ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 129 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 2561 - 2580 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2561 | ขอความเห็นชอบและอนุมัติให้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานการค้าต่างประเทศแห่่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียว่าด้วยการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน | พณ. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานการค้าต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียว่าด้วยการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานการค้าต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียว่าด้วยการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ
อันจะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างกัน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรผลักดันให้มีความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้
โดยเฉพาะค่านิยม ธรรมเนียมประเพณี ข้อปฏิบัติทางศาสนา มาตรฐานที่จำเป็น
และพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งการพัฒนาสินค้าเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ฮาลาล
เครื่องสำอาง เกษตรและอาหาร ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย
พร้อมทั้งควรมีการประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อยกระดับสินค้าและบริการให้สามารถตอบโจทย์ตลาดดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2562 | ร่างแถลงการณ์ร่วมในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 13 | มท. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน
ครั้งที่ ๑๓ (Joint Statement of The Thirteenth ASEAN
Ministers Meeting on Rural Development and
Poverty Eradication) ระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ
สาธารณรัฐสิงคโปร์ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน
มีหนังสือแจ้งผลการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียนภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและรับรองแล้ว
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมการดำเนินงานและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนของอาเซียน
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2563 | ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา จำนวน 4 ฉบับ | อว. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบ ๑.๑
ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์
การวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓
ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔
ร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน
๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป โดยให้แจ้งประธานรัฐสภาทราบด้วยว่าร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๔
ฉบับดังกล่าวเป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด ๑๖
การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2564 | การขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติอินเดียและไต้หวัน เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว | กต. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติอินเดียและไต้หวัน
เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติอินเดียและไต้หวัน
และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน ๓๐ วัน เป็นกรณีพิเศษ เพิ่มเติมอีก ๖ เดือน
ตั้งแต่วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ จนถึงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและไต้หวันที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
และช่วยเพิ่มรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในภาพรวม
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. เห็นชอบในหลักการ ๒.๑
ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
กำหนดให้ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของสาธารณรัฐอินเดีย
ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว
ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน
เป็นกรณีพิเศษ และ ๒.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง กำหนดให้ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของไต้หวัน
ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว
ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวัน
เป็นกรณีพิเศษ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแก้ไขปรับปรุงร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ รวม ๒ ฉบับ
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2565 | การเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน | นร. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเกิดพายุฤดูร้อนและฝนฟ้าคะนองในช่วงระหว่างวันที่
๘-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ต่าง ๆ ในหลายจังหวัด นั้น
ขอมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว
ทั่วถึง เท่าทันสถานการณ์ รวมตลอดถึงการดูแลสถานที่ราชการต่าง ๆ (
โดยเฉพาะโรงพยาบาล โรงเรียน และหน่วยงานบริการต่าง ๆ
ในท้องที่ให้สามารถเปิดให้บริการประชาชน/ดำเนินงานได้ตามปกติด้วย)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2566 | การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรีและกลั่นกรองเรื่องก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี | นร.05 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายพิชิต ชื่นบาน)
เป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรีที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายพิชิต ชื่นบาน)
เป็นผู้พิจารณากลั่นกรองเรื่องดังต่อไปนี้ก่อนนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป ๒.๑
เรื่องการดำเนินคดีในศาลปกครองในกรณีที่คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี
หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถูกฟ้องในคดีปกครอง ๒.๒
เรื่องการดำเนินคดีในศาลรัฐธรรมนูญในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2567 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การส่งออกข้าวภายใต้โควตาภาษีไปสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | พณ. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
เรื่อง การส่งออกข้าวภายใต้โควตาภาษีไปสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง
การส่งออกข้าวภายใต้โควตาภาษีไปสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๔ โดย ๑)
กำหนดให้ข้าวขาวและข้าวหักที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปและจะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามความตกลงระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศไทย
เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองการส่งออก (Export Certificate) ที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศไปประกอบการขอใบอนุญาตนำเข้า
(Import License) จากสหภาพยุโรป และ ๒) กำหนดให้ข้าวขาวที่ส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรและจะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามความตกลงระหว่างสหราชอาณาจักรกับประเทศไทยและกฎระเบียบของสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวข้อง
เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองการส่งออก (Export Certificate) ที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศไปประกอบการขอใบอนุญาตนำเข้า (Import License) จากสหราชอาณาจักร (เดิม
กำหนดให้ทั้งข้าวขาวและข้าวหักที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรและจะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองการส่งอก (Export Certificate) ที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศไปประกอบการขอใบอนุญาตนำเข้า (Import
License) จากสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรตามลำดับ) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการอ้างบทอาศัยอำนาจในร่างประกาศฯ
โดยเห็นควรให้ตัดการอ้างวรรคหนึ่งของมาตรา ๕ ออก และระบุเป็นมาตรา ๕ (๕)
และวรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า
พ.ศ. ๒๕๒๒ เนื่องจากตามมาตรา ๕ ไม่มีอนุมาตราในวรรคอื่น และควรตัดข้อความ “เมื่อวันที่
๓๐ เมษายน ๒๕๒๒”
เนื่องจากวันเดือนปีดังกล่าวเป็นรายละเอียดซึ่งมิต้องระบุไว้ในบทอาศัยอำนาจของร่างประกาศฯ
นี้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2568 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ และการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2569 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จำนวน 2 โครงการ (โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง จังหวัดชลบุรี และโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง) | กษ. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จำนวน ๒
โครงการ ประกอบด้วย ๑) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง จังหวัดชลบุรี จากเดิม ๑๔ ปี
(ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ - พ.ศ. ๒๕๖๖) เป็น ๑๗ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ - พ.ศ.
๒๕๖๙) ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม และ ๒) โครงการกิ่วคอหมา
จังหวัดลำปาง จากเดิม ๑๙ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - พ.ศ. ๒๕๖๖) เป็น ๒๒ ปี (ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๘ - พ.ศ. ๒๕๖๙) ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เร่งรัดการดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง
จังหวัดชลบุรี และโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง
ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในกรอบเวลาที่ได้รับการขยายไว้ในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เช่น ควรเร่งรัดดำเนินการทั้ง ๒
โครงการให้เป็นไปตามแผนไม่ให้เกิดความล่าช้าและขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปอีก และมีแผนการติดตามตรวจสอบและเร่งรัดให้การดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่ขอขยายไว้
ควรประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
โดยคำนึงถึงความถูกต้อง โปร่งใส และประโยชน์สูงสุดของรัฐและประชาชน รวมทั้งความคุ้มค่าที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2570 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการชำระค่าภาคหลวงและรายได้อื่น ๆ จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมให้แก่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พน. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการชำระค่าภาคหลวงและรายได้อื่น ๆ
จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมให้แก่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซีย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยการชำระค่าภาคหลวงและรายได้อื่น
ๆ จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมให้แก่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซีย
พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อขยายขอบเขตวัตถุประสงค์ของการใช้เงินบำรุงการวิจัยให้ครอบคลุมถึงหัวข้อการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
อาทิ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) โดยเฉพาะการดักจับและการจัดเก็บคาร์บอน
(CCS) และการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการจัดเก็บคาร์บอน (CCUS) รวมถึงการบริหารและประเมินโครงการวิจัย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2571 | มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี | นร.04 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้
คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับ
ดังนี้ ๑.๑
นายภูมิธรรม เวชยชัย ๑.๒
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ๑.๓
นายพิชัย ชุณหวชิร ๑.๔
นายอนุทิน ชาญวีรกูล ๑.๕ พลตำรวจเอก
พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ๑.๖
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ๒. ในระหว่างการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ผู้รักษาราชการแทนข้างต้น
จะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรีได้ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเสียก่อน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2572 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี 2567 และเอกสารที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี
๒๕๖๗ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ ๑. ร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี
๒๕๖๗ มีสาระสำคัญ เช่น (๑) การปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. ๒๐๔๐
และเอกสารผลลัพธ์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในปีต่าง ๆ (๒) การแสดงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก
สมัยสามัญ ครั้งที่ ๑๓ (๓)
การเน้นย้ำเพื่อขับเคลื่อนวาระงานเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (๔)
การยึดมั่นในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการโครงสร้างความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระยะที่
๓ และแผนแม่บทความเชื่อมโยงในเอเปค (๕) การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการหารือเรื่องปัญญาประดิษฐ์
(๖)
การให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนแผนการดำเนินการเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถภาคบริการเอเปค
(๗) การสนับสนุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจนอกระบบมาสู่เศรษฐกิจที่เป็นทางการ และ
(๘) การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับสตรีวิสาหกิจขนาดกลาง
ขนาดย่อมและรายย่อย และกลุ่มผู้ที่ยังไม่ใด้รับการปลดปล่อยทางเศรษฐกิจ เป็นต้น ๒. ร่างปฏิญญาอาเรกีปาของรัฐมนตรีด้านสตรีและรัฐมนตรีการค้าเอเปค
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของสตรีในการค้าผ่าน
(๑) การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยการมีส่วนร่วมของสตรีในการค้า (๒)
การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศเกี่ยวกับข้อมูลและนโยบายการค้าบนพื้นฐานของเพศสภาพ
(๓) การส่งเสริมการพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างศักยภาพ และ (๔)
การระบุแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านการเงิน การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล
และนโยบายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี ๒๕๖๗
และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
ที่เห็นว่าร่างถ้อยแถลงฯ และร่างปฏิญญาฯ
จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี
๒๕๖๗ และเอกสารที่เกี่ยวข้องในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2573 | ร่างปฏิญญาสำหรับการประชุมรัฐภาคีสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Prohibition of Nuclear Weapons-TPNW) ครั้งที่ 2 (Second Meeting of States Parties-2MSP) | นร.08 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาสำหรับการประชุมรัฐภาคีสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
(Treaty on the
Prohibition of Nuclear Weapon : TPNW) ครั้งที่
๒ (Second Meeting of States Parties :
2MSP) และให้เอกอัครราชทูต
ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
ครั้งที่ ๒ หรือผู้แทน ร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐภาคีสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
อาทิ ๑) แสดงความกังวลต่อผลกระทบด้านมนุษยธรรมอันเกิดจากอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการอยู่รอดของมนุษย์
และ ๒)
การขู่หรือการใช้อาวุธนิวเคลียร์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรของสหประชาชาติ
โดยรัฐภาคีประณามการกระทำดังกล่าว ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ประสานงาน
เสนอมาตรการปฏิบัติของไทยเพื่อให้เป็นไปตามเนื้อหาร่างปฏิญญาฯ รวมทั้งการปฏิบัติตามสนธิสัญญาต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น
สนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast
Asia Nuclear Weapon-Free Zone : SEANWFZ) ด้วย และจำเป็นต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานภายใต้ร่างปฏิญญาฯ
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2574 | ขอความร่วมมือหน่วยงานความมั่นคงในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประชาชน | นร. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการระบายน้ำและการทำการเกษตรในพื้นที่ต่าง
ๆ ของเกษตรกร จึงขอให้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานด้านความมั่นคงต่าง ๆ
โดยเฉพาะหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเร่งดำเนินการขุดลอกแหล่งน้ำและคูคลองในพื้นที่ต่าง
ๆ ให้เหมาะสมแก่การรองรับและระบายน้ำในพื้นที่ นอกจากนี้
ขอให้กระทรวงกลาโหมเร่งรัดการดำเนินการจัดสรรพื้นที่ในความครอบครองของหน่วยงานต่าง
ๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้แก่ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์
ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมทั้งพิจารณาจัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดด้วย
ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงกลาโหมรายงานความคืบหน้าและแผนงานการปฏิบัติงานในเรื่องต่าง ๆ
ดังกล่าวข้างต้นต่อคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมครั้งต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2575 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 | นร.02 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า
นายกรัฐมนตรีได้ลากิจในวันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๒.๐๐ น. ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดให้การลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2576 | ร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
(ฉบับที่ ..) พ.ศ .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ มาตรา ๑๒ (๑๑) ทั้งอนุมาตรา
โดยแก้ไขปรับปรุงลักษณะต้องห้ามของผู้ใหญ่บ้าน
และกำหนดการกระทำความผิดตามกฎหมายและฐานความผิดตามบัญชี ก และบัญชี ข
ท้ายพระราชบัญญัติฯ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานศาลยุติธรรม ที่เห็นว่าร่างข้อ ๑๒ (๑๑)
มิได้กำหนดระยะเวลาของการลงโทษไว้แต่อย่างใดทำให้ไม่สอดคล้องกับเหตุผลในการเสนอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2577 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๑,๔๖๕ รายการ เป็นวงเงินภาระผูกพัน รวมทั้งสิ้น ๓๔๓,๙๐๗.๔
ล้านบาท สำหรับรายการที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๒๒ รายการ วงเงิน ๑๖๒,๕๗๕.๒ ล้านบาท
และเมื่อทราบผลประกวดราคาแล้ว
ให้หน่วยรับงบประมาณนำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป ๒.
อนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง
การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง)
สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามที่เสนอได้ ๓. อนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณ จำนวน ๑๑ หน่วย
ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว กรมท่าอากาศยาน
สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมราชทัณฑ์
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สถาบันพระบรมราชชนก สถาบันวิทยาลัยชุมชุน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ผูกพันงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณพ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๗๒
เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ (เรื่อง
ขอปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ)
เพื่อให้สามารถลงนามในสัญญาเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ ระยะเวลา ๕ ปี (๖๐ เดือน)
ได้ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ
และยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาการดำเนินงานจริง ๔.
รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น
รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน ค่าเช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ
ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้รับอนุมัติเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยน
ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณสามารถปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2578 | ขออนุมัติหลักการกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 | นร.01 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๗๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
โดยการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดและค่าใช้จ่ายตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
และนำเสนอคณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณฯ ให้ความเห็นชอบ
เมื่อส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบผลการพิจารณาแล้ว ให้นำเสนอรองนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล พิจารณาให้ความเห็นชอบ
เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณโดยตรง
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2579 | ร่างกฎกระทรวงการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในการประกอบกิจการปิโตรเลียมในทะเลในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย พ.ศ. .... | พน. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในการประกอบกิจการปิโตรเลียมในทะเลในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดภาระหน้าที่ของผู้ได้รับสัญญาซึ่งทำสัญญาแบ่งปันผลผลิตกับองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
ในการดำเนินงานที่จำเป็นทั้งปวงที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้าย การกำจัดที่สมควร
การรื้อถอน หรือการกอบกู้แท่นผลิตหรือสิ่งติดตั้งใดในทะเล
รวมทั้งโครงก่อสร้างเทียมและอุปกรณ์ปากหลุมที่องค์กรร่วมฯ
เห็นว่าใช้ประโยชน์มิได้หรือไม่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานอีกต่อไป
การจ่ายเงินและการใช้เงินจากกองทุนรื้อถอน
การเสนอแผนงานและขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติอนุญาต
ตลอดจนความรับผิดชอบของผู้ได้รับสัญญา ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้ร่างกฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามหลักปกติที่กำหนดไว้ในมาตรา
๕ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย พ.ศ. ๒๕๓๓ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2580 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 4 ฉบับ (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 166/2567-169/2567) | นร.04 | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
รวม ๔ ฉบับ ดังนี้ ๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๖๖/๒๕๖๗ เรื่อง
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง
ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๖๗/๒๕๖๗ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๓. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๖๘/๒๕๖๗ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗
|