ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1059 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 21161 - 21180 จากข้อมูลทั้งหมด 124293 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21161 | การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐจิบูตีประจำประเทศไทยและการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐจิบูตีประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายฮงค์ฑัย แซ่ตัน) | กต | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐจิบูตีประจำประเทศไทย และการแต่งตั้ง นายฮงค์ฑัย แซ่ตัน ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐจิบูตีประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21162 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายยิ่งยง สุขเสถียร) | สธ | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายยิ่งยง สุขเสถียร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21163 | รายงานการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี สมัยที่ 60 (CSW 60) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะ | พม | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี สมัยที่ ๖๐ (CSW60) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๙ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. หัวข้อหลักของการประชุม CSW สมัยที่ ๖๐ คือ การส่งเสริมศักยภาพสตรีสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Women’s empowerment and its link to sustainable development) และหัวข้อรอง ได้แก่ การขจัดและป้องกันความรุนแรงต่อสตรีและเด็กในทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นบทสรุปจากการประชุม CSW สมัยที่ ๕๗ และมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับภารกิจหลักของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับเกียรติให้กล่าวถ้อยแถลงเป็นลำดับแรกในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานกลุ่ม ๗๗ (G77) ซึ่งสาระสำคัญของถ้อยแถลงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสตรีและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ความห่วงใยต่อปัญหาของสตรีและเด็กและความจำเป็นซึ่งต้องเปลี่ยนแปลงที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์ทางการเมือง นโยบายและการจัดสรรงบประมาณที่สนับสนุนการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความเป็นผู้นำของสตรีในการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งเน้นย้ำถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีว่า ความเสมอภาคระหว่างเพศไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสตรี แต่เป็นเรื่องที่บุรุษต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเพื่อสังคมที่พัฒนาอย่างยั่งยืนและสงบสุข ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พบปะหารือกับนาง ฟาม ทิเจวี่ยน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารผ่านศึก และกิจการสังคม สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และนายเอมมานูเอล คาร์ปารัส ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้แสดงความชื่นชมและขอบคุณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน ASEAN Women Entrepreneurs forum ครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๔-๕ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งมีการมอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการสตรีดีเด่นของไทย และสนใจกฎหมายรับรองสิทธิคนข้ามเพศและส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พบปะกลุ่มหญิงไทยในนครนิวยอร์ก เพื่อรับฟังปัญหาในการดำเนินชีวิตในสหรัฐอเมริกา และความต้องการต่าง ๆ ที่ประสงค์ให้ภาครัฐช่วยเหลือ รวมทั้งศึกษาดูงานการดูแลเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ณ กรมสวัสดิการเด็กประจำนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
|
|||||||||||||||||||||
21164 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักร | ศธ | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักร โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตรและการประเมินผลการศึกษา การส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทย การเสริมสร้างความร่วมมือในขอบข่ายวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM Education) การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษในเชิงลึกแก่แรงงานในหน่วยงานหลักของไทยที่ทำงานในสายอาชีพและเทคนิค ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย |
|||||||||||||||||||||
21165 | การลงนามความตกลงปารีส | ทส | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมในพิธีลงนามระดับสูงความตกลงปารีส (High-level signature ceremony of the Paris Agreement) ในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๙ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยสาระสำคัญของความตกลงฯ ครอบคลุมการดำเนินงานเกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อผลกระทบทางลบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนทางการเงิน การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี การเสริมสร้างศักยภาพของประเทศกำลังพัฒนา และกรอบการรายงานข้อมูลให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานและการสนับสนุนการดำเนินงานแก่ประเทศกำลังพัฒนา ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้มีอำนาจลงนามในพิธีลงนามระดับสูงความตกลงปารีส ๑.๓ มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนามในพิธีลงนามระดับสูงความตกลงปารีส และจัดส่ง note verbale เพื่อยืนยันการเข้าร่วมพิธีดังกล่าว โดยระบุชื่อและตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ต่อฝ่ายสนธิสัญญา สำนักกฎหมายแห่งสหประชาชาติ (Treaty Section, United Nations Office of Legal Affairs) โดยด่วนต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์และบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบบทบาทและภารกิจของแต่ละหน่วยงานที่ต้องมีส่วนร่วมดำเนินการตามความตกลงฯ มีการติดตาม ประเมินผล ทบทวนและปรับปรุงมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ ของประเทศไทยให้บรรลุผลตามเจตจำนงของประเทศต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายในปี ๒๐๒๐ และ ๒๐๓๐ ตามลำดับ รวมถึงมาตรการการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากกลไกระหว่างประเทศทั้งด้านความช่วยเหลือทางเทคนิควิชาการ (การถ่ายทอดเทคโนโลยี) และทางการเงิน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเงินทุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : Climate Fund) ตลอดจนเห็นควรเสนอความตกลงฯ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๒๓ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
21166 | รัฐบาลราชอาณาจักรเบลเยียมเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายฟีลิป ครีแดลกา (Mr. Philippe Kridelka)] | กต | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายฟีลิป ครีแดลกา (Mr. Philipยe Kridelka) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเบลเยียมประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายมาร์ก มีคีลเซิน (Mr. Marc Michielsen) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21167 | รัฐบาลสาธารณรัฐลิทัวเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นางสาวอีนา มาร์ซูโลนีเต (Ms. Ina Marciulionyte)] | กต | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอีนา มาร์ซูโลนีเต (Ms. Ina Marciulionyte) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นางสาวซิกุเต ยัคชโตนีเต (Ms. Sigute Jakstonyte) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21168 | รัฐบาลสาธารณรัฐมอริเชียสเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายอีโซป พาเทล (Mr. Issop Patel)] | กต | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอีโซป พาเทล (Mr. Issop Patel) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมอริเชียสประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สืบแทน นายเปร็มดัต ดุงกูร์ (Mr. Premdut Doongoor) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21169 | สาธารณรัฐซูดานเสนอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐซูดานประจำประเทศไทยคนใหม่ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายไพฑูรย์ เตชดนัย) | กต | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายไพฑูรย์ เตชดนัย เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐซูดานประจำประเทศไทย โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมประเทศไทย สืบแทน นายยะห์เอีย เอลมักกี โมฮาเมด ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21170 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคณะกรรมการประจำจังหวัดและเงื่อนไขการขอจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคณะกรรมการประจำจังหวัดและเงื่อนไขการขอจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยคณะกรรมการประจำจังหวัดและเงื่อนไขการขอจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยเพิ่มเติมเงื่อนไขให้ผู้ที่จดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะแล้วจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการประจำจังหวัดกำหนด ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
21171 | การประเมินส่วนราชการและข้าราชการพลเรือนในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 5/2559 | นร | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการประเมินโดยแบบประเมินข้าราชการพลเรือนในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร และแบบประเมินส่วนราชการ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕/๒๕๕๙ และให้นำแบบประเมินฯ นี้ไปใช้ในการประเมินข้าราชการและการประเมินส่วนราชการในรอบการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ๒. รับทราบตามที่ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในการประเมินข้าราชการพลเรือนประเภทบริหารระดับสูง เลขาธิการ ก.พ. ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ประเมิน แต่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อนำมาประกอบการประเมินสำหรับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการต่อไป ทั้งนี้ จะมีการจัดทำคู่มือประกอบการประเมินเพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21172 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 12/2559 เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ | สลธ.คสช. | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๒/๒๕๕๙ เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง สั่ง ณ วันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๓/๒๕๕๙ เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันอันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สั่ง ณ วันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||
21173 | โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ | กค | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ และข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขอแก้ไขข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ดังนี้ ๑.๑ ขออนุมัติปรับลดงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป จากหมู่บ้านละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท เป็นหมู่บ้านละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ภายในกรอบวงเงินไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ รวมถึงรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการฯ ให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือน แทนกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ โดยจัดให้มีคณะกรรมการระดับอำเภอในแต่ละพื้นที่เป็นผู้พิจารณาอนุมัติโครงการที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการหมู่บ้านแล้ว และให้คณะกรรมการดังกล่าวพิจารณาโครงการฯ โดยมุ่งเน้นโครงการที่เป็นสาธารณประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมและเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน และต้องเป็นโครงการที่สามารถดำเนินการได้ตามกรอบระยะเวลา ทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ๓. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงินไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ในงบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนทั่วไปแก่หมู่บ้านเพื่อสาธารณประโยชน์ จำนวน ๗๔,๙๖๕ แห่ง หมู่บ้านละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการฯ ให้กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ๔. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากลไกการจัดสรรเงินงบประมาณและเร่งรัดจัดทำคู่มือและหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการฯ รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้แก่คณะกรรมการหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินโครงการฯ ทั้งนี้ ให้นำความเห็นของสำนักงบประมาณประกอบการพิจารณาในการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ๕. ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือน |
|||||||||||||||||||||
21174 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในวาระที่ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นประธานกลุ่ม 77 และจีน ประจำปี พ.ศ. 2559 | ทส | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการของการใช้งบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในวาระที่ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นประธานกลุ่ม ๗๗ และจีน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการดำเนินงานในกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC) ในวงเงิน ๒๑,๑๕๖,๒๐๐ บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายของกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน ๑๓,๒๐๖,๒๐๐ บาท และค่าใช้จ่ายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน ๗,๙๕๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพื่อการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ รวมทั้งขอทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
21175 | ร่างบัญชีราคามาตรฐานการออกแบบอาคารที่ทำการ อาคารอยู่อาศัยรวม และบ้านพัก | นร07 | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ยกเลิกมาตรฐานอาคารประเภทที่ทำการของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๒๑ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๑ แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ สร ๐๒๐๓/ว ๑๒๐ ลงวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๒๑ เรื่อง การกำหนดมาตรฐานอาคารประเภทที่ทำการของทางราชการ ๑.๒ ให้หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์การอิสระ ใช้ร่างบัญชีราคามาตรฐานการออกแบบอาคารที่ทำการ อาคารอยู่อาศัยรวม และบ้านพัก เพื่อกำหนดรูปแบบในการก่อสร้างอาคารให้มีความเหมาะสมกับภารกิจที่รับผิดชอบ และมีราคาค่าก่อสร้างต่อเนื้อที่ใช้สอยของอาคารเฉลี่ยต่อตารางเมตรไม่เกินราคาที่สำนักงบประมาณกำหนด ทั้งนี้ หากมีปัญหาในทางปฏิบัติหรือสภาวะทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป สมควรมอบหมายให้สำนักงบประมาณวินิจฉัยปัญหาข้อหารือ และกำหนดบัญชีราคามาตรฐานการออกแบบอาคารที่ทำการ อาคารอยู่อาศัยรวม และบ้านพัก ได้ตามความจำเป็น ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๑ (เรื่อง การกำหนดมาตรฐานอาคารประเภทที่ทำการของทางราชการ) ๓. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||
21176 | ขอความอนุเคราะห์ให้หน่วยงานของรัฐช่วยเผยแพร่และให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ | อื่นๆ | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเสนอว่า ได้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจในร่างรัฐธรรมนูญโดยทั่วกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงได้จัดทำคำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญโดยสรุปในลักษณะที่ประชาชนจะสามารถเข้าใจเนื้อหาสำคัญ ๆ ของร่างรัฐธรรมนูญได้โดยสะดวกเพื่อแจกจ่าย รวมทั้งทำการชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบด้วย ในการดำเนินการดังกล่าวคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงาน ได้แก่ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๒. ให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญในการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ รวมตลอดทั้งดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21177 | ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติในการออกเสียงประชามติ | ลต | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการออกเสียงประชามติตามมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้
๑. สั่งข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้าง รวมทั้งขอความร่วมมือกลุ่มอาสาสมัครหรือกลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ในสังกัดทุกประเภท และทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ และสนับสนุนในการดำเนินการออกเสียงประชามติ รวมทั้งการจัดบุคลากรทำหน้าที่เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติเพี่อให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใส และดำเนินการอื่นใดที่จำเป็น เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยตรงหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอ โดยให้ถือเป็นงานในหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างนั้น ๆ ด้วย ๒. ให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างในสังกัดทุกประเภท และทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น วางตัวเป็นกลางในการออกเสียงประชามติอย่างเคร่งครัด ไม่ปฏิบัติการใด ๆ ในลักษณะเป็นการชี้นำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไปลงคะแนนออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ๓. ให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างในสังกัดทุกประเภท และทุกระดับ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้เป็นตัวอย่างแก่ประชาชนทั่วไป และให้คำแนะนำ ชักชวนบุคคลผู้มีสิทธิในครอบครัว ญาติ และมิตรสหาย ไปใช้สิทธิออกเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงในสังกัดในการไปใช้สิทธิออกเสียงด้วย ๔. ให้การสนับสนุนสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดการออกเสียงประชามติ ๕. ให้กระทรวงแรงงานกำหนดแนวทางหรือมาตรการการดำเนินงานที่มีความชัดเจนและมีผลในทางปฏิบัติระหว่างกระทรวงแรงงานกับภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้แรงงาน และลูกจ้างสามารถไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติได้ โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด อีกทั้งเพื่อมิให้มีผลกระทบต่อภาคเอกชน ๖. ให้หน่วยงานด้านสื่อต่าง ๆ ของรัฐ ทั้งสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ เผยแพร่ข่าวสารการออกเสียงประชามติอย่างต่อเนื่อง และทั่วถึง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิออกเสียงให้มากที่สุด ๗. ให้หน่วยงานต่าง ๆ พิจารณาความเหมาะสมในการจัดให้มีการฝึกอบรม หรือประชุมสัมมนา โดยให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับการปฏิบัติงานในการออกเสียงประชามติ รวมทั้งการไปใช้สิทธิออกเสียงของบุคลากรในสังกัดเป็นสำคัญ ๘. ให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดทำและตรวจสอบทะเบียนราษฎร ดำเนินการสำรวจและตรวจสอบพร้อมทั้งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนราษฎรในส่วนของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อให้สถิติของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงมีความสอดคล้อง และถูกต้องตามข้อเท็จจริง
|
|||||||||||||||||||||
21178 | ขอแก้ไขคำผิดในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... | นร04 | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง ขอแก้ไขคำผิดในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... โดยนายธนาวัฒน์ สังข์ทอง เลขานุการกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คนที่สอง ได้มีหนังสือเรียนเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สรุปได้ว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ตรวจพบว่า ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... มีการพิมพ์ผิดพลาดในถ้อยคำบางประการ แต่ไม่กระทบเนื้อหาอันเป็นสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจึงขอส่งใบแก้ไขคำผิด และขอความอนุเคราะห์ให้ดำเนินการแจ้งคณะรัฐมนตรีทราบและดำเนินการแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21179 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (นักบริหารระดับสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นาวาเอกหญิง พงศ์พรพร ศรีสุวรรณ) | นร51 | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นาวาเอกหญิง พงศ์พรพร ศรีสุวรรณ ข้าราชการพลเรือนประจำกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
21180 | การขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูตระดับสูง) (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายพิษณุ สุวรรณะชฎ) | กต | 05/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายพิษณุ สุวรรณะชฎ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....