ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 59 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 1161 - 1180 จากข้อมูลทั้งหมด 1462 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1161 | แนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2547 | กค | 31/08/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแนวทางการดำเนินงานกรณีที่ส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2547 เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาห กิจถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้ ผ่อนผันให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจก่อหนี้ผูกพันได้จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2547 สำหรับรายการที่อยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และงบอุดหนุนเฉพาะกิจ ที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น เนื่องจากในปีนี้มีการเลือกตั้งใหญ่ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรอให้มีการประชุมสภาท้อง ถิ่น เพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติ เทศบัญญัติหรือข้อบังคับงบประมาณประจำปีก่อน จึงจะสามารถเบิกจ่ายได้ รวมทั้งงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (16,500 ล้านบาท) เนื่องจากโครงการที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนิน งาน และงบกลาง (59,000 ล้านบาท) บางโครงการต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการ จึงไม่ สามารถเบิกจ่ายได้ทัน |
||||||||||||||||||||||||
1162 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในส่วนภูมิภาค | กก | 10/08/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะ
ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางการจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในส่วนภูมิ ภาค และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยในส่วนของความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ มีดังนี้ ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดขึ้น โดยอาศัยการบริหารงานแบบบูรณาการที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานรับผิดชอบอย่างเป็น ระบบและเบ็ดเสร็จ มีหน่วยงานทุกระดับที่เกี่ยวข้องในทุกมิติของการพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นกรรมการ มี หน้าที่ควบคุม ดูแล ติดตามและประสานความร่วมมือในการจัดทำแผนพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จังหวัดในภาพรวมและการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนควรสอดคล้องกับศักยภาพของ พื้นที่ แผนพัฒนาประเทศ และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด สำหรับการดำเนินงานของทุกหน่วยงานภายใต้ อำนาจการสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวต้อง อยู่ภายใต้แผน และกรอบการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จัดทำ โดยคณะกรรมการการท่องเที่ยว จังหวัด ส่วนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นอิสระ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณา การไม่สามารถสั่งการได้โดยตรงนั้น ขอให้มีผู้ว่าราชกาจังหวัดแบบบูรณาการและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่อง เที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เป็นที่ปรึกษา เพื่อให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวของส่วนท้องถิ่นสอดคล้อง กับแผนและกรอบการพัฒนาดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||
1163 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ปัญหาสืบเนื่องจากการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น (ประปาหมู่บ้าน) | นร | 10/08/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รายงานผลการประชุม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากรณีปัญหาสืบเนื่องจากการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น (ประปาหมู่บ้าน) เมื่อ วันที่ 23 กรกฎาคม 2547 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไป ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวและนำเสนอที่ประชุมอีกครั้งหนึ่งดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดทำแผนแม่บทการใช้น้ำบาดาลให้มีความชัดเจน เปรียบเทียบข้อมูล การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในอดีตมีการตั้งงบประมาณ และมีการขาดแคลนน้ำเป็น จำนวนปีละเท่าใด เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดวงเงินในการแก้ไขปัญหาและสำรวจเครื่องมือขุดเจาะบ่อบาดาลว่ามีความ ต้องการใช้ในภารกิจจำนวนเท่าใด กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นสำรวจพื้นที่ที่ขาด แคลนน้ำร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยจำแนกพื้นที่ที่ต้องการน้ำประปาหมู่บ้าน/ชนบท พื้นที่ที่ต้อง การน้ำบาดาล สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นพิจารณารวบรวมภารกิจสำคัญที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดำเนินการให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น เช่น การก่อสร้างถนน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลนำมาเปรียบเทียบในการพิจารณาการจัดสรรงบ ประมาณในภาพรวมในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสืบเนื่อง จากการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอันเนื่องจากพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ ใน ส่วนประเด็นปัญหาอื่น ๆ ต่อไป และให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนภารกิจตามแผนปฏิบัติ การกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเร่งดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เกิดผลเป็นรูป ธรรมโดยเร็ว |
||||||||||||||||||||||||
1164 | โครงการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ 2547 | มท | 03/08/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (คกก.3) ที่มี
มติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 สำหรับงบประมาณดำเนินการอนุมัติในวงเงิน 214,006,800 บาท โดยให้กรมส่ง เสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2547 ในแผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งานส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐ กิจและสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายการเงินอุดหนุนทั่วไป : เงินอุดหนุนสำหรับพัฒนาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในกรณีเร่งด่วน จำนวน 2,000,000,000 บาท ก่อน โดยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนัก งบประมาณต่อไป และหากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำหนดโครงการขอเงินอุดหนุนทั่วไปรายการ ดังกล่าวไว้ครบวงเงินแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ ก็เห็นควรให้กระทรวงการคลังประสานงานกับสำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาล เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณดังกล่าวต่อไป และให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของ คกก.3 ว่า ควรที่จะมีการระบุหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลและสถานที่ก่อ สร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ให้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างในที่ดินสาธารณประโยชน์ โรงเรียน วัด หรือสถาน ที่ราชการ รวมทั้งประสานการจัดการในการให้บริการแก่ผู้มาเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายในลานกีฬาทั้งหมด อย่างเป็นระบบ เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ในการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอย่างสูงสุดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือหน่วย งานอื่น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น) รับไป ประสานการดำเนินการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินโครง การ ฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์ สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง และความพร้อมขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละแห่ง สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนั้น หากกรมส่งเสริมการปก ครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2547 ในแผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งานส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐ กิจและสังคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายการเงินอุดหนุนทั่วไป : เงินอุดหนุนสำหรับพัฒนาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในกรณีเร่งด่วน จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือไม่สามารถประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีศักยภาพและความพร้อมทางการเงิน ใช้จ่ายเงินของตนเพื่อการนี้ได้ ก็อนุมัติในหลักการให้ใช้จ่ายจากเงินงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้ขอตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ หรือให้ประสานกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอรับการสนับสนุน จากเงินรายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศลพิเศษของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไปตามความเหมาะสม |
||||||||||||||||||||||||
1165 | การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | นร | 03/08/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ โดยให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือ ดูแลราษฎรที่ประสบความเดือด ร้อนเป็นการเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนด แนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งระยะสั้นและระยะยาว ให้เป็นระบบครบ วงจรสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศของพื้นที่ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการ แก้ไขปัญหาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1166 | การขออนุมัติโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร | นร | 27/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานกรรม
การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การขออนุมัติโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรร เทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร โดยการประชุมของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2547 เห็นชอบให้สนับสนุนงบ ประมาณเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรร เทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร โดยจ่ายจากเงินอุดหนุนของรัฐบาล ร้อยละ 60 และกรุงเทพ ฯ สมทบ ร้อยละ 40 โดยเงินอุดหนุน เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวให้รวมอยู่ในวงเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2549-2553 ที่กรุงเทพ ฯ จะได้รับตามสัดส่วนการจัดสรรของ กกถ. สำหรับวงเงินงบประมาณให้เป็นไป ตามข้อเท็จจริงในการสำรวจตรวจสอบตามมติคณะรัฐมนตรี |
||||||||||||||||||||||||
1167 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ/พนักงานครูขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและข้าราชการที่ถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 27/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานกรรมการ
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายงานผลการดำเนินงานในการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ/พนักงานครูขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และข้าราชการที่ถ่ายโอน ไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2547 พิจารณาเห็นว่า เงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อลดช่อง ว่างทางการคลังปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ในส่วนที่สำรองไว้ร้อยละ 5 เพื่อแก้ไขปัญหาการกระจายอำนาจ เป็นการสำรองจากเงินอุดหนุนในส่วนที่จัดสรรให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหาร ส่วนตำบล ประกอบกับได้มีการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2547 เพิ่มเติมให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น จำนวน 12,300 ล้านบาท ดังนั้น การจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ/พนักงานครูดังกล่าว รวมไปถึง ข้าราชการที่ถ่ายโอนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อลดช่องว่าง ทางการคลัง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ในส่วนที่สำรองไว้ร้อยละ 5 ให้แก่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้อง ถิ่น จำนวน 396,401,200 บาท สำหรับกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาให้ใช้จ่ายจากรายได้ของตนเองหรือ เงินอุดหนุนที่จัดสรรให้เพิ่มเติม หรือเงินอุดหนุนอื่นใด |
||||||||||||||||||||||||
1168 | รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2546 | ทส | 27/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอรายงานการ
จัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยเนื้อหาที่สำคัญเช่น บทที่ 1 กระบวนการทางการเมืองและสิ่ง แวดล้อมเป็นการนำเสนอความเป็นมาของการเมืองไทย ประกอบด้วย กระบวนการทางเมืองกับการบริหาร จัดการสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมโดยกระบวนการอื่น ข้อจำกัดของการบริหารจัดการสิ่ง แวดล้อม โดยกระบวนการทางการเมือง และกระบวนการทางการเมืองและการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ของไทย บทที่ 2 การปฏิรูประบบราชการ ประชาชนจะได้อะไรจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม เป็นการนำเสนอระบบบริหารราชการแผ่นดินของไทยและแนวทางปฏิรูประบบราชการ ประกอบ ด้วย องค์กรหลักของการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงการปฏิรูประบบราชการ ซึ่งมีการจัดตั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ กลไกในการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบราชการ กำหนด วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ตลอดจนประชาชนจะได้อะไรจากกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติ ฯ บทที่ 3 การกระจายอำนาจการจัดการสิ่งแวดล้อมไปสู่ท้องถิ่น เป็นการนำเสนอ การบริหารจัดการบ้านเมืองและแนวทางการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2540 พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 สถาน การณ์การกระจายอำนาจไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปัญหาของการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
1169 | การลดความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย | ทส | 20/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธาน
กรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอโครงการเพื่อลดความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย รวม 2 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดทำระบบ Early Warning สำหรับพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย-ดินถล่ม โดยดำเนินการใน ระยะเร่งด่วนในพื้นที่คัดเลือก จำนวน 136 หมู่บ้าน งบประมาณรวม 20.4 ล้านบาท และโครงการป้อง กันและลดความเสียหายเนื่องจากอุทกภัย โดยรวบรวมวิเคราะห์โครงการต่าง ๆ ที่จังหวัดที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม เสนอมา รวม 51 จังหวัด 578 โครงการ งบประมาณรวม 285.5 ล้านบาท โดยโครงการจัดทำระบบ Early Warning สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัย-ดินถล่ม ให้กรมทรัพยากรน้ำ และโครงการป้องกันและมีความเสียหายเนื่อง จากอุทกภัย ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบดำเนิน การร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายให้เบิกจ่ายจากเงินทด รองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาอนุมัติของผู้ว่าราชการ จังหวัดอยู่แล้ว (วงเงิน 50 ล้านบาท) ภายในวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือเบิกจ่ายจากงบประมาณปกติของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณีตามความเหมาะสม โดยกรณีมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการใดที่ มีวงเงินเกินกว่า 5 ล้านบาท ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป และหากกระทรวงมหาดไทย เห็นควรกำหนดกรอบแนวทางในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวเพิ่มเติมประการใดเพื่อให้ผู้ว่าราชการ จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินงานได้อย่างชัดเจนถูกต้อง ก็ให้ดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1170 | แผนการจัดการน้ำเสียชุมชนและแผนฟื้นฟูและปรับปรุงระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ และการจัดการปัญหาน้ำเสียจากฟาร์มสุกรในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนการ
จัดการน้ำเสียชุมชนและแผนฟื้นฟูและปรับปรุงระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ ประกอบ เป้าหมายหลักในการทำให้ชุมชนและประชาชนมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตดีขึ้น และเป้าหมายรอง คือ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมสามารถบริหารจัดการน้ำเสียชุมชน ด้วยการพึ่งพาตนเองได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภายในปี พ.ศ. 2554 และมีการดำเนินการจัดการน้ำเสียชุมชนในชุมชนเมือง 291 พื้นที่ เพื่อควบ คุมปริมาณของเสียให้ระบายออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของที่เกิดขึ้นภายในปี พ.ศ. 2551 และมีการ บริหารจัดการน้ำเสียในชุมชนเมือง 1,130 พื้นที่ ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพภายในปี พ.ศ. 2560 สำหรับ รายละเอียดที่จะดำเนินการตามแผนการจัดการน้ำเสียชุมชนให้ศึกษาความเป็นไปได้ในทุก ๆ ด้าน และคำนึงถึง ความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่จะก่อสร้างระบบ รวมทั้งติดตามประเมินผลความสำเร็จของโครงการอย่างเป็นรูป ธรรม และต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมต่อ ไป และให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของส่วนราชการไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยหากกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่ามีส่วนใดที่จำเป็นต้องรีบดำเนินการก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ปรับแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ไปดำเนินการ ส่วนงบประมาณรายจ่ายที่จะต้องใช้จ่ายในปีต่อไป ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป สำหรับการจัดการน้ำเสียจากฟาร์มสุกรในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีนโดยที่ ในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าวซึ่งมีฟาร์มสุกรขนาดเล็กเป็นจำนวนมากประกอบกับยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อย ลงสู่แม่น้ำลำคลอง ดังนั้น หากรัฐจะสนับสนุนงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปดำเนินการปรับ ปรุงซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสีย เดินระบบ และดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยไม่ครอบคลุมถึงน้ำเสียจากฟาร์มสุกรขนาดเล็ก อาจไม่สามารถแก้ไขต้นตอของ ปัญหาได้อย่างแท้จริงและไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนเท่าที่ควร จึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงของสภาพปัญหาในพื้นที่ให้ถูกต้องชัด เจนอีกครั้งหนึ่ง หากเห็นควรดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าวประการใด และจำเป็นต้องใช้ งบประมาณเพิ่มเติมเท่าใด ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1171 | การบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4.2 (ฝ่ายการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติ ดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการจัดทำ (ร่าง) กฎหมายการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ที่เห็นว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการชายฝั่งทะเลหลายฉบับได้กำหนดภาระหน้าที่และภารกิจตามกฎหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล และการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเล หากมีความจำเป็นต้องจัดทำ (ร่าง) กฎหมายการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืนก็สามารถกระทำได้ หากไม่ขัดหรือแย้ง หรือมีผลในการยกเลิกกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการชายฝั่งทะเลที่มีอยู่เดิม และไม่กระทบต่อภาระหน้าที่และการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามกฎหมาย โดยในการจัดทำ (ร่าง) กฎหมายดังกล่าว ควรเน้นการส่งเสริมบทบาทของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในขณะเดียวกันก็ต้องให้มีการถ่วงดุลอำนาจระหว่างกันด้วยและสามารถตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 2. อนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลและการบริหารจัดการในพื้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศ และดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อการนี้ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ 2.1 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรปรับปรุงวัตถุประสงค์ของเรื่องนี้ ให้ครอบคลุมทั้งปัญหาในด้านการถูกกัดเซาะและการบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาการกัดเซาะและการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเลได้อย่างยั่งยืน 2.2 เห็นควรให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเล ทั้งหน่วยราชการส่วนกลาง หน่วยราชการส่วนภูมิภาค และหน่วยราชการส่วนท้องถิ่น โดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล และการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศ สำหรับพื้นที่บริเวณชายหาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหาดที่มีชื่อเสียง และมีความสวยงาม ซึ่งเป็นที่สาธารณะ ประชาชนโดยทั่วไปมักจะไม่สามารถเข้าไปชมความสวยงามหรือใช้บริเวณชายหาดเหล่านั้นเพื่อการพักผ่อนได้ เพราะมีเอกชนหลายรายดำเนินการแสวงหาประโยชน์จากชายหาดดังกล่าว และดำเนินการในลักษณะกีดกันหรือหวงห้ามประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ทั้งๆ ที่เป็นที่สาธารณะหรือเป็นที่ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่เหมาะสมและหรือโดยไม่ถูกต้อง จึงเห็นควรรับปัญหานี้ไปพิจารณาแก้ไขต่อไป นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอยู่เป็นจำนวนมาก เห็นควรนำผลการศึกษาวิจัยเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการเกี่ยวกับชายฝั่งทะเลต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1172 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (แนวทางการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ) (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | สสป | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่
4.2 (ฝ่ายการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภา ที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่อง แนวทางการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน ทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเจ้าของเรื่องรับไปพิจารณาร่วม กับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการ ตาม ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ฯ และประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า ในการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสบปัญหาและอุปสรรค มาโดยตลอด ทั้งด้านขาดงบประมาณ ขาดบุคลากรที่ชำนาญ และขาดความพร้อมในการบริหารจัดการ รวมทั้ง การจัดสรรงบประมาณเพื่อการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียในชุมชนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตาม แผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องมีความสอดคล้องกับ การจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเรื่องอื่น ๆ ด้วย จึงเห็นควรที่ต้องมีการพิจารณาทบ ทวนในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการมีระบบแก้ไขและป้องกันภัยน้ำเสียในชุมชน เช่น การให้มีที่ดักไขมันในร้านอาหาร และครัวเรือน และการควบคุมประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียของโรงงานเล็ก ๆ ในชุมชนซึ่งเป็นแหล่งที่ทำให้ น้ำเสียมีความเข้มข้นสูง เป็นต้น จึงเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้า ของเรื่องรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องจัดทำความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1173 | แผนการจัดการน้ำเสียชุมชนและแผนฟื้นฟูและปรับปรุงระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ และการจัดการปัญหาน้ำเสียจากฟาร์มสุกรในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนการ
จัดการน้ำเสียชุมชนและแผนฟื้นฟูและปรับปรุงระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ ประกอบ เป้าหมายหลักในการทำให้ชุมชนและประชาชนมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตดีขึ้น และเป้าหมายรอง คือ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมสามารถบริหารจัดการน้ำเสียชุมชน ด้วยการพึ่งพาตนเองได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภายในปี พ.ศ. 2554 และมีการดำเนินการจัดการน้ำเสียชุมชนในชุมชนเมือง 291 พื้นที่ เพื่อควบ คุมปริมาณของเสียให้ระบายออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของที่เกิดขึ้นภายในปี พ.ศ. 2551 และมีการ บริหารจัดการน้ำเสียในชุมชนเมือง 1,130 พื้นที่ ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพภายในปี พ.ศ. 2560 สำหรับ รายละเอียดที่จะดำเนินการตามแผนการจัดการน้ำเสียชุมชนให้ศึกษาความเป็นไปได้ในทุก ๆ ด้าน และคำนึงถึง ความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่จะก่อสร้างระบบ รวมทั้งติดตามประเมินผลความสำเร็จของโครงการอย่างเป็นรูป ธรรม และต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมต่อ ไป และให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของส่วนราชการไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยหากกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่ามีส่วนใดที่จำเป็นต้องรีบดำเนินการก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ปรับแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ไปดำเนินการ ส่วนงบประมาณรายจ่ายที่จะต้องใช้จ่ายในปีต่อไป ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป สำหรับการจัดการน้ำเสียจากฟาร์มสุกรในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีนโดยที่ ในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าวซึ่งมีฟาร์มสุกรขนาดเล็กเป็นจำนวนมากประกอบกับยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อย ลงสู่แม่น้ำลำคลอง ดังนั้น หากรัฐจะสนับสนุนงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปดำเนินการปรับ ปรุงซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสีย เดินระบบ และดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยไม่ครอบคลุมถึงน้ำเสียจากฟาร์มสุกรขนาดเล็ก อาจไม่สามารถแก้ไขต้นตอของ ปัญหาได้อย่างแท้จริงและไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนเท่าที่ควร จึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงของสภาพปัญหาในพื้นที่ให้ถูกต้องชัด เจนอีกครั้งหนึ่ง หากเห็นควรดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าวประการใด และจำเป็นต้องใช้ งบประมาณเพิ่มเติมเท่าใด ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1174 | โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ | กร | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระ
ราชดำริเสนอ ดังนี้ เห็นชอบในหลักการของแผนงานพัฒนาอาชีพและส่งเสริมรายได้โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่ม น้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปี พ.ศ. 2548 โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รับไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นเหมาะสมของโครงการต่าง ๆ ภาย ใต้แผนงาน ฯ ในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ และหน่วย งานอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และตามผลการสำรวจความคิดเห็น และความ ต้องการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคณะทำงานสำรวจข้อมูลของนายกรัฐมนตรีกำลังดำเนินการอยู่ และให้ดำเนินการได้ โดยยึดหลักการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ไม่เกิดซ้ำซ้อนใน การดำเนินงาน โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาปรับแผนงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอ ก็ให้เสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2548 ตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ กับเห็น ชอบในหลักการแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชน ในระยะเร่งด่วนในปี พ.ศ. 2548 โดยการจัดทำระบบบำบัด น้ำเสียแบบติดที่ในบริเวณที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งน้ำ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับไปหารือและทำความเข้าใจให้สอดคล้องตรงกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ แล้ว ให้ขอทำความตกลงด้านการเงินกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนในระยะยาว ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามผลการศึกษาและเร่งรณรงค์ทำความเข้าใจกับ ประชาชนในพื้นที่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียชุมชนและดูแลรักษาแหล่งน้ำ รวมทั้งเห็นชอบ ในหลักการโครงการฟื้นฟูระบบนิเวศน์ป่าพรุลุ่มน้ำปากพนัง โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถแก้ไข ปัญหาในระยะยาว และมีการบริหารจัดการที่ยั่งยืนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1175 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ/พนักงานครู ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและข้าราชการที่ถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 06/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉาย
แสง) ประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอขอรับเรื่องการสนับสนุนงบ ประมาณ เพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ/พนักงานครูขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและข้าราชการที่ ถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปพิจารณาในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากสำนักงบประมาณมีความเห็นว่า เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น คงเหลือในจำนวนจำกัด และ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยใช้จ่าย จากงบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป รายการใดรายการหนึ่งก่อน ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นจะต้องขอรับการ สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อการนี้ประการใดหรือไม่ จะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1176 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบในส่วนของกระทรวงมหาดไทย | มท | 06/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความ
ยากจนกระทรวงมหาดไทย (ศตจ.มท.) รายงานความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ (ครั้งที่ 3) ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2547 โดยในส่วนของด้านหนี้สินนอกระบบ มียอดผู้ลงทะเบียนที่ผ่าน การประชาคม ในแบบ สย.6 (ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) 1,715,468 ปัญหา มูลหนี้ 122,054,017,214 บาท สำหรับการดำเนินการเจรจาประนอมหนี้ ศตจ.อำเภอ ได้เชิญลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเจรจา โดยตั้งทีม เจรจา 5,644 ทีม ได้เชิญมาเจรจา 503,248 ปัญหา มูลหนี้ 34,497,971,245 บาท ได้ข้อยุติ 436,809 ปัญหา มูลหนี้ 24,544,758,382 บาท ยังไม่ได้ข้อยุติ 66,439 ปัญหา มูลหนี้ 9,953,212,863 บาท ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานของคณะเจรจาประนอมหนี้นอกระบบของ ศตจ.จังหวัด/อำเภอ คณะเจรจาหนี้ มีความคล่องตัวในการเจรจาหนี้และปรับเปลี่ยนวิธีการตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ มีการตรวจสอบ ยอดเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยให้ชัดเจนก่อนการเจรจา รวมทั้งการวางแผนเพื่อป้องกันมิให้มีการสมยอม กันระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงิน นอกจากนี้ คณะเจรจาหนี้ที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ระดับตำบล หมู่บ้าน ได้รับความร่วมมือ สนับสนุนช่วยเหลือและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทั้งจากส่วนราชการ ธนาคาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ |
||||||||||||||||||||||||
1177 | รายงานผลการปฏิบัติราชการ (จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดชัยภูมิ) | มท | 06/07/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการใน
พื้นที่จังหวัดสระบุรี นครสวรรค์ และจังหวัดชัยภูมิ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ระหว่าง วันที่ 1 - 2 กรกฎาคม 2547 เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและนโยบาย ของกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคจากการดำเนินงานตามนโยบาย ซึ่งภาพรวม การปฏิบัติราชการในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติ เช่น การแก้ไขปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ ในส่วนของการจดทะเบียนและการตรวจสอบข้อ มูลของประชาชนผู้ประสบปัญหาสังคมและความยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ขอ ให้ตรวจสอบทะเบียนให้เป็นปัจจุบัน เนื่องจากประชาชนบางคนอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลักการของการ ดำเนินงานของทางราชการ และให้ทุกฝ่ายเร่งรัดรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงค่านิยมในการก่อหนี้ การ แก้ไขปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล ให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ข้าราชการต้องไม่เข้าไปสนับ สนุนหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ที่จะเป็นการส่งเสริมผู้มีอิทธิพลโดยเด็ดขาด การดำเนินงานระหว่างท้อง ที่และท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องทำงานอย่างใกล้ชิด ให้ความ ร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติงาน ตลอดจนประสานงานซึ่งกันและกัน สำหรับเรื่อง การบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและแนวทางในการดำเนินงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยจะต้องบูรณาการการดำเนิน งานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง พร้อมทั้งเป็นการ ป้องกันน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก ซึ่งอาจต้องใช้งบประมาณและระยะเวลาในการดำเนินการเป็นจำนวนมากก็ ตาม เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1178 | ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว พ.ศ. 2547 - 2551 (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | กก | 29/06/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอยุทธศาสตร์การ
ท่องเที่ยว พ.ศ. 2547-2551 และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวให้ บังเกิดผลและมีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ นั้น ให้ยึดหลักการในภาพรวมว่า ภารกิจด้าน การรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) เป็น หน่วยงานรับผิดชอบหลักในการดำเนินการ ส่วนภารกิจด้านการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ต่าง ๆ ให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นหน่วยงานที่เข้ามามีบท บาทในเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมชัดเจน โดยมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณา ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ภารกิจต่าง ๆ ตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ฯ จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องและ เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์จังหวัด และกลุ่มจังหวัดและท้องถิ่นด้วย โดยให้สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง พิจารณา ดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบให้เหมาะสม โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ การประชาสัมพันธ์ รณรงค์ เชิญชวน ให้นัก ท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ประสบความสำเร็จ จึงควรดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งการที่นักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการต่าง ๆ ในประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นรูปแบบหนึ่ง ของการจำหน่ายสินค้าส่งออกของประเทศ โดยมิต้องส่งออกไปต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงควรประสานและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุม ดูแลสินค้าต่าง ๆ ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ทัดเทียมกับของที่ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ และให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวง พาณิชย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงระบบภาษีสินค้านำเข้าชนิดต่าง ๆ เพื่อให้กรุงเทพมหา นครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางเข้ามาเพื่อหาซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าที่จำหน่ายอยู่ใน แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาค ในส่วนของจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ จำเป็นจะต้องปรับ ปรุง พัฒนา และบำรุงรักษาสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม จึงขอ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งประสานการดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับห้องน้ำที่สะอาด ถูกสุข อนามัย และเพียงพอ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญประการหนึ่งในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ เดินทางไปท่องเที่ยวในแหล่งต่าง ๆ จึงควรสร้างให้เหมาะสม ทันสมัย สอดคล้องกับบรรยากาศและสภาพ แวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่ง รวมไปถึงการปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทางด้าน การจราจรและขนส่งเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว ให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาและเร่งรัดการ ดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ การปรับปรุง พัฒนา และบำรุงรักษาแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการ ดำเนินการใดที่ส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศซึ่งปัจจุบันได้ถ่ายโอนภารกิจนั้น ๆ จากราชการ ส่วนกลางไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการแต่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นยังไม่สามารถดำเนินการ หรือไม่พร้อมที่จะดำเนินการ ให้ส่วนราชการส่วนกลางที่เคยรับผิดชอบอยู่ เดิมพิจารณาดำเนินการแทน โดยให้ยึดผลประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง และมิให้นำประเด็นเรื่อง การกระจายอำนาจและการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว มาเป็นข้ออ้างว่าเป็นอุป สรรคในการดำเนินการ ทั้งนี้ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2546 เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม แนวทางการส่งเสริมและขยายแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการพัฒนาอุตสาหกรรมประการหนึ่งที่อาจดำเนิน การได้ คือ การให้เอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพแห่งใหม่ แต่ยังอยู่ในที่ห่างไกล โดยอาจจะ กำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำที่จะต้องนำมาลงทุน และกำหนดระยะเวลาที่จะให้สัมปทานแก่เอกชนนั้น ๆ เข้า ทำประโยชน์ในพื้นที่ โดยจะต้องกำหนดเงื่อนไข หลักเกณฑ์ มิให้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและ สภาพธรรมชิตของพื้นที่ด้วย เช่น การเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนพัฒนาพื้นที่ชายทะเลแห่งใหม่ในเขตสาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำหนดให้สัมปทานเป็นเวลา 99 ปี และต้องนำเงินมาลงทุนไม่น้อยกว่า 5 เท่าของมูลค่าของพื้นที่ตามราคาประเมิน เป็นต้น จึงขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รับไปพิจารณาความ เหมาะสมและเป็นไปได้ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1179 | ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองศูนย์กลางภาคเหนือตอนบน (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | นร | 29/06/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ (สศช.) เสนอ และให้ สศช. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ ฯ ต่อ ไป โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตบางประการของกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการส่ง เสริมการลงทุน รวมทั้งความเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปตรวจราชการ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนในเร็ว ๆ นี้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายของโครงการ ต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ ฯ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป หลังจากที่ได้ทำแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์เรียบร้อยแล้วตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ คณะ รัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมดังนี้ ในภาพรวมของยุทธศาสตร์ ฯ ยังไม่ครอบคลุมถึงแผนงาน/โครงการที่จะแก้ ไขปัญหาสังคมต่าง ๆ ในพื้นที่ และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในพื้นที่สูง จึงขอให้ สศช. และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการกำหนดแผนงาน/โครงการเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควรต่อ ไป และการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือตอนบนดังกล่าว จะต้องระมัดระวังมิให้เกิดผลกระทบต่อเขตเมือง เก่า เขตโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งควรอนุรักษ์ไว้โดยกระทรวงมหาดไทยควรเร่งรัดดำเนินการ ให้กฎหมายเกี่ยวกับผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะแล้วเสร็จ และมีผลใช้บังคับโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินโครง การพัฒนาต่าง ๆ สอดคล้องกับกฎหมายผังเมืองดังกล่าว สำหรับโครงการด้านการพัฒนาระบบการจราจร และขนส่งควรคำนึงถึงการประหยัดพลังงานโดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการใช้การขนส่งทางน้ำ ตลอด จนการสร้างทางรถจักรยานเป็นทางเลือกให้มากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันจังหวัดลำพูนมีการขยายตัวทาง ด้านอุตสาหกรรมค่อนข้างมาก จึงควรพิจารณาจัดทำโครงการพัฒนาที่มีความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดลำพูน และเชียงใหม่เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว รวมถึงโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค นอกเหนือจากโครงการในด้านการแก้ไขปัญหาการจราจร ส่วนปัญหาการจราจรติดขัดในจังหวัดเชียงใหม่ สมควรเร่งดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ ในส่วนของแผน งาน/โครงการตามยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงรายทั้งหมดรวม 4 โครงการซึ่งได้แก่ โครงการปรับปรุงฝายเชียง ราย โครงการผันน้ำแม่กรณ์-แม่กก โครงการอ่างเก็บน้ำดอยงู และโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สรวย มอบให้ สศช. พิจารณาทบทวนความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง โดยให้นำเรื่อง ผลการพิจารณาและบูรณาการแผนโครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณงบกลางปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2547 โครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในส่วนของจังหวัดเชียงราย ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการคลังมารวมพิจารณา ด้วย กับเห็นชอบให้มีการศึกษาเพื่อพัฒนาเมืองศูนย์กลางความเจริญภาคเหนือตอนบน เชียงใหม่-ลำพูน และการจัดทำแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นฐานการรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ และการ เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างเมือง โดยมอบให้ สศช. รับไปดำเนินการ โดยค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ในวงเงิน 43 ล้านบาท ให้ สศช. ขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตามขั้นตอนต่อ ไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ นอกจากนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนิน งานเร่งรัดการจัดทำผังเมืองให้มีผลบังคับตามกฎหมายโดยเร็ว โดยลดขั้นตอนการดำเนินงานลง ให้องค์ การบริหารส่วนจังหวัดเป็นกลไกการประสานแผนงานการพัฒนาระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดย เฉพาะพื้นที่ส่วนขยายของเมืองกับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล โดยใช้ผังเมืองเป็นกรอบ และจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพัฒนาพื้นที่ระหว่างเมืองร่วมกัน คือ เชียงใหม่-ลำพูน โดยใช้ยุทธศาสตร์การ พัฒนาเมืองศูนย์กลางภาคเหนือตอนบนเป็นหลักในการพัฒนา |
||||||||||||||||||||||||
1180 | การยกฐานะสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานระดับกรมในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี | นร | 22/06/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานกรรมการการ
กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอให้ถอนร่างพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติโอนอำนาจหน้าที่และกิจการบริหารบางส่วนของสำนัก งานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... คืนไปได้ โดยให้นำไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ภายใน 45 วัน |
.....