ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1057 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 21121 - 21140 จากข้อมูลทั้งหมด 124293 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21121 | การก่อสร้างอาคารสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมรื้อถอน แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 1 หลัง | สธ | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า กรมการแพทย์ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบลงทุนค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รายการอาคารสถาบันโรคผิวหนัง พร้อมรื้อถอน แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร และได้ดำเนินการจ้างก่อสร้างอาคารดังกล่าวด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงินทั้งสิ้น ๙๔๗ ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้เห็นชอบความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้างอาคารดังกล่าวแล้ว โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ ๘๘๐.๗๑ ล้านบาท และเงินนอกงบประมาณสมทบ ๖๖.๒๙ ล้านบาท โดยในส่วนของงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๒๑๓.๕๘ ล้านบาท ส่วนที่เหลือ ๖๖๗.๑๓ ล้านบาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับให้ครบวงเงินค่างานตามสัญญาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21122 | ขอให้คณะรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล | ปช | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอขอให้คณะรัฐมนตรีสั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินส่งข้อมูลหรือคำสั่งทางราชการในการบริหารบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีดังกล่าว ให้ สำนักงาน ป.ป.ช. ทราบทุกครั้งที่มีการแต่งตั้ง โยกย้าย สับเปลี่ยนตำแหน่ง ออกจากราชการ และเกษียณอายุราชการ และแจ้งให้ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้สำนักงาน ป.ป.ช. ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ตามมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ในการประชุมครั้งที่ ๗๒๕-๙๗/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ และครั้งที่ ๗๓๔-๐๘/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๙ ๒. ให้หัวหน้าหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ ๗๒๕-๙๗/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ และครั้งที่ ๗๓๔-๐๘/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๙ |
||||||||||||||||||||||||
21123 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลของ กขร. ห้วงเดือนมกราคม 2559 | นร04 | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่องการปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และการแก้ไขปัญหายาเสพติด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ เผยแพร่การดำเนินการเรื่องที่อยู่อาศัยที่รัฐจัดให้แก่ผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส รวมถึงหลักเกณฑ์และรูปแบบการให้สิทธิประโยชน์ เช่น ให้เช่า ให้ผ่อนชำระ หรือให้เปล่า กับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มให้ชัดเจนเพื่อให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและกระทรวงยุติธรรมเร่งรัดการแก้ไขกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมรวม ๗ ฉบับ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามเรื่องร้องเรียนหรือร้องทุกข์ที่เกี่ยวกับยาเสพติดจากประชาชนด้วย ๒. รับทราบสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบาลรัฐบาล ครั้งที่ ๑๖ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๓๑ มกราคม ๒๕๕๙) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๒.๑ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น และการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ๒.๒ การปฏิรูปประเทศ การดำเนินการเชิงนโยบาย คณะกรรมการปฏิรูปและขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน จำนวน ๖ คณะ ได้แก่ คณะที่ ๑ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และระบบการศึกษา คณะที่ ๒ ด้านเศรษฐกิจการเงิน การคลัง การลงทุนภาครัฐ และโครงสร้างพื้นฐาน คณะที่ ๓ ด้านระบบราชการ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและสร้างความปรองดองสมานฉันท์ คณะที่ ๔ ด้านสาธารณสุข คณะที่ ๕ ด้านความมั่งคง ลดความเหลื่อมล้ำการเกษตรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วนและการแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และคณะที่ ๖ ด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการกีฬา ๒.๓ การบริหารราชการแผ่นดิน มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน การบริหารเศรษฐกิจ การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม สนับสนุนการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของประเทศ การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม |
||||||||||||||||||||||||
21124 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน (กบพร.) ครั้งที่ 1/2559 | นร11 | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน ถอนเรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน (กบพร.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ คืนไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
21125 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 59 และท่าทีประเทศไทยสำหรับเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหา ยาเสพติดโลก ค.ศ. 2016 | ยธ | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ ๕๙ (59th Session of the Commission on Narcotic Drugs : CND) ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย โดยผลการประชุมฯ ครอบคลุมเนื้อหาหลักที่ได้กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย (Safe Mekong) ๓ หัวข้อหลัก คือ การลดอุปสงค์ยาเสพติดและมาตรการที่เกี่ยวข้อง การลดอุปทานยาเสพติดและมาตรการที่เกี่ยวข้อง การปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนความร่วมมือทางกระบวนการยุติธรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบการเปลี่ยนแปลงตารางการควบคุมสารเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จำนวน ๗ ชนิด ๑.๒ เห็นชอบร่างเอกสารท่าทีประเทศไทยสำหรับเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก ค.ศ. ๒๐๑๖ (United Nations General Assembly Special Session 2016 : UNGASS 2016) ตั้งแต่วันที่ ๑๙-๒๑ เมษายน ๒๕๕๙ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหัวข้อเกี่ยวกับการลดอุปสงค์ยาเสพติดและมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การลดอุปทานยาเสพติดและมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมาตรการความเชื่อมโยงข้ามประเด็นในเรื่องของยาเสพติดและสิทธิมนุษยชน เยาวชน สตรี เด็ก และชุมชน ความเชื่อมโยงข้ามประเด็นในเรื่องของความท้าทายใหม่ ๆ การพัฒนาทางเลือก ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ระดับระหว่างภูมิภาค และระดับระหว่างประเทศ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารท่าทีประเทศไทยสำหรับเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก ค.ศ. ๒๐๑๖ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นรูปธรรม โดยเน้นการปลูกจิตสำนึกและสร้างการมีส่วนร่วมของสังคม ชุมชน และครอบครัวในการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21126 | ขอความเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร | กห | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Russian Federation on Military Cooperation) โดยร่างความตกลงฯ มีขอบเขตความร่วมมือประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนมุมมองและข่าวสารในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันในด้านยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศและด้านการทหารในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย การพัฒนาความร่วมมือด้านการฝึกร่วม การศึกษาทางทหาร การแพทย์ทหาร การแผนที่ทหาร อุทกศาสตร์ และการกีฬาและวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการรักษาสันติภาพภายใต้กรอบขององค์การสหประชาชาติ ความร่วมมือในการค้นหาและกู้ภัยในทะเล ความร่วมมือด้านการต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัด และความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ที่คู่ภาคีเห็นพ้องร่วมกัน ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ร่วมลงนามในร่างความตกลงฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21127 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานหลักในการปราบปรามการลักลอบนำสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษี เช่น กากถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม หรือสินค้าที่ผิดกฎหมาย เข้าประเทศตามแนวชายแดน รวมทั้งดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าดังกล่าวด้วย ๒. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๒.๑ ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณากำหนดให้มีกลไกในลักษณะคณะทำงานหรือกลุ่มงาน ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพเพื่อทำหน้าที่ติดตามคดีสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยเฉพาะในขั้นตอนการดำเนินการของพนักงานสอบสวน เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ๒.๒ ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการเกี่ยวกับการนำตัวผู้กระทำผิดกฎหมายที่หลบไปพำนักในต่างประเทศกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นั้น ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้น และสร้างความเข้าใจแก่สังคมว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายด้วย ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการร่วมดำเนินการให้ “ปี ๒๕๕๙ เป็นปีแห่งธรรมมาภิบาล” โดยให้การปฏิบัติภารกิจในความรับผิดชอบอยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาล นั้น ให้ทุกส่วนราชการเริ่มต้นปีแห่งธรรมาภิบาลตั้งแต่วันสงกรานต์ (วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๙) เป็นต้นไป โดยให้ทุกส่วนราชการประกาศใช้หลักธรรมาภิบาลในการดำเนินภารกิจสำคัญของหน่วยงาน ๓.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี ๒๕๕๙ นั้น ให้กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตามแผนอำนวยความสะดวก โดยให้วิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแนวทางที่จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืนให้คณะรัฐมนตรีทราบภายหลังเทศกาลสงกรานต์ด้วย ๓.๓ ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการให้มีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือดูแลครอบครัวของผู้ต้องขังให้มีความเหมาะสมตามหลักมนุษยธรรม และพัฒนาปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวแล้วสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ ๓.๔ ให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลความคืบหน้าการปฏิรูปการศึกษาในด้านต่าง ๆ เช่น ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับครูและเด็กนักเรียน ประโยชน์ที่จะได้รับจากการประเมินผลการศึกษารูปแบบใหม่ เสนอต่อนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนำเสนอผลความคืบหน้าในลักษณะที่เข้าใจง่ายเพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
21128 | การเข้าร่วมงาน International Tourismus Borse (ITB 2016) | กก | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานผลการเข้าร่วมงาน International Tourismus Borse (ITB 2016) ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ ๙-๑๓ มีนาคม ๒๕๕๙ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว การเจรจาธุรกิจ การประชุมเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับทิศทางการตลาดท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญ ในโอกาสเดียวกันนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานรางวัล Discover Amazing Stories Awards 2016 ให้แก่สื่อมวลชนและบริษัทนำเที่ยวที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวสู่ประเทศไทย สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประกาศนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่เวทีนานาชาติ ได้แก่ นโยบาย Sport Tourism โดยการนำเสนอสินค้าใหม่ทางด้านกีฬาและการท่องเที่ยวกับการแข่งขันรายการสำคัญ และนโยบาย ASEAN Connectivity โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงกับประเทศในอาเซียน ซึ่งได้ดำเนินการล่วงหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว และมีแนวทางที่จะปรับปรุงและเพิ่มช่องทางการเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศให้มากขึ้นทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ๑.๒ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เพิ่มโอกาสและช่องทางการขายให้กับภาคเอกชนไทยในกิจกรรม Thailand Mini Mart โดยเชิญผู้ซื้อซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวที่มีศักยภาพจากตลาดยุโรปที่ไม่ได้อยู่ในตลาดเยอรมนี รวม ๓๘ ราย มาพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ขายของไทย ซึ่งผู้ประกอบการทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้เจรจาทำสัญญาซื้อขายใหม่ ๆ และสร้างเครือข่ายพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้มากขึ้น ๑.๓ จากการเข้าร่วมงานดังกล่าวส่งผลให้บริษัทนำเที่ยวชั้นนำและสื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลต่าง ๆ และนำไปขยายการรับรู้ว่าประเทศไทยเป็น Quality Leisure Destination รวมทั้งได้จัดกิจกรรมเปิดตัว “Visit ASEAN@50” ในวาระครบรอบ ๕๐ ปีของการก่อตั้ง ASEAN ในปีหน้า ซึ่งจะทำให้อาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวหนึ่งเดียวต่อไป ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะด้านมาตรฐานความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่น พื้นที่เขตอุทยาน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ การจัดระเบียบนักท่องเที่ยวเพื่อลดอุบัติเหตุและการกระทำผิด โดยการสร้างการรับรู้และการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างมาตรการที่จะดำเนินการกับผลกระทบในทางลบที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในด้านที่ไทยมีศักยภาพ เช่น กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sports Tourism) การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism) โดยการร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ จัดรายการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันโดยให้เริ่มจากตลาดในประเทศในกลุ่มอาเซียนเป็นลำดับแรก
|
||||||||||||||||||||||||
21129 | ข้อคิดเห็นของรองนายกรัฐมนตรี | นร | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการฝ่ายจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ว่าคณะกรรมการฯ ได้กำหนดแนวทางการจัดกิจกรรมฯ แบบพอเพียง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน และใช้งบประมาณของแต่ละหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามความเหมาะสมและจำเป็น ทั้งนี้ ให้เสนอโครงการ/กิจกรรมฯ ให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ (ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) เพื่อพิจารณาคัดกรองเป็นกิจกรรมของรัฐบาลตามขั้นตอนต่อไป โดยการดำเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะสิ้นสุดในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ จะสิ้นสุดในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||
21130 | การปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางการจัดทำร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... | นร07 | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติการปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางการจัดทำร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... โดยให้ครอบคลุมถึงรายการในลักษณะงบลงทุนที่มีเงินเหลือจ่ายต่อรายการไม่ต่ำกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท และรายการในลักษณะรายจ่ายประจำที่หมดความจำเป็นหรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนด โดยให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบแจ้งสำนักงบประมาณภายในวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||
21131 | การดำเนินการด้านกฎหมาย | นร | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. เพื่อให้กฎหมายแม่บทที่ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้วมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์และสามารถปฏิบัติให้เกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการออกกฎหมายลูกบท เช่น พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง เพื่อให้เป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) ทั้งนี้ โดยเฉพาะกฎหมายสำคัญที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการบริหารราชการแผ่นดินหรือการปฏิรูปประเทศให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน สำหรับกฎหมายที่มีความสำคัญรองลงมาให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือน รวมทั้งให้รายงานความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายลูกบทดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย ๒. ในการเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี ให้ทุกส่วนราชการผู้รับผิดชอบกฎหมายบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดของเนื้อหาให้ได้ความชัดเจนและให้ได้ข้อยุติในหลักการก่อนนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี และเมื่อผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ให้ส่วนราชการแจ้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เพื่อประสานสร้างความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลในการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21132 | การกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในคู่มือการดำเนินงานโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ | มท | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในคู่มือการดำเนินงานโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเสนอโครงการของหมู่บ้าน หน้าที่ของคณะกรรมการหมู่บ้าน อำเภอ และจังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ สำหรับขั้นตอนการใช้จ่ายงบประมาณและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ในโอกาสแรกก่อน และหากไม่เพียงพอ ก็ให้เสนอขอรับการจัดสรรจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการไว้ ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้ดำเนินโครงการด้วยความรวดเร็วและเกิดความโปร่งใสเป็นไปตามความต้องการของประชาชนที่เดือดร้อนด้วย ๓. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) |
||||||||||||||||||||||||
21133 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) (นายวีระศักดิ์ กิติวัฒน์) | ทก | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวีระศักดิ์ กิติวัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กลุ่มที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21134 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายพชร อนันตศิลป์) | กค | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพชร อนันตศิลป์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง (นักวิชาการคลังทรงคุณวุฒิ) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21135 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ | นร07 | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ภายในวงเงิน ๒,๙๙๑,๕๒๙,๖๕๐ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเสริมสร้างความเข้มแข็งและก้าวหน้าของประเทศตามแนวทางปฏิรูป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินการให้มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดภายในกรอบวงเงิน ๒,๙๙๑,๕๒๙,๖๕๐ บาท ๒. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||
21136 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ศูนย์อำนวยการบริหารจัดหวัดชายแดนภาคใต้) (นายประสิทธิ์ ชูเมือง) | นร52 | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายประสิทธิ์ ชูเมือง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21137 | การแต่งตั้งผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (นางศิริพร เหลืองนวล) | มท | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางศิริพร เหลืองนวล ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง แทนนายมนัส แจ่มเวหา ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากลาออก ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ เมษายน ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21138 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 15/2559 เรื่อง การผ่อนผันให้คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา เดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2559 | สลธ.คสช. | 12/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๕/๒๕๕๙ เรื่อง การผ่อนผันให้คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา เดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๙ สั่ง ณ วันที่ ๑๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการว่าห้ามเรียกเงินโดยเด็ดขาด ให้แรงงานแจ้งมาที่นายกรัฐมนตรีผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
21139 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สำหรับการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มผลิตลูกกุ้งขาวแวนนาไมปลอดโรค เป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... | กษ | 05/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอแก้ไขวันใช้บังคับร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สำหรับการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มผลิตลูกกุ้งขาวแวนนาไมปลอดโรค เป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... จาก “ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป” เป็น “ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสองร้อยเจ็ดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป” ๒. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สำหรับการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มผลิตลูกกุ้งขาวแวนนาไมปลอดโรค เป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สำหรับการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มผลิตลูกกุ้งขาวแวนนาไมปลอดโรค เป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อควบคุมการผลิตลูกกุ้งขาวแวนนาไมให้มีคุณภาพดีและปลอดโรคที่ผลิตจากฟาร์มเพาะฟักที่มีมาตรฐานการผลิต ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขวันใช้บังคับร่างกฎกระทรวงตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอแก้ไข แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับสถานที่ตั้งฟาร์มเพาะเลี้ยงลูกกุ้งขาวแวนนาไม จำเป็นต้องใช้ความเค็มในกระบวนการเพาะลูกกุ้ง โดยให้ปฏิบัติตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๖/๒๕๕๓ เรื่อง มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี และ/หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และหากโรงเพาะฟักลูกกุ้งขาวแวนนาไมอยู่ในเขตพื้นที่น้ำจืด จะต้องมีการออกกฎกระทรวงกำหนดให้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยใช้ความเค็มในพื้นที่น้ำจืดเป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ต้องมีการควบคุม โดยอาศัยอำนาจตาม หมวด ๖ การส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ รวมทั้งให้โรงเพาะฟักลูกกุ้งขาวแวนนาไมที่มีการตั้งใหม่อยู่ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดให้บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือออกสู่สิ่งแวดล้อม และมีการบำบัดน้ำทิ้งให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21140 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สำหรับการปฏิบัติที่ดีสำหรับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ เป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... | กษ | 05/04/2559 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สำหรับการปฏิบัติที่ดีสำหรับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบเป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สำหรับการปฏิบัติที่ดีสำหรับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบเป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อควบคุมการดำเนินการของศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบในการรวบรวมและลดอุณหภูมิน้ำนมก่อนถึงโรงงานแปรรูป เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....