สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ
อุตสาหกรรม  ประจำเดือนเมษายน 2549  โดยอุตสาหกรรมอาหาร  คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะเริ่ม
ชะลอตัว  เนื่องจากปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าที่เริ่มปรับตัวกับระดับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ
โลกที่ทรงตัว  รวมถึงราคาน้ำมันที่สูงขึ้น   ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทำให้ค่าเงินของประเทศใน
เอเชียแข็งค่าขึ้น และข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกที่ส่งผลต่อการขยายตลาดส่งออก อุตสาหกรรมสิ่ง
ทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป  ปรับตัวลดลงจากเดือนมีนาคม 2549   ซึ่งเป็นไปตามกลไกการตลาด   เนื่องจากมี
เทศกาลวันหยุดต่อเนื่อง สถานการณ์เหล็ก คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2549  รวมทั้งภาวะ
อุตสาหกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวโน้วชะลอตัว เนื่องจากมีวันหยุดนักขัตกฤษ์หลายวันจึงมีการ
เตรียมการผลิต และส่งออก ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมีนาคม 2549  อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ การผลิตและการ
จำหน่ายในประเทศจะลดลงเล็กน้อย  ในส่วนของการส่งออกคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบ
การวางแผนขยายการส่งออกเพิ่มมากขึ้น ส่วนภาวะการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าการจำหน่ายในประเทศยัง
คงได้รับแรงหนุนจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับขายในฤดูร้อน  ด้านการส่งออกคาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่ม
ขึ้น เนื่องจากตลาดใหม่ ๆ ของไทย เช่น อินเดีย อเมริกาใต้ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น  สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
ความต้องการสินค้า Consumer Electronic ของโลกยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่
และคอมพิวเตอร์

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศของ
ไทยในระยะ 4 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2549 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2549 ดังนี้  การส่งออกในระยะ 4
เดือนแรกของปี พ.ศ. 2549 มีมูลค่า  38,766.1  ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9  เป็นการขยายตัว
ของการส่งออกสินค้าเกษตรกรรม/อุตสาหกรรมการเกษตร ร้อยละ 13.5  สินค้าอุตสาหกรรม ร้อยละ 14.6
และสินค้าอื่น ๆ ร้อยละ 23.4 สำหรับการส่งออกไปตลาดหลักขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ
ในตลาดนั้น ๆ โดยการส่งออกไปสหรัฐ ฯ ขยายตัวร้อยละ 16.1 สหภาพยุโรป ร้อยละ 8.3 อาเซียน (5) ร้อย
ละ 6.7 และญี่ปุ่น ร้อยละ 4.2 ส่วนการนำเข้าในระยะ 4 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2549 มีมูลค่า 39,721.3 ล้าน
เหรียญสหรัฐ ฯ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1  โดยกลุ่มสินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้นมาก  ได้แก่
สินค้าเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภค นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ  34.4  และ  13.7  ในขณะที่สินค้าทุนมีการนำ
เข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8  ในส่วนของดุลการค้า  เดือนเมษายน 2549  ไทยขาดดุลการค้า  551.0  ล้านเหรียญ
สหรัฐ ฯ เทียบกับเดือนเมษายน 2548  ขาดดุลลดลงร้อยละ 62.8  ส่งผลให้ดุลการค้าในระยะ  4  เดือนแรก
ของปี พ.ศ. 2549 ขาดดุลการค้ารวม 955.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ  ลดลงร้อยละ 78.1  จากช่วงเดียวกันของปี
ก่อน ซึ่งมีการขาดดุล 4,359.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง อัตราการฆ่าตัวตายปี 
2548 เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญจะต้องแก้ไขและป้องกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง  โดยอาศัย
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อไม่ให้อัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม
ในภาคเหนือ ดังนี้ จังหวัดตาก เกิดฝนตกหนักที่อำเภอเมือง และอำเภอสามเงา  ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมพื้น
ที่ลุ่มต่ำการเกษตรของอำเภอเมือง ประมาณ 200 ไร่  และอำเภอบ้านตาก  ตำบลเกาะตะเภา ประมาณ 500 ไร่ 
จังหวัดอุตรดิตถ์ มีฝนตกหนักถึงหนักมากในเขตอำเภอเมือง ตรอน ท่าปลา ลับแล  และทองแสงขัน  และมีฝนตก
ต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเอ่อท่วมพื้นที่ริมตลิ่งของลำน้ำน่าน  และลำน้ำสาขาท่วมพื้นที่เกษตร  จังหวัด
สุโขทัย เกิดฝนตกหนักในเขตอำเภอเถิง จังหวัดลำปาง บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำแม่มอก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก
ท่วมถนนสายอำเภอทุ่งเสลี่ยม-อำเภอเถิง  ปริมาณน้ำดังกล่าวได้ไหลลงคลองแม่มอกสู่จังหวัดสุโขทัย  ทำให้เกิด
น้ำเอ่อล้นสองฝั่งคลองแม่มอก  และเกิดน้ำท่วมในพื้นที่การเกษตรบางส่วน  จังหวัดแพร่  เกิดฝนตกในเขตอำเภอ
เมือง อำเภอสูงเม่น และอำเภอเด่นชัย  ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ลำห้วยแม่ปาน บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลไทรน้อย 
อำเภอเด่นชัย  ไม่มีรายงานความเสียหาย   ลำห้วยแม่พวก  ลำห้วยแม่ขอน  เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าตัวเมืองแพร่
บริเวณชุมชนป่าแดง ทำความเสียหายบ้านเรือน เนื่องจากมีต้นซุงไหลตามน้ำลงมาด้วย ทั้งนี้ จากสภาวะน้ำท่วม
ในจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ และสุโขทัย ปริมาณน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน  กรมชลประทานได้ประสาน
กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้ปิดการระบายน้ำท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2549

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอการปรับปรุงอัตรานิตย
ภัตฉบับใหม่ ตามผลการพิจารณาของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายกิตติ ลิ่มสกุล)  ร่วม
กับผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2548 โดยการปรับเพิ่มอัตรานิตยภัตในแต่ละตำแหน่ง
ให้ใช้เกณฑ์การวัดระดับการครองชีพของประชากรจากดัชนีราคาผู้บริโภค  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537-พ.ศ. 2547
ของกระทรวงพาณิชย์ ยกเว้นตำแหน่งพระอธิการ  (เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ที่ไม่ได้เป็นพระครูสัญญาบัตร)  ให้
ปรับฐานอัตรานิตยภัตจากเดิม 500 บาท/รูป/เดือน เป็น 1,000 บาท/รูป/เดือน ก่อน  จึงปรับเพิ่มโดยใช้
เกณฑ์การวัดระดับการครองชีพฯ เป็น 1,500 บาท/รูป/เดือน ส่วนตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะตำบลอัตรา
นิตยภัตเดิม 500 บาท/รูป/เดือน ให้ปรับเพิ่มเป็น 1,000 บาท/รูป/เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
2549 เป็นต้นไป  สำหรับการขอปรับเปลี่ยนเบี้ยกันดารเป็นนิตยภัตเพิ่มพิเศษอีก 500 บาท/รูป/เดือน ให้
ปรับเปลี่ยนเฉพาะในพื้นที่ดังต่อไปนี้ (1) อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอขุนยวม  อำเภอบางมะผ้า  จังหวัดแม่ฮ่อง
สอน (2) ทุกอำเภอในจังหวัดยะลา (3) ทุกอำเภอในจังหวัดปัตตานี (4) ทุกอำเภอในจังหวัดนราธิวาส และ
(5) ทุกอำเภอในจังหวัดสตูล ทั้งนี้ มีข้อสังเกตด้วยว่า  การปรับปรุงอัตรานิตยภัตไม่ควรยึดโยงกับระดับการ
ครองชีพของประชากร  และอัตราภาวะเงินเฟ้อ  สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอัตรา
นิตยภัต  ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอตั้งงบประมาณประจำปีตามขั้นตอนต่อไป  ตามความเห็น
ของสำนักงบประมาณ

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้
บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนเมษายน 2549 สรุปได้ดังนี้  ดัชนีราคาผู้บริโภค
ทั่วไปเดือนเมษายน 2549  เท่ากับ 114.3  เทียบกับเดือนมีนาคม 2549 (113.0)  สูงขึ้นร้อยละ 1.2 เป็นผล
มาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะตลาดโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้น
ทุนการผลิตและค่าขนส่งสูงขึ้นทำให้ดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 2.0 รวมทั้งหมวด
อื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 0.7  โดยในส่วนของดัชนีราคาหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่อง
ดื่มที่สูงขึ้น  ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการขึ้นของดัชนีราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 39  ส่งผลให้อัตราค่าโดยสาร
สาธารณะสูงขึ้นร้อยละ 1.4  จากการอนุมัติให้รถ ขสมก. ปรับราคา  (รถครีมแดง  และครีมน้ำเงิน)  ขึ้นอัตรา
ค่าโดยสาร 1 บาท  รวมถึงรถเมล์เล็กและรถสามล้อเครื่องในต่างจังหวัดสูงขึ้นด้วย  สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภค
พื้นฐานของประเทศเดือนเมษายน 2549 เท่ากับ 104.1 เทียบกับเดือนมีนาคม 2549 สูงขึ้นร้อยละ 0.3  และ
เดือนเมษายน 2548 สูงขึ้นร้อยละ 2.9

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ
อุตสาหกรรม ประจำเดือนมีนาคม 2549 สรุปได้ดังนี้ อุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะ
ยังได้รับผลดีจากปริมาณคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีอย่างต่อเนื่อง จากข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกที่อาจ
ส่งผลต่อการขยายตลาดส่งออกสินค้าโดยเฉพาะตลาดเนื้อสัตว์ที่ปลอดโรคจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น ภาวะการ
ผลิตและการจำหน่ายของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปในเดือนมีนาคมจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดย
เฉพาะตลาดภายในประเทศ  ส่วนสถานการณ์เหล็ก คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน  สำหรับอุตสาห
กรรมรถยนต์มีแนวโน้มขยายตัว เนื่องจากมีการจัดงาน  Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 27  ด้าน
อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์  คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในช่วง
ฤดูการก่อสร้าง  ด้านภาวการณ์ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า  คาดว่า จะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549
เนื่องจากได้แรงหนุนจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับขายในฤดูร้อน  ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะเพิ่ม
ขึ้นเล็กน้อย และจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ใน
ช่วงฤดูแล้งปีพ.ศ. 2549 ด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 14-20 เมษายน 2549 ในภาพรวมสรุปได้ดังนี้ พื้นที่การ
เกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ณ วันที่ 20 เมษายน 2549 ประกอบด้วย ด้านพืช  มีพื้นที่ทำการ
เกษตรอาจได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 476,915.50 ไร่  แบ่งเป็ น ข้าว 201,424 ไร่ พืชไร่-พืชผัก 143,615.50
ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ 131,885.50 ไร่ ด้านประมง พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ  252  กระชัง  คิด
เป็นพื้นที่ 3,416 ตารางเมตร ด้านปศุสัตว์ มีสัตว์ได้รับผลกระทบ 22,709 ตัว  แบ่งเป็น โค-กระบือ  7,631
ตัว  สุกร-แพะ  485  ตัว  สัตว์ปีก  14,593  ตัว  ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการติดตามสถาน
การณ์ และให้ความช่วยเหลือพื้นที่อาจได้รับผลกระทบ โดยการปฏิบัติการฝนหลวง การจัดสรรน้ำ การสนับ
สนุนเครื่องสูบน้ำ และรถยนต์บรรทุกน้ำอย่างต่อเนื่อง    สำหรับสถานการณ์น้ำ  ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ
ขนาดใหญ่ทั่วประทศ ณ วันที่ 23 เมษายน 2549  มีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ ทั้งหมด  44.431  ล้าน ลบ.ม. คิด
เป็นร้อยละ 65  ของความจุอ่าง ฯ  โดยอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ อยู่ในเกณฑ์น้อย ได้แก่ อุบลรัตน์
ลำนางรอง ทับเสลา และบางพระ  ในการนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้งดการปลูกพืชฤดูแล้ง  และสงวนน้ำเพื่อการ
อุปโภค-บริโภค เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ 2549 ครั้งที่ 3 ประกอบด้วย การปรับเพิ่มแผนการบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดเชย
การขาดดุลงบประมาณ จากเดิม 260,000 ล้านบาท เป็น 265,000 ล้านบาท การปรับวิธีการบริหารหนี้
ต่างประเทศของรัฐบาล  และรัฐวิสาหกิจให้สามารถเลือกแนวทางบริหารหนี้ต่างประเทศด้วยวิธีการต่าง  ๆ
ได้แก่ การ  Prepayment  การ  Roll-over การ Refinance  และการ  Swap Arrangement  ให้สอดคล้องกับ
สภาวะตลาด โดยอยู่ภายใต้วงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแล้วที่วงเงินรวม  326,347.06  ล้านบาท และใน
การกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศของรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจ  ภายใต้แผนที่ปรับ
ปรุง ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงินวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน
และการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น

           สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติเกี่ยวกับรายงานภาวะสังคมไตรมาสสี่ ปี 2548 สรุปได้ดังนี้ ภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่ ปี 2548  อยู่ใน
เกณฑ์ดี   เนื่องจากกำลังแรงงานการมีงานทำสูงถึง  36.1  ล้านคน  มีอัตราว่างงานต่ำมาก ร้อยละ 1.22  คน
ไทยมีการเจ็บป่วยด้วยโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง   เช่น  โรคบิด  โรคปอดบวม  และโรคมือ  เท้าและปาก  ลดลง
ร้อยละ 14.7  เมื่อเทียบกับไตรมาสสี่ของปี 2547  ส่วนอุบัติเหตุจราจรทางบกควบคุมให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ได้ สำหรับประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ ได้แก่ การเร่งปราบมิจฉาชีพ เพื่อลดจำนวนคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ลง
การดูแลให้กลุ่มเด็กและเยาวชนลดการบริโภคขนมขบเคี้ยว เพื่อลดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ รวม
ตลอดทั้งการรวมพลังทุกภาคส่วนเพื่อขจัดสื่อลามกให้หมดสิ้นไป

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วง
ฤดูแล้ง ปี พ.ศ. 2549 ด้านการเกษตร  (ช่วงวันที่ 17-23 มีนาคม 2549)  สรุปได้ดังนี้  สภาวะอากาศในช่วงดัง
กล่าวมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและบริเวณประเทศไทยตอนบน
มีอากาศร้อนเกือบทั่วไป กับร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง และหนักบางแห่ง
สำหรับสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2549 มีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ ทั้งหมด 
47,558 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 69 ของความจุอ่าง ฯ  อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ อยู่ในเกณฑ์น้อย
ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตาม จำนวน 4 อ่าง ฯ คือ อุบลรัตน์ ลำนางรอง  ทับเสลา  และบางพระ  ด้านการปลูกพืช
ฤดูแล้งในเขตชลประทาน  ข้าวนาปรังเก็บเกี่ยวแล้ว 1.11 ล้านไร่  และพืชไร่-พืชผักเก็บเกี่ยวแล้ว  0.05  ล้านไร่
ส่วนผลกระทบจากภัยแล้ง พื้นที่การเกษตรอาจจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จำนวน 17 จังหวัด แบ่งเป็น ด้าน
พืช 16 จังหวัด ด้านประมง 2 จังหวัด และด้านปศุสัตว์  1  จังหวัด  สัตว์ได้รับผลกระทบ  20,668  ตัว  ส่วนการ
ให้ความช่วยเหลือเกษตรกร  ได้แก่  การปฏิบัติการฝนหลวง  การจัดสรรน้ำการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ  และรถ
ยนต์บรรทุกน้ำ  เป็นต้น  ส่งผลให้พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบลดลง จำนวน 192,977.50 ไร่  คิดเป็นมูลค่าทาง
เศรษฐกิจที่ช่วยเหลือได้ 52,300,547 บาท ใน 10 จังหวัด  ได้แก่ พิษณุโลก ลำปาง  สุโขทัย  นครพนม  ยโสธร
หนองบัวลำภู สิงห์บุรี จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสุพรรณบุรี

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข เสนอผลการดำเนินการเรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาการ
ผลิต การตลาดสุกรอย่างยั่งยืน  ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์  วุฒิสภา  ในภาพ
รวม สรุปได้ดังนี้ ได้มีการขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศเพื่อให้การอบรมผู้เลี้ยงสุกรให้มีความรู้  และพัฒนา
ฟาร์มสุกรเข้าสู่มาตรฐานฟาร์ม ขึ้นทะเบียนโรงฆ่าทั้งประเทศ จัดทำเกณฑ์มาตรฐานโรงฆ่า  บังคับใช้กฎหมาย
เพื่อให้ฟาร์มสุกรขนาดกลางและขนาดใหญ่ดำเนินการบำบัดน้ำเสียให้เป็นไปตามมาตรฐาน  ส่งเสริมและสนับ
สนุนการนำเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดมาประยุกต์ใช้ในระบบการจัดการฟาร์ม   ส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วน
ร่วมในการลงทุนและดำเนินการทั้งการจัดสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย/กำจัดของเสียรวม  และการจัดสร้างโรงฆ่า
สัตว์ที่ทันสมัย กำหนดเขตการเลี้ยงสุกรหรือนิคมการเลี้ยงสุกรเพื่อให้การบริหารจัดการด้านการผลิตและด้าน
สิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่  8  แห่ง จัดมุมจำหน่าย
เนื้อสุกรธงฟ้าในช่วงที่เกิดภาวะผลผลิตสุกรขาดแคลนหรือมีมากเกินความต้องการ กำหนดให้มีคณะกรรมการ
นโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ทำหน้าที่กำหนดแนวทางการพัฒนาการผลิต  การตลาด   การแก้ไขปัญหา
และอุปสรรคในเรื่องเกี่ยวกับสุกรและผลิตภัณฑ์ทั้งระบบ การดำเนินโครงการตลาดสด น่าซื้อ รวมทั้งปรับปรุง
แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ  ให้เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ  พร้อมกับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ เป็นต้น
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอ
เรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติเกี่ยวกับสรุปภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4/2548 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2549  ดังนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวม
ในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 4 ปี 2548 มีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 4.7 มีการปรับตัวในหลายหมวดตัวเลข
ทางด้านสินค้าและวัตถุดิบคงคลังมีการเปลี่ยนแปลง  เนื่องจากมีการเก็งกำไร  และกักตุนสินค้าในช่วงต้นปี  การ
ผกผันของราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 สำหรับปัจจัยและเหตุการณ์ที่มี
ผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ  ได้แก่  ปัจจัยด้านราคาน้ำมัน  ปัจจัยด้านภัยธรรมชาติ  ปัจจัยด้านการขาดดุล
การค้า อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายด้านการเงินของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น  และปัจจัยความไม่สงบใน 3 จังหวัดชาย
แดนภาคใต้  ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2549  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติขอ
ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจที่ได้แถลงไว้เดิมเมื่อเดือนธันวาคม 2548 ที่ 4.7-5.7 เป็น 4.5-5.5 โดยปัจจัยลบ
ที่อาจมีผลกระทบ ได้แก่ ราคาน้ำมันของโลก ปัญหาทางด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก  แรงกดดันทางด้าน
อัตราเงินเฟ้อ และปัจจัยทางด้านการตัดสินใจของภาคเอกชน  ส่วนปัจจัยที่เป็นบวก  ได้แก่  การดำเนินนโยบาย
ด้านประหยัดพลังงานและพลังงานทางเลือกการส่งออกและบริหารการนำเข้า  การท่องเที่ยวฟื้นตัวและขยายตัว
ในทิศทางเดียวกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 และมีมาตรการในการพัฒนาการท่องเที่ยว  โดยเน้นการเพิ่มมูลค่า
มากกว่าปริมาณ  ภาคเกษตรเริ่มฟื้นตัวมีการขยายตัวด้านปริมาณการผลิต  ควบคู่ไปกับการแปรรูปสินค้า   และ
การลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วง
ฤดูแล้ง ปี พ.ศ. 2549 ณ วันที่  17  กุมภาพันธ์  2549 โดยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ
มีปริมาตรน้ำ  52,019  ล้านลูกบาศก์เมตร   หรือคิดเป็นร้อยละ  76  ของความจุทั้งหมด   โดยอ่างเก็บน้ำที่มี
ปริมาตรน้ำในอ่าง ฯ อยู่ในเกณฑ์น้อย ได้แก่  อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์  เขื่อนลำนางรอง  เขื่อนทับเสลา  และ
เขื่อนบางพระ    ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำภาคตะวันออกลุ่มน้ำระยอง (อ่างเก็บน้ำดอกกราย  หนองปลาไหล  และ
คลองใหญ่) มีปริมาณน้ำต้นทุนมากกว่าปีที่ผ่านมาและเพียงพอสำหรับใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค การอุตสาห
กรรม  การเกษตร  และอื่น ๆ  ในด้านการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ได้กำหนดเป้าหมายการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งใน
ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 ถึง 30 เมษายน 2549  ตามปริมาณน้ำต้นทุนและสภาวะการตลาด  โดยได้วาง
แผนการบริหารจัดการน้ำและกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำ  รวมทั้งจัดตั้งศูนย์
ป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรขึ้น เพื่อการติดตามสภาวะอากาศ  สถานการณ์น้ำ  การแจ้งเตือน  และ
การรายงานสถานการณ์  โดยกำหนดแนวทางการดำเนินงานของแผนเตรียมรับสถานการณ์เป็น  3  ช่วง  คือ
ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย  นอกจากนี้  สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้กำหนดแผนการจัด
ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 ศูนย์ ได้แก่  ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ พิษณุโลก ขอน
แก่นนครราชสีมา ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ภูเก็ต  เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 กรม
ชลประทาน  ได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำเพื่อให้การช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง พืชไร่-
พืชผัก  และการอุปโภคและบริโภค  ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน  และกรมปศุสัตว์  ได้ดำเนินการดูแลสุข
ภาพสัตว์ สนับสนุนพืชอาหารสัตว์และเวชภัณฑ์

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการนำ
การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัสเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยสำนักงาน
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับกรมควบคุมโรคได้นำบริการชุดสิทธิประโยชน์  การดูแลรักษาผู้
ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัส  เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า   ตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. 2549  ส่วนการจัดบริการที่คาดว่าจะสามารถให้บริการได้  ได้แก่  การตรวจวินิจฉัยภาวะการติดเชื้อ HIV
ในกลุ่มประชากรบางกลุ่ม   การติดตามผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ  การบริหารยาต้านไวรัสเอดส์สูตรพื้นฐาน  การ
บริหารยาต้านไวรัสเอดส์สูตรดื้อยาและการติดตามเยี่ยมบ้าน และดำเนินงานร่วมกับหน่วยงาน NGO และผู้ติด
เชื้อ ทั้งนี้ ในระยะก่อนการดำเนินการเต็มรูปแบบ  กรมควบคุมโรคได้จัดทำโครงการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์
ด้วยยาต้านไวรัสตามระบบเดิมของกรมควบคุมโรค (โครงการ NAPHA) ในระยะ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ
พ.ศ. 2549  (ตุลาคม 2548-มีนาคม 2549)  และ  สปสช.  ได้สนับสนุนงบประมาณเป็นเงิน  522,106,973
บาท  นอกจากนี้  ได้มีการประชุมหารือยกร่างบันทึกความเข้าใจเรื่อง การดำเนินโครงการบริการผู้ติดเชื้อเอช
ไอ วี  และผู้ป่วยเอดส์อย่างครบวงจร   และกำลังพิจารณาเตรียมการแผนงาน/โครงการ  เพื่อดำเนินการต่อไป
รวมทั้งได้มีการเจรจาขอลดราคายาและราคาน้ำยา ซึ่งผู้แทนจำหน่ายยาและน้ำยาได้นำข้อเสนอไปพิจารณา

                 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานผลการประชุม
สมัชชาใหญ่องค์การรัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 26 ณ นครหลวงเวียงจันทน์  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน
ลาว  สรุปดังนี้  ด้านการเมือง ที่ประชุมสนับสนุนการต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ และเพิ่มระดับความ
ร่วมมือของอาเซียนในการส่งเสริมความปลอดภัยและความมั่นคงทางทะเล สนับสนุนการดำเนินการตามข้อ
มติจากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน   ครั้งที่  38   และการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเวียงจันทน์   ด้าน
เศรษฐกิจ ให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ  เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 
เรียกร้องให้อาเซียนดำเนินการตามข้อมติว่าด้วยประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และแผนปฏิบัติการเวียงจันทน์ 
เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาให้การสนับสนุนกองทุนเพื่อการพัฒนาอาเซียนและ
ความคิดริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน  ด้านสังคม ได้เรียกร้องให้อาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางด้าน
กฎหมายของภูมิภาคในการปราบปรามการค้ายาเสพติด  และการปราบปรามการค้าสตรีและเด็ก ส่งเสริม
การปฏิบัติตามปฏิบัติการของประชาคมสังคม-วัฒนธรรมอาเซียนและการปฏิบัติตามข้อตกลงของอาเซียน 
เกี่ยวกับการจัดการกับภัยพิบัติและการรับมือกับภาวะฉุกเฉิน   ด้านการประชุมสมาชิกรัฐสภาสตรีขององค์
การรัฐสภาอาเซียน   ได้ย้ำเตือนให้รัฐบาลประเทศสมาชิกอาเซียนดำเนินความพยายามมากขึ้นในการจัด
ทำนโยบาย โครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งไปสู่การขจัดความยากจน รวมทั้งเพิ่ม
ความสนใจไปยังสุขอนามัยเจริญพันธุ์    และการอยู่รอดของเด็กในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของ
ประเทศสมาชิกอาเซียน   นอกจากนี้  ได้สนับสนุนแนวนโยบายปักกิ่ง+10  เพื่อการปฏิบัติอันมุ่งไปสู่การ
บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย  ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีอำนาจสั่งห้าม
ขายสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค   รวมทั้งสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจทำลายสินค้านั้น   โดยผู้ประกอบ
ธุรกิจเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย     และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา    โดยรับประเด็น
อภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ   ที่เห็นว่าพระราชบัญญัติดังกล่าว  เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจ
หน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขาดความชัดเจนในส่วนของกลไกและวิธีการดำเนินการในการ
เรียกเก็บสินค้า ซึ่งจะเป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ หากการกำหนดดังกล่าวมี
รายละเอียดมากหรืออาจต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมาะกับสภาวะการณ์ได้ตามความเหมาะสม    
อาจพิจารณากำหนดให้ตราอนุบัญญัติเพื่อดำเนินการได้    นอกจากนี้   ร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้  ได้
แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา  36  มาตราเดียว   ควรตัดหลักการของร่างพระราชบัญญัติที่ระบุถึงมาตรา 56 ออก
เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติม  และการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าไม่ปลอดภัย ปัจจุบันคณะ
รัฐมนตรีได้เสนอร่างพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย   พ.ศ. ....  
ไปเพื่อรัฐสภาพิจารณาแล้ว และอยู่ในขั้นการพิจารณาของวุฒิสภา  ดังนั้น  ในการตรวจพิจารณาร่างพระ
ราชบัญญัติในเรื่องนี้ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาควรนำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาพิจารณา
ด้วย   โดยที่ขณะนี้มีร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค   (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....    ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่อง
อื่นอยู่ในระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกฉบับหนึ่ง   ประกอบกับขณะ
นี้อยู่ระหว่างการปิดสมัยประชุมรัฐสภาหากสามารถรวมพิจารณาเป็นฉบับเดียวกันได้ก็จะเกิดความสะดวก
ในชั้นการพิจารณาของรัฐสภาไปประกอบการพิจารณา   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน
ราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ
อุตสาหกรรม ประจำเดือนมกราคม 2549  ดังนี้  อุตสาหกรรมอาหาร  การผลิตและการส่งออกจะยังขยายตัว
ได้เล็กน้อยเป็นผลจากลูกค้าต่างประเทศมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  ด้านการผลิต และจำหน่ายของ
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป คาดว่าจะทรงตัวหรือปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย  เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วง
ต้นของฤดูใหม่ และปัจจัยลบจากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น สถานการณ์เหล็กคาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบ
กับเดือนก่อน  โดยเหล็กยาวที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง  ในช่วงนี้ความต้องการใช้ยังคงชะลอตัวอยู่   สำหรับ
เหล็กทรงแบนคาดว่าการผลิตยังคงทรงตัวเช่นกัน  เนื่องจากผู้ผลิตยังคงมีปริมาณสินค้าคงคลังที่สูงอยู่อุตสาห
กรรมรถยนต์จะค่อนข้างทรงตัวจากเดือนธันวาคม 2548  เนื่องจากเป็นช่วงคาบเกี่ยวจากช่วงฤดูการจำหน่าย
ส่วนภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ จะขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนธันวาคม 2548  เนื่องจากมีการแนะนำ
รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ประกอบกับมีการแข่งขันสูงในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด  ในด้าน
อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ 2549  การผลิตและการจำหน่ายในประเทศจะยัง
ทรงตัว  เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลง  โดยแนวโน้มตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศขึ้นอยู่กับการผลัก
ดันโครงการเมกะโปรเจกต์ว่า  จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่   ในด้านการส่งออกขึ้นอยู่กับ
อุปสงค์ของประเทศที่สำคัญเป็นหลัก    สำหรับภาวะการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น   เนื่องจาก
บริษัทต่าง ๆ เริ่มกลับมาผลิตใหม่อีกครั้งหลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาล

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7  (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ)  ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายใน
การฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงระเบียบกระทรวง
การคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมของส่วนราชการ  พ.ศ. 2545   ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้
จ่ายในการประชุมระหว่างประเทศ  พ.ศ. 2539  และหนังสือสั่งการต่าง  ๆ   ที่เกี่ยวข้อง   โดยนำหลักเกณฑ์ใน
ระเบียบ  หนังสือสั่งการต่าง  ๆ   มารวบรวมและปรับปรุงให้อยู่ในร่างระเบียบนี้เพียงฉบับเดียว  เพื่อให้มีความ
คล่องตัว  รวดเร็ว  เหมาะสมกับการปฏิบัติงานในปัจจุบัน  โดยมอบให้กระทรวงการคลังรับร่างระเบียบ  ฯ  ดัง
กล่าวไปปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตของกระทรวงยุติธรรม สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงาน ก.พ. แล้วนำเสนอ
คณะรัฐมนตรีต่อไป     และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
ตรวจพิจารณาต่อไป   โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร.  ที่เห็นควรเพิ่มบทนิยามคำว่า  "หน่วยงานของ
รัฐ"  ในร่างข้อ  4  เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นและควรคงหลักการที่ให้ส่วนราชการผู้จัด
การฝึกอบรมประเมินผลการฝึกอบรม  และรายงานต่อหัวหน้าส่วนราชการ  ภายใน 60 วัน  นับแต่สิ้นสุดการ
ฝึกอบรมอันจะเป็นประโยชน์ต่อราชการโดยรวม และสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรปรับปรุงร่างข้อ 14 ร่างข้อ 25
(1) ร่างข้อ 28  และร่างข้อ 39  ควรเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาวัสดุที่ใช้ในการฝึกอบรม  การจ้าง
จัดฝึกอบรม การจ้างจัดงานต่าง ๆ และการจ้างจัดประชุมระหว่างประเทศ  ว่าในการซื้อหรือจ้างจะต้องดำเนิน
การตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ หรือไม่หรือจะดำเนินการอย่างไร ร่างข้อ 25 (1) ควร
เพิ่มเติมในกรณีให้บริษัททัวร์ดำเนินการเรื่องอาหาร  ที่พัก หรือยานพาหนะในการดูงานในต่างประเทศ  ส่วน
ราชการจะใช้อะไรเป็นหลักฐานในการเบิกจ่าย เช่น ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินของบริษัททัวร์  เป็นต้น   และควรปรับ
ปรุงอัตราค่าสมนาคุณวิทยากรในการฝึกอบรมให้เหมาะสมกับสภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นโดยระดับต้นและ
ระดับกลางไม่เกินชั่วโมงละ  750  บาท  ส่วนระดับสูงไม่เกินชั่วโมงล่ะ  1,000  บาท  ไปพิจารณาด้วย  แล้วให้
ดำเนินการต่อไปได้

              สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดย
กรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับรายงานสรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ (ระหว่างวันที่ 16 - 22 มกราคม
2549) สภาวะฝนในภาคใต้มีฝนตกเล็กน้อยบางพื้นที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุม
ประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับสภาวะอากาศ  7  วันข้างหน้า  (ระหว่างวันที่ 23 -
29 มกราคม 2549)  บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอน
บน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง โดยมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้า และ
คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น