) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2879 | มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2567 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 2567/2568 | นร.14 | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝน
ปี ๒๕๖๗ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี ๒๕๖๗
และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี ๒๕๖๗/๒๕๖๘ และมอบหมายหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว
โดยรายงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติทราบ พร้อมทั้งสรุปผลการดำเนินงานรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นควรให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรรหรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
หรือโอนจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
และงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ ในโอกาสแรกก่อน โดยคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน
ความประหยัด ความคุ้มค่า ผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินมาตรการรับมือฤดูฝน ปี ๒๕๖๗
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และควรจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่และโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุทกภัยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงความต้องการของประชาชนและทันต่อสถานการณ์
รวมทั้งนำผลการดำเนินการมาตรการรับมือฤดูฝนในปีที่ผ่านมา
และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการต่าง ๆ มาใช้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต่อไปด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน
ปี ๒๕๖๗ และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี ๒๕๖๗/๒๕๖๘ เนื่องจากงบประมาณปี ๒๕๖๗
มีความล่าช้า โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๗
และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๖๘
ของหน่วยงานต่าง ๆ ดังนั้น
ควรให้หน่วยงานผนวกแผนงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน
ปี ๒๕๖๗ และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี ๒๕๖๗/๒๕๖๘ เข้าสู่กระบวนการขอรับการจัดสรรงบประมาณ
ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อให้การกลั่นกรองตรวจสอบความคุ้มค่าและลดความซ้ำซ้อนของแผนงานและโครงการได้อย่างรอบคอบ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 2880 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษารูปแบบ Fast Track สำหรับบุคคลที่มีสมรรถนะสูง ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา | ศธ. | 04/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษารูปแบบ Fast
Track สำหรับบุคคลที่มีสมรรถนะสูง ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา
ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สรุปได้ว่ากรอบคุณวุฒิแห่งชาติครอบคลุมกรอบคุณวุฒิการศึกษาที่เน้นการประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ตามสมรรถนะของบุคคลทั้งคุณวุฒิทางการศึกษา
และมาตรฐานอาชีพ และกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการจัดทำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
(ฉบับปรับปรุง) เพื่อใช้เป็นกลไกในการเชื่อมโยงระบบการเรียนรู้ของภาคการศึกษาให้ยึดโยงกับมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ตลาดแรงงานยอมรับ
และได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาอาชีพที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการพัฒนาประเทศตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕
เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมอันจะนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานอาชีพ
รวมถึงได้ทดลองนำร่องจัดตั้งธนาคารหน่วยกิตระดับจังหวัดใน ๔ ภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อสร้างระบบการสะสมและการเทียบโอนหน่วยการเรียนทั้งการศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบให้มีความยืดหยุ่นหลากหลายในช่วงวัยเรียน
และวัยทำงาน โดยจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อพร้อมรองรับได้อย่างสะดวก
และง่ายต่อการดำเนินการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
