ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1101 จากทั้งหมด 6217 หน้า แสดงรายการที่ 22001 - 22020 จากข้อมูลทั้งหมด 124327 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22001 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลทางเกวียน และตำบลบ้านนา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลทางเกวียน และตำบลบ้านนา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลทางเกวียน และตำบลบ้านนา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่สามารถเข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์เร่งด่วนเพื่อการก่อสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบตามโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำประแสร์ได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
22002 | การรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2558 ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 | กค | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ โดยยอดหนี้สาธารณะคงค้างมีจำนวน ๕,๗๘๓,๓๒๓.๑๙ ล้านบาท หรือร้อยละ ๔๒.๙๙ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีได้จัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ เพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารจัดการหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ มีวงเงินรวมในแผนฯ ๑,๔๖๕,๒๐๐.๔๓ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้เป็นวงเงิน ๑,๒๙๕,๕๘๔.๓๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๔๓ ของแผนฯ และจากการติดตามผลการดำเนินโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๘ แห่ง พบว่ามีรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง ที่มีการดำเนินโครงการล่าช้ากว่าแผน ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
|
||||||||||||||||||||||||
22003 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก) | มท | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จากโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เป็นโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ภายใต้วงเงินงบประมาณเดิม จำนวน ๒๒,๖๓๓,๖๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณปี ๒๕๕๙-๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยขอตกลงความเหมาะสมของราคากับสำนักงบประมาณก่อนลงนามในสัญญาตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งรัดทำความเข้าใจกับเจ้าของที่ดินที่อยู่ระหว่างตัดสินใจเข้าร่วมโครงการจัดรูปที่ดินบริเวณดังกล่าวเพื่อให้โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ตลอดจนเร่งรัดการก่อสร้างถนนโครงการตามผังเมืองรวมเมืองพิษณุโลก สาย ฉ ๑ เพื่อเปิดพื้นที่และบรรเทาปัญหาการจราจรบนถนนมิตรภาพให้สอดคล้องกับการดำเนินโครงการ รวมทั้งเร่งรัดดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของรัฐบาล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22004 | การแต่งตั้งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน วาระปี 2559 - 2561 (ดร. เสรี นนทสูติ) | กต | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการแต่งตั้ง ดร. เสรี นนทสูติ เป็นผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights : AICHR) สำหรับวาระระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘-๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งการแต่งตั้ง ดร. เสรี นนทสูติ เป็นผู้แทนไทยใน AICHR วาระปี ๒๕๕๙-๒๕๖๑ ให้เลขาธิการอาเซียนและประเทศสมาชิกอาเซียนทราบ
|
||||||||||||||||||||||||
22005 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อย ปี 2557 และข้อเสนอแนะจากที่ประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ปี 2558 | กค | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทย่อย ปี ๒๕๕๗ และข้อเสนอแนะจากที่ประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ปี ๒๕๕๘ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ฐานะการเงินและผลการดำเนินการของ กบข. และบริษัทย่อยปี ๒๕๕๗ มีสินทรัพย์สุทธิรวมเพิ่มขึ้นจากเดิม ๖๓๖,๘๖๒.๘๐ ล้านบาท เป็น ๗๑๓,๙๔๔.๙๒ ล้านบาท และมีผลประโยชน์สุทธิรวมเพิ่มขึ้นจากเดิม ๒๓,๖๔๓.๕๗ ล้านบาท เป็น ๓๗,๘๑๐.๗๕ ล้านบาท โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินของ กบข. แล้วพบว่าถูกต้องตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ๒. ในการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี ๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ผู้แทนสมาชิกได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น ปัจจัยที่จะทำให้สมาชิกมั่นใจในการบริหารเงินของสมาชิก การแก้ไขสูตรการคำนวณบำนาญ กบข. และการแสดงความประสงค์กลับไปอยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญ (UNDO)
|
||||||||||||||||||||||||
22006 | รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนตุลาคม ปี 2558 | พณ | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนตุลาคม ปี ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. มูลค่าการค้าระหว่างประเทศในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ มีมูลค่า ๑๘,๕๖๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ ๘.๑๑ (YoY) เนื่องจากช่วงต้นปี ๒๕๕๗ การส่งออกชะลอตัวจากปัจจัยทางการเมือง และกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ ๔ ของปี ๒๕๕๗ ส่งผลให้ไตรมาสสุดท้ายของปี ๒๕๕๗ การส่งออกมีมูลค่าสูงและเป็นไตรมาสเดียวที่ขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ ๑.๕๘ (YoY) ในขณะที่การนำเข้าเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ มีมูลค่า ๑๖,๔๖๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ ๑๘.๒๑ (YoY) ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ เกินดุล ๒,๑๐๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ๒. มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตรหดตัวตามราคาสินค้าเกษตรโลก เดือนตุลาคม ๒๕๕๘ ลดลงร้อยละ ๑๐.๓ (YoY) ตามทิศทางของราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญอย่างยางพารา จะมีปริมาณส่งออกสูงขึ้น แต่ราคายังคงอยู่ในระดับต่ำทำให้มูลค่าการส่งออกหดตัวลง โดยสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรมีมูลค่าการส่งออกที่เปลี่ยนแปลงไป (YoY) ได้แก่ ยางพารา ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แห้ง น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋องและแปรรูป รวมทั้งไก่แปรรูป ๓. มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวลง เดือนตุลาคม ๒๕๕๘ ลดลงร้อยละ ๖.๖ (YoY) โดยสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของไทยคือ รถยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัวที่ร้อยละ ๐.๒ (YoY) ในขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันดิบหรืออุตสาหกรรมที่มีโครงสร้างการใช้วัตถุดิบซึ่งมาจากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกลดลงต่อเนื่องตามภาวะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว และมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำไปจนถึงสิ้นปี หากไม่รวมสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและทองคำ มูลค่าการส่งออกรวมของไทยในเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ จะหดตัวร้อยละ ๖.๗ (YoY)
|
||||||||||||||||||||||||
22007 | ผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ครั้งที่ 4/2558 | กค | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศเสนอ ซึ่งที่ประชุมฯ มีความเห็นและข้อเสนอแนะ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
๑. รับทราบความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมการลงทุนผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย มาตรการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ มาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระยะเร่งด่วน และมาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงตารางการรายงานความคืบหน้าของโครงการภายใต้การขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้มีความชัดเจน อาทิ ประเภทของแหล่งเงินในการดำเนินโครงการ ระยะเวลาการดำเนินโครงการ แผนการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งรายปีและรายไตรมาส อัตราการเบิกจ่ายจริงเทียบกับประมาณการอัตราการเบิกจ่ายตามแผน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในกรณีที่อัตราการเบิกจ่ายจริงต่ำกว่าเป้าหมาย และเสนอแนะแนวทางหรือมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาและเร่งรัดการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมาย และนำเสนอที่ประชุมในโอกาสต่อไป ๓. มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประสานกับธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อแจ้งผลการให้สินเชื่อกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยแก่ผู้ว่าราชการและนายอำเภอได้รับทราบ เพื่อให้การดำเนินมาตรการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งให้มีการพิจารณาเรื่องการประเมินผลเพื่อยกระดับกองทุนที่มีศักยภาพจากระดับ C เป็นระดับ B ๔. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโครงการภายใต้มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลและมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ ๕. มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประสานธนาคารออมสินสอบถามความเห็นของธนาคารพาณิชย์ว่ามาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ตรงกับความต้องการของตลาดมากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการปรับปรุงนโยบายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ๖. มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบการติดตามและรายงานความคืบหน้าของมาตรการการเงินการคลังเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ (๑) มาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (๒) มาตรการการลดค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และ (๓) มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ (สำหรับอาคารพร้อมที่ดินหรือห้องชุดในอาคารชุดมูลค่าไม่เกิน ๓ ล้านบาท) ๗. ให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว ได้แก่ มาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระยะเร่งด่วน และมาตรการการเงินการคลังเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ถือเป็นมาตรการที่อยู่ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ให้มีการติดตามความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรค เพื่อรายงานต่อที่ประชุมทุกเดือน
|
||||||||||||||||||||||||
22008 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง ในจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... | ศย | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการของศาลแขวง ในจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตอำนาจและวันเปิดทำการศาลแขวงพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
22009 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพัดลมไฟฟ้ากระแสสลับ - คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพัดลมไฟฟ้ากระแสสลับ-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพัดลมไฟฟ้ากระแสสลับ-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย เกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมพัดลมไฟฟ้ากระแสสลับ-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22010 | ผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 27 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุน | พณ | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๗ (APEC Ministerial Meeting : AMM) และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๓ (APEC Economic Leader’s Meeting : AELM) ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุน ภายใต้หัวข้อ “การสร้างเศรษฐกิจที่เท่าเทียม การสร้างโลกที่ดีขึ้น (Building Inclusive Economies, Building a Better World)” โดยที่ประชุมได้เห็นชอบผลการดำเนินงานของเอเปคปี ๒๕๕๘ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลัก มีสาระสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการก้าวสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี และหารือทวิภาคีกับ ๗ ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฮ่องกง ชิลี รัสเซีย และเปรู และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22011 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... | คค | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายถนนราชพฤกษ์ ตอนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๖-ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔๕ กับสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนกาญจนาภิเษก ที่แยกต่างระดับสาลิโข-แยกต่างระดับโค้งสามวัง และแยกต่างระดับไพร่ฟ้า-แยกต่างระดับบางโพธิ์ใต้ รวมทั้งถนนต่อเชื่อม ตามโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์-ถนนกาญจนาภิเษก และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบให้กระทรวงคมนาคมรับไปดำเนินการในการกำหนดราคาและค่าตอบแทนตามข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
22012 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 14 และการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | กต | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ ๑๔ ระหว่างวันที่ ๙-๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ที่กรุงเทพมหานคร ๑.๒ เห็นชอบในหลักการกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Summit) ครั้งที่ ๒ และการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม ๒๕๕๙ ที่กรุงเทพมหานคร ๑.๓ ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานต่าง ๆ ประกอบด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อเตรียมการสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ACD Summit ครั้งที่ ๒ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้กระทรวงการต่างประเทศใช้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินภารกิจเร่งด่วนตามสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงด้านการต่างประเทศ ซึ่งได้รับจัดสรรไว้แล้ว จำนวน ๑๗๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป อนึ่ง ในช่วงเวลาเดียวกัน รัฐบาลไทยโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานประสานหลัก (National Coordinator) แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (Greater Mekong Subregion Economic Cooperation : GMS) จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ ๒๑ (the 21st GMS Ministerial Conference) ในการนี้ จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหารือเพื่อเน้นย้ำและผลักดันขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ ที่จะเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศไทยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22013 | การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สำหรับโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | กค | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในวงเงินรวม ๓๑๓.๓๗ ล้านบาท รวมทั้งอนุมัติแหล่งที่มาของเงินทุน รูปแบบ วิธีการ และเงื่อนไขทางการเงินสำหรับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว อย่างไรก็ดี กรณีที่ สพพ. สามารถจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินการดังกล่าวในอัตราที่เหมาะสมตามหลักการประหยัดต้นทุนทางการเงินได้ มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน ตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๑.๒ กรณีการชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้ สพพ. นั้น ให้ใช้เงินสะสมเป็นลำดับแรกก่อน หากไม่เพียงพอก็ขอให้ สพพ. ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า สพพ. ควรมีข้อมูลวงเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงื่อนไขผ่อนปรน (Soft Loan) จากองค์กรระหว่างประเทศอื่น เช่น ธนาคารโลก (World Bank) หรือธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อใช้อ้างอิงประกอบการพิจารณาในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
22014 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ระบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) | ทส | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ระบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอการปฏิรูปรวม ๔ ประเด็น ได้แก่ (๑) การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (๒) การปฏิรูประบบโครงสร้างองค์กรและกฎหมายด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (๓) การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องมือและกลไกในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ (๔) การสร้างความเป็นหุ้นส่วนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22015 | ร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช 2477 ว่าด้วยเครื่องแบบทหารอากาศ ฉบับที่ .. | กห | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหารอากาศ ฉบับที่ .. มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๑๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหารอากาศ ฉบับที่ ๑๓ และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเครื่องแบบทหารอากาศและส่วนประกอบเครื่องแบบทหารอากาศ มีความเป็นมาตรฐานและเหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
22016 | การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างแรกบรรจุของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องวันมีผลใช้บังคับตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ เรื่อง การปรับค่าจ้างชดเชยให้ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างแรกบรรจุของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ๒. ให้การปรับค่าจ้างชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างแรกเข้าทำงานของ กฟผ. มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||
22017 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ครั้งที่ 13 และการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (JDS) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 4 ระหว่างไทยกับมาเลเซีย | กต | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission for Bilateral Cooperation : JC) ครั้งที่ ๑๓ และการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (Joint Development Strategy : JDS) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๔ ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยที่ประชุมฯ ได้มีการหารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ การเร่งรัดการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก การเชื่อมโยงโครงการเมืองยางพารา การบูรณาการเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน การส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมฮาลาล การพิจารณานำเข้าข้าวจากไทยทางบก การเร่งรัดการยกร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงรอบด้านระหว่างไทยกับมาเลเซีย และความร่วมมือในสาขาใหม่ (ด้านประมง ด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควัน) เป็นต้น และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมดังกล่าวไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าในส่วนของผลการประชุม JDS ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๔ ในเรื่องการเชื่อมโยงเมืองยางพาราและการบูรณาการเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการส่งเสริมการลงทุน เห็นควรมอบให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกหน่วยงานหนึ่งด้วย ส่วนการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก เห็นควรเพิ่มเติมหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แก่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ ๔ ร่วมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในด้านการเตรียมการพิธีวางศิลาฤกษ์ และด้านการบูรณาการเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย ควรมุ่งเน้นประเด็นการบูรณาการกับฝ่ายมาเลเซีย โดยให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของไทยกำหนด เพื่อเป็นกรอบแนวทางการบูรณาการกับฝ่ายมาเลเซีย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22018 | ขออนุมัติแต่งตั้งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ เครือรัฐออสเตรเลียคนใหม่ สืบแทน นายวิลเลียม เจมส์ จอห์น ดันน์ (Mr. William James John Dunn) ซึ่งประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายแอนดรูว์ เวนต์เวิร์ท พาร์ก (Mr. Andrew Wentworth Park) ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ เครือรัฐออสเตรเลีย สืบแทน นายวิลเลียม เจมส์ จอห์น ดันน์ (Mr. William James John Dunn) ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22019 | สรุปมติ - ข้อสั่งการที่สำคัญในการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2558 | สลธ.คสช. | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปมติ-ข้อสั่งการที่สำคัญในการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ครั้งที่ ๗/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยมีมติคณะกรรมการรับทราบผลการดำเนินงานเกี่ยวกับด้านการป้องกันการทุจริต ได้แก่ ด้านการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ การสำรวจผลสัมฤทธิ์จากการปฏิบัติตามมติและข้อสั่งการของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ การขับเคลื่อนศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตระดับกระทรวง ด้านการประชาสัมพันธ์การต่อต้านการทุจริต ด้านความร่วมมือข้อตกลงคุณธรรม การเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล การดำเนินงานของภาคเอกชนและต่างชาติในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการต่อต้านการ และมีข้อสั่งการและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามที่คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กรมสรรพากร) กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
22020 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบังที่บ้านสวนมะพร้าว บ้านวังตะโก บ้านนาพร้าว บ้านหนองขาม บ้านนาวัง บ้านหนองน้ำเต้าลอย บ้านโป่งล่าง และบ้านหนองสมอ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 29/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ที่บ้านสวนมะพร้าว บ้านวังตะโก บ้านนาพร้าว บ้านหนองขาม บ้านนาวัง บ้านหนองน้ำเต้าลอย บ้านโป่งล่าง และบ้านหนองสมอ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครอง หรือใช้อสังหาริมทรัพย์ และส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....